คู่มือปลั๊กไฟอินเดีย: สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง

ก่อนเดินทางไปอินเดีย คุณจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าควรนำอะไรติดตัวไปบ้าง เพื่อให้คุณสามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัวของคุณได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยในอินเดีย โดยปกติแล้วอะแดปเตอร์ปลั๊กจะเป็นสิ่งจำเป็นในกระเป๋าเดินทางของคุณ อะแดปเตอร์ปลั๊กนี้ช่วยให้คุณเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ของคุณเข้ากับเต้าเสียบไฟฟ้าของอินเดียได้ สิ่งสำคัญคืออะแดปเตอร์ปลั๊กนี้จะไม่แปลงแรงดันไฟฟ้าหรือความถี่

ปลั๊กชนิดอินเดีย

ที่มา: https://world-power-plugs.com/

หากคุณเดินทางไปอินเดีย คุณต้องรู้ว่าปลั๊กแบบ C, D, Mถูกใช้กันทั่วอินเดีย ดังที่แสดงในภาพด้านบน ปลั๊กแบบ C มีขากลมขนานกัน 2 ขา ปลั๊กแบบ D มีขากลม 3 ขาเป็นรูปสามเหลี่ยม และปลั๊กแบบ M มีขากลม 3 ขาเช่นกัน ปลั๊กแบบ M มีลักษณะเหมือนกับแบบ D ทุกประการ แต่ใช้งานร่วมกันไม่ได้เลย หากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าขาบนของปลั๊กแบบ M ยาวและหนากว่า

แรงดันไฟและความถี่ของปลั๊กไฟอินเดีย

👉 อินนิดา ดำเนินงานโดย:

• แรงดันไฟมาตรฐาน : 230V
• ความถี่ : 50Hz

นี่เหมือนกับในประเทศสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป

ปลั๊กไฟสำหรับอินเดีย: อะแดปเตอร์และตัวแปลงสำหรับการเดินทางในอินเดีย

คุณต้องการอะแดปเตอร์สำหรับการเดินทางในอินเดียหรือไม่?

หากคุณเดินทางไปอินเดีย คุณจะต้องทราบว่าปลั๊กที่นั่นมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากปลั๊กที่คุณเคยใช้ในไทยหรือประเทศอื่นๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณจะไม่สามารถใช้งานได้ เว้นแต่คุณจะมีอะแดปเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ได้กับเต้าเสียบในอินเดีย

ดังนั้น หากคุณเดินทางมาจากประเทศที่มีปลั๊กประเภทอื่น ควรนำอะแดปเตอร์สำหรับเดินทางมาด้วย เพื่อแปลงปลั๊กให้เหมาะกับเต้าเสียบในอินเดีย ซึ่งได้แก่ ปลั๊กประเภท C ปลั๊กประเภท D หรือปลั๊กประเภท M

ที่มา : อเมซอน

คุณต้องการเครื่องแปลงแรงดันไฟฟ้าในอินเดียหรือไม่?

มันขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ 😃

อะแดปเตอร์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ เช่น อะแดปเตอร์สำหรับโทรศัพท์และแล็ปท็อป มักรองรับแรงดันไฟฟ้าในช่วง 110 ถึง 240 โวลต์ ดังนั้น คุณจึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ของแรงดันไฟฟ้าสำหรับอะแดปเตอร์เหล่านี้ คุณเพียงแค่ต้องใช้อะแดปเตอร์สำหรับการเดินทางเพื่อเปลี่ยนจากปลั๊กแบบแบนเป็นปลั๊กแบบกลมสำหรับปลั๊กไฟในอินเดีย

อย่างไรก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นไดร์เป่าผม เตารีดไอน้ำ หรือเครื่องทำวาฟเฟิลมักจะไม่สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ 110V–240V ได้ หากคุณพยายามเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ในอินเดียโดยไม่มีหม้อแปลงลดแรงดันไฟฟ้า คุณอาจเสี่ยงต่อการทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายทันที

ตรวจสอบความเข้ากันได้ของแรงดันไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณเสมอ ก่อนที่จะนำเข้ามาในประเทศอินเดีย

ที่มา : อเมซอน

วิธีการใช้อะแดปเตอร์และตัวแปลงสำหรับการเดินทาง?

👉 เลือกอะแดปเตอร์/ตัวแปลงให้เหมาะสม

อะแดปเตอร์: ใช้เมื่อปลั๊กของอุปกรณ์ของคุณไม่พอดีกับเต้ารับในพื้นที่ แต่แรงดันไฟฟ้าเข้ากันได้

ตัวแปลง: ใช้เมื่อแรงดันไฟฟ้าของอุปกรณ์ของคุณไม่ตรงกับแหล่งจ่ายไฟในพื้นที่ (เช่น ลดแรงดันไฟ 220V ลงมาเป็น 110V)

👉 เสียบอะแดปเตอร์เข้ากับเต้าเสียบ

เสียบอะแดปเตอร์เข้าในซ็อกเก็ตอินเดีย จากนั้นเสียบอุปกรณ์ของคุณเข้ากับอะแดปเตอร์

👉 สำหรับผู้แปลง

เสียบตัวแปลงเข้ากับเต้าเสียบก่อน จากนั้นเสียบอุปกรณ์ของคุณเข้ากับตัวแปลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารองรับวัตต์ของอุปกรณ์ของคุณ

👉 คำแนะนำด้านความปลอดภัย

ตรวจสอบความเข้ากันได้ของแรงดันไฟฟ้า : ตรวจ สอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณรองรับแรงดันไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย

หลีกเลี่ยงการโหลดเกิน : อย่าเสียบอุปกรณ์มากเกินไปเข้ากับอะแดปเตอร์หรือตัวแปลงเพียงตัวเดียว

ถอดปลั๊กอุปกรณ์เมื่อไม่ได้ใช้งาน : หลีกเลี่ยงการเสียบอะแดปเตอร์หรือตัวแปลงทิ้งไว้เมื่อไม่ได้ใช้งาน

จะชาร์จแบตง่ายๆ ในอินเดียได้ที่ไหน?

👉ชาร์จไฟฟ้าให้รถยนต์

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอินเดีย ต่อไปนี้คือตัวเลือกบางส่วน:

1. สถานีชาร์จสาธารณะ: ปัจจุบันเมืองต่างๆ จำนวนมากมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยปกติจะอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และปั๊มน้ำมัน

• Tata Power EZ Charge: รองรับจุดชาร์จหลายแห่งทั่วประเทศอินเดีย
• Fortum Charge & Drive: มีให้บริการในเมืองต่างๆ เช่น เดลี ไฮเดอราบาด และมุมไบ
• Ather Grid: เครือข่ายของ Ather Energy แพร่กระจายไปทั่วเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เป็นสำหรับรถจักรยานยนต์

2. การชาร์จที่บ้าน: เจ้าของรถ EV จำนวนมากจะติดตั้งหน่วยชาร์จที่บ้าน โดยมักจะได้รับหรือแนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์

3. ตัวแทนจำหน่าย: ผู้ผลิตยานยนต์บางราย เช่น Tata, MG และ Hyundai เสนอจุดชาร์จไฟที่ตัวแทนจำหน่ายของตน

4. ทางหลวงและเส้นทาง EV: รัฐบาลอินเดียกำลังดำเนินการสร้างเส้นทาง EV บนทางหลวงที่มีเครื่องชาร์จไฟด่วน เช่น ทางหลวงเดลี-ชัยปุระ

👉ชาร์จโทรศัพท์มือถือ

หากคุณต้องการชาร์จโทรศัพท์ในขณะที่คุณอยู่นอกสถานที่ในอินเดีย คุณมีตัวเลือกมากมาย:

1. สถานีชาร์จสาธารณะ:

- ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งหลายแห่งมีสถานีชาร์จไฟฟรีหรือแบบเสียเงิน

- ร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟบางแห่ง เช่น Café Coffee Day หรือ Starbucks ก็มีจุดชาร์จไฟด้วยเช่นกัน

2. ร้านอาหารและคาเฟ่:

- ร้านกาแฟและร้านอาหารหลายแห่งมีปลั๊กไฟให้ใช้งาน เพียงถามพนักงานว่าเสียบปลั๊กได้หรือไม่

3. พาวเวอร์แบงค์:

- หากคุณเดินทางหรือไม่สามารถเข้าถึงปลั๊กไฟได้ การพกพาวเวอร์แบงค์ไว้ก็จะเป็นตัวช่วยสำรองที่ดี

4. การขนส่งสาธารณะ :

- รถไฟ รถบัส และรถไฟใต้ดินบางสายในเมืองต่างๆ เช่น เดลี และมุมไบ มีพอร์ต USB หรือจุดชาร์จไฟบนรถ

5. โรงแรมและเกสต์เฮาส์:

- โรงแรมส่วนใหญ่มีปลั๊กไฟในห้องพักหรือพื้นที่ส่วนกลางซึ่งคุณสามารถชาร์จไฟได้

6. พื้นที่ทำงานร่วมกัน:

- หากคุณทำงานจากระยะไกล พื้นที่ทำงานร่วมกันมักจะมีจุดชาร์จไฟและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

7. บูธชาร์จมือถือ:

- ในพื้นที่พลุกพล่านหรือที่สถานีรถไฟ คุณอาจพบตู้ชาร์จโทรศัพท์มือถือที่คุณสามารถชาร์จโทรศัพท์ของคุณได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย

อย่าลืมนำอะแดปเตอร์ปลั๊กสากลมาด้วยหากคุณเดินทางไปทั่วอินเดีย!

ภาพรวมมาตรฐานไฟฟ้าระดับโลก

ที่มา: lightningbugelectric.com

ทั่วโลกมีมาตรฐานไฟฟ้าหลักสามมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ มาตรฐานแรกคือ 110-120V ซึ่งส่วนใหญ่พบในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง มาตรฐานที่สองคือ 220-240V ซึ่งพบได้ทั่วไปในยุโรป เอเชีย และโอเชียเนีย และสุดท้ายคือระบบแรงดันไฟสองระดับ นอกจากแรงดันไฟแล้ว มาตรฐานเหล่านี้ยังมีความถี่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น 50 Hz หรือ 60 Hz และมีปลั๊กไฟประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ การทราบถึงความแตกต่างเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

มาตรฐานไฟฟ้าเอเชียและโอเชียเนีย

มาตรฐานไฟฟ้าของอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้

มาตรฐานไฟฟ้ายุโรป

มาตรฐานไฟฟ้าโอเชียเนีย

ข้อควรระวังในการเดินทางไปอินเดียมีอะไรบ้าง

• ในอินเดีย ห้ามรับประทานเนื้อวัวหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากหนังวัว ชาวมุสลิมในอินเดียไม่รับประทานเนื้อหมู
• ในอินเดีย ผู้คนกินข้าวด้วยมือขวา และใช้มือซ้ายทำอย่างอื่น ดังนั้น พยายามหลีกเลี่ยงการใช้มือซ้ายในการยื่นของให้ผู้อื่นหรือจับมือ
• อย่าลูบหัวเด็กๆ เพราะคนอินเดียถือว่าหัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
• ยาแก้ท้องเสีย: การมียาแก้ท้องเสียที่แรงติดตัวไว้เมื่ออยู่ในอินเดียถือเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือต้องระมัดระวังเรื่องอาหารและน้ำที่คุณบริโภค
• สำหรับน้ำดื่ม เรามักจะใช้น้ำขวดเสมอ ภูมิอากาศของอินเดียค่อนข้างแห้ง ดังนั้นอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
• ยากันยุง: อินเดียมีอากาศร้อนเกือบตลอดเวลา และเมื่ออากาศร้อนจัด ก็มักจะมียุงชุกชุม อย่าลืมพกยากันยุงติดตัวไปด้วย
• เครื่องใช้ในห้องน้ำ: แม้ว่าคุณจะพักที่โรงแรมระดับ 5 ดาวก็ตาม ก็ยังเป็นความคิดที่ดีที่คุณควรนำผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และรองเท้าแตะมาเอง