สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์เป็นอัญมณีที่แท้จริงและเป็นสถานที่ที่ทุกคนในเมืองต้องไปเยือน มรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 82 เฮกตาร์ นําเสนอความสวยงามของความเขียวขจี พืชพรรณที่มีชีวิตชีวา และภูมิทัศน์อันเงียบสงบ เมื่อคุณเข้าไปในสวน คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยพื้นที่หลากหลายธีม รวมถึงสวนกล้วยไม้แห่งชาติอันเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งจัดแสดงคอลเล็กชั่นที่น่าประทับใจกว่า 1,000 สายพันธุ์และกล้วยไม้ผสม 2,000 ชนิด สีสันสดใสและรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของดอกไม้นั้นเรียบง่าย
สวนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์อันงดงามของสิงคโปร์
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งคือสวนกล้วยไม้แห่งชาติ ซึ่งจัดแสดงกล้วยไม้ที่น่าประทับใจมากมายซึ่งมีพืชหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 60,000 ชนิด นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใครท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามได้ที่ร้านอาหารในสวน
▲ ผ่อนคลายท่ามกลางอ้อมกอดของพืชพรรณนานาชนิด
▲ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและค้นพบความลึกลับของอาณาจักรพืช
▲ เดินเล่นในสวนกล้วยไม้ที่สวยงามและสำรวจกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์
สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์เป็นอัญมณีที่แท้จริงและเป็นสถานที่ที่ทุกคนในเมืองต้องไปเยือน มรดกโลกขององค์การยูเนสโกแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 82 เฮกตาร์ นําเสนอความสวยงามของความเขียวขจี พืชพรรณที่มีชีวิตชีวา และภูมิทัศน์อันเงียบสงบ เมื่อคุณเข้าไปในสวน คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยพื้นที่หลากหลายธีม รวมถึงสวนกล้วยไม้แห่งชาติอันเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งจัดแสดงคอลเล็กชั่นที่น่าประทับใจกว่า 1,000 สายพันธุ์และกล้วยไม้ผสม 2,000 ชนิด สีสันสดใสและรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของดอกไม้นั้นเรียบง่าย
สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์เป็นจุดที่เหมาะสําหรับการเดินเล่นสบาย ๆ ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ว่าคุณจะชื่นชมกล้วยไม้ เดินเล่นริมทะเลสาบ หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศอันเงียบสงบ ก็เป็นการหลบหนีจากเมืองได้อย่างดีเยี่ยม ต้องไปให้ได้หากคุณต้องการพักผ่อนและเชื่อมต่อกับธรรมชาติในใจกลางสิงคโปร์
สถานที่ที่สวยงามและผ่อนคลาย เดินในตอนเช้าและบ่ายเป็นกิจกรรมที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ดีในการสนุกสนานและปิกนิกสําหรับครอบครัว
สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1822 โดยท่านเซอร์ Stamford Raffles นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ เพื่อเป็นสวนทดลองทางด้านพฤกษศาสตร์ โดยเฉพาะพืชมีค่าทางเศรษฐกิจ บนพื้นที่ Government Hill (Fort Canning Hill) อย่างไรก็ตามสวนฯ ได้ปิดตัวลงหลังจากการเสียชีวิตของท่านเซอร์ ต่อมาสวนได้กลายเป็นแหล่งการแสดงพรรณไม้ จนถึงในปี ค.ศ. 1888 Henry Nicholas Ridley เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการการพัฒนาสวนเป็นในรูปแบบสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่ง Ridley เองเป็นผู้นำเอายางพารามาปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก และประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์และสามารถเจาะน้ำยางได้ รูปแบบของสวนในปัจจุบันจริงๆ ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1859 โดยสมาคมพืชสวน (Agric Horticultural Society) ของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษ ต่อมาสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์เริ่มมีชื่อเสียงเรื่องการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ โดยเฉพาะช่วงปี ค.ศ. 1925-1949 ภายใต้ผู้อำนวยการสวน Professor Eric Holttum และได้ตั้ง National Orchid Garden ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีการผสมพันธุ์กล้วยไม้ Vanda Miss Joaquim ซึ่งกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติของสิงคโปร์ (the national flower of Singapore) อย่างไรก็ตาม สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ได้ตกอยู่ในความดูแลของญี่ปุ่น สั้นๆ ช่วงสงครามโลกระหว่างปี ค.ศ. 1942 to 1945 หลังสงครามสวนกลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของอังกฤษ
ความงามของสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีพืชเมืองร้อนต่างๆ สวนกล้วยไม้ และทะเลสาบ อุทยานแห่งนี้ให้บรรยากาศที่สงบและเงียบสงบกลางเมือง
สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้คือบทพิสูจน์ความมีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในแง่การเป็นเมืองในสวน โดยสวนแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก โดยนับเป็นสวนแห่งแรกของประเทศ และยังได้ครองตำแหน่งร่วมในการเป็นสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ เช่นเดียวกับนครวัดของกัมพูชา และกำแพงเมืองจีนสวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1859 โดยสมาคมเกษตรพืชสวน บนพื้นที่ 60 เอเคอร์และได้รับการแปลงโฉมจากพื้นที่เพาะปลูกที่ทิ้งร้าง มาเป็นสวนเพื่อการสันทนาการที่ได้รับความนิยมอย่างที่คุณเห็นในปัจจุบัน