[ใหม่ล่าสุด] แพ็คเกจรหัสโปรโมชั่นของเดือนนี้
วัดพระนอน เป็นวัดที่มีการสร้างด้วยศิลปะแบบผสมผสานถึงสามยุค คือ เชียงแสน สุโขทัย และอยุธยาตอนปลายอุโบสถสร้างตามแบบสมัยเชียงแสน ไม่มีการเจาะหน้าต่าง แต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้าบันเป็นลวดลายแบบอยุธยาตอนปลาย ผูกเป็นลายก้านขดและมีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถ แต่ตกแต่งบริเวณชายคาเป็นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาคบริเวรหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 9 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์เจดีย์ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีพระพุทธรูปอยู่ 4 ด้านสร้างพร้อมกับพระนอน ชื่อพระธาตุสิงหอุตรนคร
เพิ่มเติม
วัดพระนอน เป็นวัดที่มีการสร้างด้วยศิลปะแบบผสมผสานถึงสามยุค คือ เชียงแสน สุโขทัย และอยุธยาตอนปลายอุโบสถสร้างตามแบบสมัยเชียงแสน ไม่มีการเจาะหน้าต่าง แต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้าบันเป็นลวดลายแบบอยุธยาตอนปลาย ผูกเป็นลายก้านขดและมีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถ แต่ตกแต่งบริเวณชายคาเป็นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาคบริเวรหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 9 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์เจดีย์ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีพระพุทธรูปอยู่ 4 ด้านสร้างพร้อมกับพระนอน ชื่อพระธาตุสิงหอุตรนคร
วัดพระนอน แห่งนี้เป็น พระนอน ปางปรินิพพาน เป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม ตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา
วัดพระนอน เป็นวัดที่มีการสร้างด้วยศิลปะแบบผสมผสานถึงสามยุค คือ เชียงแสน สุโขทัย และอยุธยาตอนปลายอุโบสถสร้างตามแบบสมัยเชียงแสน ไม่มีการเจาะหน้าต่าง แต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้าบันเป็นลวดลายแบบอยุธยาตอนปลาย ผูกเป็นลายก้านขดและมีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถ แต่ตกแต่งบริเวณชายคาเป็นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาคบริเวรหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 9 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์เจดีย์ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีพระพุทธรูปอยู่ 4 ด้านสร้างพร้อมกับพระนอน ชื่อพระธาตุสิงหอุตรนคร
เป็นวัดที่สวยงาม มีพระนอนที่เป็นเอกลักษณ์ อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
สาธุ ค้า 🙏🙏🙏
วัดพระนอน อำเภอเมืองแพร่ จัดเป็นวัดเก่าแก่ที่สามารถสืบสาวความเป็นมาย้อนกลับไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาเลย แม้เคยถูกทิ้งร้างในช่วงสงคราม แต่พอเหตุการณ์บ้านเมืองสงบ ชาวบ้านเกิดศรัทธาจึงช่วยกันบูรณะซ่อมแซม วัดให้สวยงาม พร้อมกับตั้งชื่อว่า "วัดต้นม่วง" และในการบูรณะครั้งนั้นนั่นเอง มีการค้นพบแผ่นทองคำจารึก ของพระนางเจ้าอู่ทองศรีพิมพา พระชายาของเจ้าพระยาชัยชนะสงคราม จึงได้รู้ว่าวัดนี้เดิมคือวัดพระนอน และสันนิษฐานว่าวัดนี้ได้สร้างสำเร็จในเดือนเก้าเหนือขึ้นสิบห้าค่ำโดยถือเอาคำจารึกในแผ่นทองคำเป็นหลักและเมื่อย้อนความเป็นมาได้ดังนั้น ที่นี่จึงถือเป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดแพร่ ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อ ปี พ.ศ. 1320 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ อุโบสถซึ่งสร้างแบบสมัยเชียงแสนไม่มีการเจาะหน้าต่างแต่ทำผนังเป็นช่องแสงแทน สำหรับลวดลายหน้านั้นเป็นลวด ลายแบบอยุทธยาตอนปลายผูกเป็นลายก้านขดและ มีภาพรามเกียรติ์ประกอบ วิหารซึ่งมีรูปแบบการก่อสร้างเช่นเดียวกับอุโบสถแต่การตกแต่งบริเวณ ชายคาเป้นไม้ฉลุโดยรอบและหลังคาประดับด้วย ไม้แกะสลักเป็นรูปพระยานาคบริเวณหน้าจั่ว พระพุทธรูปนอนปางสีหไสยาสน์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น มีความยาว 5 เมตร ลงรักปิดทองตลอดองค์ เจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำรูป 8 เหลี่ยม มีประพุทธรูปอยู่ 4 ด้านCr. tourismthailand.org