พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

ในกรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์สีชมพูที่มหัศจรรย์อยู่แห่งหนึ่ง: พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ (The Erawan Museum) . แม้ว่าจะมีกระแสบนอินเทอร์เน็ตมาก แต่หลังจากทดสอบจริงพบว่าคนที่มาไม่ได้มากเท่าที่คาดไว้ แนะนำให้ใช้เวลาเยี่ยมชมประมาณ 1.5 ชั่วโมง หลังจากนั้นสามารถรับประทานอาหารที่ประตูหน้าได้ ใกล้ๆ ยังมีเมืองโบราณสยาม สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปเยี่ยมชมได้ . 🌟พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศสามหัวถูกสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจไทยที่ร่ำรวย ขณะเยี่ยมชมไม่ควรใส่กระโปรงสั้น/กางเกงขาสั้น ไม่ควรใส่เสื้อที่เปิดไหล่หรือเปิดหลัง ต้องถอดรองเท้าเมื่อเข้าประตู มีลิฟต์ขึ้นไปชั้นสองที่สามารถไหว้ได้ (บางพื้นที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ) . 📍ที่ตั้ง: 99 ถนนกาญจนาภิเษก บางเมืองใหม่ เมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270 🚇การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า BTS ไปสถานีช้างเอราวัณ ออกจากสถานีแล้วเดินไปทางซ้ายประมาณ 15 นาทีก็จะถึง 🎫ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 400 บาท/คน เด็ก 200 บาท/คน (สามารถชำระเงินสดหรือชำระด้วยบัตรได้) ⌚️เวลา: 9:00am-17:30pm

#แจกแพลนเที่ยว สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา 2 วัน 1 คืน กับ 15 จุดเช็คอิน ที่กิน ที่เที่ยว แบบจัดเต็ม! ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ชมธรรมชาติสีเขียว สูดอากาศสดชื่นๆ เช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดที่จังหวัดสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา สำหรับใครที่มีเวลาไม่เยอะ เราอยากแนะนำทริปนี้เลย กิน เที่ยว ครบจบสุดๆ 🫶🏻 Day 1 ศูนย์การเรียนรู้บ้านบางกระสอบ บางกอบัว คุ้งบางกระเจ้า ณ บ้านหอมป่าจาก พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เครปกล้วยบางปู อาฟเตอร์นูนบางปู สถานตากอากาศบางปู บ้านชายเล บางปู Suntara Resort & Hotel Day 2 The Brown House ตลาดบ้านใหม่ วัดมงคลเทพ ร้านเป็ดสยาม มินิมูร่าห์ฟาร์ม ตั้งเซ่งจั๋ว แสนภูดาษ เป็นทริป 2 วัน 1 คืนที่ดีต่อใจมากๆ ไปตามกันเลย #เราชอบนะ #สมุทรปราการ #ฉะเชิงเทรา

#tripแจกที่พักฟรี พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สมุทรปราการ 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าชม รวมดอกไม้บูชา 250 บาท เข้ามาด้านในจะมีป้ายแนะนำแต่ละจุด ทั้ง 10 จุด และห้ามพลาดเข้าไปด้านในชั้นบนสุดของตัวช้างเอราวัณ บอกเลยสวยมาก การเดินทาง : bts ช้างเอราวัณ มีรถรับส่งคนละ 20 บาท #เที่ยวมันพาเที่ยว #พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ #สมุทรปราการ

🌴 ภาพรวมสถานที่ท่องเที่ยว: พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณในจังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียงจากรูปปั้นช้างสามเศียรขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนฐานที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงงานฝีมือไทยที่ละเอียดอ่อน วัตถุทางศาสนา และเพดานกระจกสีที่น่าทึ่ง พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นสามระดับเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงจักรวาลวิทยาไทย: โลกใต้ดิน โลกมนุษย์ และสวรรค์ 🗺️ คู่มือการเดินทาง: ฉันใช้ Grab เพราะสะดวกที่สุด 📷 จุดถ่ายรูป: ทุกที่ในบริเวณนี้เหมาะสำหรับถ่ายรูป😍 🍜 แนะนำอาหาร: มีคาเฟ่ที่คุณสามารถหาอาหารได้ 🎫 ตั๋ว: ซื้อจาก trip.com ราคาค่อนข้างถูกไม่แพงมาก 🕝 เวลาทำการ: เปิดตั้งแต่เช้าและปิดตอน 6 โมงเย็น 🏷️ เคล็ดลับ: การแต่งกายไม่เข้มงวดเหมือนในวัดทุกแห่ง แต่มีร้านค้าอยู่ข้างทางเข้าที่คุณสามารถเช่าชุดไทยเพื่อถ่ายรูปให้ดูดีขึ้น🥰🩷 ชุดไม่แพงมาก พวกเขายังสามารถทำทรงผมและเครื่องประดับให้คุณได้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร (The Erawan Museum) ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ เป็นอาคารสีชมพูที่น่าทึ่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเนื้อหาทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น แต่ภายในยังเป็นโลกแห่งสมบัติทางศิลปะและประวัติศาสตร์ คำแนะนำการเดินทาง การเดินทางจากใจกลางกรุงเทพฯ ไปยังพิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียรค่อนข้างสะดวก คุณสามารถเลือกนั่ง BTS ไปลงที่สถานีช้างเอราวัณ แล้วเดินต่อประมาณ 1 กิโลเมตร หรือนั่งแท็กซี่ไปโดยตรง ค่าโดยสารประมาณ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร เวลาทำการและค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 19:00 น. ราคาบัตรเข้าชม 400 บาท หรือประมาณ 80💰 หยวน แนะนำให้ซื้อบัตรล่วงหน้าทางออนไลน์ ราคาจะถูกกว่า คือ 58💰 หยวน การเตรียมตัวและข้อควรระวัง ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ และแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือเสื้อสายเดี่ยว หากแต่งกายไม่เหมาะสม ทางพิพิธภัณฑ์มีผ้าคลุมไหล่และโสร่งให้ยืมฟรี อุณหภูมิภายในพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างเย็น แนะนำให้นำเสื้อคลุมบางๆ ติดตัวไปด้วย ประสบการณ์การเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นสามชั้น แทนนรก โลกมนุษย์ และสวรรค์ ชั้นที่หนึ่ง "นรก" จัดแสดงโบราณวัตถุและวัตถุทางวัฒนธรรมมากมาย มีของสะสมให้ชมอย่างจุใจ ชั้นที่สอง "โลกมนุษย์" เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม โทนสีหวานและการตกแต่งอันหรูหราทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย ชั้นที่สาม "สวรรค์" เป็นพื้นที่ที่เงียบสงบและศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าถึงจักรวาลอันสูงส่ง 📷จุดถ่ายภาพแนะนำ ประตูสีชมพู: บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์เป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม อาคารสีชมพูและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้สาวๆ ตื่นเต้น บันไดเวียน: บันไดเวียนที่ชั้นสองมีการออกแบบที่ประณีต เป็นฉากหลังที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพ โซนสวรรค์: ชั้นสามโซนสวรรค์มีพื้นที่กว้างขวาง แสงสว่างดี เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่มีความเป็นศิลปะ กิจกรรมพิเศษ พิพิธภัณฑ์จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการบรรยายต่างๆ เป็นประจำ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบล่วงหน้าและเข้าร่วมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยอย่างลึกซึ้ง

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพฯ ไปทางใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร มีชื่อเสียงจากรูปปั้นช้างสามเศียรทองแดงขนาดใหญ่สูง 29 เมตร พิพิธภัณฑ์มีสามชั้น จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยอันอุดมสมบูรณ์ โดยชั้นล่างจัดแสดงโบราณวัตถุ ชั้นกลางมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม และชั้นบนสุดโดดเด่นด้วยโดมกระจกสีสันสวยงาม จากใจกลางเมืองสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงที่สถานีแบริ่ง แล้วต่อแท็กซี่อีกประมาณ 10 นาทีก็จะถึง พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00-18:00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 400 บาท แนะนำให้ใช้เวลาเที่ยวชม 2-3 ชั่วโมง และควรไปในช่วงเช้าที่มีคนน้อย ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการทำความเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง

ช้างสามเศียรเป็นสัตว์ในตำนานของไทยที่มีชื่อว่าเอราวัณ ซึ่งเป็นพาหนะของพระอินทร์ในศาสนาพราหมณ์ ชื่อของช้างสามเศียรมีความหมายถึงลม ฝน เมฆ และสายรุ้ง พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียรแบ่งออกเป็นสามชั้น โดยแต่ละชั้นมีรายละเอียดที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะชั้นกลางที่มีการตกแต่งด้วยสีชมพูทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นบันไดวน รูปปั้นสีชมพู หรือมุมใด ๆ ก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงาม หลังจากเยี่ยมชมชั้นกลางแล้ว คุณยังสามารถขึ้นลิฟต์จากขาของช้างเพื่อเข้าไปชมชั้นบนที่อยู่ในท้องของช้าง การออกแบบนี้น่าสนใจมาก เมื่อเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จะรู้สึกเหมือนเข้าสู่ปราสาทในเทพนิยายสีชมพู มีมังกรสองตัวพันอยู่ด้านข้าง ตัวหนึ่งสีขาวและอีกตัวสีชมพู เพดานตกแต่งด้วยกระจกสีแบบตะวันตกที่มีแผนที่โลกและภาพสิบสองราศี รายละเอียดทุกจุดทำให้คุณต้องทึ่ง นี่คือสมบัติทางศิลปะที่งดงามจนคุณไม่สามารถละสายตาได้ เป็นสถานที่ที่ควรมาเยี่ยมชมอย่างยิ่ง! เคล็ดลับเล็ก ๆ: 1. ไม่สามารถใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือเสื้อสายเดี่ยวเข้าไปในอาคารได้ หากใส่มา ทางพิพิธภัณฑ์จะมีผ้าคลุมและผ้าซิ่นให้บริการฟรี เพื่อให้คุณสามารถรักษาความงามและปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ 2. ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไปในวัด 3. แนะนำให้ใส่กระโปรงยาวสีขาว สีชมพู หรือสีแดงที่ยาวคลุมเข่า เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์: 9:00-19:00 การเดินทาง: สามารถนั่ง BTS สายสีเขียวอ่อนไปลงสถานี Chang Erawan แล้วเดินต่ออีก 2 กิโลเมตร

ฉันมั่นใจว่ามีสถานที่อื่นๆ ที่ให้ความรู้สึกหรือวิวที่คล้ายกัน แต่มีบางสิ่งเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เอราวัณและสวนรอบๆ ที่ทำให้ฉันรู้สึกทึ่งอย่างมาก อาจเป็นเพราะช่วงเวลานั้นมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก แต่ความสงบและความเงียบสงบที่ฉันได้สัมผัสในช่วงสองชั่วโมงที่นี่ ทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำอย่างแท้จริง ฉันจะกลับมาอีกแน่นอนในครั้งหน้า

🌴 ภาพรวมของสถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องรูปปั้นช้างสามเศียรขนาดยักษ์ พิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครนี้นำเสนอการผสมผสานระหว่างศิลปะ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณ 📷 จุดถ่ายภาพ * มุมมองภายนอกของรูปปั้นช้างขนาดยักษ์ * บันไดที่มีเพดานกระจกสี * ห้องวงกลมบนชั้นสองที่มีโดมทาสี * มุมมองพาโนรามาจากยอดรูปปั้นช้าง 🍜 แนะนำอาหาร * ลองชิมอาหารไทยริมทางจากผู้ขายรอบๆ พิพิธภัณฑ์ * แวะร้านอาหารใกล้เคียงเพื่อรับประทานอาหารหลังจากทัวร์พิพิธภัณฑ์ 🎫 ตั๋ว ค่าธรรมเนียมเข้าชม (อาจมีการเปลี่ยนแปลง): * ผู้ใหญ่: 400 บาท * เด็ก: 200 บาท ‼️ซื้อตั๋วที่ trip.com จะถูกกว่ามาก‼️ 🚗 การเดินทาง * โดยรถไฟฟ้า BTS: ขึ้นสายสุขุมวิทไปยังสถานีปู่เจ้า จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปยังพิพิธภัณฑ์ * โดยแท็กซี่หรือแอปเรียกรถจากใจกลางกรุงเทพฯ (ประมาณ 30-45 นาทีขึ้นอยู่กับการจราจร) 🕝 เวลาทำการ เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 18:00 น. 🏷️ เคล็ดลับ * แต่งกายสุภาพเนื่องจากเป็นสถานที่ทางศาสนา * เผื่อเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงสำหรับการเยี่ยมชม * เยี่ยมชมในวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ

#เที่ยวเชิงวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สมุทรปราการ จุดท่องเที่ยวเชิงศิลปะและศาสนา ที่จะพาเราไปสำรวจเรื่องราวของศาสนาหลักทั้ง 4 ของเอเชีย ถ้ามองจากภายนอกหรือมุมสูงลงมา ทุกคนน่าจะคุ้นตากับอาคารทรงช้าง 3 เศรียร แต่พื้นที่ของอาคารดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งได้แนวคิดมาจาคัมภีร์ไตรภูมิกถา (แบ่งภพภูมิเป็น 3 ส่วน คือ บาดาล โลกมนุษย์ และสวรรค์) ชั้นล่างสุดเป็นใต้ดินหรือบาดาล เรียกชื่อชั้นนี้ว่า “ชั้นสุวรรณภูมิ” ลำดับที่สองเป็นส่วนอาคารที่รองรับตัวช้างคือ “ชั้นโลกมนุษย์” และชั้นสามคือส่วนในตัวช้างเป็นส่วนที่อยู่เหนือโลกมนุษย์ขึ้นไปตามคติในไตรภูมินั้นคือสรวงสวรรค์ ส่วนนี้ เรียกชื่อชั้นว่า “ชั้นจักรวาล” "ชั้นสุวรรณภูมิ" จัดแสดงโบราณวัตถุและเครื่องกระเบื้องที่บ่งบอกถึงร่องรอยทางวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะการเลือกใช้ภาชนะดินเผา เครื่องเบญจรงค์ และเบญจรงค์ลายน้ำทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงในสมัยอยุธยา การตกแต่งในชั้นนี้ยังประกอบไปด้วยประติมากรรมมนุษยนาคที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและธรรมชาติ "ชั้นโลกมนุษย์" นำเสนอศิลปะที่ผสมผสานตะวันออกและตะวันตก มีโดมที่ตกแต่งด้วยแผนที่โลกขนาดใหญ่บนงานกระจกสี (stained glass) แสดงถึงธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ สื่อถึงการประกอบขึ้นของโลก ภายในห้องโถงตกแต่งด้วยลายปูนปั้นฝีมือช่างเมืองเพชรที่วิจิตรบรรจง รวมถึงประดับด้วยเครื่องเบญจรงค์หลายแสนชิ้นที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และนำมาตกแต่งด้วยลวดลายสลับสีอย่างงดงาม ทั้งยังมีเสาสี่ต้น ซึ่งตกแต่งด้วยดีบุกเคาะดุนลวดลายอย่างวิจิตร สื่อถึงคุณธรรมของศาสนาทั้งสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ที่เป็นรากฐานในการค้ำจุนโลกมนุษย์ "ชั้นจักรวาล" ที่เปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่สรวงสวรรค์ ตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของเทพเจ้าและนางฟ้าที่ล่องลอยบนนภากาศ ภายในห้องตกแต่งด้วยภาพสุริยจักรวาลอันกว้างใหญ่ บนเพดานแสดงถึงพระอาทิตย์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ พร้อมพระพุทธรูปปางลีลาและรอยพระพุทธบาทจำลอง สร้างบรรยากาศสงบเย็นประดุจวิหารศักดิ์สิทธิ์ อุทยานรอบพิพิธภัณฑ์ ถูกออกแบบให้เป็นสวนพรรณไม้ในวรรณคดี สื่อถึงป่าหิมพานต์ พร้อมด้วยงานประติมากรรมสัตว์ในเทพนิยาย เช่น กินรี นางเงือก และสัตว์หิมพานต์อื่นๆ สะท้อนความงดงามของศิลปะที่แฝงด้วยความเชื่อทางศาสนาและตำนานไทย 📍พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (อ. เมือง จ. สมุทรปราการ) ⏰️ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. 🚨 ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 17.00 น. 💵 ค่าบัตรเข้าชม: ผู้ใหญ่ 250 บาท / เด็ก 125 บาท / ผู้ใหญ่ต่างชาติ 400 บาท / เด็กต่างชาติ 200 บาท 🚈 BTS สายสีเขียว สถานีช้างเอราวัณ (ทางออกที่ 2) #พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ #insomniascene #ErawanMuseumSamutprakan #erawanmuseum

✨ 🕙【เวลาเปิดทำการ】 เปิดทุกวันตั้งแต่ 9:00 - 18:00 น. แนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปรอบเช้า จะได้มีคนน้อยและถ่ายรูปสวย📷 💴【ราคาบัตรเข้าชม】 บัตรเข้าชมราคาประมาณ 200 บาท🎫 จองบัตรล่วงหน้าแล้วเข้าชมได้ทันที ช่วยประหยัดเวลาได้มาก 🎯【กิจกรรมแนะนำ】 ช้างสามเศียร: สัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ สูง 16 ชั้น หล่อด้วยทองแดงล้วน ทุกรายละเอียดประณีตอย่างไม่น่าเชื่อ การยืนอยู่ตรงหน้ามันช่างน่าทึ่งมาก ต้องสัมผัสใกล้ชิด!🌟🌟🌟🌟🌟 โลกใต้ดิน: ที่นี่แสดงฉากของนรก โลกมนุษย์ และสวรรค์ ภาพวาดและรูปปั้นล้วนงดงามวิจิตร ราวกับก้าวเข้าสู่โลกศาสนาแห่งจินตนาการ ทำให้รู้สึกประทับใจอย่างมาก!🌟🌟🌟🌟🌟 บันไดทอง: บันไดที่นำไปสู่ท้องช้าง ประดับด้วยทองคำเปลวทั้งหมด เดินขึ้นไปจะเห็นแสงทองระยิบระยับ ถ่ายรูปสวยมาก ได้ภาพสวยๆ ในพริบตา🌟🌟🌟🌟 📌【เคล็ดลับการเที่ยว】 ต้องแต่งกายสุภาพเมื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือเสื้อเปิดไหล่ เราต้องเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น บางพื้นที่ในพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายรูป ให้สังเกตป้ายบอก อย่าทำผิดกฎนะ สามารถเช่าอุปกรณ์นำเที่ยวด้วยเสียงได้ เดินชมไปพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จะได้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ เดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ จะไม่หลงทางและได้ชมครบทุกจุด ✨【การเตรียมตัวก่อนไป】 🧳เตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าที่สบายและเบา เพื่อเดินชมได้อย่างสบายไม่เหนื่อย 🧳แดดในประเทศไทยแรงมาก อย่าลืมป้องกันแดด! นำครีมกันแดด แว่นกันแดด และหมวกกันแดดไปด้วย 🧳พกเงินบาทสดไปบ้าง บางที่อาจไม่รับการชำระเงินผ่านมือถือ 🧳ชาร์จกล้องและโทรศัพท์ให้เต็ม เคลียร์หน่วยความจำ เตรียมพร้อมถ่ายรูป บันทึกช่วงเวลาดีๆ💖 พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร

อาคารช้างสูง 43.6 เมตร ช้างยาว 39 เมตร หนักกว่าร้อยตัน หัวช้างหนักร้อยตัน ใช้เวลาเดินชมเพียงครึ่งชั่วโมง หากมีโอกาสไปสมุทรปราการ ห้ามพลาดเด็ดขาด พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียรตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงเทพฯ ในจังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร ลักษณะภายนอกของช้างสามเศียรสีชมพูทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เวลาเปิดทำการ: ทุกวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9:00 น. ถึง 19:00 น. ราคาบัตรเข้าชม - ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท การเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ไปลงที่สถานีแบริ่งหรือสถานีสำโรง แล้วต่อแท็กซี่ไปยังพิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 40 นาที การเช่ารถไปเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด