
วางแผนไปอเมริกาแต่ยังไม่รู้จะเริ่มขอวีซ่าอเมริกาอย่างไร ลองศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เพื่อให้ผ่านวีซ่าได้ในครั้งเดียว Trip.com ได้รวบรวมข้อมูลมา เพื่อให้ผู้ที่ขอวีซ่าอเมริกาครั้งแรก ทำความเข้าใจและวางแผนได้อย่างดี
คนไทยต้องขอวีซ่าอเมริกาไหม?
การขอวีซ่าอเมริกา อาจดูซับซ้อนสำหรับใครหลายคน เพราะต้องเตรียมเอกสาร นัดสัมภาษณ์ และตอบคำถามเจ้าหน้าที่ให้ผ่าน การเรียนรู้ขั้นตอนทั้งหมดแบบละเอียด พร้อมเทคนิค เคล็ดลับ และการเตรียมเอกสารให้พร้อม เป็นเรื่องดี เพื่อให้เตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการผ่านวีซ่าอเมริกาตั้งแต่ครั้งแรกให้มากที่สุด
คนไทยที่ต้องเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว ธุรกิจ เยี่ยมญาติ เรียนต่อ หรือทำงาน ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิยกเว้นวีซ่า ของสหรัฐอเมริกา กฏหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ เข้มงวด สหรัฐอเมริกาเน้นตรวจสอบวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการเข้าเมืองผิดกฎหมาย การยื่นวีซ่าช่วยให้เจ้าหน้าที่ประเมินความน่าเชื่อถือของผู้เดินทางได้ก่อนอนุญาตให้เข้า ขั้นตอนการขอวีซ่า เช่น สัมภาษณ์ เอกสารการเงิน ใบรับรองการทำงาน ฯลฯ มีไว้เพื่อแสดงว่าผู้เดินทางจะ “ไป-กลับ” ตามกำหนดจริง คนไทย ต้องขอวีซ่า ทุกครั้งก่อนเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา โดยจะต้อง เลือกประเภทวีซ่าให้ตรงกับวัตถุประสงค์ เช่น ท่องเที่ยว (B2), ธุรกิจ (B1), เรียนต่อ (F1), ทำงาน (H1B) เป็นต้น
จองตั๋วเครื่องบินไปกลัลบ กรุงเทพ-นิวยอร์ค
- ไป-กลับ
- เที่ยวเดียว
BKK13:2021 ชม. 35 น.แวะพัก 1 จุดJFK22:55กรุงเทพ - นครนิวยอร์ก|อ. 24 ก.พ.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์
JFK01:3533 ชม. 25 น.แวะพัก 1 จุดBKK23:00นครนิวยอร์ก - กรุงเทพ|อา. 1 มี.ค.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์€ 557€ 688ลด 19%ลด 19%€ 688€ 557
BKK18:4540 ชม. 10 น.แวะพัก 1 จุดJFK22:55กรุงเทพ - นครนิวยอร์ก|พ. 11 ก.พ.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์
JFK01:3533 ชม. 25 น.แวะพัก 1 จุดBKK23:00นครนิวยอร์ก - กรุงเทพ|พ. 18 ก.พ.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์€ 557€ 688ลด 19%ลด 19%€ 688€ 557
BKK13:2021 ชม. 35 น.แวะพัก 1 จุดJFK22:55กรุงเทพ - นครนิวยอร์ก|อ. 3 มี.ค.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์
JFK01:3533 ชม. 25 น.แวะพัก 1 จุดBKK23:00นครนิวยอร์ก - กรุงเทพ|ศ. 6 มี.ค.|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์€ 557€ 688ลด 19%ลด 19%€ 688€ 557
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงNYC2:00 PMกรุงเทพ - นครนิวยอร์ก|Sun, Dec 14|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์
NYC1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงBKK2:00 PMนครนิวยอร์ก - กรุงเทพ|Sun, Dec 14|ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติมค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติม
ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com
ประเภทวีซ่าอเมริกาที่คนไทยควรรู้

หากกำลังวางแผนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว เรียนต่อ หรือทำงาน การเลือกประเภทวีซ่าให้ตรงกับวัตถุประสงค์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะวีซ่าแต่ละประเภทมีเงื่อนไขและข้อกำหนดแตกต่างกัน ตารางนี้คือประเภทวีซ่าอเมริกาที่คนไทยคนรู้
ประเภทวีซ่า | รายละเอียดการใช้งาน |
B1/B2 (Visitor Visa) | ใช้สำหรับท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือเดินทางเพื่อธุรกิจระยะสั้น เช่น เข้าร่วมสัมมนา ประชุม |
F1 (Student Visa) | สำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาที่มีจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษาในอเมริกา |
J1 (Exchange Visitor Visa) | สำหรับโครงการแลกเปลี่ยน เช่น Work & Travel, ฝึกงาน หรืออบรมระยะสั้น |
H1B (Work Visa) | สำหรับผู้ที่ได้รับการจ้างงานในอเมริกาในสายงานเฉพาะทาง เช่น IT วิศวกรรม แพทย์ |
K1 (Fiancé(e) Visa) | สำหรับคู่หมั้นชาวต่างชาติของพลเมืองอเมริกัน เพื่อเดินทางเข้ามาแต่งงานในสหรัฐฯ |
L1 (Intra-Company Transfer) | สำหรับพนักงานที่ถูกส่งไปทำงานในสาขาบริษัทเดียวกันในอเมริกา |
O1 (Individuals with Extraordinary Ability) | สำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษระดับสูง เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักแสดง นักกีฬา |
EB (Immigrant Visas) | วีซ่าถาวรสำหรับผู้ที่ย้ายถิ่นฐาน เช่น วีซ่าทำงานถาวร วีซ่าครอบครัว หรือผู้ลงทุน (EB-5) |
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่าอเมริกา

หลายๆ คนกังวลเรื่องการยื่นวีซ่าอเมริกา แต่ถ้าเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกค้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่านสัมภาษณ์ได้มากขึ้น ซึ่งเอกสารพื้นฐานที่ต้องใช้ ตามตารางด้านล่างนี้
ประเภทเอกสาร | รายละเอียด |
หนังสือเดินทาง (Passport) | ต้องมีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง และมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า |
ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 | กรอกออนไลน์ที่ ceac.state.gov, แล้วพิมพ์หน้าคอนเฟิร์มพร้อมบาร์โค้ดออกมา |
ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์ | พิมพ์จากระบบ USTravelDocs หลังจากชำระเงินและนัดวันสัมภาษณ์ |
รูปถ่าย | ขนาด 2x2 นิ้ว (พื้นหลังขาว) ไม่เกิน 6 เดือน ต้องตรงตามข้อกำหนดของสถานทูต |
ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า | ค่าธรรมเนียมปัจจุบันประมาณ 6,000–6,500 บาท (ไม่สามารถขอคืนได้) |
หลักฐานการเงิน | Statement ธนาคารย้อนหลัง 3–6 เดือน, สลิปเงินเดือน, หรือหนังสือรับรองจากธนาคาร |
หลักฐานการทำงาน / เรียน | หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุเงินเดือนและวันลา) หรือใบรับรองนักศึกษา |
แผนการเดินทางคร่าว ๆ | เช่น กำหนดการเที่ยว, ใบจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน (ไม่จำเป็นต้องจองจริง) |
หลักฐานความสัมพันธ์ (ถ้ามี) | สำหรับผู้ที่เยี่ยมญาติ เช่น สูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, จดหมายเชิญจากผู้พำนักในสหรัฐฯ |
เอกสารประกอบอื่น ๆ | เช่น เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน, กิจการส่วนตัว, หรือเอกสารที่แสดงถึงพันธะในไทย |
เคล็ดลับในการเตรียมเอกสาร
- ตรวจสอบรายการเอกสารจากแหล่งทางการเสมอ เพราะบางปีอาจมีการเปลี่ยนแปลง
- เตรียมต้นฉบับและสำเนาแยกเป็นชุด พร้อมจัดหมวดหมู่ให้หยิบใช้ง่าย
- เอกสารควรเป็นภาษาอังกฤษและแปลกำกับ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าใจง่ายขึ้น
- เอกสารทุกชุดควรมีข้อมูลตรงกัน
ยื่นวีซ่าอเมริกาได้ที่ไหน?

สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปอเมริกา จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าผ่านสถานทูตหรือศูนย์ที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีข้อมูลดังนี้
สถานที่ยื่นวีซ่า
สถานที่ยื่นวีซ่าสำหรับคนไทย คือ สถานเอกอัตรราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย
📍 ที่ตั้ง: เลขที่ 120–122 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
🕒 เปิดทำการวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 07.00–16.00 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดสถานทูต)
การยื่นวีซ่าสหรัฐฯ ต้อง กรอกฟอร์มและนัดหมายล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เท่านั้น ไม่รับ Walk-in ทุกกรณี
คนไทยสามารถยื่นขอวีซ่าอเมริกาได้ที่ สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพฯ เท่านั้น และอย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบ และไปถึงสถานทูตก่อนเวลานัดประมาณ 30 นาที
ค่าธรรมเนียมหลักในการยื่นวีซ่าอเมริกา
ค่าธรรมเนียมคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยสหรัฐฯ จะเก็บค่าธรรมเนียมแตกต่างกันตามประเภทของวีซ่า ซึ่งต้องชำระก่อนการนัดสัมภาษณ์และไม่สามารถขอคืนได้ทุกรณี ดังตารางนี้
ประเภทค่าธรรมเนียม | จำนวนเงิน (บาท โดยประมาณ) |
วีซ่าท่องเที่ยว/ธุรกิจ (B1/B2) | 6,200 บาท |
วีซ่านักเรียน/แลกเปลี่ยน (F, M, J) | 6,200 บาท |
วีซ่าทำงานชั่วคราว (H, L, O, P, Q, R) | 7,400 บาท |
วีซ่าคู่หมั้น (K) | 9,300 บาท |
วีซ่าผู้อพยพ (Immigrant Visa - ค่าธรรมเนียม DS-260) | 12,000 บาท ขึ้นไป |
ค่าธรรมเนียม SEVIS (เฉพาะ F, M, J) | 1,200–7,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภท) |
ค่าจัดส่งพาสปอร์ตกลับบ้าน (ถ้ามี) | ประมาณ 300 บาท (เฉพาะกรณีเลือกบริการจัดส่ง) |
อัตรานี้ อัปเดตตามข้อมูลล่าสุด ณ ปี 2025 การชำระเงินจะทำผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย หรือออนไลน์ผ่านระบบ USTravelDocs ค่าธรรมนี้ จะไม่รวมค่าเอกสารประกอบ, ค่ารูปถ่าย, ค่าถ่ายเอกสาร หรือค่าจ้างบริษัทรับทำวีซ่า
ขั้นตอนการขอวีซ่าอเมริกา

การขอวีซ่าเป็นด่านสำคัญที่ต้องเตรียมให้รอบคอบ เพราะแต่ละขั้นตอนในการขอ ค่อนข้างละเอียด และต้องใช้เอกสารให้ครบถ้วน และนี่คือ ขั้น ตอน ขอ วีซ่า อเมริกา (B1/B2) สำหรับคนไทย ตั้งแต่เริ่่มต้นจนถึงรับพาสปอร์ตกลับบ้าน เข้าใจง่าย ทำได้จริง มีดังนี้
- ตรวจสอบประเภทวีซ่าให้ครบกับจุดประสงค์ของการเดินทาง
B1 : ธุรกิจ เช่น เข้าร่วมสัมมนา ประชุม เยี่ยมบริษัท
B2 : ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ พบเพื่อน รักษาพยาบาล
หากต้องการเรียน หรือทำงาน ต้องใช้วีซ่าคนละประเภท เช่น F1, H1B - เตรียมเอกสารประกอบ
ควรเตรียมเอกสารประกอบกาขอวีซ่าอเมริกาให้ครบไม่ให้ขาด เพื่อให้ไม่เสียเวลาในการยื่นขอวีซ่าอเมริกาหลายรอบ - กรอกแบบฟอร์ม DS-160 ออนไลน์
เว็บไซต์ https://ceac.state.gov/CEAC/ ฟอร์มนี้ใช้เพื่อยื่นคำร้องขอวีซ่า ต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด หลังกรอกเสร็จ ให้พิมพ์หน้า “Confirmation” ที่มีรหัสบาร์โค้ด เพื่อนำไปใช้ตอนยื่นคำขอ - สมัครบัญชีและลงทะเบียนในระบบ USTravelDocs
เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.ustraveldocs.com/th/ สมัครสมาชิกและผูกบัญชีกับแบบฟอร์ม DS-160 เลือกประเภทวีซ่า สถานที่สัมภาษณ์ และวิธีรับพาสปอร์ตคืน - ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
ประมาณ 6,200 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน) ชำระได้ที่ ธนาคารกรุงไทย (พิมพ์ใบแจ้งชำระจากระบบ USTravelDocs ไปยื่น) หรือชำระออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง - นัดหมายวันสัมภาษณ์วีซ่า
หลังจากระบบยืนยันการชำระเงินแล้ว จะสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อจองวันสัมภาษณ์ เลือกวัน-เวลา และสถานที่ (สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพฯ) - เตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์
เช่นการเตรียมเอกสารที่ต้องนำไปวันที่สัมภาษณ์ - เดินทางไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตสหรัฐฯ
แนะนำให้เดินทางไปถึงก่อนเวลานัด 30 นาที ผ่านจุดตรวจความปลอดภัย (ห้ามนำโทรศัพท์ กล้อง หรือของมีคมเข้าไป) ยื่นเอกสารตามขั้นตอน สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษหรือไทย (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์) เจ้าหน้าที่จะสอบถามเรื่องแผนการเดินทาง งาน เงิน หรือประวัติการเดินทาง - รอฟังผลหลังสัมภาษณ์
เจ้าหน้าที่จะบอกผลเบื้องต้นทันทีว่า ผ่านหรือไม่ ต้องขอเอกสารเพิ่มหรือเปล่า หรือปฏิเสธการขอวีซ่า หากผ่าน พาสปอร์ตจะถูกเก็บไว้ และส่งคืนทางไปรษณีย์ภายใน 3–7 วันทำการ แต่ถ้าไม่ผ่าน พาสปอร์ตจะคืนทันที (ไม่มีการคืนค่าธรรมเนียม) - รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า
หากเลือกให้จัดส่ง จะได้พาสปอร์ตทาง EMS ไปยังที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้ และหากเลือกไปรับเอง ไปที่จุดรับของ USTravelDocs ตามเวลาที่ระบบแจ้ง - เตรียมตัวก่อนเดินทาง
ตรวจสอบข้อมูลบนวีซ่า (ชื่อ สะกด วันหมดอายุ) ให้ถูกต้อง วางแผนการเดินทางให้สอดคล้องกับวีซ่าที่ได้รับ เตรียมเอกสารเพิ่มเติมไว้สำหรับ ตม. สหรัฐฯ เช่น ตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม, เอกสารแผนการเดินทาง
การขอวีซ่าอเมริกาอาจดูซับซ้อน แต่หากคุณวางแผนล่วงหน้า เตรียมเอกสารให้ครบ และซื่อสัตย์ในการสัมภาษณ์ โอกาสผ่านก็มีสูง
ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปอเมริกา

ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) สำหรับคนไทย โดยเน้นข้อมูลที่สำคัญและอัปเดต เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางครั้งแรกหรือยังไม่คุ้นกับระบบของสหรัฐฯ ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปอเมริกา ดังนี้
- ต้องมีวีซ่าถูกต้องก่อนเดินทาง
คนไทยต้องขอวีซ่าอเมริกาทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ เรียนต่อ หรือทำงาน ตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล และวันหมดายุของวีซ่าให้ถูกต้องก่อนเดินทาง และพาสปอร์ตต้องมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน หลังจากวันที่จะเดินทางเข้าประเทศ - เตรียมเอกสารให้พร้อมสำหรับด่านตรวจคนเข้าเมือง
ถึงแม้จะมีวีซ่าแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ยังมีสิทธิ์ปฏิเสธการเข้าเมืองได้ ดังนั้นควรเตรียมเอกสารไว้ให้ดี เช่น ตั๋วเครื่องบินขาเข้า-ขาออก, หลักฐานการจองโรงแรม, แผนการเดินทาง, หลักฐานการเงิน, ประกันการเดินทาง เป็นต้น - ไปถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
ตรวจสอบอาคารผู้โดยสารให้ถูกต้อง สายการบินอเมริกามักตรวจเข้ม เช่น ถามเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางหรือสิ่งของต้องห้าม เป็นต้น - ควรแลกเงินติดตัวไว้
แม้ว่าอเมริกาจะใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตเป็นหลัก แต่บางที่ก็ยังรับเงินสด แนะนำให้เแลกเงินติดตัวประมาณ 300-500 USD สำหรับการใช้จ่ายเบื้องต้น - เปิดใช้งาน eSIM สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ต
แนะนำให้เปิดโรมมิ่งหรือซื้อ eSIM สำหรับติดต่อและใช้แอปแผนที่ อเมริกามี Free Wi-Fi เยอะ แต่ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน - ควรมีประกันเดินทาง/ประกันสุขภาพระหว่างอยู่ในสหรัฐฯ
ค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาแพงมาก แม้ป่วยเล็กน้อยก็อาจเสียหลายหมื่นบาท ประกันการเดินทางแบบครอบคลุมโรคทั่วไปและอุบัติเหตุจำเป็นมาก - ศึกษากฏหมายท้องถิ่นเบื้องต้น
อเมริกามีกฏหมายที่ต่างกันในแต่ละรัฐ เช่น กฏหมายเรื่องแอลกอฮอล์, การสูบบุหรี่ หรือภาษี ห้ามนำของต้องห้ามเข้า เช่น ผลไม้สด ยาเสพติด เป็นต้น - ตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าและของที่นำเข้าได้
ของต้องห้ามนำเข้า เช่น เนื้อสัตว์สด อาหารดิบ ข้าว และของเหลวเกิน 100 ml เป็นต้น กระเป๋าโหลดโดยทั่วไปอยู่ที่ 23–32 กก./ใบ ขึ้นกับสายการบิน - ความแตกต่างของเวลา
อเมริกามีหลายโซนเวลา (Time Zone) ตั้งแต่ GMT-5 ถึง GMT-10 หากคุณมีเที่ยวบินต่อเครื่องในประเทศอเมริกา อย่าลืมเช็กเวลาให้ถูกต้อง - การเดินทางภายในอเมริกา
อเมริกามีบริการ Uber, Lyft, รถไฟ Amtrak, รถไฟใต้ดิน และเครื่องบินภายในประเทศที่สะดวก หากเช่ารถขับเอง ควรตรวจสอบว่าใบขับขี่ไทยสามารถใช้งานได้หรือไม่ (บางรัฐต้องใช้ใบขับขี่สากล)
แนะนำให้เตรียมตัวด้วยข้อควรรู้ทั้งหมดนี้ ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้การเดินทางไม่สะดุด และมีความสุขกับการเดินทางไปอเมริกาในทริปนี้
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวอเมริกา
วางแผนเที่ยวอเมริกาให้ราบรื่น อย่าลืมเช็กเรื่องของ วีซ่าอเมริกา เอกสารการเดินทาง ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และประกันสุขภาพให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่มีกฏระเบียบเข้ม และค่าใชจ่ายสูงในเรื่องต่างๆ ถ้าอยากเตรียมตัวให้พร้อม เคล็ดลับสำหรับสายเที่ยว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายด้วยการจอง ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม รถเช่า หรือกิจกรรมท่องเที่ยวในอเมริกาที่ครบ จบ ที่ Trip.com ใช้ง่าย มีดีลเด็ด รองรับการจ่ายเงินได้หลายช่องทาง แค่จองผ่าน Trip.com ก็พร้อมเดินทางทันที
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกา
1. คนไทยต้องขอวีซ่าอเมริกาไหม?
ต้องขอ ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ เรียนต่อ หรือทำงาน ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในกลุ่มยกเว้นวีซ่า (Visa Waiver Program) ของสหรัฐฯ2.วีซ่าท่องเที่ยว (B2) กับวีซ่าธุรกิจ (B1) ต่างกันยังไง?
B2: ใช้สำหรับท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ รักษาพยาบาล B1: ใช้สำหรับเข้าร่วมประชุม เจรจาธุรกิจ แต่ส่วนมากจะออกเป็น B1/B2 รวมกัน ในเล่มเดียวกัน3. วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาอยู่ได้นานแค่ไหน?
วีซ่าที่ออกให้กับคนไทยมักเป็น วีซ่า อเมริกา 10 ปี (Multiple Entries) แต่ระยะเวลาที่อยู่ได้ในแต่ละครั้งจะกำหนดโดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยทั่วไปไม่เกิน 6 เดือน4. ขอยื่นผ่านเอเจนซี่ได้ไหม?
สามารถใช้บริการเอเจนซี่ได้ แต่สัมภาษณ์ต้องไปด้วยตัวเองที่สถานทูต เพราะไม่สามารถมอบอำนาจให้คนอื่นไปแทนได้5.ต้องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหรือไม่?
คนไทยสามารถสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยได้ค่ะ โดยเจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์จะเป็นคนไทยหรือเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดไทยได้ แต่หากใช้ภาษาอังกฤษคล่องก็สามารถเลือกสัมภาษณ์เป็นอังกฤษได้เช่นกัน6. หากเคยถูกปฏิเสธวีซ่า ยังสามารถสมัครใหม่ได้ไหม?
ได้ แต่ควรปรับปรุงข้อมูลหรือเอกสารให้ดีกว่าครั้งก่อน และอธิบายเหตุผลที่ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนในรอบใหม่7.ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะรู้ผล?
หลังสัมภาษณ์แล้ว ถ้า วีซ่าผ่าน พาสปอร์ตจะถูกส่งกลับทางไปรษณีย์ภายใน 3–7 วันทำการ ถ้า ไม่ผ่าน จะได้รับพาสปอร์ตคืนทันที


