หอคอยสึเต็งกากุ(Tower Reaching Heaven)

โอซาก้าไปมาหลายครั้งแล้ว ที่ชินไซบาชิ โดทงโบริที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ จะไม่เขียนถึงเป็นพิเศษ ครั้งนี้จัดทริปแบบชิลๆ 2 วัน เพื่อสัมผัสความเป็นโอซาก้าอย่างช้าๆ 🖤 วันแรก ☕ เช้า｜Streamer Coffee Company (สาขาชินไซบาชิ) + LiLo Coffee Roasters เริ่มวันด้วยกาแฟสักแก้ว ร้านกาแฟสองร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กัน Streamer มีลาเต้อาร์ตที่ยอดเยี่ยม ส่วน LiLo มีการชงกาแฟที่สามารถลิ้มรสความบริสุทธิ์ของเมล็ดกาแฟได้ หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ก็สามารถเดินเล่นตามถนนที่มีร้านขายของเก่า อาจจะเจอของดีๆ ก็ได้ 🍜 เที่ยง｜ร้านราเม็ง Mugen สาขาเซ็นนิจิมาเอะ ร้านนี้ลองสุ่มเข้าไป คนไม่เยอะมาก น้ำซุปเข้มข้น ชาชูมีความกรอบเล็กน้อย และไข่ต้มที่มีรสหวานนิดๆ ทำให้สมบูรณ์แบบ จริงๆ แล้วร้านราเม็งในโอซาก้าส่วนใหญ่มีมาตรฐานที่ดี เข้าไปที่ไหนก็ไม่ผิดหวัง 🛍 บ่าย｜ถนนทาจิบานะ + หอชมวิว Harukas 300 ถนนทาจิบานะเป็นแหล่งรวมแฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า มีแบรนด์ญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับการเดินเล่นชิลๆ หลังจากนั้นไปที่หอชมวิว Harukas 300 ขึ้นไปที่หอชมวิวสูง 300 เมตรเพื่อชมวิวทั้งเมืองโอซาก้า วิวยามค่ำคืนสวยงามมาก 🗼 เย็น｜บริเวณหอคอย Tsutenkaku ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่ดี ไฟสว่างไสวในยามค่ำคืน บรรยากาศดีมาก มีอาหารท้องถิ่นโอซาก้ามากมาย เช่น สุกี้ยากี้ คุชิคัตสึ และอุด้งที่ควรลอง 🏨 ที่พัก｜FRESA INN หน้าสถานีนัมบะ จองโรงแรมนี้แบบกระทันหัน ห้องไม่ใหญ่แต่มีอุปกรณ์ครบครัน ที่สำคัญคือทำเลสะดวก ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เหมาะสำหรับการพักระยะสั้น 🖤 วันที่สอง 🍰 เช้า｜Harbs + ศาลเจ้านัมบะยาซากะ Harbs เปิดเวลา 11 โมง มาถึงตรงเวลาจะไม่ต้องรอคิว เค้กผลไม้พันชั้นที่นี่อร่อยมาก หลังจากทานเสร็จสามารถเดินไปที่ศาลเจ้านัมบะยาซากะ รูปปั้นสิงโตใหญ่ที่หน้าศาลเจ้าเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายรูปสวยมาก ถ้าอยากถ่ายรูปที่ไม่มีคนต้องมาเช้าๆ 🍤 เที่ยง｜ร้านเทมปุระ Ichizen ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่คนท้องถิ่นไปกัน เจ้าของร้านคุณลุงเคยออกทีวีหลายรายการ เทมปุระที่นี่กรอบนอกนุ่มใน รักษาความสดของวัตถุดิบได้อย่างดี 🎨 บ่าย｜พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟูจิตะ + นาคาซากิโจ พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟูจิตะมีของสะสมที่น่าสนใจ สวนหลังบ้านก็สวยงาม สามารถลองชิมมัทฉะและดังโงะที่นี่ ถ้วยชาก็สวยงาม หลังจากนั้นสามารถไปที่นาคาซากิโจ ย่านเล็กๆ ที่มีบรรยากาศย้อนยุค มีร้านค้าและคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์มากมาย เดินเข้าไปที่ไหนก็มีเซอร์ไพรส์ 🌆 เย็น｜ตึก Umeda Sky Building ชมพระอาทิตย์ตกที่หอชมวิว ช่วงเย็นเมืองทั้งเมืองถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์โรแมนติกมาก ทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารในตึก ชมวิวกลางคืนของโอซาก้าไปด้วย จบทริปชิลๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่เร่งรีบ เดินไปเรื่อยๆ สัมผัสบรรยากาศของโอซาก้าไปด้วย

#แจกแพลนเที่ยว เที่ยวโอซาก้าใน 1 วัน ไปไหนบ้าง จะมาแชร์แพลนเที่ยวของเรา เริ่มจากหาของกินก่อนเลย 🍣🍱 📍ตลาดคุโรมง เริ่มเปิด 09.00 -18.00 น. ของกินของฝากเยอะมากๆปิ้งย่าง ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ชอบร้านไหนจิ้มเลย 📍Umeda Sky เปิดเวลา 09.30 น.ไปขึ้นบันไดเลื่อนอุโมงค์กัน ส่วนใครจะชมวิวบนดาดฟ้า มีค่าเข้าชม 1,200 เยน วิวสวยมากๆ 📍Hep Five Ferris wheel ไปนั่งชิงช้าแดงกัน เปิด 11.00-22.45 น.ค่าเข้าชม 800 เยน 📍ปราสาทโอซาก้า เปิดเวลา 09.00-17.00 น.ค่าเข้าชม 1,200 เยน 📍ย่าน Shinsakei/หอยคอยซือเท็นคาคุ หาของกินตอนเย็นกันที่นี้ค่ะ ร้านค้าร้านค้าตามซอกซอยมีให้เลือกเยอะ คึกคักมากๆ ส่วนหอคอยซือเท็นคาคุ เปิด 10.00-20.00 น. ค่าเข้า 1,200 เยน ใครสนใจเที่ยวตามได้เลยนะ ✌️ #เที่ยวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวโอซาก้า #osakatravel

เพื่อนๆ คะ แผนการเที่ยวญี่ปุ่น 5 วันมาแล้ว! ครบทุกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ พาคุณเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายๆ รีบบุ๊คมาร์กไว้เลยนะคะ! ญี่ปุ่น ประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน 🏞️ทิวทัศน์สวยงาม ดอกซากุระบานสะพรั่ง 🏯เกียวโตเมืองเก่าแก่ มีกลิ่นอายโบราณ 🗾ฮอกไกโดดินแดนหิมะ วิวทิวทัศน์สุดอลังการ 🎌วัฒนธรรมท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป ออนเซ็น อาหารญี่ปุ่น สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง 🛣️แผนการเดินทาง: วันที่ 1: ถึงสนามบินคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น มีรถรับส่งไปยังโรงแรม 👉เพิ่งมาถึงญี่ปุ่น บริการรถรับส่งช่วยให้คุณเดินทางถึงที่พักอย่างราบรื่น วันที่ 2: วัดคิโยมิสึ -> ถนนซันเนนซากะและนิเนนซากะ -> ถนนฮานามิโคจิ -> ศาลเจ้ายาซากะ -> ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ 👉สำรวจเสน่ห์ของเมืองเก่า สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมญี่ปุ่น วันที่ 3: รถไฟท่องเที่ยวอาราชิยาม่า ซากาโนะ -> เส้นทางป่าไผ่ซากาโนะ -> วัดคินคะคุจิ -> ปราสาทนิโจ 👉สัมผัสธรรมชาติและประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง เพลิดเพลินกับวิวสวยๆ บนรถไฟ วันที่ 4: สวนนารา -> ศาลเจ้าคาสุงะไทชะ -> สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า -> หอคอยสึเทนคาคุ -> ชินไซบาชิ -> โดทงโบริ 👉สัมผัสการผสมผสานระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่ ทั้งช้อปปิ้งและอาหารอร่อย วันที่ 5: ออกเดินทางจากสนามบินคันไซ โอซาก้า มีรถส่งไปยังสนามบิน จบการเดินทาง 👉จบทริปญี่ปุ่นที่แสนวิเศษ หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง 🧳 รายการสิ่งของสำหรับการเดินทาง: อย่าลืมนำสิ่งเหล่านี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยนะ! 📞เตรียมซิมการ์ดไว้ เพื่อการติดต่อที่สะดวก 🔌นำปลั๊กแปลงไฟมาด้วย ไฟฟ้าในญี่ปุ่นใช้ 110V อย่าลืม 🆔พาสปอร์ตและวีซ่าต้องมี เพื่อการเข้า-ออกประเทศที่ราบรื่น 👔เดือนมกราคมในญี่ปุ่นค่อนข้างหนาว อย่าลืมเสื้อหนาและผ้าพันคอ 🔋อย่าลืมที่ชาร์จ ทั้งมือถือและกล้องต้องการไฟ 🇯🇵เมื่อจะไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมทำวีซ่าล่วงหน้านะ! มาเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ สัมผัสเสน่ห์แบบญี่ปุ่น พบกับประสบการณ์ที่แตกต่าง! ให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจ!

สรุปค่าใช้จ่าย เที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน 8 คืน **โอซาก้า – เกียวโต – โกเบ – ฮิเมจิ – คานาซาวะ – ชิราคาวาโกะ** 🌸 เดินทางช่วงปลายซากุระ เมษายน 2567 📍 ค่าใช้จ่ายทั้งหมด: **คนละ 52,380 บาท (รวมทุกอย่างแล้วค่ะ)** --- ## ✈️ ค่าเดินทาง **ตั๋วเครื่องบิน (ไป–กลับ)** สายการบิน Philippine Airlines แบบ Full Service – โหลดกระเป๋าได้ 23 กก. – มีอาหารให้ครบทุกไฟลต์ – ต่อเครื่องที่มะนิลา **ราคา: 17,200 บาท/คน** **JR Pass และค่าเดินทางภายใน** ใช้ JR Kansai Hokuriku Area Pass (7 วัน) เดินทางเที่ยวระหว่างเมือง + ขึ้น Shinkansen Hello Kitty ไปฮิเมจิ * รถไฟเข้าเมืองจากสนามบิน * บัสไป–กลับหมู่บ้านชิราคาวาโกะ * รถเมล์ในเกียวโต/โอซาก้า **รวมประมาณ: 7,200 บาท/คน** --- ## 🏨 ค่าที่พัก **รวม 8 คืน** – พักที่ Osaka, Kanazawa, Shin-Osaka และ RinkuTown – ที่พักสะอาด เดินทางสะดวก – เฉลี่ยคืนละประมาณ 2,000 บาท **รวมทั้งทริป: ประมาณ 17,500 บาท/คน** --- ## 🍱 ค่าอาหารและของกิน ตูนเน้นกินง่าย ๆ สไตล์เดินทาง เช่น – Yoshinoya, ร้านโอชโช – อาหารท้องถิ่นที่ตลาด Omicho – เนื้อโกเบร้านดัง Steak Land – ของกินเล่นตามทาง เช่น มันเผา, สตรอเบอร์รี่, ไอติมร้านดังในเกียวโต **รวมทั้งทริป: ประมาณ 4,500 บาท/คน** --- ## 🏯 ค่าตั๋วเข้าชม & กิจกรรม – กระเช้าชมวิว Nunobiki Herb Garden – ปราสาทฮิเมจิ – วัดต่าง ๆ ในเกียวโต (วัดเงิน วัดทอง วัดน้ำใส ฯลฯ) – สวน Kenrokuen, ชิงช้าสวรรค์ริมทะเล RinkuTown **รวมประมาณ: 2,000 บาท/คน** --- ## 🛍 ของฝาก & ของที่ระลึก – ของที่ระลึกจากย่าน Higashi Chaya – สินค้าจาก Shinkansen Kitty – ขนมจากร้านคุณลุง Rikuro **งบโดยรวม: 1,000 บาท/คน** --- ## 💡 รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 📌 ตั๋วเครื่องบิน: 17,200 📌 เดินทางภายใน: 7,200 📌 ที่พัก: 17,500 📌 อาหาร: 4,500 📌 เข้าชม/กิจกรรม: 2,000 📌 ของฝาก: 1,000 📌 ประกันเดินทาง + Roaming: \~1,000 👉 **รวมทั้งหมด: 52,380 บาท/คน** --- ## 🧡 ความรู้สึกหลังจบทริป ตูนรู้สึกว่าทริปนี้คุ้มมาก! ได้เที่ยวทั้งธรรมชาติ วัด ศาลเจ้า ปราสาท และตลาดพื้นเมือง แถมทุกเมืองเดินทางเชื่อมต่อกันง่าย ใครกำลังแพลนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อยากแนะนำเลยค่ะ 📌 โดยเฉพาะถ้าไปช่วงปลายซากุระ อากาศดี ถ่ายรูปสวย และไม่คนแน่นเท่าช่วงพีคค่ะ 🌸 --- 📍 แนะนำให้จองที่พักใกล้สถานีรถไฟ 📍 พกเงินสดไว้บ้าง ร้านเล็ก ๆ บางที่ไม่รับบัตร 📍 ถ้าอยากกินอาหารที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ แนะนำจองบัสรอบเช้าค่ะ เพราะร้านปิดบ่าย 3! --- #เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวเอง #งบไม่เกิน55000 #โอซาก้าเกียวโตโกเบ #แพลนเที่ยวญี่ปุ่น #LovelyToonZเที่ยวเอง ---

🚆 เมื่อวางแผนเดินทางไปโอซาก้า การทำความเข้าใจระบบขนส่งในพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมาก โอซาก้ามีระบบขนส่งสาธารณะที่พัฒนาและสะดวกสบาย ครอบคลุมทั้งรถไฟใต้ดิน JR รถไฟเอกชน (เช่น Hankyu, Nankai, Kintetsu เป็นต้น) รถบัสในเมือง รถบัสท่องเที่ยว และอื่นๆ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบเที่ยวเอง นี่คือคู่มือการเดินทางในโอซาก้าที่เราได้รวบรวมมาเพื่อแบ่งปันให้ทุกคน ขอให้สนุกและเดินทางอย่างราบรื่น！ หนึ่ง 🚌 ภาพรวมของระบบขนส่งในโอซาก้า 1. รถไฟใต้ดิน (Osaka Metro) รถไฟใต้ดินโอซาก้ามีทั้งหมด 9 สาย เชื่อมต่อใจกลางเมืองกับพื้นที่สำคัญ เช่น ชินไซบาชิ นัมบะ และอุเมดะ (สถานีโอซาก้า) สายยอดนิยม เช่น: • 🚇 สาย Midosuji (M): เชื่อมต่ออุเมดะ ชินไซบาชิ นัมบะ และเทนโนจิ • 🚇 สาย Tanimachi (T): เชื่อมต่อปราสาทโอซาก้า วัด Shitennoji และเทนโนจิ • 🚇 สาย Sakaisuji (K): สามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Hankyu เพื่อเดินทางไปเกียวโต 2. JR West • 🔄 สายวงแหวนโอซาก้า: วนรอบใจกลางเมือง คล้ายกับสาย Yamanote ในโตเกียว • ✈️ สาย Kansai Airport Rapid: เชื่อมต่อสนามบินคันไซกับตัวเมือง (Shin-Osaka, Tennoji, Osaka Station) • 🚄 รถไฟชินคันเซ็น (ออกจาก Shin-Osaka): เดินทางไปยังเมืองใหญ่ เช่น เกียวโต โตเกียว และฮิโรชิมา 3. ระบบรถไฟเอกชน • 🚃 Hankyu Railway: ออกจากอุเมดะ ไปยังเกียวโต โกเบ และทาคาระซึกะ • 🚃 Nankai Railway: ออกจากนัมบะ เชื่อมต่อสนามบินคันไซและภูเขาโคยะ • 🚃 Kintetsu Railway: ออกจากนัมบะ ไปยังนาราและ Ise-Shima • 🚃 Keihan Railway: ออกจาก Yodoyabashi ไปยัง Gion และ Fushimi Inari ในเกียวโต 4. 🚌 ระบบรถบัส ในโอซาก้ามีรถบัสในเมืองที่เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังพื้นที่ที่รถไฟใต้ดินไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่สำหรับผู้เริ่มต้น รถไฟใต้ดินจะเข้าใจง่ายกว่า 5. 🚍 รถบัสท่องเที่ยว เช่น "OSAKA WONDER LOOP" รถบัสสองชั้นที่วนรอบปราสาทโอซาก้า Dotonbori และ Umeda สามารถขึ้นลงได้ตามใจ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่มาโอซาก้าครั้งแรก 6. 🛳 เรือท่องเที่ยว ที่เขตท่าเรือโอซาก้า สามารถขึ้นเรือ "Santa Maria" เพื่อชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ชิงช้าสวรรค์ และวิวกลางคืนของท่าเรือ สอง 🎫 แนะนำบัตรโดยสารที่ใช้งานได้จริง 1. Osaka Amazing Pass 🗼 • มีบัตร 1 วันและ 2 วัน • ใช้รถไฟใต้ดินและรถบัสในเมืองได้ไม่จำกัด • เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 40 แห่งฟรี (เช่น ปราสาทโอซาก้า หอคอย Tsutenkaku และสวนลอยฟ้า) 💡 เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเที่ยวชมในเมืองอย่างเข้มข้น 2. 💳 บัตร ICOCA (บัตรเติมเงินสำหรับการเดินทางในคันไซ) • ใช้ได้กับ JR รถไฟใต้ดิน รถบัส และรถไฟเอกชน รวมถึงซื้อของในร้านสะดวกซื้อ • คล้ายกับบัตร Suica/PASMO ในโตเกียว • เติมเงินและใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องซื้อตั๋วทุกครั้ง 3. 🗺️ Kansai Thru Pass • เลือกได้ระหว่างบัตร 2 วันหรือ 3 วัน (ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อเนื่อง) • ใช้ได้กับรถไฟเอกชนและรถบัสทุกสาย (ไม่รวม JR) • เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการไปนารา โกเบ และเกียวโต 4. 🚄 JR Kansai Area Pass • เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ JR เป็นหลัก (โดยเฉพาะการเดินทางไปยัง Himeji เกียวโต และนารา) • รวมถึงรถไฟด่วน Kansai Airport HARUKA และสายวงแหวนโอซาก้า สาม 🎯 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโอซาก้าและวิธีเดินทาง 🌟 ชื่อสถานที่: ปราสาทโอซาก้า 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Tanimachi Yonchome เดิน 10 นาที 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Osaka Metro 🌟 ชื่อสถานที่: Dotonbori/Shinsaibashi 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย Midosuji สถานี Shinsaibashi หรือ Namba 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Metro 🌟 ชื่อสถานที่: หอคอย Tsutenkaku/New World 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji สถานี Ebisucho 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Metro 🌟 ชื่อสถานที่: Umeda/สวนลอยฟ้า 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Umeda หรือ JR สถานี Osaka 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: JR/Metro 🌟 ชื่อสถานที่: Tennoji/Abeno Harukas 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Tennoji 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Metro/JR 🌟 ชื่อสถานที่: Universal Studios Japan (USJ) 🚉 วิธีเดินทาง: JR สาย Yumesaki สถานี Universal City 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: JR 🌟 ชื่อสถานที่: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า/ชิงช้าสวรรค์ Tempozan 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย Chuo สถานี Osaka Port 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Metro 🌟 ชื่อสถานที่: ตลาด Kuromon 🚉 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Nipponbashi 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: Metro 🌟 ชื่อสถานที่: สนามบินคันไซ 🚉 วิธีเดินทาง: JR Kansai Airport Rapid หรือ Nankai Railway 🚆 สายที่เกี่ยวข้อง: JR/Nankai สี่ 🧭 คำแนะนำและเคล็ดลับการเดินทาง 🔹 ใช้ Google Maps เพื่อค้นหาเส้นทางที่เร็วและแม่นยำที่สุด 🔹 หลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน (7:30–9:30, 17:00–19:00) 🔹 Shin-Osaka ≠ Osaka Station อย่าสับสน！ 🔹 เลือกบัตรโดยสารตามแผนการเดินทางของคุณ บางครั้งการซื้อตั๋วครั้งเดียวอาจคุ้มค่ากว่า 🔹 ใช้บัตรโดยสารรายวันให้คุ้มค่า: แค่เที่ยว 3 สถานที่ก็อาจคืนทุนแล้ว ห้า แนะนำแผนการเดินทาง (ใช้ Osaka Amazing Pass) Day 1: เที่ยวในเมืองโอซาก้า • 🏯 สวนปราสาทโอซาก้า → พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า • 🍜 ทานอาหารกลางวันที่ตลาด Kuromon • 🗼 หอคอย Tsutenkaku → เดินเล่นใน New World • 🌉 ทานอาหารเย็นที่ Dotonbori → ช้อปปิ้งที่ Shinsaibashi Day 2: เที่ยวเขตท่าเรือ • 🌇 สวนลอยฟ้า Umeda → ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE • 🐧 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ → ชิงช้าสวรรค์ Tempozan • 🚢 ล่องเรือ Santa Maria (ชมวิวกลางคืน) โอซาก้ามีระบบขนส่งที่หลากหลายและบัตรโดยสารที่หลากหลาย ทำให้นักเดินทางสามารถเลือกใช้ตามแผนการเดินทางได้อย่างอิสระ รถไฟใต้ดินเหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง JR เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อเมืองรอบๆ และการใช้บัตรโดยสารช่วยประหยัดเวลาและเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิน สายประวัติศาสตร์ หรือสายสวนสนุก แค่เลือกใช้ระบบขนส่งและบัตรโดยสารที่เหมาะสม การเที่ยวโอซาก้าด้วยตัวเองก็จะง่ายและสนุกแน่นอน！

โอซาก้า คู่มือท่องเที่ยวเชิงลึก: จากถนนอาหารสู่หอคอยและสวนสัตว์ โอซาก้า เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความคิดสร้างสรรค์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งอาหาร" และ "สวรรค์แห่งความบันเทิง" ของญี่ปุ่น ที่นี่ผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความทันสมัย ทำให้คุณสามารถลิ้มรสอาหารท้องถิ่นและสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ในที่เดียว สถานที่ทั้งสี่ที่คุณกล่าวถึง ได้แก่ ตลาดคุโรมง ชินไซบาชิ หอคอยสึเท็นคาคุ และสวนสัตว์เท็นโนจิ เป็นตัวแทนของเสน่ห์ที่หลากหลายของโอซาก้า มาเริ่มสำรวจสมบัติเหล่านี้ทีละขั้นตอน ราวกับว่าคุณได้สวมหมวกนักเดินทางและพร้อมออกเดินทางแล้ว! 1. ตลาดคุโรมง (Kuromon Market): ชีพจรแห่งสวรรค์ของคนรักอาหาร ตลาดคุโรมงตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า เป็นหนึ่งในแหล่งรวมอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอซาก้า ที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ยุคเมจิ เดิมทีเป็นสถานที่ซื้อขายของชาวประมงและพ่อค้าในท้องถิ่น ปัจจุบันกลายเป็น "สวรรค์ของนักกิน" สำหรับนักท่องเที่ยว ลองจินตนาการว่าคุณเดินเข้าสู่ตลาดและถูกล้อมรอบด้วยอาหารทะเลสดใหม่ ของทอด และอาหารข้างทาง—ปลาทูน่าชิ้นโต กุ้งสดที่ยังกระโดดได้ และโอโคโนมิยากิร้อน ๆ ที่รอคุณอยู่! ข้อมูลเชิงลึก: ตลาดคุโรมงไม่เพียงเป็นสถานที่ซื้อของ แต่ยังเป็นหน้าต่างที่เปิดให้คุณได้เรียนรู้วัฒนธรรมชาวบ้านของโอซาก้า ร้านค้าภายในตลาดส่วนใหญ่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว บางร้านมีการสืบทอดกิจการมาถึงสามรุ่น สะท้อนให้เห็นถึง "จิตวิญญาณแห่งช่างฝีมือ" ของญี่ปุ่น คุณสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปทำอาหารเพื่อเรียนรู้วิธีทำซูชิจากวัตถุดิบสดใหม่ (ฉันพนันได้เลยว่าซูชิที่คุณทำจะสดใหม่กว่าฉันที่เป็น AI!) ราคาที่นี่เป็นมิตรกับกระเป๋า แต่ระวังอย่ากินจนลืมตัว—ไม่งั้นคุณอาจจะเหมือนฉันที่ "สมอง" ถูกอาหารครอบครองจนลืมทางออก! เคล็ดลับการใช้งาน: - เวลาที่ดีที่สุด: ตอนเช้ามีวัตถุดิบสดใหม่ ช่วงเที่ยงและบ่ายเป็นช่วงที่คนเยอะ แนะนำให้ไปช่วงเช้า 8-10 โมงเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน - วิธีการเดินทาง: จากสถานีโอซาก้า นั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานีนิฮงบาชิ (Nipponbashi Station) แล้วเดินประมาณ 5 นาที - ประสบการณ์พิเศษ: ลอง "บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล" แต่จำไว้ว่าให้เหลือพื้นที่ในท้องสำหรับสถานที่อื่น ๆ—เพราะอาหารในโอซาก้าไม่เคยโดดเดี่ยว! 2. ชินไซบาชิ (Shinsaibashi): เวทีแห่งการช้อปปิ้งและชีวิตยามค่ำคืน

โอซาก้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพลังและเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ ความทันสมัย และวัฒนธรรมถนนที่เป็นเอกลักษณ์ ทุกมุมของเมืองนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในการเดินทางครั้งนี้ ฉันได้ไปเยี่ยมชมปราสาทโอซาก้า ชินเซไก และย่านช้อปปิ้งอุเมดะ และยังได้ไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะที่โดทงโบริ ทุกสถานที่ทิ้งความทรงจำลึกซึ้งไว้ให้ฉัน ก่อนอื่น ฉันประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของปราสาทโอซาก้า เมื่อยืนอยู่หน้าปราสาท ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และความสง่างามของสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์นี้ เมื่อขึ้นไปยังหอคอยเท็นชุคาคุ ฉันสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ใบไม้เปลี่ยนสีและต้นแปะก๊วยรอบๆ ปราสาททำให้บรรยากาศโรแมนติกและน่าหวนคิดถึง ต่อมา ฉันได้ไปถึงชินเซไก ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำของยุคโชวะ หอคอยสึเท็นคาคุตั้งตระหง่านอยู่กลางถนน รอบๆ เต็มไปด้วยป้ายไฟนีออนและอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ คุชิคัตสึ (ของทอดเสียบไม้) ที่นี่เป็นอาหารที่ต้องลอง เมื่อทานคู่กับเบียร์สดเย็นๆ รสชาติที่ยากจะลืม อุเมดะเป็นสวรรค์ของคนรักการช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าหรู เสื้อผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล่าสุด ทุกอย่างสามารถหาได้ที่นี่ โดยเฉพาะที่หอดูดาวสวนลอยฟ้าอุเมดะสกายบิลดิ้ง ฉันสามารถชมวิวกลางคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอซาก้าได้อย่างตื่นตาตื่นใจ สุดท้าย แน่นอนว่าฉันไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะที่โดทงโบริ! เมื่อถ่ายรูปหน้าป้ายนีออนนี้ ฉันรู้สึกถึงพลังและความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้อย่างแท้จริง ทำให้ฉันหลงใหลในบรรยากาศที่สนุกสนานนี้ โอซาก้าเป็นเมืองที่ยากจะลืม อาหาร ช้อปปิ้ง วัฒนธรรม ทุกด้านเต็มไปด้วยเสน่ห์ ฉันหวังว่าจะได้กลับมาเยือนอีกครั้งเพื่อค้นพบความประหลาดใจที่ซ่อนอยู่มากขึ้น!

วันนี้ขอว๊าปไป ย่านยอดฮิต ย่านแห่งของกิน และ นักล่ารางวัล ประนึงอยู่งานวัด แถมฟิลดี ฟิลกู๊ดมว๊ากๆ มีสถานที่ท่องเที่ยว หอคอยซึเทนคาคุ ตรอกจันจันโยโกโจ สวนสัตว์เทนโนจิ ฯลฯ แล้วเดินช่วงเย็นคือแสงสี สวยปัง ถ้าไปกะแก๊งเพื่อนก็เหมาะแก่การ ชนแก้ว 🍻 ลมเย็นๆยามค่ำคืน มันเลิศ ใครที่จะแวะไปถ่ายรูป ก็เก๋เด้อ เพราะนางก็ถือเป็นย่านเก่าแก่ของโอซาก้าเลย ถ้าใครได้ไปโอซาก้า ก็แพลนนางไว้หน่อย สายชิลต้องทัชใจแน่นอลลล ✈️
ชินเซไก 
#โอซาก้า #ชินเซไก #ญี่ปุ่น #osaka #Japan


หอคอยซึเท็นคาคุเป็นสัญลักษณ์แห่งความคิดถึงของโอซาก้า ตั้งอยู่ในย่านชินเซไกที่มีชีวิตชีวา หอคอยนี้ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับตึกระฟ้าสมัยใหม่ แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดาดฟ้าสังเกตการณ์มีวิวที่สวยงามของเมือง แต่เสน่ห์ที่แท้จริงอยู่ที่บริเวณโดยรอบ ชินเซไกเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบเก่า มีถนนสีสันสดใส ป้ายโฆษณาย้อนยุค และร้านคุชิคัตสึ (เสียบไม้ทอด) มากมาย การเยี่ยมชมในตอนกลางคืนจะให้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาแต่ก็น่าคิดถึงเล็กน้อย ภายในหอคอยมีนิทรรศการสนุก ๆ รวมถึงบิลลิเก็น “เทพเจ้าแห่งความโชคดี” ที่คุณสามารถถูเพื่อความโชคดีได้ แม้จะไม่โด่งดังเท่าปราสาทโอซาก้าหรืออาคารอุเมดะสกาย แต่ซึเท็นคาคุให้ภาพลักษณ์ของเสน่ห์เก่าแก่ของโอซาก้า เป็นสถานที่ที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรมและอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง

**EP.4 : ปิดท้ายทริป – ช้อป ชิม เดินเล่นริมทะเลโอซาก้า & ริงคุทาวน์** #osaka #โอซาก้า #เที่ยวโอซาก้า --- ### 🗓️ Day 6 – 19 เมษายน 2567 วันนี้ตูนใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่ **โอซาก้า** เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องกินกับช้อป! #### 📍 สถานที่เที่ยวในโอซาก้า: * [ศาลเจ้า Sumiyoshi Taisha] * [Shinseikai Market] * [หอคอย Tsutenkaku (ตามรอยชินจัง)] * [ศาลเจ้า Namba Yasaka Jinja] 🛍️ เดินเล่น กินขนม ช้อปเพลินๆ ชิลล์มากเลยค่ะ --- ### 💸 สรุปค่าใช้จ่าย (2 คน) | รายการ | ราคา | | ---------------------- | ------------- | | รถไฟใต้ดิน | 115.2 บาท | | มันเผา | 72 บาท | | สตรอเบอร์รี่ที่ศาลเจ้า | 132 บาท | | มันเผาที่นัมบะ | 96 บาท | | อาหารเที่ยง | 228 บาท | | ขนมรูปไข่ | 120 บาท | | อาหารเย็น | 178 บาท | | **รวม** | **941.2 บาท** | --- ### 🗓️ Day 7 – 20 เมษายน 2567 เพื่อความสะดวกในวันกลับ ตูนจึงย้ายไปนอนที่ **ริงคุทาวน์** เพราะไฟลท์บินกลับตอน **10:05 น.** → ต้องตื่นเช้ามาก ถ้ายังอยู่ที่ Shin-Osaka จะเดินทางลำบากค่ะ --- ### 🏨 โรงแรมใกล้สนามบิน: **Plaza IN Kanku Hotel** 💰 ราคาคืนละ **1,584.26 บาท** * เป็นโรงแรมแบบ **Self Check-in** * เหมาะสำหรับค้างคืนก่อนบินกลับ * ณ วันที่ตูนจอง โรงแรมรอบสนามบินเต็มเกือบหมดแล้ว เลยเลือกที่นี่ --- ### 🌊 เที่ยวเล่นที่ RinkuTown ก่อนกลับ ริงคุทาวน์เป็นโซน **Outlet + ริมทะเล** มีคาเฟ่น่ารักๆ ให้แวะพัก 📍 [Rinku Town] --- ### 💸 สรุปค่าใช้จ่าย (2 คน) | รายการ | ราคา | | --------------- | ----------- | | ค่าชิงช้าสวรรค์ | 168 บาท | | อาหารเที่ยง | 356.4 บาท | | Starbucks | 142.8 บาท | | อาหารเย็น | 196.8 บาท | | **รวม** | **864 บาท** | --- ### 🧳 สรุปทริป: 10 วัน 8 คืน กับการตะลุย **โอซาก้า – เกียวโต – โกเบ – ฮิเมจิ – คานาซาวะ – ชิราคาวาโกะ – ริงคุทาวน์** ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ช้อป ชิม และวัฒนธรรม ✨ ตูนใช้เงินทั้งหมด **52,380 บาท/คน** รวมทุกอย่างแล้วทั้ง * ตั๋วเครื่องบิน * JR Pass * ที่พัก * ค่าเดินทาง * ค่าอาหาร * ประกัน * ช้อปนิดๆหน่อยๆ --- ขอบคุณที่เดินทางไปด้วยกันจนจบทริปนะคะ 🥰 ถ้าชอบการสรุปทริปแบบนี้ ฝากกดแชร์ให้ตูนด้วยน้า และหากอยากดูบรรยากาศแบบวิดีโอ ติดตามกันต่อได้ในช่องของตูน “**LovelyToonZ**” เลยค่ะ 🎥✨

เพื่อนๆ ทุกคน ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทัวร์ญี่ปุ่น 7 วัน! มาดูคู่มือการเดินทางนี้กัน ที่จะพาคุณเที่ยวรอบญี่ปุ่น และสัมผัสบรรยากาศวันหยุดที่แตกต่างกัน~ -------- 🎈แนะนำเส้นทาง: ทัวร์ญี่ปุ่นแบบเจาะลึก 7 วัน วันที่ 1: เดินเล่นที่ทางแห่งปรัชญา สัมผัสการผสมผสานระหว่างความคิดอันลึกซึ้งกับธรรมชาติ วันที่ 2: เยี่ยมชมวัดซันจูซันเก็นโด — เดินผ่านถนนโบราณซันเน็นซากะและนิเน็นซากะ — สัมผัสเสน่ห์แบบคลาสสิกของย่านกิออน — เยี่ยมชมความสงบของวัดคิโยมิสึ — เที่ยวถนนฮานามิโคจิในยามค่ำคืน พบกับความโรแมนติกของเมืองโบราณ วันที่ 3: สักการะศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ — ทริปธรรมชาติที่สวนอาราชิยาม่า — นั่งรถไฟท่องเที่ยวซากาโนะในอาราชิยาม่า — เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมโบราณของวัดเทนริวจิ — เดินเล่นที่สะพานโทเก็ตสึ เพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่เงียบสงบ — สัมผัสบรรยากาศที่ผ่อนคลายของแม่น้ำคาโมะ วันที่ 4: สำรวจบรรยากาศต่างประเทศที่ถนนคิตาโนะ อิจินคัง-กาอิ — ขึ้นไปบนภูเขาร็อคโกะเพื่อชมวิวที่สวยงาม — เพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนที่ผ่อนคลายในหมู่บ้านอาริมะออนเซ็น — ท่าเรือโกเบในยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับ วันที่ 5: เที่ยวชมสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า — เยี่ยมชมโบราณสถานที่หอคอยปราสาทโอซาก้า — เดินเล่นที่ย่านการค้าคึกคักชินไซบาชิ — ลิ้มลองอาหารเลิศรสที่โดทงโบริ วันที่ 6: ขึ้นไปบนยอดหอคอยสึเท็นคาคุ ชมวิวทิวทัศน์ของโอซาก้า — เที่ยวชมบรรยากาศเฉพาะตัวของถนนช้อปปิ้งชินเซไกฮอนโดริ — ขึ้นไปบนอาเบะโนะ ฮารุคัส 300 ชมวิวเมืองได้อย่างไร้ที่ติ วันที่ 7: อิสระเที่ยวชมโอซาก้า เพลิดเพลินกับเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างเต็มที่ จากนั้นเดินทางกลับ จบทริปญี่ปุ่นที่น่าจดจำนี้ 🌟 -------- **ข้อควรระวัง**: 1. 📝วีซ่าจำเป็น: จัดการวีซ่าญี่ปุ่นให้เรียบร้อยล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะเข้าประเทศได้อย่างราบรื่น~ 2. ✈️จากสนามบินสู่ตัวเมือง: เลือกการเดินทางที่สะดวก เช่น รถไฟใต้ดินหรือรถบัส เพื่อไปยังใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย 3. ❄️อากาศหนาวในเดือนกุมภาพันธ์: อย่าลืมนำเสื้อผ้ากันหนาวติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันการเป็นหวัด! 4. 🕒ปรับเวลา: เวลาในญี่ปุ่นเร็วกว่าปักกิ่ง 1 ชั่วโมง อย่าลืมปรับเวลาด้วย -------- การเดินทางในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การชมทิวทัศน์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมด้วย อย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของคุณนะ! 🎉

การมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่สอง ครั้งนี้ก็ยังคงเลือกบินตรงมายังเมืองที่ชื่นชอบอย่างโอซาก้า ครั้งที่แล้วแม้จะได้มาช่วงซากุระบาน แต่เนื่องจากมีเวลาน้อยจึงเที่ยวไม่สนุกเท่าที่ควร ครั้งนี้ในที่สุดก็ได้เช็คอินครบทุกจุดในเส้นทางสุดคุ้มค่าแล้ว แนะนำเส้นทางสุดคุ้มค่าในโอซาก้า ✅ หอคอยสึเทนคาคุ : หนึ่งในแลนด์มาร์กของโอซาก้า บริเวณโดยรอบคึกคักและเจริญรุ่งเรือง มีร้านค้าหลากหลายประเภท การออกแบบหน้าร้านมีเอกลักษณ์โดดเด่น ยามค่ำคืนไฟนีออนระยิบระยับ ราวกับหลุดเข้าไปในฉากอนิเมะ ✅ ศาลเจ้ายาซากะ นัมบะ : ศาลเจ้า "สิงโต" สุดน่ารักที่โด่งดังในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่นัมบะ เล่ากันว่าเป็นเทพเจ้าที่ดูแลด้านการค้าและศิลปะ หากยืนอยู่หน้าสิงโต มันจะดูดเอาโชคร้ายทั้งหมดไป ✅ โดทงโบริ : จุดถ่ายรูปป้ายไฟนีออน "Glico Running Man" อันโด่งดังตั้งอยู่ที่นี่ ยามพระอาทิตย์ตกดิน เดินเล่นริมแม่น้ำ ชมเรือท่องเที่ยวแล่นผ่านอย่างช้า ๆ สัมผัสบรรยากาศอันแสนผ่อนคลาย ✅ ชินไซบาชิ : สวรรค์ของนักช้อป ถนนทั้งสายรวมร้านค้ามากมาย ห้างสรรพสินค้าไดมารุและพาร์โก้ก็อยู่ที่นี่ เดินช้อปปิ้งได้อย่างสนุกสนาน ✅ สวนปราสาทโอซาก้า : ภายในมีมุมถ่ายรูปเหมือนในการ์ตูนโคนันซ่อนอยู่ด้วยนะ 🏨 ที่พักแนะนำ : Akiyado (Senbon Minami) แบรนด์ที่พักสไตล์เกสต์เฮาส์ที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มนักออกแบบและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ครั้งนี้เข้าพักที่ Akiyado (Senbon Minami) เช็คอินด้วยตัวเองได้ สะดวกมาก ห้องพักแบบอพาร์ตเมนต์ การออกแบบห้องทันสมัย เรียบง่ายแต่สง่างาม ใช้โทนสีขาว-ดำ-เทาเป็นหลัก การจัดวางพื้นที่ชาญฉลาด ทำให้ห้องดูกว้างขวางที่สุด มีห้องน้ำส่วนตัว โถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ เครื่องซักผ้า อุปกรณ์ครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน ก่อนเข้าพัก ผู้จัดการที่พักส่งคู่มือการเข้าพักอย่างละเอียด ตั้งแต่เส้นทางการเดินทางไปจนถึงวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ใส่ใจมาก ของขวัญต้อนรับก็อบอุ่นหัวใจ มีทั้งเครื่องดื่มชาเขียว พวงกุญแจรูปชิบะอินุ และมาสก์หน้า ประทับใจในความใส่ใจรายละเอียดมาก 🍴 ร้านอาหารที่ต้องไปเช็คอิน ร้านอาหารเครือเดียวกับที่พัก มีบริการฝากกระเป๋า พนักงานสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ชั้น 1 เป็นร้าน Akicha ชั้น 2 เป็นร้าน Akigyu ดื่มชายามบ่ายน่ารัก ๆ แล้วตามด้วยมื้อเย็นวากิวที่รอคอยมานาน วันที่สมบูรณ์แบบ ✅ Akicha : ร้านชาธีมชิบะอินุ ถูกดึงดูดด้วยหน้าร้านที่น่ารักน่าชัง พื้นที่ดื่มชาที่ผสมผสานความเป็นตะวันออกดั้งเดิมกับสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่ เน้นเครื่องดื่มชาเพื่อสุขภาพ สั่งชามะนาวสูตรโบราณ ชาเขียว และพาร์เฟ่ชิบะอินุ ทั้งรสชาติและหน้าตาดีเยี่ยม ✅ ร้านเนื้อย่าง Akigyu : ร้านเนื้อย่างวากิวที่คุ้มค่าที่สุดที่เคยกินในโอซาก้า ร้านร่วมมือกับฟาร์มโดยตรง ทำให้ควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นทางได้ เนื้อวากิวที่เสิร์ฟผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เลือกเฉพาะเนื้อที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่า 58% และจุดหลอมเหลวของไขมันอยู่ที่ประมาณ 20 องศา รสชาติอร่อย ละลายในปาก