SEE SEA SON - พันท้ายนรสิงห์
ร้านกาแฟริมน้ำ ย่านพันท้าย ชิวมาก บรรยากาศเต็ม100 เลยทีเดียวค่ะ อาหารมีทั้งคาวและหวาน โดนเฉพาะเค้ก มีหลากหลาย อร่อยมากด้วยค่ะ มีมุมส่วนตัว และมุมชิว มีมุมถ่ายรูปอารมณ์เหมือนอยู่ริมทะเลค่ะ ถ้าไปแนะนำให้ไปช่วงร้านเปิด และช่วงเย็น จะเห็นตะวันตกดิน สวยมากเลยค่ะ ร้านเปิด 10.00-19.00 น. รีบไปนั่งชิวกันนะคะ ชิวเสร็จแวะไหว้พระต่อได้เลย ได้บุญและได้อิ่มท้องไปในเวลาเดียวกันค่ะ#ชีวิตติดคาเฟ่
อนุสรณ์แห่งความดีและความซื่อสัตย์ ของพันท้ายนรสิงห์ ที่ผู้คนมักมากราบไหว้ขอพร และเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของไทย
เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ พันท้ายนรสิงห์” นายท้ายเรือของสมเด็จพระเจ้าเสือ ซึ่งมี “ศาลพันท้ายนรสิงห์” เป็นที่สักการบูชามาของประชาชนนิยมมาบ่นบานเรื่องต่างๆค่ะ
จงทำในสิ่งที่ดีและมีความสุขกับสิ่งนั้นเข้าวัดทำบุญสะสมบุญ🙏🙏
สวยสถานที่
เป็นสถานที่สักการะพันท้ายนรสิงห์ซึ่งเป็นบุคคลในประวิติศาสตร์ประเทศไทย ภายในบริเวณศาล มีสิ่งศักดื์สิทธืให้สัการะบูชา ภายในสถานที่จะพบว่ามีการแก้บนด้วยรูปปั้นไก่เป็นจำนวนมาก สถานที่สวยงามคับประวัติพันท้ายนรสิงห์ (วิกิพีเดีย)พันท้ายนรสิงห์ มีชื่อเดิมว่า "สิน" เป็นชาวบ้านนรสิงห์ แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ (ปัจจุบัน คือ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง) มีภรรยาชื่อ "นวล" หรือ "ศรีนวล" ได้รู้จักกับพระเจ้าเสือด้วยการแข่งขันชกมวยไทยกัน เมื่อพระองค์แปลงองค์มาเป็นชาวบ้านธรรมดาและทรงโปรดในอุปนิสัยใจคอ ต่อมาได้กลายมาเป็นนายท้ายเรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือ ในบรรดาศักดิ์ พันเมื่อครั้งที่พระเจ้าเสือ เสด็จโดยเรือพระที่นั่งเอกไชย ประพาสเพื่อทรงเบ็ด ณ ปากน้ำเมืองสาครบุรี เมื่อเรือพระที่นั่งถึง"ตำบลโคกขาม"ซึ่งเป็นคลองคดเคี้ยวและมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก พันท้ายนรสิงห์ซึ่งถือท้ายเรือพระที่นั่งมิสามารถคัดแก้ไขได้ทัน โขนเรือพระที่นั่งกระทบกับกิ่งไม้หักตกลงไปในน้ำ พันท้ายนรสิงห์จึงได้กระโดดขึ้นฝั่งแล้วกราบทูลให้ทรงลงพระอาญาตามพระกำหนดถึงสามครั้งด้วยกัน เนื่องจากในครั้งแรก พระเจ้าเสือพระราชทานอภัยโทษ เพราะเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย ครั้งที่สองก็รับสั่งให้สร้างรูปปั้นปลอมแล้วตัดหัวรูปปั้นนั้นแทน แต่ท้ายสุดก็ได้ตรัสสั่งให้ประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ตามคำขอ ในเวลาเช้าตรู่ ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 พ.ศ. 2247 แล้วสร้างศาลไม้ขนาดเล็ก ลักษณะเป็นศาลไม้ในสมัยปัจจุบัน หลังคามุงกระเบื้องดินเผาหางมน พื้นศาลเป็นไม้ยกชั้น 2 ชั้น มีเสารองรับ 6 เสา พร้อมกับศีรษะของพันท้ายนรสิงห์และโขนเรือเอกไชยขึ้นตั้งไว้บูชาพร้อมกัน[2]ภายหลังพระเจ้าเสือได้ทรงให้พระยาราชสงคราม คุมไพร่พลจำนวน 3,000 คน ทำการขุดคลองลัดคลองโคกขามที่คดเคี้ยว ไปออกที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน กว้าง 5 วา ลึก 6 ศอก สร้างเสร็จในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พ.ศ. 2252 ได้พระราชทานนามคลองนี้ว่า"คลองสนามไชย"ต่อมาเรียกเป็นคลองมหาชัย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองมหาชัย แต่ชาวบ้านเรียกว่า"คลองถ่าน" ปัจจุบันชาวบ้านฝั่งธนบุรี เรียกชื่อว่า "คลองด่าน"
พันท้ายนรสิงห์ นั้นเป็นนายท้ายเรือพระที่นั่งเอกไชยอยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเสือ ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต วันหนึ่งสมเด็จพระเจ้าเสือประพาสปากน้ำสาครบุรีเพื่อทรงเบ็ด ด้วยเรือพระที่นั่งเอกไชยมีพันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้าย