วัดนันเซนจิ

Nanzen-Ji ⛩ เป็นอีกหนึ่งวัดยอดฮิต นอกจากสวยแล้วยังเข้าชมฟรีด้วย จะมี ค่าใช้จ่ายแค่ค่าขึ้นไปชมวิวบนประตู Sanmon gate เท่านั้น ตัววัดมีจุดถ่าย ใบไม้เปลี่ยนสีหลายโซนเลย และยังมี มีสะพานคลองส่งน้ำโบราณ Suirokaku ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคเมจิ เค้าสร้างด้วย อิฐสีแดงและหินแกรนิตด้านล่างเป็น มุมโค้งๆ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ไปอีก ใครที่เวลาไม่เยอะ อาจจะมาทริปเดียว เที่ยว 2 วัดได้ เพราะใกล้วัด Eikando แนะนำมาเช้าๆ นะจ้ะ เพราะอัมไปบ่าย คนเยอะม้าก ยิ่งตรงคลองส่งน้ำโบราณ อย่าได้ถามแน่นทุกพื้นที่ ช่วงนี้พีคแล้ว อากาศหนาวฉ่ำๆ มาจัดกันค่า 🍁 📸 รูปถ่ายเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 ----------------------------------- 📌Nanzen-Ji ⛩ 💸 ค่าเข้าชม : ฟรี / ค่าขึ้นประตู 500 เยน ⏰ เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8:40 – 17:00 น. 🗺แผนที่ : hhttps://maps.app.goo.gl/fWjwxszkgfU48N4E6 การเดินทาง 🚌รถเมล์ : นั่งสาย 5 ลงป้าย Nanzenji- Eikando-michi จากนั้นเดิน 5 นาที 🚈 Subway : สาย Tozai ลงที่สถานี Keage เดินต่ออีก 10 นาที #Aumjumma #กินเที่ยวเปรี้ยวแบบป้า #รีวิวเกียวโต #NanzenjiTemple #เที่ยวหน้าหนาว #รีวิวญี่ปุ่น

ในเกียวโตที่รุ่งเรืองมีวัดที่รู้จักกันในนาม 'ดินแดนที่สงบในเมือง' นั่นคือวัดนันเซ็น ตั้งอยู่ที่ราบสูงของภูเขาทางตะวันออก ซึ่งเป็นวัดหลวงของนันเซ็นซอง และเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงของเกียวโต. สถาปัตยกรรมของวัดนันเซ็นมีลักษณะที่สง่างามและเรียบง่าย ทำให้คนรู้สึกสงบและอุ่นใจ ผ่านประตูของวัด ที่จะเห็นคือสวนที่เขียวขจีและสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถรู้สึกถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของซึ่ง. ที่วัดนันเซ็น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมประสบการณ์การนั่งสมาธิ และรู้สึกถึงความสวยงามที่ไม่ธรรมดาของการฝึกฝนซึ่ง ในการนั่งสมาธิ คนต้องการให้ใจสงบและคิดค้น ลืมความวุ่นวายของโลก และแสวงหาความสงบและสงบในใจ วิธีการฝึกฝนนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดความเครียด แต่ยังช่วยเพิ่มความสนใจและการรู้ตัวของตนเอง. นอกจากนี้ สวนของวัดนันเซ็นยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อยากจะกลับ สวนมีการปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้คนรู้สึกสดชื่นและสบายใจ ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในสวน ชมวิวที่สวยงาม และรู้สึกถึงความสวยงามของธรรมชาติ. วัดนันเซ็นยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปวัฒนธรรมและศิลปะของญี่ปุ่น มีการเก็บรวบรวมของที่มีค่าและศิลปะหลายชิ้น นักท่องเที่ยวสามารถชมภาพวาด ประติมากรรมและงานฝีมือของญี่ปุ่นในยุคโบราณ และเข้าใจการพัฒนาของศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

อาศัยอยู่ในเกียวโตมากว่าสามปี เส้นทางเดินเมืองแบบศิลปะและวัฒนธรรมที่ฉันชื่นชอบที่สุด แม้จะเดินทางคนเดียวก็สามารถใช้เวลาทั้งวันที่นี่ได้ เส้นทางแนะนำ วัดนันเซ็น➡️คลองระบายน้ำทะเลสาบบิวะ➡️กาแฟบลูบอตเทิล➡️ศาลเจ้าเฮอัน➡️พิพิธภัณฑ์ศิลปะเคียวเซระ (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเกียวโต）➡️ร้านหนังสือ Tsutaya➡️ห้องสมุดจังหวัดเกียวโต➡️พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติเกียวโต ⛩️🎨☕️🎫 บรรยากาศศิลปะและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยความเป็นศิลปะและวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ครบครัน แนะนำอย่างยิ่ง ————————— 1⃣️วัดนันเซ็น นอกจากวัดคิโยมิสึแล้ว วัดในเกียวโตที่ฉันแนะนำที่สุดคือที่นี่ อาจจะมีความเอนเอียงบ้าง แต่คนไม่ค่อยมาก ถ่ายรูปสวยมาก ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและใบเมเปิ้ลสีเขียวในฤดูร้อนก็สวยงาม แค่ในฤดูหนาวอาจจะดูโล่งไปหน่อย 2⃣️คลองระบายน้ำทะเลสาบบิวะ โครงการคลองระบายน้ำในอดีต อิฐสีแดงเหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพในชุดกิโมโนสไตล์ยุคไทโช ต้องเป็นชนิดที่มีลูกไม้ 3⃣️กาแฟบลูบอตเทิล กาแฟบลูบอตเทิลที่ประตูวัดนันเซ็นเป็นที่นิยมมานานแล้ว มีเมนูภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี สื่อสารได้โดยไม่มีอุปสรรค หลังจากเดินเล่นที่วัดนันเซ็นแล้วก็เหมาะสำหรับการดื่มกาแฟ 4⃣️ศาลเจ้าเฮอัน ถ่ายรูปกับประตูโทริอิขนาดใหญ่⛩️+สวนภายในวัดก็ใหญ่มาก บ่อยครั้งมีคนมาถ่ายภาพแต่งงาน แนะนำให้ไปในฤดูใบไม้ผลิ (ดอกซากุระ) และฤดูหนาว (ดอกพลัม) 5⃣️พิพิธภัณฑ์ศิลปะเคียวเซระ (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเกียวโต） พิพิธภัณฑ์ศิลปะเคียวเซระมีนิทรรศการที่น่าสนใจทุกครั้ง และตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เองก็เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม ภายในเป็นสีขาวทั้งหมด ถ่ายรูปสวยมาก มีสวนญี่ปุ่นด้วย การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างสมัยใหม่และดั้งเดิม❗️ 6⃣️ร้านหนังสือ Tsutaya มีร้านกาแฟและร้านอาหาร หากเหนื่อยก็เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารที่นี่ 7⃣️ห้องสมุดจังหวัดเกียวโต อาคารก็เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม หากมีความต้องการหนังสือที่เกี่ยวข้องสามารถดูได้ มีหนังสือครบครัน 8⃣️พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติเกียวโต สถานที่ที่คนมักไปชมนิทรรศการประจำ มีนิทรรศการใหม่ของโคบายาชิ มาซาคาซึในวันที่ 1.6 หากไปในช่วงเวลานี้สามารถดูได้ นอกจากนี้ ร้าน Yamamoto Seikaten (ฉันชอบผลิตภัณฑ์หนังมาก คุณภาพดีมาก) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะการถ่ายภาพเกียวโตก็สามารถแวะไปได้ ————————— เส้นทางนี้รวบรวมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ห้องสมุด วัด ศาลเจ้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และอาคารเกือบทั้งหมดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม หากไม่ไปจะเสียใจจริงๆ 🔔สุดท้าย หากคิดว่าโพสต์นี้ไม่เลว อย่าลืมกดไลค์และบันทึกไว้

ฤดูใบไม้แดงที่คีย์โตะมีทั้งสถานที่ที่คึกคักมากและสถานที่ที่คึกคักปานกลาง วัด Kiyomizu คือสถานที่ที่คึกคักมากที่สุด ดังนั้นคุณจำเป็นต้องไป แม้ว่าจะมีคนเยอะแค่ไหน คุณก็สามารถมีวิธีเล่นของคุณเองได้ สิ่งที่ควรจำคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ร้านกาแฟโดนัทที่อยู่บนทางขึ้นเนิน วิวของเมืองคีย์โตะที่มองเห็นจากชั้นชมวิว ถ่ายภาพหอสามชั้นใต้แสงแดดจากมุมต่างๆ ซื้อ amulets ต่างๆ แถวคนที่กำลังอธิษฐานที่สามน้ำศักดิ์สิทธิ์ นั่งที่ร้านชาที่อยู่ที่ทางออกและดื่มชากิน mochi ชมถนนที่คึกคักของ Sannenzaka และ Ninnenzaka ตรวจสอบร้านชาที่อร่อยที่สุดของ Yun no Cha และลองข้าวปลาไหลที่คุณรักที่ร้าน Unagiya วัด Nanzen คือสถานที่ที่คุณควรไป ดูเหมือนว่าคุณจะได้พบดาราที่ Hojo Teien ในเวลานี้ที่คีย์โตะ การพบดาราเป็นเรื่องปกติ

วัดที่เงียบสงบและมีขนาดพอเหมาะ ไฮไลท์ของที่นี่ ได้แก่ สวนที่สวยงาม และคุณสามารถเข้าชมภายในห้องต่างๆ รวมถึงห้องที่จัดแสดงไว้สำหรับพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ ราคาไม่แพง และเป็นการเยี่ยมชมที่สงบและเงียบสงบ ยังมีห้องชาที่ตั้งอยู่บนทาตามิพร้อมกับวิวสวนและน้ำตกขนาดเล็ก หากคุณมีเวลา สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีเวลาเปิด-ปิดที่แตกต่างกัน การเข้าชมบริเวณกลางเป็นฟรี แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องจ่ายเงินได้แก่ ประตู Sanmon (600 เยน), Hojo (600 เยน), Nanzenin (400 เยน), วัด Konchi-in (400 เยน), วัด Tenjuan (500 เยน)