ช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงน้ำลด สามารถ นั่งเรือไปจอดใกล้โบสถ์ แล้วเดินเข้าไปชมข้างในได้.
[ใหม่ล่าสุด] แพ็คเกจรหัสโปรโมชั่นของเดือนนี้
นั่งรถไปชทวัดแต่ละที่ได้บรรยากาศดีมาก แต่ละวัดจะมีเอกลักษณ์ของแต่ละวัน จะมีทั้งหมด3 วัน แต่คือประทับใจทุกวัดเลย
ภายในอ่างเก็บน้ําเขาเลื่อม เมืองสองกะลาบุรี กาญจนบุรี ประเทศไทย มีวัดน้ําจมน้ํา ชื่อว่า วัดวาไดรุ้งใต้น้ํา แปลตรงว่าวัดอยู่ใต้น้ํา เหมือนตํานานลึกลับที่ลอยอยู่เฉพาะฤดูกาลปัจจุบันเท่านั้น วันนี้เรานั่งเรือไปวัดน้ําท่วมและไปอ่างเก็บน้ําด้วยกันเปิดม่านลึกลับ เรือค่อยๆ เดินไปลึกๆ อ่างเก็บน้ํา สองข้างทางเป็นภูเขาสูง ๆ ลงๆ ลงๆ และบ้านพักชาวมอญแบบดั้งเดิม หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นวัดน้ํา เรือค่อยๆ จอดฝั่งวัดน้ําท่วม เราเริ่มขึ้นวัดน้ําท่วม หากจะย้อนกลับไปถึงประวัติวัดน้ําจมแล้วต้องย้อนกลับไปเมื่อ 66 ปีก่อน ตอนนั้นชื่อเมืองป่าตอง เมืองนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่ชาวมอญที่หนีจากพม่ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ในปี 1949 ต่อมาได้สร้างเจดีย์ทอง วัดมอญซึ่งเป็นวัดที่เคารพนับถือมากที่สุดในสมัยนั้น ต่อมา ๒๘ ปี ทาง สํานักไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ได้มีการเก็บน้ําเพื่อสร้างเขื่อนเขาแหลม เพื่อเก็บน้ํา บริเวณวัดจึงกลายเป็นสระน้ําขนาดใหญ่ที่เก็บน้ําไว้ด้านหลังเขื่อน ชาวมอญที่อาศัยอยู่ที่นี่ต้องย้ายไปขึ้นเขาใกล้สะพานมอญ สุดท้ายเหลือหมู่บ้านร้างและซากปรักหักพังของวัด โบราณสถานของวัดที่เห็นในปัจจุบันคือ อดีตวัดเจดีย์ทองคําที่ชาวมอญทิ้งไว้เมื่อสามสิบแปดปีก่อน ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกปี จะเป็นช่วงน้ําขึ้นเขื่อน ในเวลานี้วัดนอนอยู่ในน้ํา เผยให้เห็นความสูงเพียงหนึ่งหรือสองเมตรเท่านั้น ช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกปี เป็นช่วงน้ําค้างของเขื่อนทั้งวัดเผยให้เห็นบนเกาะ บนเกาะมีหญ้าเขียวขจี มีชีวิตชีวา เข้าไปในวัดเห็นพระอุโบสถที่ขาดแคลน หลังคาพัง ผนังทรุดโทรม พระพุทธรูปแกะสลักชาวมอญ 2500 องค์ ได้รับการกัดเซาะจากน้ําจนหมด เผยให้เห็นความงดงามอันน่าร้าง ท่ามกลางความรกร้าง งเขียวขจี ด้านนอกของวัด ศาลา ประตูหิน เสาหิน ตั้งตระหง่าน พร้อมกับน้ําจม รักษาฐานของวัด เมืองป่าตองที่พลุกพล่านในอดีตได้กลายเป็นเมืองโบราณป่าตองในปัจจุบัน มีความผันผวนมากขึ้น วัดที่เคยจมน้ําอันรุ่งโรจน์ ปัจจุบันส่วนใหญ่ของปีจะนอนอยู่ในน้ําและปรากฏขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเพิ่มคุณค่าทางมนุษยธรรมและเสน่ห์เล็กน้อยให้กับวัดน้ําท่วม
ช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงน้ำลด สามารถ นั่งเรือไปจอดใกล้โบสถ์ แล้วเดินเข้าไปชมข้างในได้.
นั่งรถไปชทวัดแต่ละที่ได้บรรยากาศดีมาก แต่ละวัดจะมีเอกลักษณ์ของแต่ละวัน จะมีทั้งหมด3 วัน แต่คือประทับใจทุกวัดเลย
ภายในอ่างเก็บน้ําเขาเลื่อม เมืองสองกะลาบุรี กาญจนบุรี ประเทศไทย มีวัดน้ําจมน้ํา ชื่อว่า วัดวาไดรุ้งใต้น้ํา แปลตรงว่าวัดอยู่ใต้น้ํา เหมือนตํานานลึกลับที่ลอยอยู่เฉพาะฤดูกาลปัจจุบันเท่านั้น วันนี้เรานั่งเรือไปวัดน้ําท่วมและไปอ่างเก็บน้ําด้วยกันเปิดม่านลึกลับ เรือค่อยๆ เดินไปลึกๆ อ่างเก็บน้ํา สองข้างทางเป็นภูเขาสูง ๆ ลงๆ ลงๆ และบ้านพักชาวมอญแบบดั้งเดิม หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นวัดน้ํา เรือค่อยๆ จอดฝั่งวัดน้ําท่วม เราเริ่มขึ้นวัดน้ําท่วม หากจะย้อนกลับไปถึงประวัติวัดน้ําจมแล้วต้องย้อนกลับไปเมื่อ 66 ปีก่อน ตอนนั้นชื่อเมืองป่าตอง เมืองนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่ชาวมอญที่หนีจากพม่ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ในปี 1949 ต่อมาได้สร้างเจดีย์ทอง วัดมอญซึ่งเป็นวัดที่เคารพนับถือมากที่สุดในสมัยนั้น ต่อมา ๒๘ ปี ทาง สํานักไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ได้มีการเก็บน้ําเพื่อสร้างเขื่อนเขาแหลม เพื่อเก็บน้ํา บริเวณวัดจึงกลายเป็นสระน้ําขนาดใหญ่ที่เก็บน้ําไว้ด้านหลังเขื่อน ชาวมอญที่อาศัยอยู่ที่นี่ต้องย้ายไปขึ้นเขาใกล้สะพานมอญ สุดท้ายเหลือหมู่บ้านร้างและซากปรักหักพังของวัด โบราณสถานของวัดที่เห็นในปัจจุบันคือ อดีตวัดเจดีย์ทองคําที่ชาวมอญทิ้งไว้เมื่อสามสิบแปดปีก่อน ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกปี จะเป็นช่วงน้ําขึ้นเขื่อน ในเวลานี้วัดนอนอยู่ในน้ํา เผยให้เห็นความสูงเพียงหนึ่งหรือสองเมตรเท่านั้น ช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกปี เป็นช่วงน้ําค้างของเขื่อนทั้งวัดเผยให้เห็นบนเกาะ บนเกาะมีหญ้าเขียวขจี มีชีวิตชีวา เข้าไปในวัดเห็นพระอุโบสถที่ขาดแคลน หลังคาพัง ผนังทรุดโทรม พระพุทธรูปแกะสลักชาวมอญ 2500 องค์ ได้รับการกัดเซาะจากน้ําจนหมด เผยให้เห็นความงดงามอันน่าร้าง ท่ามกลางความรกร้าง งเขียวขจี ด้านนอกของวัด ศาลา ประตูหิน เสาหิน ตั้งตระหง่าน พร้อมกับน้ําจม รักษาฐานของวัด เมืองป่าตองที่พลุกพล่านในอดีตได้กลายเป็นเมืองโบราณป่าตองในปัจจุบัน มีความผันผวนมากขึ้น วัดที่เคยจมน้ําอันรุ่งโรจน์ ปัจจุบันส่วนใหญ่ของปีจะนอนอยู่ในน้ําและปรากฏขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเพิ่มคุณค่าทางมนุษยธรรมและเสน่ห์เล็กน้อยให้กับวัดน้ําท่วม