มันเป็นโรงแรมที่แย่ที่สุด
ฉันอยู่ที่นั่นเพราะมันเป็นสถานที่สำหรับ Pretty Woman แต่ฉันไม่มีอะไรนอกจากข้อตำหนิ เดินทางมาโดย UBER จากฝั่งถนน
พนักงานยกกระเป๋าอยู่ที่นั่น แต่เขาก็ไม่ช่วยฉันเอากระเป๋าเดินทางออกจากรถด้วยซ้ำ
แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันเช็คอินหลัง 16.00 น. แต่ได้รับแจ้งว่าห้องเตียงแฝดที่ฉันจองไว้ไม่ว่าง เมื่อฉันบ่นฉันถูกขอให้รอ 20 นาที ฉันก็เลยเดินไปที่แผนกต้อนรับอย่างไม่เต็มใจ
ฉันตัดสินใจไปรอบนโซฟาข้างๆ เขา แต่ผ่านไป 30 นาทีแล้ว เขาก็ยังไม่มาบอกฉันว่ามีห้องว่าง เมื่อฉันถามแผนกต้อนรับว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาบอกว่าลืมไปแล้ว และพวกเขาไม่ได้แสดงอาการเสียใจเลยแม้แต่น้อย เราดื่มชาที่ร้านอาหารมีสไตล์บนชั้น 1 พร้อมชมวิวด้านนอก แต่เมื่อเราขอบิลจากพนักงาน เขาไม่ขยับเลย ขนาดฉันถามบริกร เขาก็ยังไม่ขยับ และผ่านไป 20 นาที คนที่สี่ก็จ่ายเงินในที่สุด แม้ว่าฉันจะพักที่โรงแรมสุดหรู แต่ฉันก็ได้รับการปฏิบัติที่แย่ที่สุด ที่แย่กว่านั้นคือสหภาพโรงแรมนัดหยุดงาน และตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึงเที่ยงวัน พวกเขาถือป้ายและสวดมนต์ตามทางเดินของโรงแรม มีเสียงดังและฉันไม่สามารถผ่อนคลายได้
ในห้องมีกระดาษแผ่นหนึ่งประกาศว่าการนัดหยุดงานจะทำให้เกิดปัญหาและที่อุดหู การนัดหยุดงานดูเหมือนจะไม่แสดงสัญญาณของการสิ้นสุด หากเราทราบเรื่องการนัดหยุดงาน เราควรแจ้งให้พวกเขาทราบก่อนเข้าพัก และเราจะยกเลิกการนัดหยุดงาน มันเป็นทริปที่แย่ที่สุดแม้ว่าฉันจะจ่ายราคาสูงก็ตาม ฉันรู้สึกว่าเห็นได้ชัดว่าฉันถูกเหยียดเชื้อชาติโดยพนักงานโรงแรม รวมถึงแผนกต้อนรับ พนักงานยกกระเป๋า และพนักงานเสิร์ฟ พวกเขาปฏิบัติต่อลูกค้าผิวขาวอย่างเป็นมิตร
ฉันเข้าใจได้ว่าทำไมพนักงานที่ทำงานในโรงแรมแบบนี้ถึงอยากหยุดงานประท้วง
ข้อความเดิมแปลโดย Google