ไปกางเต็นท์นอนดูดาวที่ภูกระดึงกัน!!!!
ภูกระดึงเปิด 1 ตุลาคมนี้แล้วทุกคน!!!
เที่ยวภูกระดึง 3วัน 2 คืน ใช้งบเท่าไหร่
จริงไหมครั้งนึงในชีวิตต้องไปพิชิตภูกระดึง
รีวิวนี้เรามีสรุปมาให้สั้นตามแบบฉบับของเรา
ภูกระดึงมีดีอะไรทำไมใครๆรวมถึงเราถึงชอบไปกัน
▪️ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับภูกระดึงกันแบบสั้นๆ
ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ความงดงามของธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของภูแห่งนี้ จึงเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าอันดับต้นๆ ที่หลายคนเลือกจะไปเยือน เส้นทางเดินจะประกอบด้วยทางเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร
▪️สำหรับเราเป็นการขึ้นภูกระดึงครั้งแรก เรากลับหลงรักที่นี่เข้าอย่างจัง เพราะที่นี่มีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น ธรรมชาติที่สวยงามและความหลากหลาย ทั้งป่าสน หน้าผา ทะเลหมอกยามเช้า มีที่ตั้งแคมปิ้ง มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและระยะไกล แถมของกินอร่อยๆเพียบเลย ทำให้ตกหลุมรักที่นี่ไปแบบไม่รู้ตัว
📌บริเวณที่ทำการอุทยานมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (คนไทย) คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท
📌ที่อุทยานมีบริการลูกหาบสัมภาระคิดกิโลละ 30 บาท สามารถติดต่อได้ที่อุทยานก่อนขึ้นภู
📌การมาภูกระดึงต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
1.ต้องฟิตร่างกายเตรียมความพร้อมของขามาให้ดีๆ แนะนำให้สคอวช์เยอะๆวันละ 200 ครั้งได้ยิ่งดี เพราะระยะทางเดินไกลค่อนข้างชันในบางช่วง
ร่างกายต้องแข็งแรงในระดับนึง
2.เตรียมเสื้อผ้าในเหมาะกับการเดินป่าสามารถระบายอากาศได้ง่ายและควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปด้วยเพราะข้างบนภูอากาศเย็น
3.ยาสามัญ ยาแก้ปวดลดไข้ และยาประจำตัวพกไว้ใช้ในยามฉุกเฉิก
4.กดเงินสดให้เพียงพอต่อการใช้งานแม้ร้านค้าด้านบนจะรับโอนทาง Mobile Banking แต่บางครั้งสัญญาณไม่ดีก็จะโอนลำบากนิดนึง
5.สามารถจองเต็นท์กับอุทยานได้ก่อนขึ้นภูแนะนำว่าให้ใช้บริการเต็นท์อุทยานจะดีมี่สุดเพราะพื้นที่กางเต็นท์เป็นสัดส่วนไม่แออัดเท่ากับเต็นท์ของร้านค้าและอุปกรณ์เครื่องนอนดีกว่าเยอะทีเดียว
📌ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวภูกระดึง
1.ค่ารถเดินทางไปกลับคนละประมาณ 1,400 บาท
2.ค่ารถสองแถวไปกลับจากผานกเค้าไปอุทยานคนละ 70 บาท
3.ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
4.ค่าเช่าเต็นท์วันละ250บาท ค่าอุกณ์เครื่องนอน 70 บาทรวมเป็น 320 บาท
5.อาหารตามสั่ง ราดแกงตกจานละ 70 บาท ไปสามวัน 7 มื้อรวมเครื่องดื่มจิปาถะประมาณ 800 บาทต่อคน
6.ถ้าจะเช่าจักรยานตกวันละประมาณ 360 บาทต่อคนต่อคัน
📌สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการเที่ยวภูกระดึงจะตกอยู่ที่ประมาณคนละ 2,500-3,500 บาทต่อคน (ส่วนใหญ่จะหนักไปทางของกิน)
📌การเดินทาง
รถโดยสารประจำทาง เพื่อนสามารถเลือกใช้บริการรถโดยสารของบริษัท แอร์เมืองเลย หรือ ซันบัสทัวร์ โดยเลือกลงที่สถานี ผานกเค้าแล้วต่อรถสองแถวแดงไปยังอุทยานได้เลย ข้อแนะนำให้เลือกเที่ยวรถจาก กทม ให้มาถึงที่ผานกเค้าประมาณ 5.30 ถึง 6.30 เพื่อจะได้รีบเดินทางไปยังอุทยานเพื่อจองที่เต็นท์ต่อคิวจ้างลูกหาบ #จุดกางเต็นท์
travelholicชีวิตติดเที่ยว
57
ขึ้นเดือนพฤศจิกายน66 บรรยากาศดีมากฝนไม่ตกทากก็ไม่มี
ขึ้นเดือนพฤศจิกายน บรรยากาศดีมาก ฝนก็ไม่มีทากก็ไม่มี
"ภูกระดึง" กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนเดินทางมาเยือน หลายคนเคยขึ้นภูกระดึงมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง แล้วอะไรคือ เสน่ห์ของภูกระดึง ที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรุ่นแล้วรุ่นเหล่าไม่เสื่อมคลายจุดแรกที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงบนยอดภูกระดึง ความเหนื่อยล้าถูกเปลี่ยนเป็นความประทับใจที่มาถึงยอดภู หยุดพักเช็กอินถ่ายภาพกับป้าย "ครั้งหนึ่งเราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ก่อนจะเดินอีก 3.5 กิโลเมตรไปยังศูนย์บริการวังกวาง ระหว่างทางมีต้นสนโดดเด่นอยู่กึ่งกลางทางเดิน ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆกัน#กระดึง #จังหวัดเลย
ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึงไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งฉันจะได้ไปที่นั้น เอาจริงๆเป็นอะไรที่สนุกมากๆและเหนื่อยมากๆเช่นกัน ไม่เคยเที่ยวที่ไหนแล้วรู้สึกเหนื่อยล้าขนาดนี้ แต่เชื่อไหมว่าเป็นการเหนื่อยที่คุ้มค่ามากจริงๆ ความสวยของธรรมชาติยกให้อับหนึ่งไปเลย สำหรับใครที่ชอบท้ายทาย และรักในธรรมชาติแนะนำเลยค่ะ “ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ภูกระดึงครั้งนึงไม่ถึงตาย (แต่เกือบ) เพราะเหนื่อยมากกกกก แต่สนุกจริงๆค่ะ เรามาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ก็ยังป่าข้าวบนไม่ครบเลย ขาหมดแรง 😅🌳🪵🍂
เขาว่ากันว่า อยากพิสูจน์รักแท้ ให้ไปภูกระดึงไอ้เรามันคนไม่มีคู่ ก็เลยไปพิสูจน์กำลังขาตัวเองทริปนี้ไปตอน 2020 มีความประทับใจหลายมิติมากได้เจอมิตรภาพของเพื่อนร่วมเดินป่าที่หยิบยื่นน้ำใจมาให้ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันทั้งให้ไม้ไผ่ไว้ค้ำตอนขาลงช่วงหลังแปทั้งให้ยืมพาวเวอร์แบงค์ ไว้ชาร์จแบตโทรหาเพื่อนได้เจอคุณลุงคุณป้า ที่อายุหลัก 7 แล้วแต่ยังแข็งแรง พากันมาเดินภูกระดึง แถมแนะนำวิธีการเดินยังไงไม่ให้เจ็บขาด้วย ได้เทคนิคมาใช้ได้เจอคุณครูท่านหนึ่ง วิ่งลงดอยฉิวมากถามว่าทำไมเดินเร็วจัง แกเล่าว่า เดินภูกระดึงมา95 รอบแล้ว จนเจ้าหน้าที่จำหน้าได้ได้เจอพี่คนนึง ที่บังเอิญเจอกันตอนไปดอยขุนตาลแล้วเขาสอนดูดาว แล้วจำกันได้ เลยได้ทักทายกันขอคอนแทกกัน เผื่อเจอกันทริปถัดไปและอื่นๆ ที่อาจจะบรรยายไม่หมดธันวานี้จะไปอีกรอบ รอบนี้จะไปท้าลมหนาว~ความประทับใจแต่ละครั้ง มันย่อมแตกต่างกันไปแต่เรื่องราวต่างๆที่ได้พบเจอ มันจะถูุกบันทึกไว้เป็นความทรงจำดีๆ กับสถานที่แห่งนี้ "ภูกระดึง"
ถึงตอนเดินขึ้นจะลำบากหรือจะเหนื่อยแค่ไหน แต่พอวิวข้างบนสวยจนลืมไปว่าเคยเหนื่อย มีโอกาสจะกลับไปอีกครั้ง