เสริมสิริมงคล! สักการะพระธาตุศรีสองรัก สัญลักษณ์แห่งสันติภาพบนผืนแผ่นดินเลยน

พระธาตุศรีสองรัก พระธาตุที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันสงบงามของอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ซ่อนตัวอยู่อย่างสง่างาม ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์และพลังแห่งความเชื่อ พระธาตุองค์นี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเลยเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างสองอาณาจักรในอดีต คือ กรุงศรีอยุธยาและล้านช้าง ที่ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นหมุดหมายของความสงบและไมตรี ทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลมาสักการะพระธาตุศรีสองรัก เพื่อขอพรให้ชีวิตราบรื่น มีความรัก ความสามัคคี และเมตตาในจิตใจ ด้วยความเชื่อว่าการได้มาสักการะจะช่วยเสริมสิริมงคลโดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีมะแม ซึ่งเชื่อกันว่าพระธาตุศรีสองรักคือพระธาตุประจำปีเกิด Trip.com จะพาไปสัมผัสกับเรื่องราวของพระธาตุศรีสองรักอย่างลึกซึ้ง ทั้งประวัติความเป็นมา ลักษณะทางสถาปัตยกรรม กิจกรรมแนะนำ และข้อควรรู้ก่อนเดินทาง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงด่านซ้ายอีกด้วย

พระธาตุศรีสองรักตั้งอยู่ที่ไหน

ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์กศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และพลังแห่งศรัทธาในภาคอีสานตอนบน พระธาตุศรีสองรักคงเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนจะนึกถึง พระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ในเขตบ้านหัวนายูง หมู่ 14 ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย บริเวณริมแม่น้ำหมันที่มีสายน้ำไหลผ่านเงียบสงบ และโอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวเขียวขจี องค์พระธาตุตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเตี้ยไม่ไกลจากตัวอำเภอด่านซ้ายมากนัก โดยมีระยะทางห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 80 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

พื้นที่โดยรอบพระธาตุศรีสองรักนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสงบ แฝงไว้ด้วยความขลังและกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ แม้จะไม่ได้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประจำ แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากชาวบ้านและวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะวัดโพนชัยซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดรวมใจของผู้คนในท้องถิ่นและผู้แสวงบุญที่เดินทางมาเยือนไม่ขาดสาย

จุดที่พระธาตุตั้งอยู่มีการจัดพื้นที่ไว้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมลานจอดรถ และทางเดินเข้าสู่เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ความรู้สึกสงบตั้งแต่ก้าวแรก บริเวณโดยรอบมีต้นลั่นทมหรือที่ชาวอีสานเรียกว่าต้นลีลาวดีปลูกไว้อย่างร่มรื่น เสริมบรรยากาศให้การมาเยือนเต็มไปด้วยความสุขทางใจ

พระธาตุศรีสองรักไม่ได้มีความหมายเฉพาะในเชิงศาสนา แต่ยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของไมตรีจิตและความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างผู้คน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพระธาตุศรีสองรักประจำปีเกิด จึงกลายเป็นหนึ่งในคำค้นยอดฮิตที่ผู้คนมักค้นหา เพื่อดูว่าเกิดปีไหนควรมาไหว้พระธาตุองค์ใด และพระธาตุศรีสองรักก็เป็นหนึ่งในองค์พระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะแม ใครเกิดปีนี้ควรมาสักการะนะ

นอกจากนี้ ยังมีของที่ระลึกที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาอย่าง เข็มกลัดพระธาตุศรีสองรัก ซึ่งเป็นเครื่องรางที่มีพลังแห่งการเสริมมงคลในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และการประสานไมตรีกับผู้คนรอบข้าง

วิธีการเดินทางไปสักการะพระธาตุศรีสองรัก

ถ้าเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานครสามารถเลือกได้หลายวิธี โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคือการขับรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางมายังหล่มเก่า - หล่มสัก แล้วเข้าสู่อำเภอด่านซ้ายได้โดยตรง ระยะทางรวมประมาณ 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 - 8 ชั่วโมง 

สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งหมอชิต มุ่งหน้าสู่จังหวัดเลย โดยมีรถออกทุกวัน จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางหรือรถสองแถวที่วิ่งระหว่างตัวเมืองเลยไปยังอำเภอด่านซ้าย โดยใช้เวลาเดินทางอีกราว 2 ชั่วโมง เมื่อถึงตัวอำเภอแล้วสามารถใช้บริการรถรับจ้างในพื้นที่ เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือรถสองแถวเพื่อเข้าสู่บริเวณพระธาตุ ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเพียงประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น

อีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับผู้ต้องการความสะดวกสูงสุดคือการเช่ารถจากสนามบินเลย ซึ่งมีบริการทั้งรถเก๋งและรถตู้ให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวหรือผู้ที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ เมื่อมีรถส่วนตัว การเดินทางไปยังพระธาตุศรีสองรักก็จะสะดวกขึ้นและยังสามารถแวะเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ประวัติและตำนานของพระธาตุศรีสองรัก

พระธาตุศรีสองรักไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้แสวงบุญ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งไมตรีจิตระหว่างสองอาณาจักร คือ กรุงศรีอยุธยาและล้านช้าง ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ตำนานเล่าว่า ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงมีสัมพันธไมตรีแน่นแฟ้นกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งในขณะนั้นเป็นพันธมิตรร่วมรบต่อสู้กับพม่า เพื่อยับยั้งการรุกรานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยความต้องการแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันมั่นคง ทั้งสองพระองค์จึงตกลงสร้างเจดีย์แห่งหนึ่งขึ้นมา ณ ชายแดนของทั้งสองอาณาจักร เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความร่วมมือ และสื่อถึงคำมั่นว่าจะไม่รุกรานซึ่งกันและกัน

จากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ จึงถือกำเนิดเป็นพระธาตุศรีสองรัก ในปี พ.ศ. 2103 ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ไทยยังคงต้องป้องกันประเทศจากภายนอกอย่างเข้มงวด โดยคำว่า "ศรี" สื่อถึงสิริมงคล ส่วน "สองรัก" หมายถึง ความสัมพันธ์ของสองบ้านเมืองที่มีกันและกันอย่างกลมเกลียว ตัวพระธาตุจึงไม่ได้เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างทางศาสนา แต่ยังเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก ความเข้าใจ และความสามัคคีในระดับชาติอีกด้วย

แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานหลายร้อยปี พระธาตุศรีสองรักยังคงได้รับการเคารพบูชาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่เกิดปีมะแม เพราะที่นี่ถือเป็นพระธาตุศรีสองรักประจำปีเกิดของคนปีนี้ ผู้ที่มาไหว้เชื่อว่าจะได้รับพรในด้านการรักษาความสัมพันธ์ ทั้งกับคนรัก เพื่อนฝูง และครอบครัว รวมถึงจะมีจิตใจสงบ ร่มเย็น และไม่ถูกศัตรูคิดร้าย

เรื่องราวอีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจคือ ชาวบ้านเชื่อว่า “ห้ามสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง” ขณะเข้าสักการะพระธาตุศรีสองรัก เพราะเป็นสีที่สื่อถึงเลือดและสงคราม ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์แห่งสันติภาพที่พระธาตุนี้ถือกำเนิดขึ้นจากมัน แม้ในปัจจุบันจะไม่มีการบังคับอย่างเคร่งครัด แต่ผู้มาเยือนจำนวนมากยังคงยึดถือความเชื่อนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อแสดงถึงความเคารพต่อสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้ทุกๆ ปีในช่วงเดือนหก (ประมาณพฤษภาคม) จะมีงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นประเพณีที่ชาวอำเภอด่านซ้ายร่วมกันสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง ภายในงานจะมีขบวนแห่ผ้าแพร 7 สี การบวงสรวง และการละเล่นพื้นบ้าน ถือเป็นช่วงเวลาที่พระธาตุมีชีวิตชีวาที่สุดของปี

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพระธาตุศรีสองรัก

องค์พระธาตุตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสยกสูง มีซุ้มประตูโค้งสี่ด้าน โดยเฉพาะด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้าสู่บริเวณองค์พระธาตุ จะมีซุ้มประตูไม้แกะสลักเป็นลวดลายดั้งเดิมของช่างท้องถิ่น ตัวเจดีย์สร้างขึ้นด้วยอิฐและปูน ปิดผิวด้วยสีขาวสะอาดตา แสดงออกถึงความสงบเรียบง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ดูขลังอย่างยิ่ง โครงสร้างของพระธาตุมีลักษณะเป็นทรงระฆังคว่ำ ตั้งตระหง่านบนฐานประทักษิณหลายชั้น ซ้อนกันขึ้นไปตามลำดับ สื่อถึงการยกระดับจิตใจและการแสวงหาธรรมในแบบพุทธศิลป์

จุดที่น่าสนใจคือองค์พระธาตุได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมล้านช้างอย่างชัดเจน โดยมีลักษณะคล้ายพระธาตุพนมผสมผสานกับพระธาตุหลวงในนครหลวงเวียงจันทน์ ความงามที่เรียบง่ายแต่สง่างามนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนประทับใจตั้งแต่แรกเห็น อีกทั้งยังสื่อถึงความร่วมมือระหว่างสองอาณาจักรที่ร่วมกันสร้างพระธาตุขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อน

บริเวณรอบองค์พระธาตุมีมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปศิลปะทิเบต มีเอกลักษณ์ตรงเส้นพระเกศาที่ขดเป็นลอนสั้นดูแปลกตา ส่วนพระพักตร์ก็มีลักษณะคมชัดกว่าพระพุทธรูปไทยทั่วไป ทำจากทองสัมฤทธิ์ขนาดหน้าตักประมาณ 21 นิ้ว และสูงประมาณ 30 นิ้ว พระพุทธรูปองค์นี้มักได้รับการเคารพสักการะควบคู่กับองค์พระธาตุ และผู้ที่มากราบไหว้ก็มักนิยมถวายผ้าแพร 7 สี เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต

กิจกรรมที่พระธาตุศรีสองรัก

กิจกรรมแรกที่พลาดไม่ได้เลยคือการกราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาดตา นักท่องเที่ยวมักจะถือผ้าแพร 7 สี หรือดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีมะแม เพราะเชื่อกันว่าพระธาตุศรีสองรักคือพระธาตุศรีสองรักประจำปีเกิดของปีนี้ หากได้มากราบไหว้ด้วยใจแน่วแน่ จะส่งเสริมเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และการสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนในชีวิตประจำวัน

อีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากคือการถวายผ้าแพรสีต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสมโภชพระธาตุ จะมีการแห่ผ้าแพรขึ้นถวายรอบองค์พระธาตุอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นพิธีที่เปี่ยมด้วยศรัทธาและสีสันทางวัฒนธรรม เป็นช่วงเวลาที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมกันทำบุญ เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถถวายเทียนพรรษา หรือผ้าป่าได้ตลอดทั้งปี โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกอย่างอบอุ่น

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม การเยี่ยมชมมณฑปพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ตั้งอยู่ใกล้พระธาตุเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันล้ำค่า พระพุทธรูปองค์นี้มีศิลปะที่แปลกตา ลักษณะของพระพักตร์และพระเกศามีความเป็นทิเบต ชวนให้ศึกษาความเชื่อและพุทธศิลป์ที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย

ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีการจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีกิจกรรมมากมาย เช่น ขบวนแห่ประเพณี การแสดงพื้นบ้าน การสาธิตหัตถกรรมจากชุมชน และการทำบุญตักบาตรเป็นหมู่คณะ ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอ เพราะนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวด่านซ้ายอย่างลึกซึ้ง

ข้อควรรู้ก่อนไปพระธาตุศรีสองรัก

1. หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าสีแดง

หนึ่งในข้อห้ามที่ถือเป็นกุศลนิยมของผู้ศรัทธาเมื่อไปกราบพระธาตุศรีสองรักคือ ห้ามสวมเสื้อผ้าสีแดง เนื่องจากสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและสงคราม ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของพระธาตุที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งสันติภาพและความรักระหว่างอาณาจักรอยุธยาและล้านช้าง แม้จะไม่มีการบังคับ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงยึดถือข้อนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อแสดงความเคารพสถานที่

2. การแต่งกายควรสุภาพ

เนื่องจากพระธาตุศรีสองรักเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพ หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม หรือเสื้อเอวลอย การแต่งกายให้เหมาะสมไม่เพียงแต่แสดงถึงความเคารพต่อสถานที่เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณกลมกลืนกับบรรยากาศสงบเงียบของพื้นที่ได้ดีขึ้น

3. เตรียมของบูชาให้พร้อม

นักท่องเที่ยวสามารถเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน หรือผ้าแพร 7 สีสำหรับบูชาพระธาตุได้ หากไม่สะดวกนำมาเอง ด้านหน้าพระธาตุก็มีร้านค้าชุมชนที่จัดจำหน่ายชุดบูชาในราคาย่อมเยา 

4. ตรวจสอบเวลาเปิด - ปิดล่วงหน้า

แม้พระธาตุศรีสองรักจะเปิดให้สักการะตลอดทั้งปี แต่ในบางช่วง เช่น วันสำคัญทางศาสนา หรือช่วงปรับปรุงพื้นที่ อาจมีการจำกัดการเข้าเยี่ยมชมบางส่วน ควรตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานท่องเที่ยวหรือวัดใกล้เคียง เช่น วัดโพนชัย ซึ่งเป็นผู้ดูแลพระธาตุโดยตรง เพื่อวางแผนการเดินทางให้เหมาะสม

5. เหมาะแก่การเดินทางช่วงปลายปีถึงต้นปี

ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางไปยังพระธาตุศรีสองรักคือเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เพราะอากาศเย็นสบาย ถนนหนทางไม่เปียกชื้น และธรรมชาติโดยรอบยังคงเขียวขจี สวยงามเป็นพิเศษ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวปลายปีหรืออยากเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการไหว้พระธาตุศรีสองรักประจำปีเกิดก็ยิ่งเหมาะอย่างยิ่ง

6. สื่อสารกับชาวบ้านด้วยความเคารพ

ผู้คนในอำเภอด่านซ้ายเป็นชาวบ้านที่มีวัฒนธรรมพื้นถิ่นอันโดดเด่นและมีน้ำใจ การพูดจาด้วยความสุภาพ ยิ้มแย้ม และตั้งใจฟังคำแนะนำของชาวบ้านจะทำให้การเดินทางของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น บางครั้งคุณอาจได้รับข้อมูลหรือคำแนะนำที่หาไม่ได้จากคู่มือท่องเที่ยวเลยด้วยซ้ำ

แนะนำที่พักใกล้พระธาตุศรีสองรัก

- ภูนาคำ รีสอร์ท

ตั้งอยู่ในทำเลที่เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติสีเขียวสดชื่น ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากพักผ่อนอย่างแท้จริง 

ภายในรีสอร์ทตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่าย แต่เน้นความสะอาดและอบอุ่น ห้องพักกว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน มีระเบียงสำหรับชมวิวธรรมชาติ และลมเย็นตลอดวัน 

อีกทั้งยังมีบริการอาหารเช้าแบบท้องถิ่นที่อร่อยและน่าประทับใจ ใกล้กับพระธาตุศรีสองรักโดยใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาทีเท่านั้น การเดินทางสะดวก และพนักงานบริการเป็นกันเอง สร้างบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่สอง เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสงบและสัมผัสวิถีชีวิตชนบทของอีสานอย่างแท้จริง

- อิงภูรีสอร์ท

เป็นอีกหนึ่งที่พักที่โดดเด่นด้วยวิวภูเขาสวย ๆ แบบพาโนรามา บรรยากาศร่มรื่นและอากาศบริสุทธิ์ ตกแต่งห้องพักแบบบังกะโลเล็ก ๆ ที่มีระเบียงส่วนตัว เหมาะสำหรับคู่รักหรือผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว 

นอกจากวิวที่งดงามแล้ว ที่นี่ยังมีสวนดอกไม้และพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่ช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลาย รีสอร์ทยังมีร้านอาหารในสถานที่ซึ่งเสิร์ฟเมนูอาหารท้องถิ่นและอาหารไทยรสชาติดี ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นแท้จริงและความสงบ 

อิงภูรีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุศรีสองรักประมาณ 12 นาทีโดยรถยนต์ ทำให้เดินทางสะดวกมากสำหรับคนที่อยากใช้เวลาช่วงเย็นพักผ่อนหลังสักการะพระธาตุ

- ภูผาน้ำ รีสอร์ท แอนด์ สปา

เน้นการบริการครบวงจรที่ผสมผสานความสงบของธรรมชาติกับความหรูหราแบบสมัยใหม่ ที่นี่มีสปาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและจิตใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมพลังหลังเดินทางไกล 

ห้องพักตกแต่งสวยงามในสไตล์โมเดิร์นผสมกับธรรมชาติ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งและสวนกว้างขวางให้เดินเล่น บรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัวที่อยากพักผ่อนอย่างเต็มที่ 

รีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุศรีสองรักประมาณ 15 นาทีด้วยรถยนต์ นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังมีบริการร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูหลากหลายให้เลือกสรร นับเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของนักท่องเที่ยวทุกประเภท

- ปั้นหยาการ์เด้นท์รีสอร์ท

เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กที่ให้ความรู้สึกเหมือนพักในบ้านของตัวเอง ที่นี่เน้นบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง มีต้นไม้เขียวชอุ่มและดอกไม้หลากสีที่ตกแต่งทั่วบริเวณ 

ห้องพักสะอาดและตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูน่ารัก มีบริการอาหารเช้าแบบไทยแท้ ที่พักเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบและความเป็นส่วนตัว

รีสอร์ทตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุศรีสองรักไม่เกิน 10 นาทีโดยรถยนต์ และยังเป็นจุดพักผ่อนที่ดีสำหรับผู้ที่อยากเที่ยวชมรอบ ๆ อำเภอด่านซ้ายโดยไม่ต้องเดินทางไกล

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ใกล้พระธาตุศรีสองรัก

1. วัดโพนชัย

วัดสำคัญของอำเภอด่านซ้าย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระธาตุศรีสองรัก ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและงานศิลปะพื้นถิ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการศึกษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอีสาน รวมถึงยังเป็นจุดศูนย์กลางทางศาสนาที่ชาวบ้านในพื้นที่มาร่วมทำบุญและประกอบพิธีกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

2. ถนนคนเดินด่านซ้าย

เป็นแหล่งช้อปปิ้งและสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาด ถนนสายนี้จะมีสินค้าพื้นเมืองทั้งงานหัตถกรรม เสื้อผ้า ของกินอร่อย และของที่ระลึกหลากหลายให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ยังได้ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งจัดขึ้นเป็นบางช่วงเวลา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเก็บบรรยากาศแบบดั้งเดิมของด่านซ้าย

3. ภูทับเบิก

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของภาคเหนือ - อีสาน ที่ไม่ไกลจากพระธาตุศรีสองรักมากนัก ภูทับเบิกขึ้นชื่อเรื่องวิวทะเลหมอกสุดอลังการและอากาศเย็นสบายตลอดปี เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้รักการถ่ายภาพ เพื่อเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือทะเลหมอกในยามเช้า

4. อุทยานแห่งชาติภูเรือ

อุทยานแห่งชาติชื่อดังในจังหวัดเลย ห่างจากพระธาตุศรีสองรักประมาณ 50 กิโลเมตร ภูเรือมีเส้นทางเดินป่า จุดชมวิวที่สวยงาม และอากาศหนาวเย็นตลอดปี นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักภูเรือ ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวเมืองเลยในมุมกว้างได้อย่างน่าประทับใจ

พระธาตุศรีสองรักไม่ได้เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างทางศาสนา แต่คือเสาหลักทางจิตวิญญาณที่ยืนหยัดท่ามกลางกาลเวลา เป็นตัวแทนของสันติภาพ ศรัทธา และความรักระหว่างผู้คน เมื่อเพื่อนๆ ได้ก้าวเข้าสู่บริเวณพระธาตุ จะสัมผัสได้ถึงความสงบร่มเย็นที่โอบล้อมหัวใจ การได้มากราบไหว้ไม่เพียงเป็นการสืบสานประเพณีเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางภายในเพื่อเชื่อมโยงกับความศรัทธาในจิตใจของตัวเองอีกด้วย หากเพื่อนๆ กำลังมองหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งงดงามทางประวัติศาสตร์ พระธาตุศรีสองรักคือจุดหมายที่เพื่อนๆ ควรมาเยือน Trip.com เชิญชวนเลยค่ะ