รวม 5 คาเฟ่กาญจนบุรี บรรยากาศดีๆ เที่ยวชิลได้ทั้งปี

กาญจนบุรีเป็นหนึ่งจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพ มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายและท่องเที่ยวได้ทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติ น้ำตก ภูเขา แม่น้ำ ล่องแพ หรือแคมป์ปิ้ง จึงมีแหล่งที่พัก ร้านอาหาร และคาเฟ่สวยๆ จำนวนมากที่คอยรองรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเที่ยวกาญจนบุรีตลอดทั้งปี Trip.com ได้คัดสรรคาเฟ่กาญจนบุรีบรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ ไว้เพื่อเติมเต็มทริปวันหยุดพักผ่อนของทุกคน

CHAN nature cafe’ l คาเฟ่สไตล์นอร์ดิก บรรยากาศธรรมชาติ คนรักแคคตัสห้ามพลาด

CHAN nature cafe’ คาเฟ่กาญจนบุรีสุดโรแมนติก ใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศริมน้ำ โอบล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวบนพื้นที่กว้างขวางและขนาบข้างด้วยภูเขา สร้างบรรยากาศส่วนตัวให้ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้เต็มปอด ดีไซน์ของร้านออกแบบเป็นสไตล์นอร์ดิกให้ความรู้สึกอบอุ่นและเรียบสวยแบบมินิมอล กังหันลมขนาดใหญ่ด้านหน้าร้านชวนให้นึกถึงภาพหมู่บ้านกังหันลมที่เนเธอร์แลนด์ และยังมีระเบียงกระจกทอดยาวไปด้านหน้าตัวร้าน เป็นมุมไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาถ่ายรูปและดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติแบบพาโนราม่า นอกจากจุดเด่นเรื่องการออกแบบและบรรยากาศแล้ว คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักไม้หนาม เพราะบริเวณโดยรอบร้านรายล้อมด้วยแคคตัสขนาดใหญ่เรียงรายหลากหลายสายพันธุ์ ให้นักท่องเที่ยวแวะไปถ่ายรูปได้หลากหลายมุม บรรยากาศน่าตื่นตาตื่นใจราวกับหลุดไปอยู่ในทะเลทรายเลยก็ว่าได้

เมื่อเดินไปทางฝั่งโรงเรือนก็จะพบกับโซนโรงเรือนปลูกแคคตัส บริเวณนี้เป็นโรงเรือนที่มีสวนกระบองเพชรขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยกระบองเพชรสุดอลังการหลากหลายสายพันธุ์ เรียงรายทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่หลากสีสัน มีการออกแบบทางเดินและมุมต่างๆ ไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปท่ามกลางกระบองเพชรได้อย่างใกล้ชิด โพสต์ท่าเปลี่ยนมุมกันได้ไม่มีเบื่อ โดยเฉพาะมุมสวนที่มีไม้สไตล์นอร์ดิกเป็นฉากหลัง ช่วยเติมเต็มให้ภาพสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

เมนูขึ้นชื่อของร้าน CHAN nature cafe’ ที่พลาดไม่ได้ คือเมนูชาเขียวมัทฉะ ซึ่งทางร้านใช้ชาเขียวสายพันธุ์คุณภาพชั้นเลิศ ผ่านวิธีการชงที่พิถีพิถันเพื่อดึงรสชาติต้นตำรับแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยวิธีการชงที่ใช้ตะกร้อไม้ไผ่ตีอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาเขียวมีกลิ่นหอมชัดเจน สีสวย รสชาติติดปาก เนื้อแน่นแต่นุ่มละมุนสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำให้ลิ้มลองเมนู Mizudashi Latte (มิชูดาชิ ลาเต้) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cold Brew Matcha Latte โดยเมนูนี้ใช้กรรมวิธีการสกัดเย็น ซึ่งวิธีนี้จะดึงสารประกอบของชาออกมา ทำให้ชามีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา รสชาติจึงมีความกลมกล่อมและหอมละมุน นอกจากนี้ คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ยังใช้ชาเขียวเป็นส่วนประกอบหลักในเมนูต่างๆ ทั้งในเครื่องดื่มและเบเกอรี่ รสชาติของชาเขียวเข้ากันได้ดีกับส่วนผสมอื่นๆ และยังทำให้สีสันน่าทานอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบชาเขียวกับบรรยากาศชิลๆ ไม่ควรพลาดคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้เด็ดขาด

CHAN nature cafe’ อยู่ในอำเภอเมืองกาญจนบุรี แต่จะออกไปทางนอกเมือง โดยไปทางถนน กาญจนบุรี-ไทรโยค เป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้อยู่ในเครือเดียวกับ The Village Farm to Cafe จึงสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้

ที่ตั้ง: ถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค, ต.หนองบัว, อ.เมืองกาญจนบุรี, จ.กาญจนบุรี ซึ่งร้านอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 8 กิโลเมตร อยู่ในบริเวณเดียวกับ The Village Farm to Cafe และคีรีมันตรา (ตัวร้านอยู่ทางด้านหลัง)

พิกัด: CHAN nature cafe’ https://maps.app.goo.gl/hgWJW4p8DTmBdjxAA

ร้านเปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 - 20:00 น.

ค่าเข้า: 80 บาทต่อคน สามารถนำไปแลกเครื่องดื่มหรือใช้เป็นส่วนลดในการซื้อต้นไม้ได้

Facebook: https://www.facebook.com/channaturecafe/

The Village Farm to Café l คาเฟ่โมเดิร์นสไตล์ฟาร์ม

คาเฟ่กาญจนบุรีสไตล์โมเดิร์น The Village Farm to Café เป็นคาเฟ่แลนด์มาร์กชื่อดังของกาญจนบุรีที่อยู่ในเครือร้านอาหารคีรีมันตรา เช่นเดียวกับ CHAN nature cafe’ ซึ่งใช้พื้นที่ร่วมกันและสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นหลายโซนที่ตกแต่งไม่เหมือนกัน และใช้รองรับกิจกรรมที่แตกต่างกัน ทิวทัศน์ธรรมชาติด้านหลังเป็นวิวแบบเดียวกันเพียงแต่อยู่คนละฝั่ง บริเวณภายนอกโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่พร้อมทั้งภูเขาเขียวขจี และมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า บริเวณด้านหน้าจะมีลานไม้ยื่นไปบนผิวน้ำ กลายเป็นมุมโปรดที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งพักผ่อนและเดินเล่นเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์

แม้คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้จะเป็นโซนคาเฟ่ของร้านอาหารคีรีมันตรา แต่พื้นที่ภายในร้านกว้างขวางและโปร่งสบายด้วยหลังคาสูง ตกแต่งอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ทางเข้าจนถึงด้านใน ตัวอาคารเป็นสไตล์นอร์ดิกหลังคาจั่ว ออกแบบเป็นเรือนกระจกลักษณะคล้ายโรงนาที่เรียงต่อกันถึงสี่หลัง ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ เฟอร์นิเจอร์และของประดับเข้ากันอย่างลงตัว การใช้ไม้ ดอกไม้ และต้นไม้ต่างๆ รวมถึงเก้าอี้อาร์มแชร์นุ่มสบายโทนสีน้ำตาล ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่บ้าน

ที่ร้านมีทั้งโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว และโต๊ะแถวยาวให้เลือกนั่งตามใจ ไม่ว่าจะมาทานอาหาร มานั่งชิล หรือทำงานนอกสถานที่ก็สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีโซนที่นั่งด้านนอกให้ได้ดื่มด่ำกับอาหารอร่อยท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย

คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้นอกจากจะมีขนมและเครื่องดื่มแล้ว อาหารของร้านนี้ก็อร่อยเช่นเดียวกัน ทางร้านเน้นสไตล์ไทยฟิวชั่นเพื่อสุขภาพ โดยจะคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รับประกันคุณภาพและความอร่อยโดยการปรุงจากเชฟมากฝีมือของร้านคีรีมันตรา เมนูแนะนำได้แก่ สลัดแซลมอนแซ่บ และสเต๊กซี่โครงหมู อาหารแต่ละจานตกแต่งอย่างสวยงาม ปริมาณค่อนข้างเยอะถือว่าคุณภาพเกินราคา เพราะเริ่มต้นที่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้น แม้ในช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ก็เสิร์ฟอาหารค่อนข้างเร็วและมีระบบจัดการภายในร้านได้อย่างดี

เมนูของหวานซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ทุกโต๊ะต้องสั่งมีชื่อเรียกว่า เต่าปังลุยสวน ลักษณะเป็นขนมปังรูปเต่าแป้งนุ่มๆ ภายในเป็นไส้รสเมลอนฉ่ำๆ รสชาติหอมหวานละมุน เสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ตเมลอนรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยว และมีเมลอนสดให้ได้สัมผัสเนื้อเมลอนหอมอร่อยแบบเต็มคำ บริเวณฐานตกแต่งด้วยแป้งเพิ่มความสดใสน่ารัก ส่วนเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ก็คือเมลอนมะนาว กลิ่นหอมเมลอนแซมด้วยมะนาวช่วยเพิ่มความสดชื่น และโซนถัดไปภายในร้านยังมีมุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย สำหรับจิบสังสรรค์เพิ่มสีสันกันเบาๆ โดยจะเน้นเป็นเบียร์หลายชนิด ทั้งเบียร์ไทย เบียร์ต่างชาติ และวิสกี้

ส่วนอาคารด้านในสุดของคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ก็คือ The Village Roaster ซึ่งเป็นโรงคั่วกาแฟขนาดย่อมที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2565 ซึ่งมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายชนิด และมีเมล็ดกาแฟรวมถึงกาแฟแคปซูลจำหน่ายอีกด้วย สำหรับคอกาแฟที่อยากดื่มด่ำบรรยากาศสโลวไลฟ์ ขอแนะนำให้ทานกาแฟดริปเพื่อดึงรสชาติเมล็ดกาแฟคั่วบดใหม่ของที่นี่ รสชาติจะกลมกล่อมและส่งกลิ่นหอมละมุนซึ่งคอกาแฟไม่ควรพลาด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ The Village Farm to Cafe จาก Trip.com คลิกที่นี่

จองที่พักใกล้ The Village Farm to Cafe จาก Trip.com คลิกที่นี่ค

ที่ตั้ง: ถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค, ต.หนองบัว, อ.เมืองกาญจนบุรี, จ.กาญจนบุรี ซึ่งร้านอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 8 กิโลเมตร (อยู่ในพื้นที่เดียวกับร้านอาหารคีรีมันตรา)

พิกัด: https://goo.gl/maps/tA1w4ZneApH2uZ9a9

ร้านเปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 9:00 - 21:00 น.

Facebook: https://www.facebook.com/TheVillageFarmToCafe/

ต้องกาญ คาเฟ่ (Tongkan Cafe) l คาเฟ่บรรยากาศชิลริมแม่น้ำแคว

ต้องกาญ คาเฟ่เป็นคาเฟ่ใหม่มาแรงในจังหวัดกาญจนบุรี ร้านอยู่ริมแม่น้ำแคว ถนนเลียบแม่น้ำ ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควประมาณ 900 เมตร คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้มีบรรยากาศเย็นสบาย ลมแม่น้ำพัดเย็นตลอดทั้งวัน ให้บรรยากาศที่สดชื่นผ่อนคลายไม่ว่าท่านจะมาช่วงเวลาใด ตั้งแต่เช้าจรดเย็น สำหรับช่วงเวลาไฮไลต์ที่เหมาะสำหรับชมวิวที่สุดก็คือช่วงเวลาเย็นเพื่อชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกดินและสัมผัสกับลมเย็นสบายริมแม่น้ำ พร้อมทั้งยังมีดนตรีโฟล์คซองแสดงสด ช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาทั้งวัน

คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้มีแนวคิดเบื้องหลังเพื่อรวบรวมความต้องการ (ต้องกาญ) ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างชาติ สายกิน หรือสายชิล ร้านแห่งนี้จึงมีครบตามความต้องการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ รวมถึงมีอาหารหลายประเภท ทั้งอาหารไทย อาหารยุโรป อาหารฟิวชั่น เหมาะกับพาเพื่อนๆ มาสังสรรค์ และทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัว หรือจะมานั่งชิลทานขนมอร่อยๆ ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำ และถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของร้านก็เพลินไม่แพ้กัน นอกจากนี้ ร้านนี้ยังเป็นคาเฟ่กาญจนบุรีที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ในโซนกลางแจ้ง ถูกใจคนรักสัตว์แน่นอน

ภายในร้านมีการออกแบบและแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน โดยเริ่มจากโซนคาเฟ่ ซึ่งในโซนนี้เป็นห้องแอร์สำหรับให้บริการลูกค้าช่วงกลางวัน เนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรีตอนกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน โซนถัดไปก็คือโซนริมน้ำและสวน ในโซนนี้มีที่นั่งเล่นริมน้ำ ที่นั่งใต้ต้นไม้ ที่นั่งบีนแบ็ก และชิงช้า ซึ่งเป็นโซนที่นักท่องเที่ยวสายถ่ายรูปพลาดไม่ได้ นอกจากนี้ในบริเวณสวนยังมีระบบพ่นไอน้ำเพื่อช่วยคลายความร้อนในยามกลางวันได้อีกด้วย ส่วนโซนแพในน้ำ มีลักษณะเป็นที่นั่งห้อยขา ตกแต่งสไตล์ Beach Club สำหรับนั่งรับประทานอาหารยามแดดร่มลมตก พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศลมเย็นจากแม่น้ำและชมพระอาทิตย์ตก ส่วนโซนสุดท้ายได้แก่ โซนชิล ซึ่งอยู่ชั้นสองของร้าน ลักษณะเป็นที่นั่งแนวคาเฟ่ ตกแต่งสไตล์บาหลี เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ นอกจากโต๊ะนั่งแล้วยังมีที่นั่งผ้าใบผืนใหญ่ยื่นออกมาจากตัวอาคารอีกด้วย เป็นจุดที่เหมาะสำหรับนอนเล่นหรือนั่งถ่ายรูป โซนนี้จะได้ชื่นชมวิวแม่น้ำจากมุมสูง เหมาะสำหรับคนที่อยากชมวิวบรรยากาศมุมกว้าง

คาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามแนวคิดของร้าน จึงไม่ได้มีเฉพาะเครื่องดื่มและเบเกอรี่เท่านั้น แต่มีบริการอาหารที่หลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารฟิวชั่น โดยใช้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นปลาแม่น้ำ อาหารทะเล หรือแม้แต่พริกแกงก็ตำเองด้วยสูตรเฉพาะของคุณแม่เจ้าของร้าน เมนูอาหารไทยที่ต้องลอง ได้แก่ แกงเหลืองยอดมะพร้าวอ่อน โดยใช้สูตรพริกแกงใต้แท้ๆ ของคุณแม่ ส่วนอาหารทะเลของร้านนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและความสดใหม่ เนื่องจากสั่งของอาหารทะเลสดๆ มาจากทางใต้ อาหารทะเลที่แนะนำ ได้แก่ ห่อหมกทะเลมะพร้าว ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ และฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนทอด ส่วนอาหารฟิวชั่นก็ต้องลองชิมเมนู สปาเกตตีซอสต้มยำกุ้ง และพิซซ่าคาโบนาร่าทรัฟเฟิลที่มีเนื้อแป้งบางกรอบและหน้าแน่นๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เหมาะสำหรับเด็ก ได้แก่ ไข่ตุ๋นทะเล ทอดมันกุ้ง และปีกไก่ทอด ส่วนเมนูขนมหวานชื่อดังของร้านที่ไม่ควรพลาดก็คือ โมจิราดซอสบลูเบอร์รีและบิงซูสตรอว์เบอร์รี

ที่ตั้ง: 10 ถนนลาว, ตำบลท่ามะขาม, อำเภอเมืองกาญจนบุรี, จังหวัดกาญจนบุรี 71000

พิกัด: ต้องกาญ คาเฟ่ https://goo.gl/maps/nGPxgVxEphmxqMd67

ร้านเปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 - 22:00 น.

Facebook: https://www.facebook.com/TongKanCafe

ฟาร์มคาเฟ่ เดอกาลเวลา l คาเฟ่สายออร์แกนิกแท้

ฟาร์มคาเฟ่ เดอกาลเวลา (Farm Cafe’ De Kalavela) เป็นคาเฟ่กาญจนบุรีที่เป็นร้านขนาดเล็กในบรรยากาศอบอุ่น หากมาเที่ยวกาญจนบุรี แล้วใช้เส้นทาง ถ.แสง-ชูโต ก่อนเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรีจะผ่านอำเภอท่าม่วง ก็จะเจอกับร้านคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นแห่งนี้ เหมาะกับการแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทาง ร้านคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้เป็นร้านที่ลูกๆ รวมตัวกันทำร้านกาแฟเพื่อสานฝันของคุณแม่ผู้จากไปที่อยากมีร้านกาแฟของตัวเอง การตกแต่งเน้นบรรยากาศของความอบอุ่นภายในครอบครัว มีทั้งโซน Indoor ที่ตกแต่งด้วยของสะสม ของกระจุกกระจิก และสื่อถึงเรื่องราวของครอบครัวผ่านทางภาพถ่าย ส่วนโซน Outdoor ภายนอกร้านเหมาะสำหรับผู้ชอบบรรยากาศแบบเปิดโล่ง ตกแต่งพื้นที่เป็นสวนหย่อมขนาดเล็กสไตล์อังกฤษ

ลักษณะเด่นของคาเฟ่กาญจนบุรี ฟาร์มคาเฟ่ เดอกาลเวลา คือเน้นเมนูอาหารปลอดสาร โดยใช้วัตถุดิบจากฟาร์มที่ชื่อไร่กาลเวลาที่เป็นฟาร์มของทางร้านเอง ดังนั้นจึงใช้ขั้นตอนและกรรมวิธีปลูกแบบออร์แกนิกแท้ 100% วัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารจึงมีความสดมาก โดยเน้นอาหารสไตล์โฮมเมด และอาหารไทยพื้นบ้าน

เมนูแนะนำของคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ ได้แก่ สลัดโรลแซลมอนสดไข่กุ้ง เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยใช้แซลมอนสดสไลด์เป็นชิ้น โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง และห่อรวมกับกลีบดอกไม้ที่ทานได้ เสิร์ฟพร้อมกับผักสลัดออร์แกนิก และทานคู่กับน้ำสลัดครีมซีฟู้ด เมนูแนะนำถัดไปได้แก่ สลัดญี่ปุ่นเห็ดรวม ใช้ผักสลัดหลากชนิดโรยหน้าด้วยเห็ดญี่ปุ่นผัดปรุงรส เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดงาญี่ปุ่น ส่วนผัดไทยต้นอ่อนออร์แกนิกไร่กาลเวลาก็อร่อยไม่แพ้กัน ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ โดยคัดสรรกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ นำมาเผาพอสะดุ้งไฟ และเสิร์ฟพร้อมผัดไทย กินกับต้นอ่อนทานตะวันแบบสดๆ หวานกรอบอร่อย เมนูต่อไปที่อยากให้ลิ้มลองก็คือข้าวขยำปลาทู เมนูนี้จะหอมกลิ่นสมุนไพร ทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด ขิง หอมแดง โดยนำข้าวไปผัดกับเนื้อปลาทูและเสิร์ฟพร้อมปลาทูเป็นตัว ส่วนผู้ที่ชื่นชอบปลาร้า ต้องลองเมนูตำป่าท่าม่วง เมนูนี้เป็นส้มตำปูปลาร้าที่มีเครื่องหลากหลายชนิด ทั้งหมูยอ ไข่แดงเค็ม ปูเค็ม ไหลบัว ผักกาดดอง และต้นอ่อนโต้วเหมี่ยว รสชาติจัดจ้านหอมกลิ่นปลาร้า

ของทานเล่นที่ไม่ควรพลาดของคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ ได้แก่ ปังรวมสังขยา ซึ่งเป็นสังขยาแบบโฮมเมด มีทั้งรสใบเตย รสกุหลาบ รสไข่เค็ม และรสกะทิหวานมัน เสิร์ฟคู่กับขนมปังนุ่มและขนมปังกรอบ หรือจะเลือกเฉพาะขนมปังนุ่มหรือกรอบเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ส่วนอีกหนึ่งเมนูแนะนำก็คือ ขนมปังโทสต์สไตล์ไทย ซึ่งเป็นขนมปังโทสต์ที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิและราดด้วยทับทิมกรอบกับลอดช่อง

ส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ เมนูซิกเนเจอร์ของคาเฟ่กาญจนบุรีแห่งนี้ก็คือ คาเฟ่เดอกาญ เป็นกาแฟเอสเปรสโซไทยอาราบิก้า เติมนมและไอศกรีมวานิลลา ราดด้วยไซรัปสตรอว์เบอร์รี รสชาติเข้มกลมกล่อมกำลังดี สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟต้องลองน้ำสตรอว์เบอร์รีและแตงโมปั่น ผสมกับไซรัปรสกุหลาบ รสชาติหวานเปรี้ยวและหอมกลิ่นกุหลาบ เติมเต็มความสดชื่นและช่วยให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของฟาร์มคาเฟ่ เดอกาลเวลา จาก Trip.com คลิกที่นี่

จองที่พักใกล้ฟาร์มคาเฟ่ เดอกาลเวลา จาก Trip.com คลิกที่นี่

ที่ตั้ง: ซอยถนนเทศบาล 25 ตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

พิกัด: https://goo.gl/maps/JFgk6tL67fkHsvJ69

ร้านเปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 9:00 - 20:00 น. (หยุดวันอังคาร)

Facebook: https://www.facebook.com/farmcafekan/

ปิล๊อก แคมป์ คอฟฟี่ แอนด์ โฮมสเตย์

ร้านนี้เป็นทั้ง คาเฟ่กาญจนบุรี และโฮมสเตย์ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านอีต่อง อำเภอทองผาภูมิ ในบรรยากาศที่เรียบง่าย อีต่องเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา และ หมอกตลอดทั้งปี และยังอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่เหมาะสำหรับการเดินป่าอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบและอากาศเย็นสบายตลอดปีที่นี่น่าสนใจและควรแค่แก่การมาสัมผัสด้วยตัวเอง 

จากร้าน ปิล๊อก แคมป์ ยังสามารถเดินทางไปจุดชมวิวเนินช้างศึกได้ง่าย ๆ เพี่ยงแค่ 2 กิโลเมตร ยอดเขานี้เป็นยอดเขาสูงที่มองเห็นวิวฝั่งไทย และ พม่า ได้แรอบทิศทาง หากมาในฤดูหนาวอาจมองไม่เห็นวิวมากนัก แต่จะได้ฟินสุดๆกับทะเลหมอกหนาทึบที่ปกคลุมทั่วพื้นที่แทน แม้ร้านนี้จะไม่หรูหราหรือมีเมนูอลังการเหมือนร้านอื่น แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซึมซับธรรมชาติได้เสมอมาใครอยากใช้เวลาพักใจ แบบสงบๆ ท่ามกลางบนนบากาศชิลๆสโลว์ไลฟ์ พร้อมจิบกาแฟร้อน ๆ พร้อมดูหมอกเคลื่อนผ่านภูเขาตรงหน้า แนะนำเลยว่าต้องมา 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนินช้างศึกที่ Trip.com คลิกที่นี่

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของปิล๊อก แคมป์ คอฟฟี่ แอนด์ โฮมสเตย์ จาก Trip.com คลิกที่นี่

แหล่งท่องเที่ยวใกล้ปิล๊อก แคมป์ คอฟฟี่ แอนด์ โฮมสเตย์ จาก Trip.com คลิกที่นี่

ที่ตั้ง: หมู่ที่ 1 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ

พิกัด: https://goo.gl/maps/iTwb34RQnZKdisbr6

ร้านเปิดบริการ: เปิดทุกวัน เวลา 8:00 - 20:00 น.

Facebook: https://th-th.facebook.com/pilokcampcoffee/

ไม่ว่าจะเลือกไป คาเฟ่กาญจนบุรี ไหน Trip.com ก็พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางให้คุณวางแผนการเดินทาง จองที่พัก และ หากิจกรรมสนุก ๆ ไว้ล่วงหน้าได้อย่างสะดวกสบาย เพียงแค่ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกาญจน์คุณก็จะพบกับจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจรออยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือกิจกรรมที่น่าสนใจ เติมเต็มวันหยุดให้กลายเป็นความทรงจำแสนพิเศษที่คุณไม่ควรพลาดไปกับแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ช่วยให้การท่องเที่ยวของคุณง่ายกว่าที่เคย