ตึกอุเมดะสกาย

อาคารอุเมดะสกายไม่ได้เป็นเพียงตึกระฟ้าธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสมกับชื่อเสียงในเรื่องวิวที่สวยงามตระการตา การขึ้นไปยังโครงสร้างที่ไม่เหมือนใครนี้ ซึ่งประกอบด้วยหอคอยสองแห่งที่เชื่อมต่อกันด้วย "หอดูดาวสวนลอยฟ้า" ที่ยอดตึก เป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นในตัวเอง จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือทิวทัศน์พาโนรามาที่เปิดกว้างจากหอดูดาวกลางแจ้ง จากจุดนี้ คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าที่แผ่ขยายออกไปในทุกทิศทาง ในช่วงกลางวัน คุณสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญต่าง ๆ ติดตามเส้นทางของแม่น้ำ และสัมผัสถึงขนาดของเมืองได้อย่างแท้จริง เมื่อยามเย็นมาถึงและแสงไฟของเมืองเริ่มส่องประกาย วิวจะเปลี่ยนเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่โรแมนติกและน่าจดจำอย่างแท้จริง สายลมที่พัดเบา ๆ และความรู้สึกเหมือนลอยอยู่เหนือความวุ่นวายของเมืองยิ่งเพิ่มความมหัศจรรย์ แต่ความงดงามทางสายตาเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนที่คุณจะถึงยอดตึก ลิฟต์กระจกที่พาคุณขึ้นไปยังส่วนหนึ่งของหอคอยเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดที่น่าสนใจ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและวิวของเมืองที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วภายนอกกระจก ลิฟต์เหล่านี้เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพ แสงที่สะท้อนกับโลหะและความรู้สึกเหมือนกำลังทะยานขึ้นไปทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับ Instagram ผู้เยี่ยมชมหลายคน รวมถึงตัวฉันเอง มักจะถ่ายภาพและวิดีโอระหว่างการขึ้นลิฟต์ที่รวดเร็วนี้ นอกเหนือจากวิวและลิฟต์ที่ถ่ายรูปได้สวยงามแล้ว อาคารอุเมดะสกายเองก็เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ "หอดูดาวสวนลอยฟ้า" ที่เชื่อมต่อกันเป็นองค์ประกอบการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และการเดินเล่นผ่านเส้นทางของมันเพิ่มมิติใหม่ให้กับการเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านค้าในอาคาร ทำให้คุณสามารถขยายประสบการณ์ของคุณได้อีก แม้ว่าจุดดึงดูดหลักจะเป็นวิวที่สวยงาม แต่การเยี่ยมชมอาคารอุเมดะสกายก็เป็นประสบการณ์ที่ครบถ้วน การเดินทางขึ้นไปนั้นน่าตื่นเต้น จุดหมายปลายทางนั้นน่าทึ่ง และโอกาสในการถ่ายภาพก็มีมากมาย หากคุณกำลังมองหามุมมองที่น่าทึ่งของโอซาก้าและโอกาสในการเก็บภาพที่น่าจดจำ (และเหมาะสำหรับ Instagram) อาคารอุเมดะสกายเป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนอย่างแน่นอน เพียงเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลาที่อาจมีคนเยอะ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก!

#แจกแพลนเที่ยว เที่ยวโอซาก้าใน 1 วัน ไปไหนบ้าง จะมาแชร์แพลนเที่ยวของเรา เริ่มจากหาของกินก่อนเลย 🍣🍱 📍ตลาดคุโรมง เริ่มเปิด 09.00 -18.00 น. ของกินของฝากเยอะมากๆปิ้งย่าง ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ชอบร้านไหนจิ้มเลย 📍Umeda Sky เปิดเวลา 09.30 น.ไปขึ้นบันไดเลื่อนอุโมงค์กัน ส่วนใครจะชมวิวบนดาดฟ้า มีค่าเข้าชม 1,200 เยน วิวสวยมากๆ 📍Hep Five Ferris wheel ไปนั่งชิงช้าแดงกัน เปิด 11.00-22.45 น.ค่าเข้าชม 800 เยน 📍ปราสาทโอซาก้า เปิดเวลา 09.00-17.00 น.ค่าเข้าชม 1,200 เยน 📍ย่าน Shinsakei/หอยคอยซือเท็นคาคุ หาของกินตอนเย็นกันที่นี้ค่ะ ร้านค้าร้านค้าตามซอกซอยมีให้เลือกเยอะ คึกคักมากๆ ส่วนหอคอยซือเท็นคาคุ เปิด 10.00-20.00 น. ค่าเข้า 1,200 เยน ใครสนใจเที่ยวตามได้เลยนะ ✌️ #เที่ยวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวโอซาก้า #osakatravel

โอซาก้าไปมาหลายครั้งแล้ว ที่ชินไซบาชิ โดทงโบริที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ จะไม่เขียนถึงเป็นพิเศษ ครั้งนี้จัดทริปแบบชิลๆ 2 วัน เพื่อสัมผัสความเป็นโอซาก้าอย่างช้าๆ 🖤 วันแรก ☕ เช้า｜Streamer Coffee Company (สาขาชินไซบาชิ) + LiLo Coffee Roasters เริ่มวันด้วยกาแฟสักแก้ว ร้านกาแฟสองร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กัน Streamer มีลาเต้อาร์ตที่ยอดเยี่ยม ส่วน LiLo มีการชงกาแฟที่สามารถลิ้มรสความบริสุทธิ์ของเมล็ดกาแฟได้ หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ก็สามารถเดินเล่นตามถนนที่มีร้านขายของเก่า อาจจะเจอของดีๆ ก็ได้ 🍜 เที่ยง｜ร้านราเม็ง Mugen สาขาเซ็นนิจิมาเอะ ร้านนี้ลองสุ่มเข้าไป คนไม่เยอะมาก น้ำซุปเข้มข้น ชาชูมีความกรอบเล็กน้อย และไข่ต้มที่มีรสหวานนิดๆ ทำให้สมบูรณ์แบบ จริงๆ แล้วร้านราเม็งในโอซาก้าส่วนใหญ่มีมาตรฐานที่ดี เข้าไปที่ไหนก็ไม่ผิดหวัง 🛍 บ่าย｜ถนนทาจิบานะ + หอชมวิว Harukas 300 ถนนทาจิบานะเป็นแหล่งรวมแฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า มีแบรนด์ญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับการเดินเล่นชิลๆ หลังจากนั้นไปที่หอชมวิว Harukas 300 ขึ้นไปที่หอชมวิวสูง 300 เมตรเพื่อชมวิวทั้งเมืองโอซาก้า วิวยามค่ำคืนสวยงามมาก 🗼 เย็น｜บริเวณหอคอย Tsutenkaku ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่ดี ไฟสว่างไสวในยามค่ำคืน บรรยากาศดีมาก มีอาหารท้องถิ่นโอซาก้ามากมาย เช่น สุกี้ยากี้ คุชิคัตสึ และอุด้งที่ควรลอง 🏨 ที่พัก｜FRESA INN หน้าสถานีนัมบะ จองโรงแรมนี้แบบกระทันหัน ห้องไม่ใหญ่แต่มีอุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญคือทำเลสะดวก ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เหมาะสำหรับการพักระยะสั้น 🖤 วันที่สอง 🍰 เช้า｜Harbs + ศาลเจ้านัมบะยาซากะ Harbs เปิดเวลา 11 โมง มาถึงตรงเวลาจะไม่ต้องรอคิว เค้กผลไม้พันชั้นที่นี่อร่อยมาก หลังจากทานเสร็จสามารถเดินไปที่ศาลเจ้านัมบะยาซากะ รูปปั้นสิงโตใหญ่ที่หน้าศาลเจ้าเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายรูปสวยมาก ถ้าอยากถ่ายรูปที่ไม่มีคนต้องมาเช้าๆ 🍤 เที่ยง｜ร้านเทมปุระ Ichizen ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่คนท้องถิ่นไปกัน เจ้าของร้านคุณลุงเคยออกทีวีหลายรายการ เทมปุระที่นี่กรอบนอกนุ่มใน รักษาความสดของวัตถุดิบได้อย่างดี 🎨 บ่าย｜พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟูจิตะ + นาคาซากิโจ พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟูจิตะมีของสะสมที่น่าสนใจ สวนหลังบ้านก็สวยงาม สามารถลองชิมมัทฉะและดังโงะที่นี่ ถ้วยชาก็สวยงาม หลังจากนั้นสามารถไปที่นาคาซากิโจ ย่านเล็กๆ ที่มีบรรยากาศย้อนยุค มีร้านค้าและคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์มากมาย เดินเข้าไปที่ไหนก็มีเซอร์ไพรส์ 🌆 เย็น｜ตึก Umeda Sky Building ชมพระอาทิตย์ตกที่หอชมวิว ช่วงเย็นเมืองทั้งเมืองถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์โรแมนติกมาก ทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารในตึก ชมวิวกลางคืนของโอซาก้าไปด้วย จบทริปชิลๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่เร่งรีบ เดินไปเรื่อยๆ สัมผัสบรรยากาศของโอซาก้าไปด้วย

💗Umeda Sky Building เป็นตึกชมวิวสูงใจกลางโอซาก้า ที่มีจุดชมวิวทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร 💗ตัวตึกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ทางด้านฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก ทั้งสองฝั่งเชื่อมต่อกันด้วยจุดชมวิวที่เรียกว่าสวนลอยฟ้า 💗เป็นตึกที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างทันสมัย เป็นตึกที่มีรูปร่างแปลกตาไม่เหมือนที่อื่น 💗สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศา ตึกสูง 173 เมตรและมีทั้งหมด 40 ชั้น 💗จุดถ่ายรูปที่ทุกคนชอบมาถ่ายกันก็คือ อุโมงค์บันไดเลื่อนโปร่งแสง (อยู่ชั้นที่ 35 - ชั้นที่ 39) 💗จุดชมวิวคือจุด Kuchu Teien Observatory ต้องซื้อตั๋วเข้า ชั้นบนที่เป็นดาดฟ้า เปิดโล่งให้เดินชมวิวรอบๆ อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย มีจุดถ่ายรูปหลายมุม 💗ข้างบนมีร้านคาเฟ่ให้จิบกาแฟชิลๆ พร้อมนั่งชมวิวด้วยนะ อันนี้ฟินมากบอกเลย 💗เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งที่ ที่เห็นวิวเมืองโอซาก้าแตกต่างจากที่อื่น แนะนำให้มา 💰ราคาตั๋วเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,000 เยน 📍เวลาเปิด - ปิดทำการ : 09.30 - 22.30 น 🚇การเดินทาง: รถไฟฟ้าลงสถานี Umeda Station เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที #เที่ยวโอซาก้า #เที่ยวญี่ปุ่น

อาคารอุเมดะสกายในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่คุณต้องไปเยือน! 🌟 ใช้เวลาเดินเพียง 15 นาทีจากสถานีโอซาก้า ทำให้เดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย การออกแบบที่โดดเด่นของอาคารนี้มอบวิวแบบ 360 องศาที่น่าตื่นตาตื่นใจของทิวทัศน์ที่มีชีวิตชีวาของโอซาก้า ลองขึ้นบันไดเลื่อนที่ล้อมรอบด้วยกระจกเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ราวกับว่าคุณกำลังลอยอยู่ท่ามกลางแสงไฟของเมือง! 💫 จากจุดชมวิว คุณจะได้เห็นถนนที่คึกคัก อาคารสูง และสวนสวยงาม สถาปัตยกรรมที่ล้ำยุคและการออกแบบที่ทันสมัยทำให้อาคารนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมและช่างภาพ โอซาก้ามีสิ่งที่น่าสนใจสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนรักอาหาร นักช้อป หรือผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์! 🌈 สัมผัสมุมมองใหม่ของเมืองที่น่าทึ่งนี้จากวิวที่งดงามของอาคารอุเมดะสกาย!

🍡🎌 รีวิวเที่ยวโอซาก้า ญี่ปุ่นแบบน่ารักๆ ของเราเองจ้า 🎌🍡 ฮัลโหล~ ทุกคน วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตที่ “โอซาก้า” เมืองแห่งความสนุก กินจุ เดินมันส์ และช้อปแบบไม่รู้จบ บอกเลยว่า 5 วัน 4 คืนที่นี่ น่ารักละลายใจมากๆ ใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นต้องอ่านรีวิวนี้เลยนะ ☺️ 🛬 Day 1: ถึงโอซาก้าแล้ว เย้~ เราบินจากไทยช่วงดึก พอถึงสนามบินคันไซ (KIX) ตอนเช้า ก็ฟินกับอากาศเย็นๆ ประมาณ 14 องศา เย็นจนมือสั่นแต่ตื่นเต้นสุดๆ! หลังจากผ่าน ตม. ก็รีบไปรับ JR Pass และ IC Card (พาส MoMo มาเที่ยวด้วยนิดนึง 🐻) แล้วก็นั่งรถไฟเข้าเมือง ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมในแถบ Namba ย่านสุดคึกคักของโอซาก้า! 💡 โรงแรมเราน่ารักมาก สไตล์มินิมอลญี่ปุ่น เตียงนุ่มเหมือนขนมโมจิ 🍥 อยู่ใกล้สถานี เดินไม่ถึง 5 นาทีคือถึงตัวเมืองเลย~ 🌉 Day 2: ตะลุยแลนด์มาร์กโอซาก้า เริ่มต้นวันด้วยการไป “ปราสาทโอซาก้า” ปราสาทนี้คือสวยเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ! ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบอินสุดๆ ใครเป็นสายประวัติต้องเลิฟแน่นอน ต่อด้วยการไป “อุเมะดะสกายบิลดิ้ง” วิวตอนเย็นคือที่สุด! ขึ้นไปบนชั้นบนสุด มองเห็นวิวโอซาก้าแบบพาโนรามา บรรยากาศโรแมนติกมาก เหมาะกับการมาเดินเล่นจูงมือกับแฟน (แต่เราไม่มี T^T ก็ถ่ายรูปคู่กับวิวแทน 555) 🍜 กลับมาแวะกินราเมงร้านดังย่าน Namba ซุปเข้มข้นมาก กินเสร็จต้องบอกว่า “โกจิโซซามะ!” (แปลว่าอิ่มอร่อยมากค่ะ 😋) 🎢 Day 3: ไปยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ~ ไฮไลต์ของทริปนี้ก็คือการไป “Universal Studios Japan” หรือที่คนเรียกกันว่า USJ! แค่เดินเข้าไปในโซน Harry Potter ก็ร้องว้าวแล้ว บ้านฮอกวอตส์อลังการเว่อร์!! ซื้อตั๋วล่วงหน้า + Express Pass ไว้เลย เล่นได้หลายเครื่องไม่มีต้องต่อแถวนาน~ เครื่องเล่นที่ชอบที่สุดคือ The Flying Dinosaur (หวีดจนเสียงแหบ 555) และโซน Mario ใหม่คือคิ้วท์มากกกก~ ใส่สายรัดข้อมือแล้วไปตีบล็อกเหมือนในเกม เพลินจนไม่อยากกลับ! ตอนเย็นมีพาเหรดด้วย~ ถ่ายรูปกับ Minion, Hello Kitty, Snoopy ไปเต็มเมม! 🧸 Day 4: ช้อปแหลก+คาเฟ่น่ารัก วันนี้ตั้งใจพักเบาๆ เดินเล่นช้อปปิ้งในย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori) มีร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ขนม ของฝากแบบละลานตา เดินจนเมื่อยขาแต่ก็ยังไม่หยุดซื้อ 555 แวะคาเฟ่แมว คาเฟ่หมา คาเฟ่หมี! ที่ญี่ปุ่นคือมีคาเฟ่ธีมน่ารักๆ เยอะมาก เข้าไปนั่งถ่ายรูปเล่นกินของหวาน ฟินสุดดด ไม่พลาด! ถ่ายรูปกับป้าย “กูลิโกะ” แลนด์มาร์กแห่งโอซาก้า~ วิ่งท่าเดียวกับป้ายแล้วโพสต์ลงไอจีเลยจ้า 📸✨ 🥹 Day 5: วันสุดท้ายแล้วหรอ… ตื่นเช้ามาเก็บกระเป๋าด้วยความอาลัย… เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่ทริปนี้เต็มไปด้วยความสุข ความน่ารัก และความอบอุ่นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แวะร้านสะดวกซื้อซื้อของฝากเล็กน้อย ก่อนนั่งรถไฟกลับสนามบิน นั่งไปก็คิดไปว่า “เมื่อไหร่จะได้กลับมาอีกน้า~” 🎀 สรุปทริปโอซาก้าแบบน่ารักๆ 🌸 ความน่ารัก: 10/10 🍱 ของกิน: 100/10 (อร่อยทุกมื้อ!) 🛍️ ช้อปปิ้ง: หมดตัวแต่แฮปปี้ 🎢 ความสนุก: USJ เอาไปเลย 3 ใจ 💖💖💖 📸 รูปสวยเมมเต็มต้องลบแอปออกเพื่อถ่ายเพิ่ม! ใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่วุ่นวายมาก แนะนำโอซาก้าเลย! เมืองนี้ครบเครื่อง ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม ของกิน และความน่ารักกุ๊กกิ๊กที่แค่ได้มาเดินเล่นก็แฮปปี้แล้ว 💕✈️ ⸻ ถ้าอยากให้ช่วยปรับสำนวนให้น่ารักขึ้นอีก หรือเพิ่มเติมชื่อสถานที่/ร้านเด็ดในแต่ละวันก็บอกได้นะคะ! ☺️ ได้เลย! นี่คือรีวิวเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า ความยาวประมาณ 6900 ตัวอักษร สไตล์น่ารักๆ ที่จัดให้ตามคำขอเลยค่ะ 💖 ⸻ 🍡🎌 รีวิวเที่ยวโอซาก้า ญี่ปุ่นแบบน่ารักๆ ของเราเองจ้า 🎌🍡 ฮัลโหล~ ทุกคน วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตที่ “โอซาก้า” เมืองแห่งความสนุก กินจุ เดินมันส์ และช้อปแบบไม่รู้จบ บอกเลยว่า 5 วัน 4 คืนที่นี่ น่ารักละลายใจมากๆ ใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นต้องอ่านรีวิวนี้เลยนะ ☺️ 🛬 Day 1: ถึงโอซาก้าแล้ว เย้~ เราบินจากไทยช่วงดึก พอถึงสนามบินคันไซ (KIX) ตอนเช้า ก็ฟินกับอากาศเย็นๆ ประมาณ 14 องศา เย็นจนมือสั่นแต่ตื่นเต้นสุดๆ! หลังจากผ่าน ตม. ก็รีบไปรับ JR Pass และ IC Card (พาส MoMo มาเที่ยวด้วยนิดนึง 🐻) แล้วก็นั่งรถไฟเข้าเมือง ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมในแถบ Namba ย่านสุดคึกคักของโอซาก้า! 💡 โรงแรมเราน่ารักมาก สไตล์มินิมอลญี่ปุ่น เตียงนุ่มเหมือนขนมโมจิ 🍥 อยู่ใกล้สถานี เดินไม่ถึง 5 นาทีคือถึงตัวเมืองเลย~ 🌉 Day 2: ตะลุยแลนด์มาร์กโอซาก้า เริ่มต้นวันด้วยการไป “ปราสาทโอซาก้า” ปราสาทนี้คือสวยเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ! ด้านในมีพิพิธภัณฑ์ เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบอินสุดๆ ใครเป็นสายประวัติต้องเลิฟแน่นอน ต่อด้วยการไป “อุเมะดะสกายบิลดิ้ง” วิวตอนเย็นคือที่สุด! ขึ้นไปบนชั้นบนสุด มองเห็นวิวโอซาก้าแบบพาโนรามา บรรยากาศโรแมนติกมาก เหมาะกับการมาเดินเล่นจูงมือกับแฟน (แต่เราไม่มี T^T ก็ถ่ายรูปคู่กับวิวแทน 555) 🍜 กลับมาแวะกินราเมงร้านดังย่าน Namba ซุปเข้มข้นมาก กินเสร็จต้องบอกว่า “โกจิโซซามะ!” (แปลว่าอิ่มอร่อยมากค่ะ 😋) 🎢 Day 3: ไปยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ~ ไฮไลต์ของทริปนี้ก็คือการไป “Universal Studios Japan” หรือที่คนเรียกกันว่า USJ! แค่เดินเข้าไปในโซน Harry Potter ก็ร้องว้าวแล้ว บ้านฮอกวอตส์อลังการเว่อร์!! ซื้อตั๋วล่วงหน้า + Express Pass ไว้เลย เล่นได้หลายเครื่องไม่มีต้องต่อแถวนาน~ เครื่องเล่นที่ชอบที่สุดคือ The Flying Dinosaur (หวีดจนเสียงแหบ 555) และโซน Mario ใหม่คือคิ้วท์มากกกก~ ใส่สายรัดข้อมือแล้วไปตีบล็อกเหมือนในเกม เพลินจนไม่อยากกลับ! ตอนเย็นมีพาเหรดด้วย~ ถ่ายรูปกับ Minion, Hello Kitty, Snoopy ไปเต็มเมม! 🧸 Day 4: ช้อปแหลก+คาเฟ่น่ารัก วันนี้ตั้งใจพักเบาๆ เดินเล่นช้อปปิ้งในย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และโดทงโบริ (Dotonbori) มีร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ขอจบรีวิวเท่านี้นะคะ ถ้ามีเรื่องสงสัยอะไรคอมเม้นได้เลย #เที่ยวญี่ปุ่น #โอซาก้า

💗เป็นบัตรที่สามารถเข้าสถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้าได้กว่า 40 แห่งและยังนั่งรถไฟและรถบัสได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีส่วนลดร้านอาหารที่เข้าร่วมด้วยนะ 💗วิธีใช้ก็แค่สแกนรหัส QRที่เราได้จากอีเมล ง่ายมาก ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อเข้าเข้าชมอะไรเพิ่มเลย 💗เราซื้อบัตร Osaka amazing pass แบบ 2 วันมา ราคา 5,000เยน สถานที่ที่เราไปมาทั้งหมดมีดังนี้ 📍หอคอยปราสาทโอซาก้า 📍ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซัง 📍เรือทมโบริ ริเวอร์ครูซ 📍จุดชมวิว Kuchu Teien อาคารอุเมดะสกาย 📍หอคอยชมวิวซือเท็นคาคุ 📍ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE 💗เรารู้สึกว่าคุ้มค่ามาก เพราะลองเอาค่าตั๋วเข้าของสถานที่ต่างๆ มารวมกับการเดินทางโดนรถไฟฟ้าแล้ว จ่ายน้อยกว่าความเป็นจริง 💗แนะนำเลยถ้าใครอยากเก็บสถานที่เที่ยวในโอซาก้าแบบครบๆ ภายใน1-2 วัน ควรค่าแก่การมีเลย #เที่ยวโอซาก้า #เที่ยวญี่ปุ่น

การขนส่ง🚉 เดิน 7 นาทีจากสถานี JR Osaka, เวลาทำการ 9:30-22:30 น. (เข้าฟรีถึง 15:00 น. หากใช้บัตร Osaka Rakuyu Pass) 9 นาทีจากสถานี Hankyu Osaka Umeda/สถานี Osaka Metro Umeda ค่าธรรมเนียม💴 หากใช้บัตร Osaka Rakuyu Pass เข้าฟรีจนถึง 15.00 น. [ผู้ใหญ่] 2,000 เยน [เด็ก] 500 เยน เวลาทำการ⏰ 9:30-22:30 น. (เข้าฟรีถึง 15:00 น. หากใช้บัตร Osaka Rakuyu Pass)

โอซาก้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพลังและเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ความทันสมัย และวัฒนธรรมถนนที่เป็นเอกลักษณ์ ทุกมุมของเมืองนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในการเดินทางครั้งนี้ ฉันได้ไปเยี่ยมชมปราสาทโอซาก้า ชินเซไก และย่านช้อปปิ้งอุเมดะ และยังได้ไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะที่โดทงโบริ ทุกสถานที่ทิ้งความทรงจำลึกซึ้งไว้ให้ฉัน ก่อนอื่น ฉันประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของปราสาทโอซาก้า เมื่อยืนอยู่หน้าปราสาท ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และความสง่างามของสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์นี้ เมื่อขึ้นไปยังหอคอยเท็นชุคาคุ ฉันสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ใบไม้เปลี่ยนสีและต้นแปะก๊วยรอบๆ ปราสาททำให้บรรยากาศโรแมนติกและน่าหวนคิดถึง ต่อมา ฉันได้ไปถึงชินเซไก ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำของยุคโชวะ หอคอยสึเท็นคาคุตั้งตระหง่านอยู่กลางถนน รอบๆ เต็มไปด้วยป้ายไฟนีออนและอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ คุชิคัตสึ (ของทอดเสียบไม้) ที่นี่เป็นอาหารที่ต้องลอง เมื่อทานคู่กับเบียร์สดเย็นๆ รสชาติที่ยากจะลืม อุเมดะเป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าหรู เสื้อผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล่าสุด ทุกอย่างสามารถหาได้ที่นี่ โดยเฉพาะที่หอดูดาวสวนลอยฟ้าอุเมดะสกายบิลดิ้ง ฉันสามารถชมวิวกลางคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอซาก้าได้อย่างตื่นตาตื่นใจ สุดท้าย แน่นอนว่าฉันไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะที่โดทงโบริ! เมื่อถ่ายรูปหน้าป้ายนีออนนี้ ฉันรู้สึกถึงพลังและความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้อย่างแท้จริง ทำให้ฉันหลงใหลในบรรยากาศที่สนุกสนานนี้ โอซาก้าเป็นเมืองที่ยากจะลืม อาหาร ช้อปปิ้ง วัฒนธรรม ทุกด้านเต็มไปด้วยเสน่ห์ ฉันหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งเพื่อค้นพบความประหลาดใจที่ซ่อนอยู่มากขึ้น!

สาวๆ คะ! คู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวแบบละเอียดมาแล้ว! เที่ยวญี่ปุ่น 8 วัน อ่านบทความนี้ก็พอ! 🌨️❄️ -------- 🎉ภาพรวมเส้นทาง: วันที่ 1: ถนนโคคุไซโดริ เดินเล่นที่ถนนโคคุไซโดริ สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งและอาหารอันคึกคัก วันที่ 2: ศาลเจ้านามิโนอุเอะ -> ปราสาทชูริ -> พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาทสุโบยะ -> ถนนโคคุไซโดริ เยี่ยมชมความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้านามิโนอุเอะ เที่ยวชมโบราณสถานปราสาทชูริ เข้าชมพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาทสุโบยะ แล้วกลับมาสนุกกับไนท์ไลฟ์ที่ถนนโคคุไซโดริ วันที่ 3: สวนสาธารณะแหลมชิเนน -> ถ้ำเกียวคุเซ็นโด -> เกาะเซนากาจิมะ สัมผัสความงามตามธรรมชาติของแหลมชิเนน สำรวจความลึกลับของถ้ำเกียวคุเซ็นโด และพักผ่อนที่เกาะเซนากาจิมะ วันที่ 4: เดินทางจากนาฮาไปโอซาก้า ออกเดินทางไปโอซาก้า สัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของเมืองนี้ วันที่ 5: สวนปราสาทโอซาก้า -> เรือ Aqua Liner -> ย่านชินไซบาชิ -> อาคาร Umeda Sky Building เที่ยวชมสวนปราสาทโอซาก้า ล่องเรือชมทิวทัศน์เมือง ช้อปปิ้งที่ย่านชินไซบาชิ และขึ้นไปชมวิวกลางคืนของโอซาก้าที่อาคาร Umeda Sky Building วันที่ 6: รถไฟท่องเที่ยว Sagano Scenic Railway -> ล่องแก่งแม่น้ำโฮซุกาวะ -> อาราชิยามะ นั่งรถไฟชมวิวอาราชิยามะ สนุกกับการล่องแก่งแม่น้ำโฮซุกาวะ แล้วสำรวจความงามตามธรรมชาติของอาราชิยามะอีกครั้ง วันที่ 7: Universal Studios Japan เพลิดเพลินกับ Universal Studios Japan ตลอดทั้งวัน สนุกสนานกับธีมภาพยนตร์ วันที่ 8: Kansai Airport Outlet และเดินทางกลับ ช้อปปิ้งครั้งสุดท้ายที่ Kansai Airport Outlet แล้วเดินทางกลับบ้านพร้อมของฝากมากมาย! 🎊 -------- เคล็ดลับที่ต้องรู้ก่อนเที่ยว: 📌ข้อมูลวีซ่า: ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางจะราบรื่น 🎁ราคาของฝาก: ญี่ปุ่นมีของฝากมากมาย ควรเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อเพื่อไม่ให้เสียเงินโดยใช่เหตุ! 🚗การเดินทางจากสนามบิน: การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองสะดวกสบาย มีทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัสให้เลือก ❄️สภาพอากาศเดือนมกราคม: เดือนมกราคมในญี่ปุ่นค่อนข้างหนาว อย่าลืมนำเสื้อผ้ากันหนาวและอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นติดตัวไปด้วย -------- ขอให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี และเก็บภาพความงามและความอบอุ่นไว้ในใจ 🌸

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้มีระยะเวลา 3 คืน 4 วัน โดยเริ่มต้นที่เซนได ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งที่ 9 และในวันที่ 4 จะเดินทางกลับผ่านสนามบินคันไซ โดยวันแรกพักที่เซนได วันที่สองพักที่นาสุโคเก็น และวันที่สามพักที่โกเบ ธีมของการเดินทางครั้งนี้คือการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นธีมที่เคยใช้ในการเดินทางครั้งก่อน ๆ แต่ครั้งนี้จะจัดให้มีความตื่นเต้นและหลากหลายมากที่สุด โดยได้เตรียมตัวล่วงหน้าด้วยการศึกษาข้อมูลถึง 100 ชั่วโมง การจองตั๋วเดินทางในเดือนเมษายนได้ทำไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยใช้ไมล์สะสมในการจองตั๋วเที่ยวเดียวจากอินชอนไปเซนได ส่วนตั๋วขากลับได้จองในช่วงกลางเดือนมกราคม โดยเลือกสนามบินคันไซเนื่องจากการเปิดงานโอซาก้าเอ็กซ์โปในช่วง 2 สัปดาห์แรก การเดินทางไปเซนไดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับบัตรแมนโฮลคิตตี้ 2 แบบที่แจกในพื้นที่นาสุชิโอบาระ จังหวัดโทชิกิ โดยได้วางแผนการเดินทางไปยังนาสุชิโอบาระถึง 3 ครั้งเพื่อเพิ่มความลึกซึ้งในการเดินทางและสัมผัสประสบการณ์ที่นาสุโคเก็นเป็นครั้งแรก ในแต่ละวันจะมีการเข้าร่วมกิจกรรม Afternoon Tea หนึ่งครั้ง โดยจะจัดที่เซนได, ชิโอบาระ, โกเบ และโอซาก้า นอกจากนี้ยังมีแผนการสะสมบัตรแมนโฮลประมาณ 15 ใบ และการเยี่ยมชมร้าน Starbucks อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง รวมถึงการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ วันที่ 1 จะเริ่มต้นที่เซนได โดยรับบัตรแมนโฮลของจังหวัดมิยางิ และไปเยี่ยมชมร้านอาหารที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดจาก Tabelog, Google, Yahoo Japan และ Jalan Net นอกจากนี้ยังมีแผนการชมภาพยนตร์ Detective Conan ที่เข้าฉายในช่วงเวลาเดียวกัน วันที่ 2 หลังจากรับประทานอาหารเช้า จะเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นไปยังจังหวัดฟุคุชิมะเพื่อรับบัตรแมนโฮลในแต่ละเมือง และเดินทางต่อไปยังนาสุชิโอบาระเพื่อรับบัตรแมนโฮลคิตตี้แบบฤดูใบไม้ผลิที่แจกในพื้นที่ภูเขา โดยใช้เวลาเดินทางไปกลับด้วยรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนบัตรแบบฤดูใบไม้ร่วงจะไปรับในวันถัดไป หลังจากนั้นจะเข้าร่วมกิจกรรม Afternoon Tea ที่คาเฟ่ในชิโอบาระออนเซ็น ซึ่งได้ทำการจองผ่าน Instagram DM ไว้แล้ว และเยี่ยมชมร้าน Starbucks ที่เคยมีพาร์ทเนอร์วาดภาพคิตตี้ไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว แม้พาร์ทเนอร์คนนั้นจะไม่ได้อยู่ที่ร้านแล้ว แต่สถานที่นี้ยังคงเป็นความทรงจำที่ดี สำหรับการพักค้างคืน จะเดินทางไปยังนาสุโคเก็น โดยเลือกเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเนื่องจากเวลารถรับส่งสุดท้ายอยู่ในช่วง 16.00 น. โรงแรมที่พักเป็นรีสอร์ทออนเซ็นที่รวมอาหารเช้าและเย็น โดยเป็นการพักครั้งแรกในฐานะสมาชิกระดับ Diamond วันที่ 3 จะเริ่มต้นด้วยการแช่ออนเซ็นในตอนเช้า และรับประทานอาหารเช้าเวลา 7.00 น. จากนั้นจะไปเยี่ยมชมออนเซ็นที่มีชื่อเสียงในนาสุโคเก็น และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ 3 แห่งในพื้นที่ รวมถึงสถานีริมทาง (Michinoeki) และเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาเพื่อรับบัตรแมนโฮลคิตตี้แบบฤดูใบไม้ร่วง หลังจากนั้นจะเดินทางไปยังสถานีรถไฟนาสุชิโอบาระเพื่อขึ้นชินคันเซ็นไปยังสถานีโคริยามะ และพักดื่มกาแฟที่ Starbucks ก่อนเดินทางไปยังสนามบินฟุคุชิมะเพื่อขึ้นเครื่องบินภายในประเทศไปยังสนามบินโอซาก้าอิตามิ ในช่วงค่ำจะเข้าร่วมกิจกรรม Afternoon Tea ที่โกเบ ซึ่งต้องจ่ายค่าบริการสำหรับ 2 คนแม้จะเข้าร่วมคนเดียว โรงแรมที่พักในโกเบมีวิวทะเลที่สวยงาม วันที่ 4 จะเริ่มต้นด้วยการเข้าร่วมงานโอซาก้าเอ็กซ์โปในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายจะเข้าร่วมกิจกรรม Afternoon Tea ที่โรงแรมใหม่ในโอซาก้า ก่อนเดินทางไปยังสนามบินคันไซเพื่อกลับประเทศ ขอบคุณค่ะ

📍 จุดชมวิวสวนลอยฟ้าอุเมดะ ⏰️ เปิดทุกวัน เวลา 9:30 น. - 22:30 น. 🚘 ห่างจากสถานีอุเมดะเพียง 10 นาที แลนด์มาร์คสำคัญของโอซาก้าอย่างอาคารอุเมดะสกายบิลดิ้ง มีจุดชมวิวสวนลอยฟ้าที่สามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าได้ทั่วทั้งเมือง ในช่วงกลางวันคุณจะได้เห็นความคึกคักของเมือง และในช่วงกลางคืนคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติกของแสงไฟยามค่ำคืน อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมกันนะคะ