มอสโคว์ในวันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ

เป็นการเยือน #มอสโคว์ และรัสเซียครั้งแรกของฉัน อ่านข้อมูล ข่าวลือ วิจารณ์ แนะนำการเดินทางมามากมาย ออกไปในเชิงติดลบมากกว่าบวก เช่น ผ่าน ต.ม. ช้า ผู้คนหน้าตาบูดบึ้งไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่สื่อสารภาษาอังกฤษ นักล้วงกระเป๋าเยอะ ห้องน้ำหายาก ก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก และระวังตัวมากหน่อย เป็นทริปทรานสิตที่ต้องแวะมอสโคว์ 1 คืน ก่อนเดินทางต่อไปบาร์เซโลน่า ฉันคิดว่าการเที่ยวมอสโคว์ ไฮไลต์ก็มีแค่สถานีรถไฟสวยงาม จัตุรัสแดง และถนนอาราบัต การมีเวลาช่วงเย็นถึงสองทุ่มน่าจะสามารถเห็นได้ทั้งหมด มาดูกันว่าเป็นยังไง เครื่องลงประมาณสี่โมงเย็น คนเข้าคิวไม่มากอย่างที่อ่านมา เจอคนไทยหลายคนล้วนแล้วแต่มาเที่ยวเอง เจ้าหน้าที่ถามนิดหน่อยว่ามาทำอะไร โชว์แค่ตั๋วเครื่องบินขาออก ไม่ต้องโชว์เอกสารอะไรมากมายอย่างที่อ่านมาเหมือนกัน แล้วก็ให้ผ่านอย่างรวดเร็ว เอกสารอะไรที่เขาให้มาก็เก็บไว้ เอาไว้คืนตอนกลับด้วย อ่านมาเขาว่าห้ามหายเด็ดขาด ก็ไม่ได้อ่านว่ามันคืออะไรแค่ทำตามคำแนะนำจากนักท่องเที่ยวก่อนๆ ออกมาก็มาหาซื้อตั๋ว aero express ซื้อแบบตั๋วไป–กลับ เขาว่าจะถูกกว่าก็ซื้อตามนั้น แล้วก็เดินไปตามป้ายบอก ทางเข้าเป็นประตูกระจกที่ปิดอยู่ มีเจ้าหน้าที่ยืนคุม มีคนคอยเป็นกลุ่มใหญ่ด้านขวามือของทางเข้า–ออก ไม่มีใครยืนขวางตรงทางเลย ก็เลยสงสัย มีฉันคนเดียวไปยืนรอด้านซ้ายมือ รอสักพักประตูก็เปิดออก คนเป็นฝูงกรูออกมาจากประตู เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่มีคนรอที่หน้าประตู เพราะเขาให้คนลงจากรถไฟออกมาก่อน เขาถึงจะปล่อยให้คนเข้าไป มันเป็นสถานีต้นทางและปลายทาง ตรงดิ่งจากสนามบินไปในเมืองนั่นเอง เลยไม่ต้องรีบ ที่จะรีบคือเข้าไปจองที่นั่ง ถ้าไม่ได้นั่งก็ต้องยืนยาวไปเกือบชั่วโมง ที่พักฉันเลือกเป็นโรงแรมใกล้สถานีปลายทางของรถไฟ aero express เลย เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงในการขึ้นรถไฟผิด เห็นมีคนเขียนว่า การต้องไปซ้ายหรือขวาของสถานนีเมโทรดูค่อนข้างยาก เพราะมันจะไม่มีภาษาอังกฤษ ฉันลงที่สถานีปลายทาง พอเดินออกจากสถานีก็เดินตาม google map ที่บอกว่าโรงแรมนี้อยู่ห่างออกไปแค่ 300 เมตร ในรูปก็เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มันควรจะเห็นโรงแรมแล้ว ป้ายต่างๆ มีแต่ภาษารัสเซีย แม้กระทั่งชื่อโรงแรมก็เป็นภาษารัสเซีย ฉันจองโรงแรมที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ แต่แถวนั้นไม่มีภาษาอังกฤษให้เห็นเลย เห็นตำรวจยืนอยู่แถวหน้าสถานีรถไฟ ก็เลยเข้าไปถาม เอาชื่อโรงแรมที่จองมาให้ดู เขาก็ชี้ไปที่ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามที่เป็นกลุ่มของตึกสูงหลายตึก บอกว่าตึกแรกที่เห็นนั่นแหละ ฉันก็เดินไปตามนั้น เป็นตึกที่อยู่ตรงข้ามโบสถ์ใหญ่ที่น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้เลยแหละ อ้าว…ตึกที่ว่ากลายเป็นศูนย์การค้า แล้วโรงแรมฉันอยู่ตรงไหนล่ะคราวนี้ ก็เลยไปถามยามที่ดูแลทางเข้าที่จอดรถของศูนย์การค้า พวกเขาไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ชี้มือให้ขึ้นไปบนชั้นสองของศูนย์การค้านั้นแหละ พอไปเช็คอิน ก็ถามพนักงานว่าทำไมชื่อโรงแรมไม่ตรงกัน เธอว่าภาษารัสเซียแปลตรงกับภาษาอังกฤษใน Booking.com เลยถามว่าทำไม่ไม่ติดป้ายภาษาอังกฤษให้เห็นเลย เธอก็ยิ้มเฉย เหมือนจะพูดว่า จะทำไมล่ะ ไม่มีภาษาอังกฤษแล้วยังไง เหมือนเธอจะภูมิใจในภาษารัสเซียของตัวเองมาก ถามไปแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานพอๆ กับอังกฤษ เขาคงภูมิใจในภาษา ในประเทศของเขามาก ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาอื่นในบ้านเมืองของตัวเอง คงประมาณนั้น โรงแรม และห้องพัก ตกแต่งอย่างหรูหรา แม้จะมีขนาดเล็กก็ดูทันสมัย และออกแนวพระราชวังแบบโบราณหน่อยๆ ห้องฉันอยู่ชั้น 3 มีหน้าต่างกระจกสามารถเปิดได้ มองเห็นวิวท้องถนน โบสถ์ สวนสาธารณะ และสถานีรถไฟ ค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว ในราคาเพียงประมาณ 3 พันบาท รวมอาหารเช้าด้วย แต่ฉันต้องเช็คเอ้าท์ออกแต่เช้าเลยต้องเสียไปฟรีๆ (เสียดายนิดหน่อย) อากาศภายนอกยามเย็นประมาณ 5 โมงเย็นของวันนั้นอึมครึม ดูเหมือนฝนเตรียมจะตกได้ตลอดเวลา ฉันคิดว่าไปเดินดูสถานีรถเมโทร ไม่ได้ออกไปด้านนอกคงไม่เป็นไร ก็เลยออกไปสถานีรถเมโทรที่ติดกับสถานีรถไฟ Aero express อีกครั้ง เล็งไว้ตั้งแต่ออกจากสถานีตอนที่มาถึงแล้ว ฉันจำไม่ได้ว่าซื้อตั๋วแบบไหนไป แต่ก็รู้ว่าจะลงสถานีไหนก็ได้ ถ้าไม่เดินออกก็ถือว่า 1 รอบ ก็เลยใช้ app Moscow Metro ไปจัตุรัสแดง อันนี้ต้องเปิดหาคำแนะนำใน google ว่าต้องลงที่สถานีไหน ก่อนไปถึงฉันก็ลงทุกสถานี แล้วออกไปดูชื่นชมความงามของแต่ละสถานีก่อน แล้วรอรถ Metro เที่ยวต่อไปเพื่อไปต่อ ซึ่งก็มาเร็วมาก เกือบทุก 5 นาทีเลยมั้ง สถานีเมโทรแต่ละสถานี สวยจริงดังคำร่ำลือ มีเอกลักษณ์ทุกสถานี ฉันไม่ได้ไปตามสถานีที่แนะนำ แค่โผล่ออกไปดูทุกสถานีที่ผ่าน 4-5 สถานีก็ตาลายแล้ว ฉันโผล่ออกจากสถานีเมโทรตรงจุดที่ใกล้จตุรัสแดง ตรงไหนไม่แน่ใจ เป็นด้านหนึ่งของศูนย์การค้าอะไรก็ไม่รู้ แล้วเดินตาม google map ไปโบสถ์หัวหอม เดินไปเรื่อยๆ เส้นทางแต่ละถนนกว้างใหญ่ อยู่บนเนินเขา ถนนกว้างใหญ่ลาดลงไป ปลายทางดูไกลมาก ฟ้ามืด ฝนเริ่มตก และหนักขึ้นเรื่อยๆ มีแสงไฟตามข้างถนนสว่างไสวก็จริง แต่ผู้คนตามท้องถนน จากที่หนาตา ก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือฉันเดินท่อมๆ ตากฝนอยู่เพียงลำพัง บนถนนที่มีรถจอดอยู่เต็มสองข้างทาง แต่ไม่มีคนเดินถนน และไม่มีรถวิ่งผ่านเลย ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวตรงไป ไม่อยากหันหลังเดินกลับเพราะเดินมาไกลมากแล้ว สักพักก็เดินทะลุไปถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งเต็มถนน เดินเลียบไปตามข้างกำแพงที่สูงมากๆ ไปถึงปลายกำแพงก็เห็นมีกลุ่มคนหลบฝนสาดอยู่ข้างกำแพง ดูมีทั้งนักท่องเที่ยว และนักศึกษา มองไปทางซ้ายก็เห็นโบสถ์หัวหอมอยู่ลิบๆ แต่เห็นว่ามีรั้วเหล็กกั้นไม่ให้เข้า เห็นบอกว่าจะมีการเดินสวนสนามในช่วงนี้ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้า สักพักผู้คนก็สลายหายตัวหมด เหลือฉันยืนตากฝนอยู่คนเดียว ไม่ไหวละ ดูใน google map สถานีรถเมโทรก็อยู่ไกลหลายกิโลเมตรเลย ทำไงดีล่ะ สุดท้ายมีหนุ่มน้อยใจดีเรียก Taxi จาก App ในมือถือเขาให้ 🥰 เลยได้กลับโรงแรมแบบเปียกมะลอกมะแลก และไม่สบายในวันต่อมา😱 #รัสเซีย #มอสโก