หุบเขานรก

#เที่ยวญี่ปุ่น ใครที่กำลังวางแพลนเที่ยว #ฮอกไกโด ไปสัมผัสหิมะขาวๆ ช่วง Winter อยู่ล่ะก็ ห้ามพลาดที่นี่เลย! 👉 หุบเขานรก Jigokudani (Hell Valley) แลนด์มาร์กสุดฮอตแห่งเมือง Noboribetsetsu นั่นเอง 👹 ทำไมถึงเรียกว่า "นรก"? : เพราะจุดนี้เป็นแหล่งกำเนิดน้ำพุร้อน (Onsen) ทำให้มีควัน+กลิ่นกำมะถันบางๆ ตลอดเวลา และควันเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้หุบเขานรกยิ่งสวยและดูมีเสน่ห์มากๆ แอดมินแนะนำว่าต้องมาจริงๆ ค่ะ ❤ 📌 หุบเขานรก Jigokudani (Hell Valley), Noboribetsu, Hokkaido 💰 เข้าชมฟรี 🚍 การเดินทาง - ขึ้น JR ไปยังสถานี Noboribetsu (จาก Sapporo ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นิดๆ) - จากนั้นขึ้น Donan bus หน้าสถานี JR เพื่อไปลงป้าย Noboribetsu Onsen (จุดสังเกตป้ายที่คนลงเยอะ) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 350¥ - ลงบัสแล้วเดินต่อไปยังหุบเขานรกได้เลย ระหว่างทางมีจุดให้แวะถ่ายรูปเพียบ เช่น ลานกระบองยักษ์ที่มีบ่อน้ำพุร้อน, รูปปั้นยักษ์และสัตว์ต่างๆ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที 💬 - เดินทางไม่นานจาก Sapporo สามารถจัดเป็น one-day trip ได้ - แวะเป็นทางผ่านก่อนเดินทางไป/กลับจากฮาโกดาเตะได้ (แอดก็แวะขาไปจาก ซัปโปโร-ฮาโกดาเตะค่ะ) - ถ้ามีเวลาแนะนำให้ค้างสักคืน เพื่อลองออนเซ็น ณ แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของฮอกไกโด . #ทริปหน้าไปไหน? #รีวิวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #Japan #รีวิวฮอกไกโด #Hokkaido #Noboribetsu #หุบเขานรก #Jigokudani #Hellvalley #travel #รอวันออกเดินทาง #พิกัดลับ

เที่ยวหุบเขานรก Jigokudani ด้วยรถบัส หุบเขาจิโกกุดานิ หรือหุบเขานรกแห่งเมืองโนโบริเบทสึ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ชิโกสึโทย่า (Shikotsu-Toya) เป็นจุดต้นกำเนิดน้ำพุร้อนออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคฮอกไกโด และที่เรียกว่า “หุบเขานรก” เพราะหุบเขาแห่งนี้มีไอน้ำที่เกิดจากแหล่งน้ำร้อนใต้ดิน ดันออกมาเป็นควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา วิธีที่ง่าย สะดวก และคุ้มค่าที่สุดคือเดินทางด้วยรถไฟ JR Hokkaido Rail Pass (ซึ่งซื้อไว้อยู่แล้ว) จาก Sapporo JR Station ไปลงสถานี JR Noboribetsu Station ระยะทาง 112km ใช้เวลา 75 นาที แล้วต่อรถบัสท้องถิ่น จาก Noboribetsu Bus Stop (ที่อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟ JR) ไปลง Noboribetsu Onsen Bus Stop (N11) รถออก 1-2 รอบ/ชั่วโมง ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร ¥350

หุบเขานรกสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องมาตามรอยครับ สถานที่แห่งนี้เป็นภูเขาไฟและมีบ่อน้ำร้อนกับแร่กำมะถัน เวลาเที่ยวก็จะมีควันจากแร่กำมะถัน อาจจะมีกลิ่นเล็กน้อยให้แสบจมูกถ้าใครไม่ชอบกินแรงแรงก็ให้ใส่แมสได้นะครับ แต่ขวัญนั่นแหละครับที่ทำให้ภูเขาแห่งนี้สวยงาม เป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและมีน้ำร้อนออกมา เป็นจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะชมและถ่ายรูปครับ #บินลัดฟ้าสู่ฮ่องกง #รีวิวฮอกไกโด

#ซากุระ2024 Jigokudani (Hell Valley) - หุบเขานรกหน้าหนาวหิมะปกคลุมสวยงามไม่มีที่ติ หุบเขานรกจิโงคุดานิ(Jigokudani noboribetsu ) หรือมีอีกชื่อหนึ่งที่เป็นฉายาที่ได้รับการขนานนามว่า “Hell Valley”ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Hot Springs) ภายในจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) เรียกได้ว่าเป็นหุบเขาที่มีความงดงามอันเลื่องชื่อเลยนะครับ อีกทั้ง น้ำร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งก็เป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเองล่ะครับ โดยคนที่ชื่นชอบการผจญภัยแบบเบาๆน่าจะชอบที่นี่ไม่น้อย เพราะจะมีเส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆประมาณ 20-30 นาที วิ่งแรกที่จะเห็นก็จะเป็นบ่อโอยุนุมะ(Oyunuma) ซึ่งบ่อนี้เป็นเป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส พอยิ่งขึ้นไปสิ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนก็ตรงที่จะมีบ่อน้ำร้อนให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆตลอดทาง ก็จะเป็นบ่อเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย น้ำที่ไหลออกจากบ่อโอยุนุมะ เป็นลำธารเรียกว่า “โอยุนุมะกาว่า(Oyunumagawa)” ซึ่งไหลผ่านป่านเป็นแม่น้ำหลายร้อยเมตร จุดนี้เองเราสามารถนั่งเพลินพร้อมแช่เท้าท่ามกลางทัศนียภาพกันงดงามตระการตาของธรรมชาติที่แน่นมากๆ ยิ่งในช่วงหิมะตก ยิ่งถือเป็นช่วงพีคสุดของการท่องเที่ยวของที่นี่เลยนะครับ เพราะบอกเลยว่าสวยขั้นเทพเลยล่ะครับ วิธีการเดินทาง หุบเขาจิโงคุดานิตั้งอยู่ ทางทิศเหนือของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Hot Springs) เดินจาก Noboribetsu Onsen busteminal ไปประมาณ 5 นาที

🚗🚗🚗เส้นทางการเดินทาง： Day1: สนามบินนานาชาติเซียวซาน→สนามบินชินชิโตเสะ→ตากินอยะบีคังยามะโนะยุ→นรกของโนโบริเบทสึ Day2: สถานี JR โนโบริเบทสึ→สถานี JR ฮาโกดาเตะ→โรงแรมฮาโกดาเตะฟูรุคุมิยะกะเอบินประธานาธิบดี→ฮาจิมันซากะ→โมโตมาจิ→ภูเขาฮาโกดาเตะ→คลังสินค้าอิฐแดงคานาโมริ Day3: ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ→สวนปราการโกเรนโรกุ→สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ Day4: สถานี JR ฮาโกดาเตะ→สถานี JR ซัปโปโร→โรงแรม JR ซัปโปโรนิกโก→ห้องชมวิว JR ทาวเวอร์→อาคารเก่าที่ทำการฮอกไกโด→หอนาฬิกา→สวนโอโดริ→สวนนากาจิมะ→ภูเขาโมอิวะ→หอโทรทัศน์ซัปโปโร→ถนนช้อปปิ้งทานูกิโคจิ Day5: สถานี JR ซัปโปโร→อาซาริ→สถานี JR มินามิโอตารุ→โอตารุออร์กอลโด→โอตารุออร์กอลโด 2 หอศิลป์โบราณ→คิตะอิจชิโร่→ถนนค้าขายซากายะมาจิโอตารุ→โรงแรมโรแมนติกโอตารุ→โรงแรมไทโช่กาเรสึกิกัง→คลองโอตารุ→ฟุเนะมิซากะ→ภูเขาเท็งงุ→สถานี JR โอตารุ Day6: สถานี JR ซัปโปโร→สวนสัตว์อาซามะยามะ Day7: มหาวิทยาลัยฮอกไกโด→สวนช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ→ศาลเจ้าฮอกไกโด→สวนมารุยามะ→สวนสัตว์ซัปโปโรมารุยามะ→ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ→พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร Day8: สนามบินชินชิโตเสะ→สนามบินนานาชาติเซียวซาน

♨️นรกแดนโนเบ็ตคือแหล่งกำเนิดของสปริงอุ่นโนเบ็ตที่ได้รับการจัดอันดับเป็นสปริงอุ่นที่หนึ่งของฮอกไกโด บริเวณนี้มีโรงแรมหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามลำธารสปริงอุ่นจากที่สูงไปยังที่ต่ำ โรงแรมทุกแห่งใช้สปริงอุ่นเป็นโครงการที่สำคัญ ทุกโรงแรมสามารถเดินไปยังแดนนรกได้ ⛰️ตามป้ายบอกทางที่ตามทาง คุณจะถึงแดนนรกซึ่งเป็นฟรี (ส่วนใหญ่ของแดนนรกในญี่ปุ่นเป็นฟรี) เนื่องจากเป็นหุบเขาภูเขา ดังนั้นเมื่อคุณเข้าสู่แดนนรกคุณจะอยู่บนยอดเขา ยอดเขามีควันไนโตรเจนสีขาว ภาพที่แปลกประหลาดนี้เป็นที่หายาก ดูลงไปที่ด้านล่างของหุบเขา คุณจะเห็นว่ามีทางเดินแคบยาวบนยอดเขาที่เรียกว่า 'ทางไฟผี' ไปยังด้านล่างของหุบเขา เราเลือกที่จะเดินลงไป และเมื่อเราเข้าใกล้ด้านล่างของหุบเขา อุณหภูมิจะสูงขึ้น และความร้อนที่รู้สึกก็จะเพิ่มขึ้น ด้านล่างของหุบเขาไม่มีต้นไม้เล็กๆ น้ำสปริงอุ่นสีน้ำเงินเทาที่มีอุณหภูมิสูงไหลออกมา ทำให้คนรู้สึกประทับใจกับธรรมชาติที่สร้างสรรค์อย่างมหัศจรรย์ การรับรู้ที่ใกล้ชิดแบบนี้เป็นที่หายากมาก ❤️ประสบการณ์: ในการเดินทางของฮอกไกโด สปริงอุ่นเป็นหนึ่งในโครงการที่ต้องลอง โรงแรมในเมืองสปริงอุ่นเกือบทุกแห่งมีสระน้ำ สปริงอุ่นของโนเบ็ตได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งเป็นความเป็นจริง น้ำสปริงอุ่นเป็นสีเทา มีกลิ่นซัลเฟอร์ที่หนาแน่น ตัวคุณจมอยู่ในน้ำ มันนุ่มมาก เนื่องจากสปริงอุ่นของญี่ปุ่นเป็นการจมน้ำเปลือย ดังนั้นคุณไม่สามารถนำโทรศัพท์เข้าไปได้ จึงไม่มีรูปถ่าย จากการรู้จักสปริงอุ่นจากนรกแดนโนเบ็ต ไปจนถึงการเพลิดเพลินในของขวัญจากธรรมชาติ ประสบการณ์นี้เป็นที่หายากและยากที่จะลืม...

แชร์การเดินทางไปNoboribetsu หุบเขานรก Jigokudani เราออกเดินทางจาก Hakodate นั่งรถไฟ Hakuto จากHakodate ไปลงที่สถานี Noboribetsu จากนั้น ซื้อตั๋วรถบัสที่เครื่องขายตั๋ว ไปกับ 640 yen ออกมาจากสถานี เดินมาขึ้นรถบัส นั่งไปไม่นาน ก็ถึง Noboribetsu Onsen เปิด map. เดินจากจุดลงรถประมาณ 900 เมตร เดินทางง่าย สะดวก ที่สถานี Noboribetsu มีตู้ locker ฝากกระเป๋าด้วย ใครจะนอนค้างที่ onsen สักคืนก็ดีนะคะ ที่พักเยอะ จบรีวิวค้า

วันนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวหุบเขานรก (Jigokudani) โนะโบะริเบะสึ ฮอกไกโดเลยทีเดียว อยู่ไม่ไกลมากจากสนามบิน New Chitose Airport ตอนหน้าทางเข้าจะเห็นยักษ์2 ตัวที่บริเวณใกล้ๆทางเข้า พอเข้าไปแล้วจะได้ชมปากปล่องภูเขาไฟที่มีน้ำแร่ น้ำร้อนๆอยู่หลากหลายปล่องเลย แต่ละจุดมีสะพานไม้เชื่อมกันสามารถเดินไปเที่ยสลมได้ เราจะเห็นหินภูเขาไป ชั้นหินหลากหลายชั้นที่เป็นสีแตกต่างกันออกมงไป งดงามมาก ได้กลิ่นกำมะถัน มีมุมถ่ายรูปเยอะเลย และที่นี่เองก็เป็นต้นกำเนิดน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฮอกไกโด ที่สำคัญหุบเขานรกแห่งนี้เองที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องแฟนเดย์ เราตามมาเที่ยวเลยนะนี่ เวลาที่เข้าชมได้ 8.00 – 18.00 ที่อยู่ Noboribetsuonsencho, Noboribetsu, Hokkaido 059-0551 เข้าชมฟรี