
หากเอ่ยถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใจกลางกรุงที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาเพื่อสักการะ ขอพร และสัมผัสพลังแห่งศรัทธา "ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ" คงเป็นสถานที่ที่ผุดขึ้นมาในหัวแทบจะทันที ศาลแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ หน้ารร.แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ รายล้อมด้วยห้างหรูและอาคารทันสมัย แต่กลับมีบรรยากาศแห่งความสงบและความศรัทธาสุดลึกซึ้ง Trip.com ขอชวนเพื่อนๆ ที่อยู่ในกรุงเทพหรือบริเวณใกล้เคียง มาสักการะขอพร ไม่ว่าจะมาเพื่อขอพรเรื่องการงาน ความรัก สุขภาพ หรือความสำเร็จในชีวิต ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณก็ถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเติมพลังใจในวันสำคัญของเพื่อนๆ ทุกคน
ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณตั้งอยู่ที่ไหน

ถ้าเอ่ยถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางกรุงเทพฯ ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างให้ความเคารพนับถือคือ "ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหัวมุมสี่แยกราชประสงค์ บนถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน นี่คือจุดที่เรียกได้ว่าใจกลางของใจกลางเมืองของจริง เพราะอยู่ในรัศมีล้อมรอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และยังเป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งที่สะดวกสุดๆ
ความพิเศษของที่ตั้งศาลแห่งนี้ คือเป็นจุดตัดพลังงานที่มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสตร์ฮวงจุ้ยจีน และยังตรงกับจุดเชื่อมของถนนสายสำคัญทั้งราชดำริ เพลินจิต และพระรามที่ 1 ทำให้ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นที่ดี หรือ การเสริมพลังชีวิต ซึ่งส่งผลให้ที่นี่กลายเป็นหมุดหมายที่นักธุรกิจ นักแสดง และนักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาสักการะเป็นประจำ โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ที่เชื่อมั่นในพลังการขอพรของท่าน
ศาลแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่ศาลพระพรหมทั่วไป แต่คือสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและพลังใจของผู้คนยุคใหม่ ที่แม้จะรีบเร่งแค่ไหน ก็ยังแวะมากราบขอพรด้วยความเชื่อมั่นในพลังแห่งท้าวมหาพรหมเอราวัณว่าจะคุ้มครองและมอบพรให้ชีวิตราบรื่นดั่งปรารถนา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ การงาน สุขภาพ ความรัก และการเดินทาง
วิธีการเดินทางไปสักการะศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า (BTS) ขอแนะนำเส้นทางนี้ เพราะเร็วที่สุด คือมาลงที่ สถานีชิดลม แล้วเดินเชื่อมผ่านทาง Skywalk มายังทางออกฝั่งถนนราชดำริ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที คุณก็จะพบศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณตั้งตระหง่านอยู่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เรียกได้ว่า เดินทางมาสะดวกไม่ต้องหลง และไม่ต้องเผชิญรถติด
ถ้าใครขึ้น BTS มาจากฝั่งสยาม ก็สามารถลงสถานี สยาม แล้วเดินต่อบน Skywalk ได้เช่นกัน ทางเชื่อมระหว่างสถานีสยามและสถานีชิดลมมีร่มบังแดด มีวิวให้ชมสองฝั่งถนนระหว่างทาง แถมยังมีร้านกาแฟเรียงรายให้แวะพักก่อนสักการะท้าวมหาพรหมเอราวัณ
หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเข้าถึงบริเวณแยกราชประสงค์อาจต้องเผื่อเวลาเล็กน้อย เนื่องจากเป็นย่านการค้าหลักที่มีการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงเย็น คุณสามารถจอดรถได้ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ (สำหรับผู้เข้าพักหรือรับบริการภายใน), ห้างเกษรวิลเลจ, เซ็นทรัลเวิลด์ หรือสยามพารากอน แล้วเดินย้อนกลับมาที่ศาลได้
ส่วนผู้ที่นิยมใช้รถแท็กซี่หรือบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ก็ควรระบุปลายทางให้ชัดเจนว่า "ศาลท้าวมหาพรหมหน้าโรงแรมเอราวัณ" หรือ "Erawan Shrine" เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด เพราะบริเวณนั้นมีโรงแรมและศูนย์การค้าอยู่หลายแห่ง ซึ่งหากสื่อสารคลาดเคลื่อน อาจทำให้ไปลงผิดจุดได้ง่าย
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสายเดินถนนหรือสายชิลล์คือการเดินเท้าจากสยาม หรือเพลินจิต ซึ่งเหมาะมากหากคุณพักโรงแรมใกล้เคียง เช่น โรงแรมแอสเซลล่า, ลิฟ เอเบิล หรือโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งเดินถึงศาลได้ภายในไม่เกิน 3 - 5 นาที พร้อมสัมผัสบรรยากาศเมืองกรุงอย่างใกล้ชิด
ประวัติและตำนานของศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2494 การก่อสร้างโรงแรมเอราวัณเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางปัญหามากมาย ทั้งเรื่องงบประมาณ ความล่าช้า และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยไร้คำอธิบาย ซึ่งนำมาสู่ความกังวลของผู้บริหารในยุคนั้น แม้จะมีความพร้อมในด้านกำลังคนและทุนทรัพย์ แต่การก่อสร้างกลับไม่คืบหน้า จนมีผู้แนะนำให้ปรึกษาผู้รู้ทางโหราศาสตร์ ซึ่งได้วิเคราะห์ว่kฤกษ์การก่อสร้างไม่เป็นมงคล และยังขาดการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณ
จึงมีการเชิญหลวงสุวิชานแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ในยุคนั้นมาพิจารณา เขาแนะนำให้สร้างศาลบูชาท้าวมหาพรหม ซึ่งถือเป็นเทพผู้ให้พรสูงสุดในศาสนาฮินดู เพื่อคุ้มครองสถานที่และดึงพลังบวกเข้ามาแทนที่พลังลบ ในปี พ.ศ. 2499 ศาลท้าวมหาพรหมจึงได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีการอัญเชิญองค์พระพรหม ซึ่งหล่อขึ้นใหม่จากปูนปลาสเตอร์และปิดทองอย่างวิจิตรศิลป์
องค์พระพรหมที่ประดิษฐานอยู่ที่ศาลนี้ มีทั้งหมด 4 พักตร์ หรือ 4 หน้า ซึ่งหันไปทั้งสี่ทิศ ได้แก่ ทิศเหนือ ตะวันออก ใต้ และตะวันตก โดยแต่ละพักตร์มีความหมายต่างกัน เช่น ความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งเป็นหลักธรรมสำคัญของพุทธศาสนา แต่ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานความเชื่อแบบฮินดูเข้าไว้ด้วยอย่างลงตัว ท้าวมหาพรหมจึงเป็นสัญลักษณ์ของ "ผู้สร้าง ผู้ดูแล ผู้ปกป้อง และผู้ให้พร"
นับแต่นั้นมา ศาลแห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์รวมของผู้ศรัทธาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่แห่มาขอพรท้าวมหาพรหมเอราวัณอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อกันว่าพรของท่านนั้นแรงและรวดเร็ว มีเรื่องเล่าว่า คนที่มาขอพรเรื่องค้าขาย การงาน ความรัก หรือสุขภาพ มักประสบความสำเร็จในเวลาไม่นาน และกลับมาแก้บนด้วยการจ้างนางรำมารำถวายหน้าศาล
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

องค์พระพรหมของศาลนี้ประดิษฐานบนฐานสูงรูปสี่เหลี่ยมที่มีการตกแต่งอย่างประณีตด้วยลวดลายไทยโบราณ ต้นแบบมาจากรูปแบบศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ ผสมผสานกับเส้นสายอ่อนช้อยที่แสดงถึงความงดงามของศิลปะพื้นบ้านไทย ประกอบกับการเลือกใช้สีทองอร่ามที่บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์และความรุ่งเรือง
จุดเด่นที่สุดของศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณคือองค์พระพรหมสี่พักตร์ ซึ่งเป็นภาพแทนของเทพเจ้าที่มีใบหน้าสี่หน้าแต่ละพักตร์หันออกไปทั้งสี่ทิศ เพื่อสื่อถึงความรู้แจ้ง ความเมตตา และพลังอันไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละหน้าจะถือสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น กลอง ดอกบัว หนังสือ และจอบ ซึ่งแสดงถึงองค์ประกอบของชีวิตและธรรมชาติที่สมดุลกันอย่างแท้จริง
นอกจากนี้บริเวณโดยรอบศาลยังประดับประดาด้วยประติมากรรมช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นสัตว์พาหนะของท้าวมหาพรหม ช้างเอราวัณนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและการคุ้มครองศาล ทำให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมรู้สึกถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่และมั่นคง
หลังคาศาลมีการออกแบบเป็นทรงมุขที่ใช้ไม้แกะสลักอย่างประณีต ลวดลายบนหลังคาเล่าเรื่องราวทางศาสนาและตำนานของท้าวมหาพรหมด้วยรูปแบบที่อ่อนช้อยและวิจิตร งานไม้ที่เห็นเป็นเสมือนการบอกเล่าประวัติศาสตร์ของความเชื่อผ่านศิลปะที่ถูกสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
ความสมดุลของโครงสร้าง และการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงหลักฮวงจุ้ยและพลังงานบวกที่ผู้สร้างตั้งใจจะดึงดูดโชคลาภและความสงบสุขสู่ผู้ที่มากราบไหว้ ทุกอย่างผสานกันอย่างลงตัวทั้งในแง่ความงามและความหมายเชิงลึก
กิจกรรมที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

กิจกรรมหลักที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าร่วมก็คือการสักการะและขอพรที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ผู้ที่มาเยือนจะได้จุดธูป เทียน และถวายดอกไม้ตามความเชื่อ ทั้งนี้แต่ละพักตร์ขององค์พระพรหมสี่หน้าก็มีความหมายแตกต่างกัน เช่น ขอพรเรื่องสุขภาพ การงาน การเงิน และความรัก จึงเป็นที่มาของคำพูดที่ว่ามาสี่พักตร์ ขอพรครบทุกด้าน ซึ่งทำให้ผู้คนสามารถตั้งจิตอธิษฐานได้ตามความต้องการส่วนตัวได้อย่างเต็มที่
อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจและถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ คือการแก้บนด้วยการรำถวาย ซึ่งเป็นการแสดงละครรำไทยหรือรำพื้นบ้านที่มีความงดงามและมีความหมายลึกซึ้ง ผู้ที่ได้รับพรสำเร็จตามคำอธิษฐานมักจะนำการแสดงเหล่านี้มาแก้บนเพื่อแสดงความกตัญญู ความเชื่อว่าเมื่อพรสัมฤทธิ์ผลแล้วควรกลับมาแสดงความขอบคุณด้วยวิธีนี้ จึงทำให้บริเวณศาลในบางช่วงเวลามีบรรยากาศคล้ายกับงานเทศกาลเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีไทยและการรำที่สวยงาม
นอกจากนั้นในวันสำคัญประจำปีของศาล ซึ่งตรงกับวันที่ 9 พฤศจิกายน จะมีพิธีบวงสรวงใหญ่ประจำปีที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนมากมายจากทุกสารทิศจะมารวมตัวกัน เพื่อสวดมนต์และทำบุญร่วมกัน โดยในวันนั้นบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความศรัทธาและความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้ที่มาร่วมงาน
ข้อควรรู้ก่อนไปศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ

อันดับแรก ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะไม่มีเวลาจำกัด แต่ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปคือเช้าตรู่ระหว่าง 7.00 - 9.00 น. หรือช่วงเย็นประมาณ 17.00 - 19.00 น. เพราะในช่วงนี้บรรยากาศจะสงบ เหมาะกับการตั้งจิตขอพร และยังได้บรรยากาศสวยๆ ของแสงแดดยามเช้าหรือพระอาทิตย์ตกที่สาดส่ององค์พระพรหมให้ดูงดงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้ช่วงเวลานี้ผู้คนยังไม่หนาแน่นมาก ทำให้สามารถจุดธูปไหว้พระได้สะดวกกว่า
การแต่งกายถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าศาลนี้จะตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ แต่ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความเคารพทางวัฒนธรรมอยู่เสมอ จึงควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่สุภาพเรียบร้อย งดเสื้อผ้าที่มีลวดลายโป๊หรือสีฉูดฉาดเกินไป เพื่อแสดงความเคารพและความพร้อมที่จะเข้าสู่บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเหมาะสม
สำหรับของที่ควรเตรียมไปเพื่อบูชาและขอพรที่ศาล ได้แก่ ธูป, เทียน, ดอกบัวสด, และผลไม้ตามความเชื่อบางอย่างที่ผู้มาสักการะนิยมใช้ เช่น กล้วย หรือส้ม ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าในบริเวณรอบศาล นอกจากนี้ยังมีบริการจำหน่ายเครื่องบูชาไว้พร้อมในราคาที่ไม่แพงนัก โดยทางศาลมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยแนะนำอย่างเป็นมิตร
สิ่งที่ควรระวังคือการแก้บน ที่เป็นประเพณีสำคัญของศาลนี้ หากคุณมีความตั้งใจจะขอพรแล้วสำเร็จตามคำอธิษฐาน ควรกลับมาแก้บนอย่างเหมาะสม เช่น การจ้างนางรำมารำถวาย หรือถวายเครื่องสักการะตามที่ตกลงไว้ เพื่อแสดงความกตัญญูและความศรัทธาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการตั้งจุดธูปเทียนหรือเครื่องบูชาที่อาจเป็นอันตรายหรือกีดขวางทางเดินของผู้คน
สุดท้ายนี้ เนื่องจากศาลตั้งอยู่ในย่านการค้าที่พลุกพล่าน การจราจรในช่วงเวลาบ่ายและเย็นอาจติดขัดอย่างมาก แนะนำให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะรถไฟฟ้า BTS ซึ่งสะดวกและรวดเร็วที่สุด การลงที่สถานีชิดลมหรือสยามแล้วเดินต่อไม่เกิน 5 นาทีจะทำให้คุณถึงศาลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด
เที่ยวกรุงเทพฯ ได้สะดวก เพียงมีบัตร BTS
แนะนำที่พักใกล้ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ
- โรงแรมแอสเซลล่า (Ascella Hotel Bangkok)
เป็นที่พักสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ไม่ไกลจากศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความสงบและความสะดวกสบายพร้อมกับการเดินทางที่ง่ายดาย

ภายในโรงแรมมีห้องพักที่ออกแบบมาอย่างทันสมัย กว้างขวาง และสะอาด ห้องพักทุกห้องมีแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาอย่างพอเหมาะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ทีวีจอแบน อินเทอร์เน็ตไร้สาย และเครื่องปรับอากาศ

นอกจากนี้ยังมีบริการฟิตเนสสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย รวมถึงร้านอาหารที่ให้บริการเมนูหลากหลายรสชาติ สำหรับใครที่อยากพักผ่อนแบบสบายๆ หลังจากวันอันเหน็ดเหนื่อย การเลือกพักที่แอสเซลล่าคือทางเลือกที่ดีเยี่ยม
Chan foong sham:ทุกอย่างดีมากและเจ้าของก็เป็นมิตรและใจดีมาก ขอบคุณและจะมาเยี่ยมอีกในเร็วๆ นี้
16 ซ.เพชรบุรี 15
- โรงแรมเอเชียกรุงเทพ (Asia Hotel Bangkok)
เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกเพียงไม่กี่นาทีจากศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ โรงแรมนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มองหาที่พักราคาประหยัดแต่ยังคงได้คุณภาพ

ห้องพักที่นี่มีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งเรียบง่ายและดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก ๆ ครบถ้วน เช่น ฟรี Wi-Fi สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารไทยและนานาชาติ

จุดเด่นอีกอย่างคือพนักงานบริการด้วยใจ ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โรงแรมนี้จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากพักในทำเลดี ใจกลางกรุงในราคาที่จับต้องได้
Khuncho:โรงแรมดีมากๆ เดินทางสะดวก พนักงานดูแลและให้บริการดีมากๆ ชอบที่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสทำให้เดินทางง่าย
269 ถ.พ
- ลิฟ เอเบิล (Live Able Hotel)
เป็นโรงแรมบูติกที่ออกแบบมาให้มีบรรยากาศทันสมัยและเป็นกันเอง ตั้งอยู่ใกล้กับ BTS ทำให้เดินทางสะดวกมากๆ

ห้องพักของที่นี่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นและใช้วัสดุคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเหมาะกับการพักผ่อน ห้องพักแต่ละห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทีวีจอแบน แอร์ และอินเทอร์เน็ตไร้สาย

นอกจากนี้โรงแรมยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่น่านั่งเล่นและคาเฟ่เล็ก ๆ สำหรับนั่งทำงานหรือพักผ่อน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความเงียบสงบแต่ยังอยู่ใจกลางเมือง
Julaluck:ห้องน่ารัก สะอาด และหอมมากกก เตียงนุ่มนอนสบาย
89/9 ถนน รางน้ำ แขวงถนนพญาไท
- โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ (Grand Hyatt Erawan Bangkok)
โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ เป็นที่รู้จักในเรื่องบริการชั้นเลิศและห้องพักสุดหรูหรา

อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สปา ฟิตเนส และร้านอาหารระดับดาวมิชลิน ห้องพักตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมวิวเมืองกรุงเทพฯ ที่งดงาม

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมได้สัมผัสบรรยากาศของศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณอย่างใกล้ชิด
IMPAPO:ราคาถูก สะอาด มีที่จอดรถให้ครับพนักงานบริการดี ห้องพักใหญ่ดี ราคาถูก สะอาด มีที่จอดรถให้ครับพนักงานบริการดี ห้องพักใหญ่ดี วิวสวย มีสระว่ายน้ำ อาหารเข้าหรอยมากๆๆๆๆ
494 ถ.ราชดำริ
- โรงแรมเอสทรี สยาม กรุงเทพ (S Tree Siam Hotel Bangkok)
โรงแรมบูติกแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานี BTS สยามและศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและบรรยากาศส่วนตัว

ห้องพักที่นี่ออกแบบทันสมัย มีแสงสว่างเพียงพอ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เช่น ฟรี Wi-Fi และเครื่องปรับอากาศ

บริเวณรอบๆ โรงแรมเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งช้อปปิ้ง จึงเป็นจุดพักที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากเดินทางง่ายและเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวก
Morrrr:โรงแรมดีมาก ใกล้กับถนนบรรทัดทองและbts
2/6 ซ.เกษมสันต์3 ถ.พระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ
คูปองโรงแรม Trip.com | ลดสูงสุด 8% สำหรับผู้ใช้ Trip.com ใหม่🔥
Trip.com เสนอคูปองโรงแรมสูงสุด 8% สำหรับโรงแรมทั้งหมด เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์โรงแรมที่ดีกว่าแต่ถูกกว่า เพียงคัดลอกรหัส ทำตามคำแนะนำในการจองโรงแรม และป้อนรหัสส่วนลดก่อนชำระเงิน สามารถจองโรงแรมใดๆ ที่ขายบน Trip.com ได้โดยใช้รหัสโปรโมชั่น คัดลอกรหัสตอนนี้และทำให้โรงแรมราคาแพงมีราคาไม่แพง และประหยัดเงินเมื่อจองโรงแรมทั้งหมด
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ใกล้ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

หนึ่งในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เซ็นทรัลเวิลด์อยู่ไม่ไกลจากศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณเพียงแค่เดินเท้าสั้นๆ ภายในห้างเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และโซนความบันเทิงครบครัน เหมาะกับการช้อปปิ้ง เดินเล่น หรือหาอาหารอร่อยๆ หลังจากสักการะ
- สยามพารากอน

สถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและคนเมืองที่รักแฟชั่น สยามพารากอนตั้งอยู่ใจกลางย่านสยามซึ่งห่างจากศาลเพียง 10 นาทีด้วยการเดินหรือรถไฟฟ้า BTS จากสถานีชิดลม ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์หรู ร้านอาหารระดับมิชลิน และอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “SEA LIFE Bangkok Ocean World” ให้คุณได้สัมผัสโลกใต้ทะเลแบบใกล้ชิด
- สวนลุมพินี

ถ้าคุณต้องการพื้นที่สีเขียวและความสงบจากความวุ่นวายในเมือง สวนลุมพินีเป็นตัวเลือกที่ดีมาก เดินจากศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณไม่ไกล ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย หรือปิกนิกในช่วงเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศที่ร่มรื่น
- ถนนนานา

ย่านนานาที่เต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชาติและบาร์บรรยากาศดี ๆ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสชีวิตกลางคืนในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ สามารถเดินทางไปด้วยรถแท็กซี่หรือ BTS ได้ง่ายๆ ที่นี่มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและอาหาร ให้คุณได้สัมผัสสีสันใหม่ๆ หลังจากวันที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและการเดินเที่ยวในเมือง
การมาเยือนศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณนั้นเป็นการเดินทางเพื่อทำให้จิตใจเพื่อเชื่อมโยงกับความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการขอพรเพื่อความสำเร็จ การรำถวายแก้บน หรือเพียงแค่ได้ยืนมององค์พระพรหมท่ามกลางผู้คน ก็สามารถสร้างความสงบภายในใจได้อย่างน่าประหลาด อีกทั้งด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางย่านการค้าและความบันเทิงของกรุงเทพฯ ยังทำให้การท่องเที่ยวรอบข้างสะดวกและหลากหลาย ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณจึงไม่ได้เป็นเพียงที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวไทย แต่ยังกลายเป็นจุดหมายแห่งความหวังของผู้คนทั่วโลก ที่ต้องการแสวงหาความมั่นคงทั้งทางกายและใจในทุกช่วงจังหวะของชีวิตอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ
พระพรหมเอราวัณ ควรไหว้เวลาไหน
เวลาที่ขลังที่สุดจะเป็นช่วง 06.00 - 08.00 น. ค่ะ แต่ก็มีบางคนบอกว่า ช่วงเวลา 06.00 - 11.00 น. ของวันอังคารและวันพฤหัสบดีเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเคล็ดลับไหว้พระพรหม
ใช้ธูป 16 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด ขอพรเกี่ยวกับเรื่องงาน การเรียน การสอบแข่งขัน ขออำนาจบารมี ขอความก้าวหน้าในชีวิต และขอพรให้บิดาเคล็ดลับการไหว้ขอพรพระพรหม
เวียนไปขวามือตามเข็นนาฬิกา หรือ พระหัตถ์ซ้ายของพระพรหมจนถึงพระพักตร์สุดท้าย






จองแล้ว 376 ครั้ง


