วัดสว่างอารมณ์ อยู่ที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แก่การกราบไหว้สักการะขอพร
[ใหม่ล่าสุด] แพ็คเกจรหัสโปรโมชั่นของเดือนนี้
วัดสว่างอามรณ์ ถ้ำศรีธน สวยงามมากเลย น่าไปมาก
วัดสว่างอารมณ์เป็นวัดที่สวยมีสีทองอร่าม สวยมากในความคิดของฉัน ไปทำบุญที่วัดนี้กันเยอะๆนะคะ เป็นวัดที่สวยและร่มรื่นมากๆ
วัดถ้ำศรีธน หรือ วัดสว่างอารมณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ โดยวัดตั้งอยู่บริเวณลานหินเนินเขา ร่มรื่นด้วยต้นไม้และลำธารเล็กๆไหลผ่าน บริเวณใต้โขดหินใหญ่ประดิษฐานพระนอนให้ผู้คนสักการะบูชา บนโขดหินมีอุโบสถ ทรงระฆังคว่ำ หากขึ้นไปถึงด้านบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลจนถึงฝั่งลาวตามข้อสันนิฐานเล่าสืบกันต่อมาว่า ท้าวศรีธน เป็นโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์แห่งเมือง ปัญจานคร ต่อมาเรียกว่าเมืองเปงจานนคร (ปัจจุบันบ้านเปงจาน อยู่ห่างจากถ้ำศรีธนประมาณ 10 กิโลเมตร)ท้าวศรีธนได้ติดตามหานางมโนราห์ซึ่งเป็นมเหสีผ่านมาถึงถ้ำฤาษีกัสสปะ พระองค์รำพึงว่า “เรามีความชำนาญ แต่ด้านยิงธนูควรที่จะเรียนวิชาอาคมอื่นเพิ่มเติมเผื่อได้ใช้ในคราวจำเป็น” ท้าวศรีธนจึงได้หยุดเรียน ณ สถานที่ แห่งนี้กับพระฤาษีกัสสปะหลังจากเรียนอาคมจบ พระองค์ก็อยากทดลองอาคมดู จึงเดินล้อมไปหลังถ้ำ เลือกก้อนหินก้อนหนึ่งเป็นเครื่องมือทดลอง จากนั้นพระองค์ ได้ใช้มนต์อาคมที่เรียนมาเสกเป่าใส่ดาบ เมื่อท่องมนต์จบก็เงื้อดาบฟันลงบนก้อนหินถึงสามครั้ง ทำให้เกิดเสียงดังสะนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาณาบริเวณ ถึงสามครั้ง ผลปรากฏว่า หินก้อนนั้นขาดออกเป็นสามท่อนเป็นน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
วัดสว่างอารมณ์ อยู่ที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แก่การกราบไหว้สักการะขอพร
วัดสว่างอามรณ์ ถ้ำศรีธน สวยงามมากเลย น่าไปมาก
วัดสว่างอารมณ์เป็นวัดที่สวยมีสีทองอร่าม สวยมากในความคิดของฉัน ไปทำบุญที่วัดนี้กันเยอะๆนะคะ เป็นวัดที่สวยและร่มรื่นมากๆ
วัดถ้ำศรีธน หรือ วัดสว่างอารมณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ โดยวัดตั้งอยู่บริเวณลานหินเนินเขา ร่มรื่นด้วยต้นไม้และลำธารเล็กๆไหลผ่าน บริเวณใต้โขดหินใหญ่ประดิษฐานพระนอนให้ผู้คนสักการะบูชา บนโขดหินมีอุโบสถ ทรงระฆังคว่ำ หากขึ้นไปถึงด้านบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลจนถึงฝั่งลาวตามข้อสันนิฐานเล่าสืบกันต่อมาว่า ท้าวศรีธน เป็นโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์แห่งเมือง ปัญจานคร ต่อมาเรียกว่าเมืองเปงจานนคร (ปัจจุบันบ้านเปงจาน อยู่ห่างจากถ้ำศรีธนประมาณ 10 กิโลเมตร)ท้าวศรีธนได้ติดตามหานางมโนราห์ซึ่งเป็นมเหสีผ่านมาถึงถ้ำฤาษีกัสสปะ พระองค์รำพึงว่า “เรามีความชำนาญ แต่ด้านยิงธนูควรที่จะเรียนวิชาอาคมอื่นเพิ่มเติมเผื่อได้ใช้ในคราวจำเป็น” ท้าวศรีธนจึงได้หยุดเรียน ณ สถานที่ แห่งนี้กับพระฤาษีกัสสปะหลังจากเรียนอาคมจบ พระองค์ก็อยากทดลองอาคมดู จึงเดินล้อมไปหลังถ้ำ เลือกก้อนหินก้อนหนึ่งเป็นเครื่องมือทดลอง จากนั้นพระองค์ ได้ใช้มนต์อาคมที่เรียนมาเสกเป่าใส่ดาบ เมื่อท่องมนต์จบก็เงื้อดาบฟันลงบนก้อนหินถึงสามครั้ง ทำให้เกิดเสียงดังสะนั่นหวั่นไหวไปทั่วอาณาบริเวณ ถึงสามครั้ง ผลปรากฏว่า หินก้อนนั้นขาดออกเป็นสามท่อนเป็นน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก