รู้ก่อนบิน! วีซ่าพม่า 2568 เช็กเงื่อนไขวีซ่าใหม่ อัปเดตล่าสุดสำหรับคนไทย

การเดินทางไปยังประเทศเมียนมาร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อพม่า กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวไทย ด้วยความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน การวางแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องการขอวีซ่าพม่า ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่นักเดินทางทุกคนควรทราบ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ในปี 2568 นี้ ระบบ eVisa พม่ายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การขอวีซ่าออนไลน์ง่ายและสะดวกมากขึ้น Trip.com จะช่วยอธิบายข้อมูลสำคัญ เพื่อให้นักเดินทางไทยทุกคนพร้อมสำหรับทริปที่น่าตื่นเต้นนี้

คนไทยต้องขอวีซ่าพม่าไหม?

ปี 2025 เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านเกี่ยวกับข้อกำหนดการเดินทางระหว่างประเทศ และหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือไปพม่าต้องขอวีซ่าไหม โดยเฉพาะสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย บทความนี้จะช่วยอธิบายชัดเจนว่า การเดินทางเข้าพม่าจำเป็นต้องมีวีซ่าหรือไม่ และในกรณีใดที่อาจต้องดำเนินการขอวีซ่าพม่าอย่างเป็นทางการ

ตามข้อมูลล่าสุดในปี 2025 คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศพม่าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า หากมีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวและพำนักไม่เกิน 14 วัน ภายใต้ข้อตกลงฟรีวีซ่าพม่า (Visa Exemption Agreement) ซึ่งเป็นนโยบายที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ผู้เดินทางสามารถใช้หนังสือเดินทางไทยที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย โดยเจ้าหน้าที่จะประทับตราอนุญาตให้พำนักในประเทศได้ 14 วันนับจากวันเดินทางเข้า

แต่หากผู้เดินทางมีแผนจะอยู่ในพม่านานกว่า 14 วัน หรือต้องการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น การทำงาน การเรียน หรือการติดต่อธุรกิจ จำเป็นต้องดำเนินการขอวีซ่าไปพม่าล่วงหน้า โดยสามารถเลือกขอ eVisa พม่าผ่านระบบออนไลน์ของทางการเมียนมาร์ หรือยื่นคำร้องผ่านสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ทั้งนี้ประเภทของวีซ่าจะมีหลายรูปแบบ เช่น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ หรือวีซ่าทำงาน โดยแต่ละประเภทมีเงื่อนไขและระยะเวลาการพำนักที่แตกต่างกันไป

ในกรณีที่เข้าสู่ประเทศพม่าโดยใช้สิทธิฟรีวีซ่า 14 วัน แต่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ อาจดำเนินการต่อวีซ่าผ่านการติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท้องถิ่นในพม่า แต่กระบวนการอาจซับซ้อนและไม่ได้รับอนุมัติในทุกกรณี ดังนั้นหากคิดว่าอาจอยู่เกินกำหนด ควรเตรียมขอ eVisa ตั้งแต่ต้นจะปลอดภัยกว่า

ประเภทวีซ่าพม่าที่คนไทยควรรู้

ประเภทวีซ่าพม่าที่ใช้ในการเดินทาง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์และระยะเวลาที่ต้องการพำนักในพม่า หากกำลังวางแผนเดินทาง การทำความเข้าใจประเภทวีซ่าอย่างชัดเจน จะช่วยให้เตรียมเอกสารได้อย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงปัญหาหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง

ประเภทของวีซ่าพม่าหลักๆ ที่คนไทยควรรู้ มีดังนี้

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นวีซ่าพม่า

การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการขอวีซ่า โดยเฉพาะการสมัคร eVisa พม่า มีความเข้มงวดและต้องใช้ความถูกต้องสูง ทุกประเภทของวีซ่าจะต้องใช้เอกสารพื้นฐานร่วมกัน แต่ก็จะมีความแตกต่างกันตามประเภทวีซ่าที่เลือก ไม่ว่าจะเป็น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ หรือวีซ่าเยี่ยมญาติ

เอกสารพื้นฐานที่ใช้ร่วมกันสำหรับทุกประเภทวีซ่

เอกสารเพิ่มเติมตามประเภทวีซ่า

ยื่นวีซ่าพม่าที่ไหน?

หากมีแผนจะอยู่เกินกำหนดหรือมีวัตถุประสงค์อื่น เช่น ติดต่อธุรกิจ ทำงาน หรือเยี่ยมญาติสามารถยื่นขอวีซ่าไปพม่าได้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่

1. ยื่นผ่านระบบออนไลน์ (eVisa)

นี่คือวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2025 เนื่องจากสะดวก ประหยัดเวลา และไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสถานทูต ระบบ eVisa พม่า สามารถใช้ได้ทั้งสำหรับวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าธุรกิจ

วิธีการยื่นผ่าน eVisa

- เข้าเว็บไซต์ eVisa ทางการของรัฐบาลเมียนมาร์: https://evisa.moip.gov.mm

- เลือกประเภทวีซ่าที่ต้องการ (Tourist / Business)

- กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ พร้อมอัปโหลดรูปถ่ายและสำเนาหน้าพาสปอร์ต

- ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต (50 USD สำหรับ Tourist Visa)

- รออีเมลยืนยันผลวีซ่าภายใน 3 วันทำการ

- ปริ้นเอกสารยืนยันเพื่อใช้แสดงที่สนามบินตอนเดินทางเข้าพม่า

เหมาะสำหรับใคร

- ผู้ที่เดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในระยะสั้น

- ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกเดินทางมายังสถานทูต

- ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงคิวรอนานหรือกระบวนการทางเอกสารที่ซับซ้อน

2. ยื่นที่สถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศไทย

หากต้องการยื่นขอวีซ่าประเภทที่ซับซ้อน เช่น วีซ่าทำงาน วีซ่าเรียน วีซ่าครอบครัว หรือกรณีที่ระบบ eVisa ไม่รองรับ (บางกรณี) การยื่นผ่านสถานทูตจะเป็นตัวเลือกที่จำเป็น

ข้อมูลสถานทูตเมียนมาร์ในไทย

- ที่อยู่ : 132 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

- เวลาเปิดทำการ : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09:00 - 12:00 น. และ 13:00 - 15:00 น.

- โทรศัพท์: 02-233-2237 หรือ 02-233-7250

- อีเมล: myanemb.bkk@gmail.com

- เว็บไซต์: http://www.myanmarvisa.com

สิ่งที่ควรเตรียมเมื่อยื่นที่สถานทูต

- สำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง (ตามประเภทวีซ่า)

- รูปถ่ายขนาดที่กำหนด

- แบบฟอร์มคำร้องที่กรอกข้อมูลครบถ้วน

- ค่าธรรมเนียมเป็นเงินสด (ไทยบาทหรือดอลลาร์สหรัฐ)

ค่าธรรมเนียมหลักในการยื่นวีซ่าพม่า

การขอวีซ่าพม่าไม่ว่าจะผ่านทางสถานทูตหรือระบบ eVisa มีค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระตามประเภทวีซ่าและระยะเวลาการพำนัก การรู้ล่วงหน้าถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางและเตรียมงบประมาณได้อย่างรอบคอบ

โดยในปี 2025 ทางการเมียนมาร์ยังคงใช้โครงสร้างค่าธรรมเนียมเดิมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) สำหรับ eVisa และบางประเภทคิดเป็นเงินบาทสำหรับการยื่นผ่านสถานทูต

ค่าธรรมเนียมวีซ่าพม่าแบ่งตามประเภท

วิธีชำระค่าธรรมเนียม

- eVisa ชำระผ่านบัตรเครดิต/เดบิต (Visa, MasterCard) ในขั้นตอนสมัครออนไลน์

- สถานทูตเมียนมาร์ในไทย ชำระเป็นเงินสด (บางช่วงอาจรับเฉพาะเงินบาท หรือ USD - ควรโทรสอบถามล่วงหน้า)

- กรณีต่อวีซ่าในพม่า ชำระค่าธรรมเนียมโดยตรงที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท้องถิ่น (Immigration Office)

ขั้นตอนการขอวีซ่าพม่า

ขั้นตอนการขอวีซ่าพม่า (แบบออนไลน์ eVisa)

ช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือการยื่นผ่านระบบ eVisa ซึ่งรองรับทั้งวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าธุรกิจ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม

- สแกนหน้าพาสปอร์ต (ต้องมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน)

- รูปถ่ายพื้นหลังขาวขนาดตามเกณฑ์ (JPG หรือ PNG ไม่เกิน 2 MB)

- หลักฐานการจองที่พัก หรือจดหมายเชิญ (กรณีธุรกิจ)

- ตั๋วเครื่องบินขาเข้า - ขาออก (ถ้ามี)

2. เข้าเว็บไซต์ eVisa

- เว็บไซต์ทางการ : https://evisa.moip.gov.mm

3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

- เลือกประเภทวีซ่า เช่น Tourist / Business

- กรอกชื่อ นามสกุล วันเกิด หมายเลขพาสปอร์ต

- แนบเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด

4. ชำระค่าธรรมเนียม

- ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต (Visa / MasterCard)

- วีซ่าท่องเที่ยว 50 USD

- วีซ่าธุรกิจ 70 USD

5. รอรับอีเมลยืนยัน

- ปกติใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการ จะได้รับ Approval Letter ให้พิมพ์ออกมาเพื่อใช้ยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมื่อถึงพม่า

6. เดินทางเข้าพม่า

- นำสำเนา eVisa และพาสปอร์ตไปแสดงที่ด่านตรวจ

- พนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะประทับตราอนุญาตให้เข้าประเทศตามประเภทวีซ่าที่ขอไว้

ขั้นตอนการขอวีซ่าผ่านสถานทูตพม่าในไทย

หากไม่สะดวกใช้งานระบบออนไลน์ หรือมีความจำเป็นต้องขอวีซ่าประเภทพิเศษ เช่น วีซ่าทำงาน วีซ่านักเรียน หรือ Social Visit Visa (เยี่ยมญาติ) จะต้องดำเนินการผ่านสถานทูตเท่านั้น ขั้นตอนมีดังนี้

1. ดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์มวีซ่า

- สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์สถานทูตเมียนมาร์

2. เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง

- พาสปอร์ต, รูปถ่าย, จดหมายเชิญ, สัญญาจ้าง, หลักฐานการเงิน เป็นต้น

3. ยื่นเอกสารที่สถานทูตเมียนมาร์ กรุงเทพฯ

- ตั้งอยู่ที่ ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ

- เวลารับเอกสาร: 09.00 - 12.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์

4. ชำระค่าธรรมเนียม

- เป็นเงินสด (บาทหรือ USD แล้วแต่ช่วงเวลา)

- รับใบเสร็จและใบนัดรับวีซ่า

5. รอรับวีซ่า

- ปกติใช้เวลา 3 - 5 วันทำการ

- รับวีซ่าแล้วสามารถเดินทางเข้าพม่าได้ทันทีตามวันเดินทางที่กำหนด

ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปพม่า

1. ตรวจสอบเงื่อนไขวีซ่าพม่าให้ชัดเจน

แม้ว่าชาวไทยจะไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวไม่เกิน 14 วัน แต่หากมีแผนจะอยู่เกินนั้นหรือเดินทางเพื่อธุรกิจ เยี่ยมญาติ หรือทำงาน ต้องขอวีซ่าพม่าให้ตรงตามประเภท โดยสามารถดำเนินการผ่านช่องทาง eVisa หรือสถานทูต

2. แลกเงินจ๊าตพม่าให้เพียงพอ

แม้ในเมืองใหญ่จะมีจุดแลกเปลี่ยนเงินแต่บางพื้นที่อาจไม่มี หรือรับเฉพาะเงินสดสกุลจ๊าต ควรแลกเงินไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะหากเดินทางออกนอกเมือง เช่น มัณฑะเลย์ พุกาม หรืออิระวดี

3. เตรียมแอป VPN และซิมพม่า

อินเทอร์เน็ตในพม่ายังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบางเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram บางช่วงเวลา การมี VPN ติดเครื่องไว้จะช่วยให้การสื่อสารไม่สะดุด

4. วัฒนธรรมการแต่งกายและมารยาทสาธารณะ

- วัฒนธรรมเมียนมาร์ให้ความสำคัญกับความสุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะเมื่อเข้าศาสนสถานเช่น วัดและเจดีย์

- แต่งกายสุภาพ ห้ามสวมกางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด

- ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าเจดีย์

- อย่าชี้เท้าใส่พระหรือรูปปั้นทางศาสนา

5. ระวังสุขภาพและระบบสาธารณสุข

แม้บางเมืองจะมีโรงพยาบาลเอกชน แต่โดยรวมระบบสาธารณสุขยังไม่ดีนัก แนะนำให้

- ซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมต่างประเทศ

- พกยาสามัญประจำตัว เช่น ยาแก้แพ้ แก้ท้องเสีย ยาแก้ปวด

- ฉีดวัคซีนพื้นฐาน เช่น ไข้เลือดออก ตับอักเสบเอ/บี หากอยู่ระยะยาว

6. ห้ามพกโดรน กล้องแอบถ่ายหรือสิ่งของต้องห้าม

รัฐบาลพม่าค่อนข้างเข้มงวดกับอุปกรณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น โดรน กล้อง GoPro หรือกล้องวงจรปิดแบบพกพา อาจต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ห้ามพกวัตถุผิดกฎหมายหรือยาเสพติดโดยเด็ดขาด โทษสูงมากถึงขั้นจำคุก

7. ไม่แสดงออกทางการเมืองหรือศาสนา

เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในพม่ายังเปราะบาง หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นเชิงการเมืองในที่สาธารณะ หรือการแชร์โพสต์บนโซเชียลที่มีเนื้อหาวิพากษ์รัฐ

เคารพศาสนาและพระสงฆ์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัว หรือแสดงท่าทีไม่เหมาะสมในบริเวณวัด

ที่เที่ยวยอดฮิตในพม่า 3 แห่ง ที่ไม่ควรพลาด

1. พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)

พระราชวังมัณฑะเลย์ เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพม่า ตั้งอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเคยเป็นราชธานีสุดท้ายก่อนที่ประเทศจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ความอลังการของพระราชวังนี้มาจากการออกแบบสถาปัตยกรรมพม่าโบราณ ด้วยการใช้ไม้สักทองแกะสลักละเอียดประณีต และผังวังที่วางอย่างเป็นระเบียบรอบคูเมือง

พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2400 โดยพระเจ้ามินดง และแม้จะถูกทำลายระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการฟื้นฟูใหม่ในช่วงหลัง พร้อมเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม จุดเด่นของที่นี่คือหอคอยสูงที่สามารถขึ้นไปชมวิวรอบเมืองได้แบบพาโนรามา ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมเมืองมัณฑะเลย์อย่างต่อเนื่อง

2. เจดีย์ซูเล (Sule Pagoda)

เจดีย์ซูเลถือเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตาของเมืองย่างกุ้ง ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนวงเวียนใหญ่ และประวัติศาสตร์ที่สืบทอดมายาวนานกว่า 2,000 ปี ที่นี่ไม่ใช่แค่ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดศูนย์กลางของวิถีชีวิตเมืองหลวงในพม่าอีกด้วย

เจดีย์ซูเลโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์สีทองที่มีโครงสร้างทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งแตกต่างจากเจดีย์พม่าทั่วไป โดยมีความสูงประมาณ 48 เมตร ภายในเชื่อกันว่าประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนหลั่งไหลมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากคุณค่าทางจิตใจแล้ว เจดีย์ซูเลยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะ สถาปัตยกรรม และบรรยากาศเมืองเก่า โดยรอบเจดีย์ยังมีอาคารสำคัญ เช่น ศาลาว่าการ ศาลยุติธรรม และตึกโคโลเนียลซึ่งแวดล้อมอยู่ในระยะเดินเท้า

3. เมืองย่างกุ้ง (Yangon)

ย่างกุ้งคือเมืองที่รวมเอาความหลากหลายทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และประวัติศาสตร์ไว้ในที่เดียว เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาคารโคโลเนียลสมัยอังกฤษ เจดีย์ทองอร่ามระดับโลก และตลาดพื้นเมืองอันคึกคัก โดยเฉพาะเจดีย์ชเวดากอง ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่งดงามที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากเจดีย์แล้ว ย่างกุ้งยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่นตลาดโบโจ สำหรับช้อปปิ้งของที่ระลึก, ถนน 19 ย่านไชน่าทาวน์สำหรับสายกิน, และทะเลสาบกันดอจีซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น การเดินทางภายในเมืองทำได้ง่าย ทั้งโดยแท็กซี่ รถแวน หรือแอปพลิเคชันบริการเรียกรถที่มีให้เลือกมากขึ้นในปัจจุบัน

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวพม่า

ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนประเทศพม่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น สนุกสนาน และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสาร วีซ่า การจัดเตรียมสัมภาระ หรือการวางแผนเส้นทางการเดินทาง

1. ตรวจสอบและจัดการเอกสารวีซ่าให้เรียบร้อย

แม้ว่าคนไทยจะได้รับสิทธิ์ ฟรีวีซ่าพม่า สำหรับการพักระยะสั้นไม่เกิน 14 วัน แต่ถ้าวางแผนอยู่เกินกว่านั้นหรือต้องการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น ธุรกิจ หรือเยี่ยมญาติ ควรเตรียม การขอวีซ่าพม่า ล่วงหน้าให้เหมาะสมกับประเภทการเดินทาง ปัจจุบันระบบ eVisa ช่วยให้ขอวีซ่าได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไปสถานทูต และยังสามารถตรวจสอบสถานะการขอวีซ่าได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญควรเตรียมพาสปอร์ตให้มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และถ่ายเอกสารสำรองไว้กรณีฉุกเฉิน

2. วางแผนการเดินทางและที่พัก

พม่ามีเมืองท่องเที่ยวหลักๆ หลายแห่ง เช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และพุกาม ซึ่งแต่ละเมืองมีเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน ก่อนเดินทางควรศึกษาข้อมูลเส้นทาง การเดินทางภายในประเทศ และจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือฤดูท่องเที่ยวยอดนิยม

3. เตรียมเงินสดและบัตรเครดิต

แม้ว่าพม่าจะมีตู้ ATM และร้านค้าที่รับบัตรเครดิตบ้าง แต่ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะชนบทหรือสถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ ส่วนใหญ่ยังคงใช้เงินสดเป็นหลัก แนะนำให้แลกเงินจ๊าต (MMK) หรือพกเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สภาพดีไว้สำรอง รวมทั้งตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อป้องกันการถูกโกง

4. ดูแลสุขภาพและเตรียมยา

การเดินทางไปพม่าควรเตรียมยาสามัญประจำตัว เช่น ยาแก้ปวด แก้ท้องเสีย หรือยาฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งตรวจสอบว่าวัคซีนพื้นฐานที่จำเป็น เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตับอักเสบ และไข้เลือดออก ได้รับครบถ้วนหรือไม่ นอกจากนี้ควรดื่มน้ำสะอาดและระมัดระวังเรื่องอาหาร

5. เตรียมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

การใช้ ซิมพม่า เพื่อเล่นอินเทอร์เน็ตและติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นมาก ควรซื้อซิมที่สนามบินหรือร้านค้าในเมือง และหากต้องการความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต แนะนำให้ติดตั้ง VPN ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากบางครั้งอินเทอร์เน็ตในพม่าอาจถูกจำกัดการเข้าถึงบางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

6. ศึกษาวัฒนธรรมและข้อควรระวัง

พม่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับศาสนาและวัฒนธรรมดั้งเดิม การเคารพกฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติ เช่น การแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าวัด การถอดรองเท้าก่อนเข้าเจดีย์ หรือการแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์ จะช่วยให้คุณได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องการเมืองหรือประเด็นละเอียดอ่อนในที่สาธารณะ

การเดินทางไปพม่าสำหรับคนไทยไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปด้วยระบบ eVisa และนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับบางกรณี แต่ความรู้และการเตรียมตัวอย่างถูกต้องยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ การทำความเข้าใจประเภทวีซ่า เอกสารที่จำเป็น ขั้นตอนการยื่น รวมถึงการเตรียมตัวก่อนเดินทาง จะช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยในประเทศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันงดงามนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเยือนเมืองมัณฑะเลย์ เจดีย์ซูเล หรือเมืองย่างกุ้ง ทุกการเตรียมตัวที่ดีจะช่วยเปิดประตูสู่การผจญภัยที่น่าประทับใจในพม่า