โรงแรมพร้อมอาหารเช้าในฮอกไกโด ญี่ปุ่น

โรงแรม Smile Hotel Premium Hakodate Goryokaku เป็นโรงแรมธุรกิจแบบญี่ปุ่นทั่วไป ดังนั้นแม้ว่ารูปถ่ายห้องพักอาจดูเหมือนว่าห้องพักกว้างขวางพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่นี่เป็นเพียงโรงแรมธุรกิจทั่วไปที่มีพื้นที่จำกัด แม้ว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับแขกหลายๆ คน แต่ถ้าคุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน ให้เตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์ที่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด เมื่อกล่าวเช่นนั้น ห้องพักค่อนข้างสะอาด และนอกเหนือจากรอยขีดข่วนบนผนังแล้ว ก็ดูค่อนข้างดี สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ เนื่องจากเป็นโรงแรมธุรกิจ ห้องน้ำจึงค่อนข้างเล็ก โดยอ่างล้างหน้าในห้องน้ำยื่นเข้าไปในบริเวณอ่างอาบน้ำและฝักบัว และเห็นได้ชัดว่าห้องน้ำได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ตัวเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกเหนือจากการเปลี่ยนผ้าเช็ดตัว จัดหารองเท้าแตะใหม่ และเติมชาและกาแฟแล้ว ก็ไม่มีการบริการห้องพักของฉันตลอดระยะเวลาที่ฉันเข้าพัก 3 คืน นี่เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อม ความรำคาญที่ใหญ่ที่สุดคือไม่มีเครื่องปรับอากาศให้บริการในช่วงเวลาที่ฉันเข้าพัก นี่เป็นนโยบายของโรงแรมในช่วงเวลานี้ของปีและฝ่ายบริหารคิดอย่างชัดเจนว่าแขกไม่มีสิทธิ์ควบคุมอุณหภูมิและดังนั้นจึงเพลิดเพลินไปกับระดับความสะดวกสบายในห้องพักของตน ด้วยเหตุนี้ในคืนแรกของฉันอุณหภูมิห้องจึงอยู่ที่ประมาณ 25 ° c (แม้ว่าฉันจะเปิดเครื่องปรับอากาศไม่ได้ แต่หน่วยควบคุมแสดงอุณหภูมิห้องจริง) ซึ่งเมื่อรวมกับความจริงที่ว่าเตียงมีผ้าห่มมาตรฐานอาร์กติก (หรือฟูก - ไม่ว่าคุณจะเรียกว่าอะไรก็ตาม) อุณหภูมิในห้องจึงไม่เอื้อต่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างสบาย เมื่อฉันสอบถามเรื่องนี้ในเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ”เปิดหน้าต่าง” ซึ่งแน่นอนว่าฉันพยายามทำในตอนกลางคืน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่จับสำหรับเปิดและปิดหน้าต่างจึงถูกถอดออกไป ทำให้ไม่สามารถเปิดหน้าต่างได้ เจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับเสนออย่างกรุณาไปที่ห้องของฉันและเปิดหน้าต่าง (สันนิษฐานว่าใช้เครื่องมือพิเศษ) เมื่อฉันออกจากห้องในวันนั้น ซึ่งเขาก็ทำ ความแตกต่างของอุณหภูมิห้องนั้นสังเกตได้ค่อนข้างชัดเจนเมื่อฉันกลับมาในเย็นวันนั้น แต่เหตุใดจึงมีนโยบายนี้ตั้งแต่แรก และความก้าวร้าวและทัศนคติของฝ่ายบริหารเกี่ยวกับความสะดวกสบายของแขกนั้นเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้ ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ WiFi ซึ่งไม่เสถียรและไม่น่าเชื่อถือบนชั้นของฉัน วิธีเดียวที่ฉันสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ใด ๆ ของฉันได้ (โทรศัพท์ 2 เครื่องและแท็บเล็ต 1 เครื่อง) คือไปที่ล็อบบี้ เชื่อมต่อแล้วจึงกลับห้องของฉัน เมื่อสร้างการเชื่อมต่อแล้ว ฉันสามารถเชื่อมต่อใหม่ได้ทุกครั้งที่ฉันกลับมาที่ห้อง อย่างไรก็ตาม ความแรงของสัญญาณ WiFi แตกต่างกันอย่างมากเมื่อทำการโทรโดยใช้แอปต่าง ๆ (เช่น WhatsApp, Line และ FB Messenger) ดังนั้นความเสถียรของการโทรจึงไม่น่าเชื่อถือโดยสายหลุดบ่อยครั้ง เมื่อฉันบอกเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับ พวกเขาเสนอที่จะรีเซ็ต WiFi บนชั้นของฉัน แต่ก็แทบไม่มีความแตกต่างใด ๆ เลย เรื่องต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น (เครื่องปรับอากาศและ WiFi) เป็นสิ่งที่ทุกคนในปัจจุบันมองข้ามและคาดหวังจากโรงแรมทั่วไป ดังนั้น การพบเจอปัญหาต่างๆ ที่ระบุไว้จึงบ่งบอกให้เห็นว่าฝ่ายจัดการของโรงแรมไม่ได้ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจหรือความสะดวกสบายของแขกมากนัก คุณสามารถสรุปได้ดังนี้จากรีวิวนี้ แต่จากมุมมองของฉันแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ฉันจะกลับมาพักที่โรงแรมนี้อีกเมื่อฉันกลับมาที่ฮาโกดาเตะอีกครั้ง

เข้าพักที่โรงแรมนี้เป็นครั้งที่สอง อยู่ตรงข้ามสถานี Asahikawa เลย เหมาะสำหรับคนที่เดินทางคนเดียวมากๆ ทำเลดีและปลอดภัย ห้องพักสะอาดโดยรวม ราคาสมเหตุสมผลและคุ้มค่า แนะนำเลย สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวใน Asahikawa หรือใช้ JR เดินทางไปที่อื่นจาก Asahikawa ข้อเสียเล็กน้อยคือตั้งใจจะพักยาวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ช่วงนั้นเป็นวันหยุดของญี่ปุ่น ราคาโรงแรมพุ่งขึ้นสามเท่าทันที 😭 เลยได้พักแค่ 2 คืน ถ้าเดินทางช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ

โรงแรมสะอาด บริการดีเยี่ยม แต่สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างเก่าและห้องพักเล็กไปหน่อย เดินจากสถานี Susukino ประมาณ 800 เมตร มี 7-Eleven อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ถือว่าทำเลดีเลยค่ะ

ห้องพักสะอาดมาก ไม่มีกลิ่นเหม็น พนักงานน่ารักและสุภาพ เราได้ห้องชั้นสูง เลยมองเห็นวิวทะเลฮาโกดาเตะและสถานี JR จากหน้าต่างได้ทุกวัน เดินไปโกดังอิฐแดงและถนนฮาจิมันก็ไม่ไกล ภูเขาฮาโกดาเตะก็ไม่เกิน 2.5 กม. ส่วนสวนโกะเรียวกาคุเดินทางด้วยรถก็สะดวก ขอแนะนำซุปเปอร์มาร์เก็ต MaxValu (หรือที่คนจีนเรียกว่า 若松超市) ที่อยู่ห่างจากโรงแรมแค่ 3 นาที เดินซื้อของก่อนกลับโรงแรมทุกวัน ฟินสุดๆ ไปเลย!

ทำเลที่ตั้งของโรงแรมถือว่าอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรเลยก็ว่าได้ ออกจากโรงแรมก็เจอสวนโอโดริที่เป็นพื้นที่สีเขียวทันที ครั้งแรกที่จองห้องแบบ Connecting Room (ซึ่งก็คือห้องพักสองห้องที่เชื่อมต่อกัน) ถือว่าดีมาก ห้องพักใหญ่และกว้างขวาง มีห้องน้ำแยกสองห้อง ทำให้การเข้าพักสามคนสะดวกสบายสุดๆ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ ทุกครั้งที่เดินเข้าห้องพักจะได้กลิ่นตัว ซึ่งสุดท้ายก็เดาว่าอาจจะเป็นกลิ่นที่พนักงานทำความสะอาดห้องทิ้งไว้ก็ได้ค่ะ

โรงแรมทำเลดี เดินจากสถานี JR ประมาณ 10 นาที ถ้าขึ้นทางออก 7 ของทางเดินใต้ดินจะใกล้ที่สุดและไม่ต้องข้ามถนน ใกล้ๆ มี Starbucks, McDonald's, Sukiya และร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง ถ้าเดินต่อไปอีกบล็อกก็จะเป็นร้าน Kani Honke ส่วนถ้าจะเดินไป Susukino ที่ Tanukikoji จะไกลหน่อย ประมาณ 15-20 นาที ห้องพักจัดวางแบบโรงแรมญี่ปุ่นทั่วไป ห้องเตียงคู่ค่อนข้างจะแคบถ้าจะเปิดกระเป๋าเดินทางพร้อมกัน 2 ใบ อย่าลืมเตรียมปลั๊กไฟมาด้วย เพราะช่องเสียบปลั๊กของโรงแรมไม่ใช่แบบ USB ห้องพักเป็นระบบปรับอากาศส่วนกลาง ในเดือนตุลาคมฮีทเตอร์อาจจะร้อนไปหน่อย แต่สามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ ราคาคืนละประมาณสี่ร้อยกว่าบาทถือว่าใช้ได้เลย ที่ชั้น 1 มีคอตตอนบัด แปรงสีฟัน กาแฟ และน้ำยาบ้วนปากให้หยิบเอง มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ และสามารถฝากกระเป๋าเดินทางได้ทั้งก่อนและหลังเช็คเอาท์

ชอบทุกอย่างที่นี่มีโอกาสจะกลับไปพักที่นี่แน่นอน ทำเลดี วิวสวย เสียดายวันที่ไปพักอากาศปิด บริการดีมาก ฟ้อนท์ให้ความช่วยเหลืออย่างดีทุกอย่าง อาหารเช้าดีมาก ออนเซนดี มาก ไม่ไกลจากร้านอาหาร ใกล้โรมแรมมี ร้่นชาบูอร่อยมากค่ะ

โรงแรมอยู่ชั้น 5 ของ Li Road พอเดินออกจากประตูหลังก็เจอเลยค่ะ จากซัปโปโร นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Susukino เดินไม่กี่นาทีก็ถึงค่ะ มีจุดขึ้นรถบัสไปสนามบินอยู่ใกล้ๆ ค่ารถ 1,300 เยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบิน ห้องพักถือว่าใหญ่มากสำหรับทำเลนี้ มีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ด้วย ถ้ามาทานอาหารเช้าตอนเช้าแล้วคนเยอะ ต้องรับบัตรคิวเพื่อรอคิวค่ะ ถ้าต้องขึ้นเครื่องบินไฟลต์เช้า ต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยนะคะ

โรงแรมเกินความคาดหมายมาก! ห้องพักแบบมาตรฐานสำหรับสามคนกว้างขวางและสะอาดมาก สุขอนามัยเต็มสิบ อุปกรณ์ทุกอย่างใหม่และใช้งานได้ดี พนักงานบริการอบอุ่นและใส่ใจ ตอบสนองรวดเร็ว ทำเลสะดวก ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร ประสบการณ์โดยรวมดีเยี่ยม ครั้งหน้ามาซัปโปโรก็จะเลือกพักที่นี่อีก!

ได้ยินชื่อเสียงของโรงแรมซัปโปโรพาร์คมานานแล้ว เป็นโรงแรม 5 ดาวเก่าแก่ที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง First Love ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ราคาไม่ถึง 600 บาทพร้อมอาหารเช้าสำหรับสองคน ถือว่าคุ้มค่ามาก ตอนเช็คอิน พนักงานต้อนรับยังพาไปส่งถึงห้องและแนะนำการใช้งานต่างๆ ในห้องให้ เนื่องจากเป็นโรงแรมเก่า เลยยังใช้กุญแจอยู่ ต้องฝากกุญแจไว้ที่ฟรอนต์เมื่อออกไปข้างนอก พนักงานทุกคนน่ารักและใส่ใจดีมาก อาหารเช้าก็หลากหลาย มีทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบตะวันตก แถมทำเลก็ดีมาก ออกจากโรงแรมก็ถึงสวนสาธารณะนะกะจิมะเลย ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินก็เชื่อมต่อกับโรงแรมโดยตรง บรรยากาศสวยงาม ข้อเสียอย่างเดียวคือสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมค่อนข้างเก่า และเก็บเสียงได้ไม่ค่อยดีนัก น่าเสียดายที่โรงแรมจะปิดตัวลงในปี 2027 แต่โดยรวมแล้วก็ยังแนะนำให้ทุกคนมาพักที่นี่นะครับ/คะ!