[ใหม่ล่าสุด] แพ็คเกจรหัสโปรโมชั่นของเดือนนี้
[รูปปั้นมังกรทอง] หรือที่เรียกว่า [รูปปั้นมังกรทอง] ตําแหน่งยังมีคําว่า “รูปปั้นมังกรนน” ตั้งตระหง่านอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ําไนล์และเขากษัตริย์ สองรูปบนพื้นดินระหว่างหุบเขากษัตริย์ เดิมรูปปั้นนี้สร้างขึ้นโดยสมัยอาณาจักรใหม่ อัมโมนฮอตป 3 สองรูปปั้นหินธรรมดาแต่ได้ยินตํานานเล่าขานเล่าขานเกี่ยวกับหินทั้งสององค์จะร้องเพลง ว่ากันว่ารูปปั้นจอมพลเมืองหนองทางด้านขวาจะมีเสียงอันเงียบสงบไร้ขอบเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน นักเดินทางหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า พวกเขาได้ยินเพลงเศร้าและสง่างามที่นี่และชาวกรีกโบราณเชื่อมโยงปรากฏการณ์กับเรื่องราวของการยึดเมืองเทรอรี่ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พบบ่อยมากเสียงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจากความร้อนจากความร้อนจากความร้อนในตอนเช้าจากแสงอาทิตย์แรกในตอนเช้าผ่านร่างกายของหินทําให้มันมีเสียงหินสีทอง นี้ทําให้เกิดปรากฏการณ์ของรูปปั้นหินร้องเพลง ชื่อของรูปปั้นเทพเจ้ามอญ มาจากตํานานกรีกโบราณ เมืองหนอง เป็นกษัตริย์ในตํานานกรีกที่ชนะสงครามเทโร แต่ถูกสังหารโดยคู่รักของราชินี ตามประวัติเล่าว่า สมัยโรมันเกิดแผ่นดินไหวที่นี่ทําให้รูปปั้นมีรอยแตกเมื่อใดก็ตามที่ลมพัด รูปปั้นยักษ์จะส่งเสียงเหมือนคนร้องไห้เหมือนร้องเพลงเศร้า ามเพราะพระวิหารหลังพระรูปถูกทําลายหมดจนคนไม่สามารถชื่นชมความหมายที่แท้จริงขององค์พระได้จึงตั้งชื่อรูปปั้นด้วย ม่อนหนอง เศร้าในตํานานกรีก แต่น่าเสียดายที่สมเด็จพระมหากษัตริย์โรมันผู้ใจดีได้สั่งให้ซ่อมแซมและรูปปั้นหินที่ทรุดโทรมจนพังทลายลง ตั้งแต่นั้นมา รูปปั้นเทพเจ้ามอญร้องไห้ไม่ร้องไห้อีกต่อไป ค่าเข้าชม : ฟรี แค่ข้างทาง เวลา: ไม่จํากัด ที่อยู่ : Al Bairat, Luxor Governorrate การจราจร: 3 กิโลเมตร เดิน 40 นาที ยังสามารถนั่งมอเตอร์ไซค์ได้ประมาณ 10-20 ปอนด์ ราคาไม่แพง แต่ทั้งหมดเป็นรถสีดําจะขึ้นราคาเมื่อขึ้นรถ
เพิ่มเติม
[รูปปั้นมังกรทอง] หรือที่เรียกว่า [รูปปั้นมังกรทอง] ตําแหน่งยังมีคําว่า “รูปปั้นมังกรนน” ตั้งตระหง่านอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ําไนล์และเขากษัตริย์ สองรูปบนพื้นดินระหว่างหุบเขากษัตริย์ เดิมรูปปั้นนี้สร้างขึ้นโดยสมัยอาณาจักรใหม่ อัมโมนฮอตป 3 สองรูปปั้นหินธรรมดาแต่ได้ยินตํานานเล่าขานเล่าขานเกี่ยวกับหินทั้งสององค์จะร้องเพลง ว่ากันว่ารูปปั้นจอมพลเมืองหนองทางด้านขวาจะมีเสียงอันเงียบสงบไร้ขอบเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน นักเดินทางหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า พวกเขาได้ยินเพลงเศร้าและสง่างามที่นี่และชาวกรีกโบราณเชื่อมโยงปรากฏการณ์กับเรื่องราวของการยึดเมืองเทรอรี่ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พบบ่อยมากเสียงเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจากความร้อนจากความร้อนจากความร้อนในตอนเช้าจากแสงอาทิตย์แรกในตอนเช้าผ่านร่างกายของหินทําให้มันมีเสียงหินสีทอง นี้ทําให้เกิดปรากฏการณ์ของรูปปั้นหินร้องเพลง ชื่อของรูปปั้นเทพเจ้ามอญ มาจากตํานานกรีกโบราณ เมืองหนอง เป็นกษัตริย์ในตํานานกรีกที่ชนะสงครามเทโร แต่ถูกสังหารโดยคู่รักของราชินี ตามประวัติเล่าว่า สมัยโรมันเกิดแผ่นดินไหวที่นี่ทําให้รูปปั้นมีรอยแตกเมื่อใดก็ตามที่ลมพัด รูปปั้นยักษ์จะส่งเสียงเหมือนคนร้องไห้เหมือนร้องเพลงเศร้า ามเพราะพระวิหารหลังพระรูปถูกทําลายหมดจนคนไม่สามารถชื่นชมความหมายที่แท้จริงขององค์พระได้จึงตั้งชื่อรูปปั้นด้วย ม่อนหนอง เศร้าในตํานานกรีก แต่น่าเสียดายที่สมเด็จพระมหากษัตริย์โรมันผู้ใจดีได้สั่งให้ซ่อมแซมและรูปปั้นหินที่ทรุดโทรมจนพังทลายลง ตั้งแต่นั้นมา รูปปั้นเทพเจ้ามอญร้องไห้ไม่ร้องไห้อีกต่อไป ค่าเข้าชม : ฟรี แค่ข้างทาง เวลา: ไม่จํากัด ที่อยู่ : Al Bairat, Luxor Governorrate การจราจร: 3 กิโลเมตร เดิน 40 นาที ยังสามารถนั่งมอเตอร์ไซค์ได้ประมาณ 10-20 ปอนด์ ราคาไม่แพง แต่ทั้งหมดเป็นรถสีดําจะขึ้นราคาเมื่อขึ้นรถ
รูปปั้นของกษัตริย์หลายองค์ นั่งทั้งตัว ตัวเป็นหินยักษ์ หน้าหัก แม้กระทั่งจมเข้าไปเล็กน้อย ดูตลกๆ วางไว้บนสนามหญ้า เงียบๆ เข้าชมฟรี
ม่อนหนองยักษ์เป็นรูปปั้นหินขนาดใหญ่สององค์ที่ยืนอยู่ระหว่างฝั่งตะวันตกของแม่น้ําไนล์และหุบเขากษัตริย์ เดิมเป็นรูปปั้นหน้าวัดฟาโรห์ “อามณฑป (AMENHOTOP) III” แต่ตัววัดเองก็ไม่มีร่องรอย
มณนงยักษ์เป็นรูปปั้นหินขนาดใหญ่สององค์ที่ยืนอยู่ระหว่างฝั่งตะวันตกของแม่น้ําไนล์และหุบเขากษัตริย์ เดิมเป็นรูปปั้นหน้าศาลเจ้าฟาโรห์ “อมินฮฺ ๓” แต่ตัววัดนั้นไม่มีร่องรอย
Monon is two rock giants standing in the wilderness between the West Bank of the Nile and the Valley of the King. The tour guides usually only give five minutes to see the scenic spot with group tours, that is, the time for taking photos. I've seen Mennong Colossus in books before. It's said how tall it is, so I've been looking forward to seeing it. In fact, I only found out when I arrived at the scenic spot that the two giant portraits of Mennong were not very big, and because the two giant portraits were placed outdoors, the weathering was very serious. I could only see the faces of the two giant portraits roughly, but the rest of the details were really not visible. Now these two giant statues have become the nests of pigeons, a large number of pigeons come out early and return late, resulting in the giant statue can not see any details. This scenic spot is completely free. On the other hand, it was said that at night, with the wind and sand, the crying of the giant statue could be heard faintly, so the scenic spot was also called the "crying Mennong Colossus".
ระหว่างทางไปหุบเขาจักรพรรดิจะได้เห็นรูปปั้นหินขนาดใหญ่สององค์ ได้แก่ รูปปั้นแม่ม่อน ยืนอยู่ริมถนนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ยักษ์ทั้งสององค์เป็นรูปปั้นของชาวฟาโรห์อัมโมนโฮเทปที่ 3 และยังเป็นพระธาตุที่เก็บรักษาไว้เพียงแห่งเดียวในวัดศพของอัมโมนโฮเทปที่ 3 รูปปั้นสูง 20 เมตร เท้ายาว 2 เมตร หนา 1 เมตร รูปปั้นนั่งทั้งสองได้ถูกลมพัดแรงมาก หน้าไม่อาจโต้แย้ง แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่า โดยรวมคือ ฟาโรห์นั่งบนบัลลังก์ มือแบนบนขา สององค์นั่ง เหมือนยังมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ด้านซ้ายแกะสลักเป็นหินทั้งก้อน และด้านขวาทําด้วยหิน จุดชมวิวนี้เปิดให้เข้าชมฟรี
ตั้งอยู่ในเมืองหลวงเก่าของอียิปต์ลักซอร์ มีวัดมากมายรอบๆ