เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

สถานีแรกของประเทศไทยคือเชียงใหม่, เมืองที่คุณจะรักเพียงแค่ได้ยินชื่อ. เธอเป็นเมืองที่ทุ่งหลิวชอบที่สุด, แม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่สองของประเทศไทย, แต่ยังมีความเฉื่อยชาและสะเพร่าของเมืองเล็ก, มีเรื่องราวของเมืองเล็กที่ยาวนาน. มีคนมาแล้วไม่อยากกลับ, ดังนั้น, พวกเขาจึงพักอยู่และใช้ชีวิตที่นี่. สามวันสั้น ๆ ไม่เพียงพอให้เข้าไปในเชียงใหม่, แต่ยังสามารถมีความรู้สึกเบื้องต้น. · 1⃣️มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ✅ทัวร์ด้วยรถทัวร์, มองเห็นวัยหนุ่มสาวของประเทศไทย · 2⃣️ดอยสุเทพ ✅ดูวิวจากสูง, มองเห็นเชียงใหม่ ✅เข้าไปในวัดพระธาตุดอยสุเทพ, รู้สึกถึงความศรัทธาของประเทศพุทธที่มีเสื้อผ้าสีเหลือง · 3⃣️โรงเรียนทำอาหาร ✅ในตลาด, ศึกษาผักและผลไม้ของประเทศไทย, เข้าสู่ชีวิตจริง ✅เข้าครัว, เรียนรู้วิธีทำอาหารไทยที่แท้จริง · 4⃣️สวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่ ✅ในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย, สำรวจโลกในเวลากลางคืน · 5⃣️กระโดดผ่านป่า, ปล่อยตัวจริง ✅เดินเท้า, วัดธรรมชาติด้วยเท้าของคุณเอง ✅กระโดด, ปล่อยตัวจริงด้วยการตะโกน

#ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ที่เที่ยว ที่เป็นจุดไฮไลต์ของเชียงใหม่ ที่จะไม่ไปไม่ได้เลยก็คือ เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี (CHIANG MAI NIGHT SAFARI) หลายคนอาจจะบ่นว่าเชียงใหม่ ช่วงกลางวันอากาศร้อน ที่แห่งนี้ตอบโจทย์ได้เลยครับเพราะ เที่ยวตอนกลางคืนได้ ไม่ต้องกลัวแดด ที่ตั้งในพื้นที่ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง และ ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่นับรวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 819 ไร่ และห่างจากใจกลางเมืองเชียงใหม่แค่ 10 กิโลเมตร บริเวณด้านหน้า สังเกตได้ง่ายคือวงเวียนช้างเผือก และ สัตว์ในป่าหิมพานต์ บริเวณทางเข้า เป็นอาคารโดมขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างสวยงาม การท่องเที่ยว แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ 1. โซน Jaguar Trail (Walking Zone) เป็นเส้นทางเดินชมสัตว์ป่าขนาดเล็กอยู่รอบบริเวณ ทะเลสาบ สวอนเลค 2. โซน Savanna Safari ( South Zone) จัดแสดง อาณาจักรของผู้ถูกล่า เป็นส่วนแสดงสัตว์กินพืช สัตว์กีบ และสัตว์แอฟริกาที่หาชมได้ยากในบรรยากาศทุ่งหญ้าซาวันนาแอฟริกา ชมสัตว์ประเภทที่ไม่มีอันตรายมากนัก เช่น ช้าง ยีราฟ ม้าลาย ฮิปโปเตมัส กระทิง ละมั่ง เลียงผา แรดขาว วอเตอร์บัค และจามรี 3. โซน Predator Prowl (North Zone) จะเข้าสู่เขตพื้นที่ของผู้ล่า ผสมกับการนำสัตว์ผู้ถูกล่ามาไว้ในโซนนี้ ผู้ชมจะได้ผจญภัยไปกับการนั่งรถ ชมสัตว์ดุร้ายอย่างใกล้ชิด สนุกตื่นเต้นระทึกใจในทุกวินาทีกับภาพชีวิตของสัตว์ป่าบริการนั่งรถลาก รอบภาษาไทยออกทุก 15 - 30 นาทีในช่วง 19.00 น. ถึง 22.00 น. #เชียงใหม่หน้าฝน #สวนสัตว์เปิด ค่าบัตรเข้าชม ช่วงเวลากลางวัน Day Safari ทั้ง 2 โซน - คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ค่าบัตรเข้าชม ช่วงเวลากลางคืน Night Safari ทั้ง 2 โซน พร้อมชมการแสดงน้ำพุดนตรี - คนไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 125 บาท

🐶 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดให้เข้าชมสัตว์โลกแสนน่ารักได้ทุกวัน แต่จะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา โดยช่วงเวลาที่ 1 เริ่มตั้งแต่ 11.00 - 16.00 น. และช่วงเวลาที่ 2 เริ่มตั้งแต่ 16.00 - 21.00 น. รอบละ 250 คน เพื่อเป็นการจำกัดจำนวนคนที่เข้าชม เที่ยวแบบ Social distancing นั่นเอง 🐹มีให้บริการ 2 โซนด้วยกัน โซนแรกจะเป็นโซนเดินชมสัตว์ Jaguar Trail Zone ไฮไลท์จะอยู่ที่ทุกคนสามารถเดินชมเสือจากัวร์ เสือโคร่งขาว ฮิปโปแคระ นกฟลามิงโก และสัตว์ป่าอีกกว่า 50 ชนิด โดยจะเป็นทางเดินรอบทะเลสาบ ที่มีระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ในบรรยากาศสุดชิลท่ามกลาง ธรรมชาติ 🐯โซนต่อมาจะเป็นการนั่งรถชมสัตว์ Safari Tram ที่จะมีทั้งกลางวันและกลางคืน ในรอบกลางวันจะ เริ่มตั้งแต่ 11.00 - 16.00 น. ซึ่งรถจะออกทุกๆ 30 นาที โดยการนั่งรถชมสัตว์ จะแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรก Savanna Safari สัมผัสกับสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น ยีราฟ ม้าลาย จิงโจ้แดง กวางผา และโซนที่ 2 Predator Prowl ซึ่งเป็นโซนสัตว์นักล่า เช่น เสือโคร่งขาว สิงโต ไอยีน่าลายจุด #เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี #ลงท้ายไนท์แต่เปิดกลางวันด้วยนะ

ใครที่ชอบปลาคราฟท์ ต้องมาร้านนี้ มีทั้งอาหารเครื่องดื่ม และน้องให้ชมเยอะมาก หลากหลายพันธ์ สถานที่ร่มรื่นมีเสียงน้ำตกภายร้านอากาศเย็นสบาย คนไม่เยอะมากมีมุมถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ มีโมเดลตู้โชว์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบซุปเปอร์อีโร่ สะอาดไกล้พืชสวนโลก การเดินทางไกลก็สะดวกไกล้เมือง มีแหล่งท่องเที่ยวไกล้ๆเยอะ มาลองเที่ยวกัน ชอบดูปลา เลี้ยงปลาลองมาสักครั้งนะคะ#เที่ยวเชียงใหม่ #รีวิวคาเฟ่#cafe

#ที่เที่ยวคนรักสัตว์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เน้นในด้านธรรมชาติวิทยา ชีวิตสัตว์ป่าทั้งในเอเชีย แอฟฟริการและทั่วทุกมุมโลก นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ป่าได้อย่างดี ที่ตั้งของ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อยู่เลยพืชสวนโลกไปนิดเดียวค่ะ ประมาณ 1 กิโล เข้ามาเจอวงเวียนแล้วออกทางออกที่ 1 เลยค่ะ หรือ ขับออกซ้ายนั่นเอง ก่อนเข้าเขต เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จะมีแอ่งน้ำสำหรับฆ่าเชื้อที่ล้อก่อนนะคะ มีป้ายเตือน ณ จุดนี้ ต้องขับช้าๆ ระวังๆ กันนิดหนึ่งนะคะ #wattosann

ดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ ลมหนาวพัดเข้ามา ทำให้จิตใจว้าวุ่น อยากเดินเข้าป่า ไปจ้า เข้าป่ากัน ดอยผ้าห่มปก เป็นสถานที่แค้มป์ปิ้งอีก1 แห่งที่แนะนำ เพราะอากาศดีมาก มีห้องน้ำ มีร้านค้า มีอุปกรณ์ต่างๆให้เช่า ตอนเช้าตื่นมาใครไหวก็ขึ้นดอยไปเลยสิคะ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน ยอมร่างมาสักหน่อยก็ดีนะ ส่วนใครไม่ไหวก็นอนรอที่เตนท์ได้เลย #ใจเซไปภูเขา

ลมหนาวมาแล้วนะ…. หน้าหนาวทีไร สถานที่แนกที่แวบมาในใจเลยคือ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความหนาว อุณหภูมิตัวเดียว และเเม่คะนิ้ง นอกจากนี้ ดอยอินทนนท์ยังมีเส้นทางธรรมชาติให้ได้ไปเดินชมบรรยากาศข้างบน ซึ่งมันสวยมาก มีทั้งทะเลหมอก และภูเขาสุดลูกหูลูกตา มีดอกไม้ป่าสวยให้ชม อาจจะเดินเหนื่อยหน่อย แต่รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน #ทะเลหมอก #

การเยี่ยมชมรู้สึกเหมือนเป็นการยิงปืนกลที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันโดยไม่มีพัก สำหรับเด็กๆ แล้วมันน่าทึ่งมาก และฉันเองก็รู้สึกบันเทิงไม่น้อย เซฟารีประกอบด้วยการขับรถรางสองแบบที่ดีมาก จากนั้นก็มีการแสดงเสือและการแสดงนักล่ายามค่ำคืน โดยเฉพาะการแสดงเสือนั้นเป็นเรื่องที่อยู่บนเส้นแบ่งของสิ่งที่คนสามารถชมได้เมื่อพิจารณาถึงจริยธรรมและการดูแลสุขภาพของสัตว์ ไม่คิดว่าจะกลับมาอีกเพราะเหตุผลนั้น อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ได้รับความบันเทิงอย่างดีและเย็นวันนั้นปิดท้ายด้วยการแสดงน้ำพุที่เป็นไฮไลท์ที่เป็นมิตรมาก ราคาแพงและไม่มีตัวเลือกอาหารที่มีสุขภาพดี

#เที่ยวเชียงใหม่ สนุกมากกกกก การแสดงน้ำพุคือ 10/10

ตามไปดูหมีควายยืนสองขาที่เป็นไวรัลมาก นั่งรถรางชมสัตว์เพลินๆ หรือจะเดินชมสัตว์เล้นๆก็ได้ แถวมีโชว์มากมาย อย่างเช่น น้ำพุเต้นระบำ โชว์เสือ ซึ่งแต่ละโชว์ก็น่าตื่นเต้นมากๆ พาลูกพาหลานมารับรองประทับใจแน่นอน #summerdream

เที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับลูก #เที่ยวเชียงใหม่

สวนสัตว์กลางคืนของเชียงใหม่ไม่ใช่สวนสัตว์ที่อยู่ที่เชิงเขาดอยสุเทพนะครับ หลายคนเวลาเรียกแท็กซี่มักจะบอกว่า 'ZOO' แต่จริงๆ แล้วคือ Night zoo นะครับ พลาดแค่คำเดียวก็ต่างกันไปหลายสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว ทำไมที่นี่ถึงเรียกว่า 'สวนสัตว์กลางคืน' ล่ะครับ! สัตว์ที่จัดแสดงก็มีหลายชนิดที่ไม่ใช่สัตว์กินกลางคืนเลยสักนิด ถามไปหลายคนก็ไม่มีใครให้คำตอบ จนกระทั่ง 'ผู้รู้' คนหนึ่งได้ชี้ทางที่ถูกต้องให้ผมว่า 'สวนสัตว์กลางคืน ก็คือสถานที่ที่สามารถชมสัตว์ในเวลากลางคืนได้นั่นเอง!' ตอนนี้เข้าใจแล้วครับ จริงๆ แล้วสวนสัตว์แห่งนี้เปิดทำการจนถึงเวลา 21:00 น. เลยทีเดียว ตอนที่ผมไปเยี่ยมชมก็เป็นช่วงบ่าย ท้องฟ้ายังสว่าง คนเข้าไปแล้วถึงจะเข้าใจว่าที่นี่มีการวางแผนการเยี่ยมชมที่เป็นระบบ พนักงานตรวจตั๋วที่ประตูเข้ามีพนักงานที่พูดภาษาจีน จะให้กระดาษหนึ่งแผ่นที่ระบุเวลาการแสดงต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน คุณแค่ทำตามแผนก็ไม่มีปัญหาเลย สถานีแรก สัตว์กินพืช ขึ้นรถทัวร์ของสวนสัตว์ รถคันหนึ่งจะมีประมาณ 20-30 คน ด้านข้างรถไม่มีราวกั้นหรือกระจกอะไรทั้งสิ้น ออกเดินทาง แกะ วัว ม้าลาย แรด ยีราฟ ล้วนแล้วแต่สามารถเข้าใกล้ได้มาก โดยเฉพาะยีราฟ เห็นรถมาก็วิ่งเข้ามาทันที หาอาหารกิน ช้างอยู่ห่างออกไปนิดหน่อย มีบ่อน้ำขวางกั้นอยู่ตรงกลาง แต่ก็กระโดดโลดเต้นทักทายเราอย่างสนุกสนาน ที่นี่สัตว์ทุกตัวไม่ได้ถูกขังในกรง แต่ละตัวมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ฟังดูดีไหมครับ? สถานีที่สอง สัตว์กินเนื้อ ยังคงนั่งรถแบบเดิม สิงโต และเสือก็เลี้ยงแบบปล่อย ไม่เห็นมีรั้วไฟฟ้าอะไรทั้งนั้น อาจเป็นเพราะอากาศร้อน ทุกตัวนอนหลับพริ้ม แต่หมีดำก็ยังมีพลัง โบกมือลาเราเป็นการส่งท้าย หลังจากเยี่ยมชมเสร็จก็ต้องรีบไปยังสถานที่แสดงสัตว์ การแสดงสัตว์ที่นี่ก็แตกต่างจากที่เราเคยเห็น นอกจากสิงโต และเสือที่แสดงในโดมใสใหญ่ แต่พอร์คูไพน์ และหมีโคอาล่าก็ปรากฏตัวอยู่รอบๆ การชมจากใกล้ๆ แบบนี้ก็มีความสนุกสนานเช่นกัน ผู้ที่ชื่นชอบสัตว์ร้ายขนาดใหญ่คงจะชอบการแสดง 'Tiger show' ที่เป็นไฮไลท์สุดท้าย นี่คืออีกหนึ่งสถานที่ การโต้ตอบระหว่างเสือ สิงโต และพนักงาน โดยเฉพาะเสือขาวที่แสดง ถึงแม้จะสามารถพึ่งพาความงามได้ แต่ก็ยังทำงานอย่างมีความภาคภูมิใจ ทุกคนดูมีความสุขมาก! ยามค่ำคืนยังมีการแสดงน้ำพุและแสงเลเซอร์ ผมรีบกลับไปทานอาหารในเมืองหลวงเลยไม่ได้ดูทั้งหมด แต่ได้ยินว่าก็น่าสนใจไม่น้อย หากคุณพาเด็กๆ มาเชียงใหม่ ต้องมาที่นี่เลยนะครับ