วัดหลัวกู่เป็นหนึ่งในสิบวัดสีเหลืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และหนึ่งในห้าวัดเซนที่ภูเขาหวู่ไท่ อาคารไม้สองหลังในวัดขึ้นชื่อเรื่องรับแขกสิบสี่ด้าน วัดโรตารีสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังและสร้างใหม่เป็นเวลาห้าปี (ค.ศ. 1492) และราชวงศ์ชิงได้บูรณะใหม่หลายครั้ง 2556 ได้รับการตีพิมพ์ให้เป็นหน่วยพิทักษ์มรดกสําคัญแห่งชาติชุดที่ 7 ทางเดินหินโค้งมาหน้าประตูภูเขา สิงโตหินทั้งสองข้างประตูมีตัวหนึ่งตัวและตัวเมีย ใหญ่โตและแข็งแรง บริเวณใจกลางไท่ห้วยมีสิงโตหินแกะสลักหลายแห่ง และซากของราชวงศ์ถังมีเพียงที่นี่เท่านั้น ภายในประตูภูเขามีศาลเจ้าใหญ่ทั้งหมดสี่แห่ง อันแรกนี้คือศาลเจ้าเทวดา รูปปั้นเทพเจ้าสี่องค์ หรือที่เรียกว่าคิงคองสี่องค์ ได้แก่ จักรพรรดิผู้ถือครองของตะวันออกของพิปา ราชาผู้เติบโตทางใต้ที่มีดาบ จักรพรรดิใหญ่ที่เติบโตทางทิศตะวันตกที่พันกับงูยาว ทิศเหนือที่มีร่มได้ยินเทพเจ้า ชาวบ้านเรียกพวกเขาว่าลม (ผู้ถือดาบ) โทน (ผู้ถือเสือ) พระเจ้าทั้งสี่ของฝนและเจ้าชูชีพ วิหารที่ 2 คือ วิหารวินสุ ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์ ต่างจากวัดเขียวทั่วไป ที่นี่ พระโพธิสัตว์ ที่นี่มีสีขาวนม แทนที่จะติดสีเหลืองทอง ไหล่ทั้งสองด้านยื่นดอกกุหลาบ และยังมีหนังสือพระคัมภีร์และดาบปัญญาวางอยู่บนดอกไม้ นั่งบนบัวนอนบนบัวแทนยืนกระเบื้อง เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของรูปปั้นของ Huangjiao Wenshu ส่วนที่สามเป็นพระใหญ่ ภายในประดิษฐานพระสัชนามิ (โลกพระโพธิสัตว์โลก), พระพุทธยา (โลกแก้วตะวันออก) พระอมิตา (โลกแห่งความปิติโลกตะวันตก) เรียกว่า “พระพุทธเจ้าที่สาม” ด้านหน้าพระพุทธเจ้าที่ 3 เป็นพระพิฆเนศและประดิษฐานพระโพธิสัตว์ องค์ที่ 4 มีความลึกลับที่สุด ภายในพระวิหารมีบัวตั้งตระหง่านอยู่กลางสูง ภายในบรรจุพระพุทธรูปสี่องค์ บางครั้งดอกบัวแปดกลีบจะค่อยๆ บานสะพรั่ง ปรากฏพระมหาเจดีย์ทั้งสี่ด้าน อันที่จริงเป็นผลมาจากการประสานงานของเครื่องปั้นดินเผา บัวขนาดใหญ่นี้เชื่อมต่อกับแผ่นกลมขนาดใหญ่ด้านล่างด้วยเสาหลัก เมื่อพระสงฆ์ขับรถล้อไม้ในห้องมืดใต้แผ่นกลม งเสาจะหมุน ดอกบัวจะเปิดหรือปิด ปรากฏเป็นภูมิทัศน์ “พระพุทธเจ้าบานสะพรั่ง” นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเทพเจ้า 24 องค์ บนแท่นทรงกลม เรียกว่า “ยี่สิบสี่วัน”