เมื่อนึกถึงอากาศหนาวและธรรมชาติแสนสวยทางภาคเหนือ เชียงรายต้องเป็นจังหวัดอันดับหนึ่งในใจใครหลายคนอย่างแน่นอน ด้วยภูมิประเทศของเชียงรายที่เต็มไปด้วยพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์และโอบล้อมด้วยเทือกเขา ทำให้อากาศในเชียงรายเย็นสบายโดยเฉพาะในฤดูหนาว และมีธรรมชาติของป่าไม้เมืองหนาวที่หาชมได้ยาก อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมล้านนาที่มีเอกลักษณ์ และเป็นแหล่งรวมผลงานชิ้นเอกของศิลปินแห่งชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี ความโดดเด่นเหล่านี้ทำให้เชียงรายเป็นที่เที่ยวอันดับหนึ่งในใจใครหลายคนที่ต้องไปซ้ำแล้วซ้ำอีก วันนี้ Trip.com จึงนำที่เที่ยวเชียงรายยอดนิยมมาแนะนำกันแบบละเอียดยิบ ถูกใจที่ไหนก็กดจองตั๋วแล้วเตรียมไปเที่ยวกันได้เลย
วัดร่องขุ่น วัดสีขาวสุดอลังการ มาเที่ยวเชียงรายห้ามพลาด
วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เป็นที่เที่ยวเชียงรายที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจไปกับงานศิลปะสุดวิจิตรอลังการที่สร้างสรรค์โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชาวเชียงรายผู้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ โดยมีปณิธานมุ่งมั่นที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลก และเพื่อสร้างศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 แต่เดิมวัดร่องขุ่นเป็นวัดเก่าในชุมชนที่มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จากนั้นในปี พ.ศ. 2540 อาจารย์เฉลิมชัยจึงได้เริ่มออกแบบวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยใช้เวลาสร้างถึง 13 ปี วัดร่องขุ่นแห่งนี้ได้กลายเป็นผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่า จนกลายเป็นที่เที่ยวเชียงรายมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและเป็นที่รู้จักในนาม “White Temple” หรือ “วัดขาว”

พระอุโบสถวัดร่องขุ่น
ความงดงามที่โดดเด่นก็คืออุโบสถสีขาวที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีเงิน ส่งประกายระยิบระยับเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา ช่อฟ้าใบระกางดงามตระการตา หน้าบันประดับด้วยพญานาคที่ประณีตวิจิตร พระอุโบสถแห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาวหมายถึงพระบริสุทธิคุณ ส่วนกระจกหมายถึงพระปัญญาธิคุณที่โชติช่วง รวมกันเป็นภาพอันงดงามที่เปล่งประกายราวกับเมืองสวรรค์ ด้านหน้าเป็นทะเลสาบที่สะท้อนเงาของอุโบสถจนเกิดเป็นภาพที่สวยงาม สะพานสีขาวที่ทอดยาวหมายถึงการเดินข้ามวัฏสงสารเพื่อมุ่งสู่พุทธภูมิ ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธศาสนาและสอดแทรกด้วยจิตรกรรมแนวไทยสมัยใหม่ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดร่องขุ่นยังมีพื้นที่กว้างขวางที่เต็มไปด้วยประติมากรรมอันงดงาม เป็นที่เที่ยวเชียงรายที่มีจุดให้แวะชมและถ่ายรูปอีกมากมาย อาทิ “บ่อน้ำอธิษฐานจิต” “ต้นโพธิ์เงิน” และยังมีอาคารสีทองโดดเด่นที่แท้จริงแล้วคือ “ห้องน้ำสีทอง” เพื่อสื่อสารถึงโลกีย์วิสัยของมนุษย์ บริเวณใกล้ทางออกของที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหอศิลป์ที่จัดแสดงภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัยให้ได้เข้าไปชื่นชมกันอีกด้วย ภายนอกเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อมากมาย

ทางเดินเข้าพระอุโบสถ

ศิลปะภายในวัดร่องขุ่น
ที่ตั้ง :
ตำบลป่าอ้อดอนชัย, อำเภอเมืองเชียงราย, จังหวัดเชียงราย
วิธีการเดินทาง :
ใช้ถนนสายเชียงราย-กรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทางจังหวัดเชียงรายเรื่อยๆ จนถึงแยกอำเภอแม่สรวย จากนั้นเดินทางต่ออีก 10 กิโลเมตร ก่อนถึงแยกขุนกรณ์ประมาณ 200 เมตร จากนั้นเลี้ยวเข้าไปตามป้ายประมาณ 100 เมตรก็จะถึงวัดร่องขุ่น
เปิดให้เข้าชม :
ทุกวัน เวลา 08:00-17:00 น.
ค่าเข้าชม :
คนไทยเข้าชมฟรี คนต่างชาติ 50 บาท
สิงห์ปาร์ค ที่เที่ยวเชียงรายสุดเพลิน เดินชมวิวกลางไร่กว้าง 8,000 ไร่
สิงห์ปาร์ค (Singha Park Chiang Rai) เป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมแห่งหนึ่งของเชียงรายที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามและกิจกรรมให้ทำหลากหลาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวเชียงรายที่ควรแวะมาเช็คอินและถ่ายรูปสวยๆ สิงห์ปาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 8,000 ไร่ บรรยากาศโอบล้อมด้วยพื้นที่ธรรมชาติอันกว้างไกลสุดสายตา อากาศเย็นสดชื่นเหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อน ภายในมีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุกมากมาย ตั้งแต่การเดินชมฟาร์มและทุ่งดอกไม้ เก็บสตรอว์เบอร์รี ชิมชา ให้อาหารยีราฟ ปั่นจักรยาน ขึ้นบอลลูนยักษ์ ไปจนถึงกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เช่น ซิปไลน์และปีนผาจำลอง ที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้มีรถรางคอยให้บริการเพื่อพาชมทั่วไร่ตามแผนผังที่กำหนด และแวะพักตามจุดสำคัญต่างๆ ให้ลงไปพักผ่อนถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย

ชมทุ่งดอกไม้ที่สิงห์ปาร์ค
แลนด์มาร์กโดดเด่นของที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้คือรูปปั้นสิงห์สีทองขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของสิงห์ปาร์ค ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าบนเนินหญ้าสีเขียวขจี เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะถ่ายรูปและพักผ่อนหย่อนใจ สร้างบรรยากาศคึกคักกันตั้งแต่หน้าทางเข้า จากนั้นก็ขึ้นรถฟาร์มทัวร์ทั่วไร่สิงห์ปาร์ค
สำหรับผู้ใหญ่มีค่าบริการ 150 บาท ส่วนเด็กสูงไม่เกิน 110 ซม. มีค่าบริการ 50 บาท จากนั้นรถก็จะพาไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ในแต่ละจุดสามารถแวะเที่ยวได้ไม่จำกัดเวลา พักผ่อนถ่ายรูปกันได้อย่างจุใจ แล้วค่อยขึ้นรถไปยังจุดต่อไป โดยรถจะเวียนต่อเนื่องทุกครึ่งชั่วโมง เริ่มจากลานดอกไม้และทุ่งหญ้าหลากสี ทั้งทุ่งปอทองสีเหลืองอร่าม และทุกดอกคอสมอสสีสันสดใส เบ่งบานตัดกับท้องฟ้าและทุ่งหญ้าสีเขียว ส่วนจุดไฮไลต์ต่อไปของที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ก็คือไร่ชาอู่หลงที่มีขนาด 600 ไร่ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด และในช่วงเช้ายังมีโอกาสเห็นบรรยากาศการเก็บยอดใบชาอีกด้วย ชาที่นี่มีกลิ่นหอมและมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิมและซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
จากนั้นก็จะพบกับสิงห์ปาร์ค Mini Zoo ที่สามารถมาให้อาหารสัตว์ได้ มีสัตว์หลายชนิด เช่น ยีราฟ ม้าลาย ม้าแคระ และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับสายแอดเวนเจอร์ก็พลาดไม่ได้ ที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้มีเครื่องเล่นซิปไลน์ที่จะพาเหินเวหาจากที่สูงผ่านไร่ชาอันกว้างไกล เป็นกิจกรรมที่สนุกและสร้างความตื่นเต้นได้เป็นอย่างดี และยังสามารถเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมวิวสวยๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติกันได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมชิลๆ และแอดเวนเจอร์ให้ร่วมสนุกอีกมากมายที่ต้องลองไปสัมผัสที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ด้วยตัวเอง

สถานีซิปไลน์

ดอกเหลืองเชียงรายบานสะพรั่ง
ที่ตั้ง :
99 หมู่ 1, ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ, ตำบลแม่กรณ์, อำเภอเมืองเชียงราย, ประเทศไทย
วิธีการเดินทาง :
จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ ไปทางวัดร่องขุ่น ระยะทางประมาณ 16 กม.
เปิดให้เข้าชม :
ทุกวัน เวลา 8:00-18:00 น.
ค่าเข้าชม :
เข้าชมฟรีเฉพาะบางโซน ส่วนฟาร์มทัวร์มีค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 150 บาท เด็กสูงไม่เกิน 110 ซม. 50 บาท
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ที่เที่ยวเชียงรายสำหรับคนรักศิลปะ
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ หรือนิยมเรียกกันว่าบ้านดำ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงรายสำหรับคนรักศิลปะ สร้างสรรค์โดยอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ผู้ฝีมือทางด้านงานจิตรกรรมและประติมากรรม อีกทั้งยังได้ฝากผลงานศิลปะอีกมากมายไว้เป็นมรดกของชาติ บ้านดำแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของอาจารย์ถวัลย์ที่ชื่นชอบ “สีดำ” เป็นพิเศษ บ้านดำในที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย แต่ถูกสร้างไว้เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับรวบรวมผลงานศิลปะและของสะสมของอาจารย์ถวัลย์ โดยภายในพิพิธภัณฑ์บ้านดำมีบ้านเรือนไทยจำนวน 40 หลัง เรียงรายท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น สลับกับพื้นที่สีเขียว และประติมากรรมภายนอก บ้านเรือนไทยแต่ละหลังมีรูปแบบสวยงามแตกต่างกันไป ทั้งบ้านไม้แบบล้านนาและบ้านปูนรูปทรงแปลกตา

มหาวิหาร

ศิลปะภายในบ้านดำ
บ้านดำหลังที่โดดเด่นที่สุดก็คือมหาวิหารสีดำสุดอลังการ ภายนอกเป็นอาคารสูงใหญ่ที่ออกแบบให้มีรูปแบบคล้ายกับบ้านทรงไทย สร้างขึ้นจากไม้โดยแสดงให้เห็นสีน้ำตาลของเนื้อไม้สลับกับสีดำ ดูเคร่งขรึมและหนักแน่น แต่แฝงด้วยรายละเอียดของไม้แกะสลักที่มีความงดงามอ่อนช้อย ภายในเป็นห้องโถงสูงโปร่งที่มีพื้นที่กว้างขวาง จัดแสดงผลงานศิลปะ ภาพเขียน และของสะสมหลากหลายชนิดอยู่ข้างใน โดยเฉพาะศิลปะจากเขาควาย เขากวาง ขนสัตว์ หนังจระเข้ เปลือกหอย และกระดูกสัตว์ต่างๆ เป็นต้น อีกหนึ่งอาคารที่สวยงามโดดเด่นในที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ ได้แก่ บ้านดำกาแลเกี่ยวฟ้า เป็นเรือนไม้เก่าสามหลังแฝดของคฤหบดีเชียงรายบ้านป่าก่อดำที่รื้อมาปรับปรุงใหม่ ภายในแสดงงานศิลป์เก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งเครื่องเขิน ลายเขียนสี ลายทอง ตู้ เตียง ตั่ง รวมทั้งมีดและอาวุธโบราณจากหลายทวีป นอกจากนี้ในที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ยังมีเรือนสีดำที่มีรูปแบบและความสวยงามเฉพาะตัวอีกหลายแห่งให้เดินชมและเก็บภาพสวยๆ อาทิ วิหารราม เรือนหลองข้าว และเรือนสุงสุมาร เป็นต้น

บ้านดำกาแลเกี่ยวฟ้า
ในการเข้าชมที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้มีค่าเข้าชม 80 บาท สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และผู้ทุพพลภาพ รวมทั้งเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. ไม่เสียค่าเข้าชม นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีไกด์คอยให้ความรู้อีกด้วย บ้านดำแห่งนี้เป็นที่เที่ยวเชียงรายอีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาด ผลงานศิลปะของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เรียกได้ว่าเป็นด้านที่อยู่ตรงข้ามกับวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตามคำพูดติดปากที่กล่าวถึงศิลปินทั้งสองว่า “เฉลิมสร้างสวรรค์ ถวัลย์สร้างนรก”
ที่ตั้ง :
333 ม.13, ตำบลนางแล, อำเภอเมืองเชียงราย, จังหวัดเชียงราย
วิธีการเดินทาง :
จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางมุ่งไปทางแม่สาย ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายไปประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นสังเกตบริษัทเสริมสุข ให้เข้าซอยถัดไประยะทางประมาณ 300 เมตร
เปิดให้เข้าชม :
ทุกวัน เวลา 9:00-17:00 น.
ค่าเข้าชม :
ผู้ใหญ่ 80 บาท
สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี เข้าชมฟรี
ผู้ทุพพลภาพ เข้าชมฟรี
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าชมฟรี
สักการะพระธาตุดอยตุง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเชียงราย
พระธาตุดอยตุง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย เป็นที่เที่ยวเชียงรายที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมักแวะเวียนขึ้นมากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล พระธาตุดอยตุงมีลักษณะเป็นเจดีย์สีทองอร่ามที่เคียงคู่กัน 2 องค์ เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ชาวเชียงรายและพุทธศาสนิกชนจากประเทศเพื่อนบ้านต่างก็เลื่อมใสและแวะเวียนมาที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้กันทุกปี ถ้าขึ้นมาเที่ยวในช่วงเช้ามักได้ชมสายหมอกจางๆ ระหว่างทางขึ้นดอย สองข้างทางโอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวสดชื่น เส้นทางมีความโค้งชันบางช่วง จึงควรเดินทางอย่างระมัดระวัง ด้านบนมีจุดชมวิวที่สามารถมองลงไปเบื้องล่างเพื่อชมทิวทัศน์จากที่เที่ยวเชียงราย ธรรมชาติเบื้องล่างอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะในฤดูหนาว บรรยากาศจะสวยงามเป็นพิเศษเนื่องจากมีสายหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ตามตำนานกล่าวกันไว้ว่า พระธาตุดอยตุงเป็นเจดีย์แห่งแรกในอาณาจักรล้านนาซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีกุน นอกจากนี้บนพระธาตุดอยตุงยังมีรอยแตกบนผืนดิน เชื่อกันว่าเป็นรอยที่เกิดจากการปักฐานตุงบูชาพระธาตุเมื่อประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว ซึ่งตุงก็คือธงชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและความเป็นมงคลสำหรับชาวล้านนา วัดพระธาตุดอยตุงเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุและทำบุญได้เป็นประจำทุกวัน แต่ถ้าแวะมาเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม จะได้ร่วมงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง “หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” มีการทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม ทำพิธีสืบชะตาหลวงตามแบบล้านนา และการเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาศรีวิชัย เป็นต้น เมื่อมาเที่ยวเชียงราย นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนไปเที่ยวต่อในจุดอื่นๆ
ที่ตั้ง :
วัดพระธาตุดอยตุง, ตำบลห้วยไคร้, อำเภอแม่สาย, จังหวัดเชียงราย
วิธีการเดินทาง :
ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่สาย-พระตำหนักดอยตุง ให้สังเกตป้ายบอกทางขึ้นวัดพระธาตุดอยตุงก่อนจะถึงทางแยกเข้าพระตำหนักดอยตุงให้ตรงไปทางสวนรุกขชาติดอยช้างมูบ เดินทางไปประมาณ 7 กิโลเมตรก็จะถึงจุดหมาย
เปิดให้เข้าชม :
ทุกวัน เวลา 8:00 - 18:00 น.
ค่าเข้าชม :
เข้าชมฟรี
วัดร่องเสือเต้น วัดสีน้ำเงินสดใส ที่เที่ยวเชียงรายที่ต้องไปให้ได้
วัดร่องเสือเต้น โดดเด่นสะดุดตาด้วยศิลปะร่วมสมัยในเฉดสีน้ำเงินทองสุดตระการตา วัดและพระอุโบสถสร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีสันสดใสสะดุดตา เส้นสายอ่อนช้อย แต่ก็คมชัดและเข้มแข็ง มีความสวยงามแปลกตา ทั้งพระวิหารและสถาปัตยกรรมต่างๆ เป็นพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่ออกแบบอย่างละเอียดประณีต ใช้สีเฉดสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองเป็นหลัก สีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารอาคารหมายถึงธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เป็นหลักความจริงแท้และได้แผ่ขยายไปทั่วโลก เปรียบเสมือนท้องฟ้าอันสดใสที่เข้าถึงทุกคน วัดร่องเสือเต้นเป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและแฝงด้วยธรรมะ รังสรรค์โดยนายพุทธา กาบแก้ว หรือสล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงรายที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นที่เที่ยวเชียงรายอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย

วัดร่องเสือเต้น
เมื่อเดินเข้าไปถึงที่เที่ยวเชียงรายแห่งนี้ก็จะพบกับความงดงามตระการตาตั้งแต่ด้านหน้าวัด ซุ้มประตูสร้างเป็นรูปพญานาค 2 องค์ ซึ่งก็คือท้าวมุจลินทร์และปู่ศรีสุทโธอยู่เคียงคู่กันอย่างสง่างาม ด้านหน้ามีบันไดพญานาคที่โอ่อ่าและอ่อนช้อย เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูป บันไดนาคส่วนนี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ที่เน้นลักษณะโครงสร้างที่เข้มแข็ง เขี้ยวเล็บดูน่าเกรงขามแต่มีความอ่อนช้อยในแบบล้านนา ถัดเข้ามาจะสังเกตเห็นวงเวียนตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ประดิษฐานพระอุปคุตผู้เป็นพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า ถัดไปด้านหลังเป็นพระวิหารที่ศิลปินได้ให้นิยามว่าเป็นทิพยสถาน ภายในวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังเฉดสีน้ำเงินฟ้าที่อ่อนช้อยงดงาม เพื่อเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระเศียร ส่วนด้านหลังวิหารมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์สีขาวขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ ถัดไปเป็นพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ที่มีความสูงถึง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุก็ได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุไว้ด้วยเช่นกัน ความสวยงามอลังการของวัดแห่งนี้ทำให้วัดนี้กลายเป็นที่เที่ยวเชียงรายยอดนิยมที่เป็นจุดหมายของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ

ภายในวิหารวัดร่องเสือเต้น

พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์
ที่ตั้ง :
306 หมู่ที่ 2, หมู่บ้านร่องเสือเต้น, ตำบลริมกก, อำเภอเมืองเชียงราย, จังหวัดเชียงราย
วิธีการเดินทาง :
วัดร่องเสือเต้นตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ห่างจากสะพานแม่น้ำกก 300 เมตร จากตัวเมืองเชียงรายให้ใช้ถนนสายแม่จัน-แม่สาย จากนั้นข้ามสะพานแม่น้ำกก เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนประมาณ 100 เมตร แล้วไปตามป้ายก็จะถึงวัดร่องเสือเต้น
เปิดให้เข้าชม :
ทุกวัน เวลา 7:00 - 20:00 น.
ค่าเข้าชม :
เข้าชมฟรี
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวเชียงราย
เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทยและมีความเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนอาณาจักรล้านนา จึงมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงมีภาษาคำเมืองเป็นภาษาท้องถิ่นที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ และยังมีเสน่ห์จากความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของชนเผ่าต่างๆ อีกด้วย
เชียงรายมีฤดูกาลคล้ายกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ในฤดูร้อนยังคงมีอากาศร้อนในเวลากลางวัน แต่ก็ยังเย็นสบายกว่าจังหวัดส่วนใหญ่ ส่วนในเวลากลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นสบายไม่ว่าฤดูใดก็ตาม หากคุณวางแผนจะไปท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงราย ไปร้านอาหาร คาเฟ่ หรือวัดสวยๆ ก็สามารถไปเที่ยวได้ทุกเดือน แต่สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเข้าป่า ขึ้นดอย กางเต็นท์ ชมดอกไม้เมืองหนาว หรือชมทะเลหมอก ควรไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายนจนถึงกุมภาพันธ์ คุณจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นจัด ทะเลหมอกแสนสวย และดอกไม้หลากสีสันที่หาชมได้ยาก
การเดินทางไปเชียงรายที่สะดวกรวดเร็วที่สุดก็คือทางเครื่องบิน สนามบินในเชียงรายมีชื่อว่า “ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง” มีเที่ยวบินมาลงเกิน 10 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งจากสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น สะดวก ประหยัดเวลา แถมยังราคาไม่สูงอีกด้วย
FAQเกี่ยวกับที่เที่ยวเชียงราย
-
วัดร่องขุ่นเสียค่าเข้าไหม
คนไทยเข้าชมฟรี คนต่างชาติเสียค่าเข้า 50 บาท
-
สิงห์ปาร์คอยู่ที่ไหน
จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 16 กม.
-
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ เสียค่าเข้าไหม
ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชม 80 บาท และเข้าชมฟรีสำหรับผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ทุพพลภาพ และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.
-
พระธาตุดอยตุงเปิดกี่โมง
เปิดทุกวัน เวลา 8:00 - 18:00 น.
-
เที่ยวเชียงรายเดือนไหนอากาศหนาว
เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
