เชียงราย ดินแดนเหนือสุดแห่งสยามที่ถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า บ้านแห่งขุนเขาเขียวขจีที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนทะเลหมอก วัดร่องขุ่นและพิพิธภัณฑ์บ้านดำบอกเล่าวัฒนธรรมผ่านศิลปะ วิถีชีวิตของชาวเชียงรายเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ ถักทอเสน่ห์ที่ยากจะลืนเลือนของเชียงราย พร้อมหรือยังที่จะไปแอ่วเจียงฮาย
ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (CEI) สามารถเดินทางเข้าตัวเมืองโดยใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ หรือ Grab/Bolt หากต้องการความสะดวกสามารถเช่ารถได้ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย มีทั้งหมด 2 แห่งหลัก ได้แก่ สถานีแห่งที่ 1 (บขส.เก่า) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และสถานีแห่งที่ 2 (บขส.ใหม่) ตั้งห่างจากตัวเมือง 7 กม. รถสองแถวสีฟ้าจะเชื่อมต่อสถานีขนส่งทั้งสองแห่งเข้ากับพื้นที่ในเมือง แต่รถสองแถวจะมีให้บริการถึง 17.00 น. เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก หรือ Grab/Bolt ได้เช่นกัน
ฤดูหนาว (ต.ค.–ก.พ.): อากาศหนาวเย็นและแห้ง โดยเดือนมกราคมจะหนาวที่สุด เหมาะกับการสัมผัสอากาศหนาว ชมดอกไม้ และดูทะเลหมอก เทศกาลหลักคือเทศกาลยี่เป็งในเดือนพฤศจิกายน แสงโคมลอยช่วยสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก ส่วนประมาณปลายมีมักจะงานเทศกาลดอกไม้ต่างๆ งานสีสันดอยตุง งานเทศกาลดนตรี FARM FEST ON THE HILL ที่สิงห์ปาร์ค งาน 10 ชาติพันธุ์แม่สาย เป็นต้น ฤดูร้อน (มี.ค.–พ.ค.): อากาศร้อนอบอ้าวถึง 35 °C เดือนเมษายนร้อนที่สุดในรอบปี เหมาะกับการพักผ่อนในพิพิธภัณฑ์ ช่วงเมษายนมีเทศกาลสงกรานต์ที่เฉลิมฉลองในฉบับล้านนา ฤดูฝน (มิ.ย.–ต.ค.): อากาศชุ่มชื้น และมีฝนตกชุกตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม โดยจะตกหนักที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม ภูมิประเทศช่วงนี้เขียวชอุ่มเหมาะกับการชมธรรมชาติ อากาศสบายๆ และนักท่องเที่ยวไม่เยอะเกินไป กิจกรรมแนะนำช่วงนี้คือการแนวฟื้นฟูสุขภาพอย่างโยคะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ช่วงนี้มีประเพณีโล้ชิงช้าของชาวอาข่า โดยจะจัดช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนของทุกปี
ชาวเชียงรายส่วนใหญ่พูดและเข้าใจภาษาไทยกลาง แต่คนท้องถิ่นส่วนมากจะสื่อสารกันด้วยภาษาถิ่นภาคเหนือ ซึ่งมีจังหวะการพูด สำเนียง และคำศัพท์เฉพาะบางคำที่แตกต่างจากภาษาไทยกลาง







