อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์#ภูสอยดาว ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย จุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว คือ การได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค" และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย ของทุกปี น้ำตกภูสอยดาว อยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อไว้อย่างไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี ลานสนสามใบภูสอยดาวและทุ่งดอกไม้ในป่าสน เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบพืชชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่นดอกหงอนนาค, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอมในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน, กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์และต้นเมเปิลซึ่งจะ เปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมากการเดินทางไปเที่ยวลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวขึ้นสู่ยอด ภูสอยดาวระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ ดังนี้ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันที่สุด การเตรียมตัวขึ้นภูสอยดาว การขึ้นภูสอยดาว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการไปดูดอกไม้ ซึ่งจะออกดอกบานเยอะช่วงเดือนสิงหาคม - ต้นเดือนตุลาคม ก็เป็นช่วงฤดูฝนอยู่ การเตรียมตัวให้พร้อมถือว่าเป็นเรื่อสำคัญมาก เพราะบนยอดภูไม่มีของขาย 1. การแต่งกาย ควรเตรียมเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาและแห้งเร็ว, รองเท้าแบบเดินป่าหรือรองเท้าแตะรัดส้นที่มีพื้นดอกยางใหญ่, เสื้อกันฝน 2. อาหารการกินบนภูไม่มีขาย ต้องเตรียมไปเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กะทะ ช้อน จาน อุปกรณ์หุงต้มและอาหารต่างๆ 3. ของใช้อื่นๆ อาทิ ถุงขยะ, ถุงพลาสติก, ยาสามัญประจำบ้าน, โลชั่นกันแมลง, ไฟฉาย ฯลฯ 4. ช่วงที่สวยที่สุดของภูสอยดาวอยู่ในช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัวประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน 5. เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินระยะทางไกล 6. ช่วงฤดูฝนจะมีทั้งดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ส่วนในฤดูหนาวจะมี ดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และต้นเมเปิลผลัดใบเป็นสีแดง บานสะพรั่งท่ามกลางสายหมอกบางเบาของทั้งสองฤดู 7. เส้นทางการเดินป่าภูสอยดาว จะเริ่มต้นที่ "น้ำตกภูสอยดาว" และไปสิ้นสุดที่ "จุดพิชิตภูสอยดาว" หรือ "ลานภูสอยดาว" รวมระยะทางประมาณเกือบ 7 กิโลเมตร ส่วนระยะเวลาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน 8. การเดินทางสู่ลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะต้องผ่านเนินวัดใจทั้ง 5 เนิน ซึ่งแต่ละเนินมีความทรหดและความยากง่ายแตกต่างกันไป ได้แก่ 1. เนินส่งญาติ เป็นทางเดินขึ้นเขาที่มีความชันอยู่พอสมควร มีระยะทางประมาณ 650 เมตร 2. เนินปราบเซียน เป็นทางสูงชัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมานั่งพักบริเวณจุดพักสุดเนินปราบเซียน ด้วยเพราะระยะทางทั้งหมดของเนินปราบเซียนค่อนข้างไกล หรือกินระยะทางเกือบครึ่งทางของทางเดินทั้งหมด 3. เนินป่าก่อ เป็นเส้นทางที่ไม่ชันมาก มองไปรอบ ๆ จะเจอเข้ากับ "ต้นก่อ" อยู่เต็มบริเวณ 4. เนินเสือโคร่ง มีที่มาจาก "ต้นกำลังเสือโคร่ง" และเปลือกของลำต้นมีสรรพคุณใช้เป็นยาสมุนไพร 5. เนินมรณะ เป็นช่วงที่ชันที่สุดของเส้นทางภูสอยดาว

🔺 จบทริป ( อ่านนะอยากให้อ่านตั้งใจพิม) ☘️🍃🌿🌱🧗🏻‍♀️🦯🏔🗻 ตะลุยภูสอยดาว - นอนตื่นขึ้นมาดูปฎิทิน เห็นมีวันหยุดติดกันละหลับต่ออยู่มี ข้อความมาจากน้องในแผนก “โดนเพื่อนเทไปภูสอยดาวกัน” สตั้นละหลับต่อ ตื่นขึ้นมา อีกทีมีขอความตอบกลับไปแล้วว่า “โอเคเจอกัน” ในใจคิดกูตอบอะไรไปเนี้ย ด้วยสภาพร่างกายละน้ำหนัก ไม่อยากจะคิดตอนเดินขึ้นเลย ... - รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงที่ทำการ อช.ภูสอยดาว แล้ว 5555 ในเลข ห้ามีน้ำตาไหลพากๆๆอยู่ * สิ่งที่ต้องเตรียม - อาหาร -รองเท้า สำคัญมาก -ไม้เทรล รองความสำคัญ -เงิน สำคัญ (ค่าลูกหาบ 30บาท ต่อ 1 กก) -น้ำดื่มระหว่างเดินทาง ( สำคัญมาก) ข้างบนมีน้ำฝนไว้ให้รองกินละมีตู้กดน้ำฝน ซึ่งน้ำฝนที่นี้ อร่อยละสดชื่นมาก มากจน แบกกลับบ้าน -เครื่องนอน เต็นท์ ข้างบนมีเช่าแต่พวกเราเอาไปเอง ตัดภาพมาที่ทางขึ้น เห็นละท้อ มีทั้งหมด 5 เนิน 1.เนินส่งญาติ - คือเดินไปเรื่อยๆ ถ้าเจอป้ายคือ เริ่มต้น ของเนินส่งญาติ ชันในระดับ 2 เต็ม 10 เดินมา เกือบชัวโมงพึ่งเห็นป้าย 555 2. เนินปราบเซียน -ก็เดินแปปเดียวนะ นอกนั้นปีนนนนนนนน คือแม่งชันมาก ลูกหาบบอกเนินนี่ลูกหาบว่าโหดสุด สำหรับลูกหาบ พอขึ้นมาได้ถามตัวเอง กูมาทำอะไรที่นี่!!!!!!!! 3.เนินป่าก่อ -เนินนี้เดินสบายทางราบ ยาวไม่ชันมากให้พักขาได้ 4.เนินเสือโคร่ง หรือจะเรียกว่าเสือร้องไห้ก็ได้ (ตั้งให้เอง) - แม่งชัน ชันมาก ละยาว ยาวมาก ขึ้นจนเป็นตะคริวดีที่ไม่ได้เตรียมตัวมา เลยไม่เป็น 555 5.เนินมรณะ แค่ชื่อ ก็จะตายแล้ว เห็นยอดภูเขาอยู่ใกล้ แต่ไต่ ระยะ หนึ่ง ชันที่สุด แต่วิวดีมาก คิดว่าเดินง่ายกว่า เนินปราบเซียน - ผ่านทั้ง 5 เนินได้สิ่งที่เราต้องการก็มาถึงคือจุดกางเต้นท์ เห็นวิวละบรรยากาศที่ผ่านมาก็หายเหนื่อยเลย ตอนไปมีคนน้อย ลานกว้างไม่เจอฝน ที่นี่พอเย็นน้ำค้างหนักมาก พอพักหายเหนื่อย ก็กางเต็นท์ ลูกหาบมาถึงก่อนเรา ทำอาหารอาบน้ำ ดูพระอาทิตย์ตก ตกกลางคืนถ่าย ดาว ทางช้างเผือก พึ่งเข้าใจคำว่า “ภูสอยดาว” เพราะที่นี่ ดาวสวยมากใกล้มากด้วย 🏜 แสงแรกของอีกวันขึ้นมาอากาศก็ดีมาก มากที่หาแบบนี้ในชลบุรีไม่ได้ ที่ในเมืองใหญ่ๆไม่มี มีเส้นทางเดินทางธรรมชาติ อยู่หลังที่ทำการ อช บน ภู ทางยาว 2 กม มีต้นไม้ ดอกหงอนาค วิวหลังเป็นภูเขามี หมอกเป็น แบคกาว ในความคิดว่าจุดนี้สวยมาก เพราะกับการถ่าย พรี แนว ธรรมาชาติ ถ้าโชคดีจะมีหมอกวิ่งผ่านตัว เดินไปเดินมาข้างบนมีน้ำตก สายทิพย์ใกล้กับที่เรากางเต๊นท์แต่ทางลงชันมาก ความสวยก็มากเช่นกัน เล่นน้ำ ขึ้นมาทำอาหาร รอชมพระอาทิตย์ตกยอมรับว่าสวยมาก วันนี้มีคน ขึ้นภูมา เยอะมาก 400+ คน ได้แต่ความสวยยังเท่าเดิม ... การได้ไปที่นี่มันเหมือนเป็นการ refresh ตัวเอง 555 ขาสั่นพลับๆๆ แต่ระหว่างเดินทางกลับ สิ่งที่ชอบ ระหว่างทางคือ เดินสวนคนขึ้นมา เหมือนกับว่าได้มิตรภาพ บอกเค้าว่าอีกนิดเดียว ซึ่งๆจิงๆแม่งไกลมากๆๆ 55 ในใจคงคิดว่า มึงหลอกกรูๆ 555 และสุดท้ายท้ายสุด ธรรมชาติยังสวยงามเสมอ พร้อมกับมอตรภาพระหว่างเดินทาง ปล. สิ่งที่ลืมไม่ได้คือ ลูกหาบที่นี้มีมิตรภาพที่ดีมาก แข็งแรงมาก น้ำใจความมีมนุษย์พันธ์ที่ดีมาก .... จบทริป 24-26 กค 2563 #หมอกหน้าฝน

ลานสนภูสอยดาว คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพิชิตยอดเขา ที่นักเดินป่าทุกคนต่างหวังว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต จะได้เป็นผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว “ภูสอยดาว” อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ยอดภูสอยดาวมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย ส่วนลานสนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูสอยดาว อยู่ที่ระดับความสูง 1,633 เมตร ระยะทางเดินเท้าประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน จุดเด่นที่น่าสนใจคือทุ่งดอกหงอนนาค, น้ำตกภูสอยดาว, น้ำตกสายทิพย์ และลานสนภูสอยดาว เราได้มาเที่ยวที่นี่ 2 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งความสวยงามก็แตกต่างกันออกไป ครั้งแรกจะประทับใจกับทุ่งดอกหงอนนาค เพราะว่าบานเต็มทุ่งพอดี ส่วนครั้งที่ 2 ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เป็นการเดินทางที่ทำให้ความทรงจำของภูสอยดาวมันชัดเจนขึ้น และคิดว่า ถ้ามาอีกเป็นครั้งที่ 3 เราจะต้องขึ้นยอด 2,102 เมตร ให้ได้ พิกัด : ตำบล ห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด อุตรดิตถ์ #อุตรดิตถ์ #สวัสดีคนแปลกหน้า #ทีมเหนืออีสาน

#ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับสายป่า นักเดินป่า และเหล่าผู้พิชิตยอดเขา ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ไฮไลต์คือการเดินป่า ไต่ระดับความชันขึ้นเขา ชมวิวสวยๆ ระหว่างทาง เพื่อไปนอนกางเต็นท์ด้านบนที่ลานสน และฟินยกกำลังสองไปกับทุ่งดอกหงอนนาค ที่บานสะพรั่งเต็มทุกพื้นที่ในช่วงหน้าฝน หากใครที่ต้องการมาท่องเที่ยวที่นี่ แนะนำว่าให้เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะแต่ละเนินนั้น ชันเอาเรื่องเลยทีเดียว #อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว #อุตรดิตถ์ #เดินป่า #ภูเขา #สวัสดีคนแปลกหน้า #ทีมเหนืออีสาน#รอวันออกเดินทาง#คิดถึงธรรมชาติ

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่อยู่ในนะหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม และในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย ของทุกปี จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างพากันตะเกียกตะกากเดินเท้าเข้าป่าเพื่อมาชื่นชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค" #ทีมภาคกลาง

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย สายเดินป่าต้องห้ามพลาดในการเดินขึ้นไปชมวิวสวยๆบนยอดเขา #การตั้งแคมป์#ที่เที่ยวสงกรานต์

" ภูสอยดาว “ 💚 เมื่อชีวิตมันสบายเกินไป ต้องออกไปหาความลำบากให้ชีวิตบ้าง ถึงจะได้รู้รสชาติของชีวิต ⛰ ทริปนี้เราพาทุกคนหันหลังให้เมืองกรุงมุ่งหน้าเข้าป่า ตัดขาดจากโลกภายนอกกันเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืนที่ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ระยะทาง 6.5 กิโล(มั้งนะ ตามที่พี่อุทยานเค้าบอกเลยค่า) สำหรับมือใหม่หัดเดินแนะนำให้จ้างลูกหาบ ค่าเสียหายอยู่ที่ 30 บาท/กิโลกรัม ด้านบนมีห้องน้ำ แต่ต้องเช่าถังและขันไปรองน้ำไว้ใช้เองนะ 🌤 สถานที่ท่องเที่ยวด้านบนมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น มีลานต้นสนสวยๆให้ได้เดินถ่ายรูปกัน ในส่วนของอาหารมื้อกลางวัน จะมีข้าวไข่เจียวของเจ้าหน้าที่จำหน่าย แต่หากไข่หมดก็เก็บแผงจ้า ดังนั้นแนะนำให้เตรียมไปเองเลยจะดีกว่าค่ะ 📍อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park จังหวัดอุตรดิตถ์

#dreamvoyage สำหรับสายปีนเขา เดินป่า คงจะยก “ภูสอยดาว” มาเป็นที่เที่ยวสุดฮิตที่ชีวิตนี้ต้องไปให้ได้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่ปกคลุมไปด้วยป่าและธรรมชาติที่สวยงาม และยังมีดอกไม้สวย ๆ ซึ่งเป็นจุดที่มีดอกหงอนนาคทุ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยให้ดูอีก จุดไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ จุดถ่ายรูปดาว และจุดถ่ายรูปทางช้างเผือก ที่เป็นที่มาของชื่อภูสอยดาว เพราะเราจะเห็นดาวชัดมากจากบริเวณจุดถ่ายรูป ใครที่เป็นสายรักธรรมชาติ ชอบอะไรที่แอดเวนเจอร์นิด ๆ ภูสอยดาวต้องเป็นที่เที่ยวที่คุณต้องมาสักครั้งในชีวิต

รอบนี้แนนแบกเป้มาคนเดียว ที่ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ภูสอยดาวแต่ละเดือนจะไม่เหมือนกัน รอบนี้แนนมาช่วงหน้าฝน ก็จะพบกับบรรยากาศที่มีหมอกจางๆ ตัดกับวิวของต้นดอกหงอนนาคทีาบานเต็มไปหมด ถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ แถมวิวระหว่างเดินทางไปกางเต็นท์ก็สวยงามไม่แพ้กัน ถ่ายรูปไว้อวดเพื่อนๆได้ตลอดทางกันเลยทีเดียว ไฮไลท์นอกจากทุ่งดอกหงอนนาคแล้ว ก็คงเป็นหมุดไทย-ลาว ที่หลายคนไม่พลาดจะไปถ่ายรูป แต่ใครมาช่วงหน้าฝน ต้องทำใจน่าาา เพราะส่วนมากท้องฟ้าจะปิด มองไม่เห็นดาว แป๋วแว๋ววว เอาเป็นว่ารอบหน้าแนนจะมารีวิวภูสอยดาวหลังจากหมดฤดูของดอกหงอนนาคนะคะ ว่าจะมีกิจกรรมอะไรอีกบ้าง 🥰🥰 #เหวนกับแนน #ภูสอยดาว

ภูสอยดาว มีดีมากกว่าแค่การเดินขึ้นมาค้างเพียง 1 คืน และนี่คือสิ่งที่เราจะ รีวิว ภูสอยดาว ว่าหากเราใช้เวลาให้กับที่นี่ให้ นานขึ้นอีกหน่อย มันจะคุ้มขนาดไหน ภูสอยดาว รีวิว ฉบับ 1- เต็มอิ่ม และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ “ทุ่งทะเลดอกหงอนนาค” และ “ป่าสนสามใบ” จะถ่ายภาพ Portrait Selfie หรือถ่ายวิว เคียงคู่กับดอกหงอนนาค หรือ ป่าสนสามใบ ก็สามารถใช้เวลาได้อย่างเต็มที่ มีเวลาเลือกสรรมุมสวย ๆ มีช่วงเวลาให้เราได้รอจังหวะที่สายหมอกจาง ๆ มาคลอเคลียหยอกล้อกับดอกหงอนนาค ให้เราได้เก็บภาพกัน #dreamdestination

กลับมาขึ้นเขาในรอบ 8 ปี ก็ขึ้นภูสอยดาวซะเลยยยยยยย โชคดีที่เจอฝนน้อย เดินไม่ค่อยยาก (เหรอ) ที่แปลว่า ขาชาไปทั้งตัวจ้า แต่พอไปถึงแล้วได้เห็นวิว เห็นบรรยากาศ ก็หายเหนื่อยแล้ว (นิดนึง) 😆😆😆 รูปถ่ายก็ว่าสวยแล้ว ของจริงเด็ดกว่านี้เยอะ คุ้มมากจริง ๆ กับการ come back อยากไปอีก แต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะนึกถึงก็ปวดไปทั้งตัว 🤣 เอาเป็นว่า อยากให้ลองสักครั้งนึงฮะ #อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว #หลงรักป่า #หลงรักเขา

แบกเป้หนึ่งใบ บิดรถมอไซค์ ไปตะลุยภูสอยดาว 🛵⭐️ ครั้งนี้เป็นการเที่ยวคนเดียวที่โครตตตตประทับใจเลย ♥️ …เป็นการขับรถมอไซค์เกือบ 200 กิโล ไปภูสอยดาวคนเดียว แนนออกจากบ้านประมาณ 7 โมงเช้า ขับเรื่อยๆ ถึงนูนก็เกือบ 10 โมง ก่อนไปแนนได้จองเข้าอุทยานผ่านแอพ QueQ ก่อนเรียบร้อย เมื่อไปถึงก็ไปชำระเงินค่าเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำให้ไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเราก็ทำตามที่เจ้าหน้าที่บอกกรอกข้อมูลเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะถามว่าจะเช่าอะไรไหมที่นี้มีครบหมดเลย พอเสร็จจากตรงนั้นเราก็ไปชั่งน้ำหนักกระเป๋าเพื่อให้ลูกหาบแบก แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ขับรถพาเราไปยังจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทาง …ความโชคดีของแนนรอบนี้ แนนบังเอิญไปเจอพี่ๆลูกหาบกับพี่อุทยานที่กำลังจะขนของไปยังภูสอยดาว เป็นการขนของทางรถไถ เขาก็ชวนแนนให้ไปด้วยกันจะได้ไม่เหนื่อย เพราะแค่ขับรถมาก็เหนื่อยละ พี่ๆคงเป็นห่วงว่าถ้าเดินขึ้นนี้คงจะแย่แหละ 🤣 แนนก็ไวมาก ตอบตกลงไปทันที!!! หลังจากตอบตกลงแนนรีบวิ่งไปซื้อเสบียงตรงร้านอาหารใกล้ๆทางขึ้น ละโยนกระเป๋าแล้วกระโดดขึ้นรถไถ เป็นการนั่งรถไถครั้งแรกในชีวิตแนนเลยยย …ความประทับใจไปกว่านั้น พี่ๆเขาบอกว่าไม่เคยมีนักท่องเทียวคนไหนได้มาทางนี้ ยกเว้นนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วยฉุกเฉินจิงๆ กลายเป็นแนนได้เห็นวิวทั้งทางรถ และทางปกติก็ว่าได้ …ระหว่างทางรถมีการพักรถไถ วิวข้างทางคือมันสวยมากกกก มีดอกไม้แปลกๆมากมาย พี่ขับรถไถก็ใจเีเห็นเราชอบถ่ายรูป ก็จะมักจอดให้เราถ่ายเป็นระยะๆ และแนนได้เห็นรอยเท้าของสัตว์อีกด้วย เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆๆ …นั่งรถมาได้เกือบ 2 ชั่วโมง เราก็ถึงจุดสิ้นสุดทางรถ ต้องตะลุยเดินป่าของจริงอีกประมาณ 2 กิโล แต่ทางไม่โหดมากมายอะไรนะ เดินผ่านชายแดนลาวนิดหน่อยก็ถึงจุดกางเต็นท์ละ …มาถึงแนนก็เลือกที่กางเต็นท์ก่อนเลยแนนเลือกตรงจุดที่มีดอกหงอนนาคเยอะๆ ตื่นมาเปิดเต็นท์ก็คือเจอดอกหงอนนาคเลยก็ว่าได้ บรรยากาศที่ดีแบบดีโครตๆๆ พิกัดเด็ดก็มี ริมหน้าผา น้ำตก หลักหมุดไทย-ลาว ทุ่งดอกหงอนนาค ป่าสน ลานโล่งๆกว้างๆ ละมีฤดูที่แตกต่างไป เดียวๆมีหมอก เดียวฝนตก เดียวก็แดดออก ถือเป็นจุดไฮไลต์ของที่นี้เลยก็ว่าได้ 🥰☔️🌈 …แนนมากางเต็นท์แค่ 1 คืน ตื่นเข้ามาก็สูดอากาศเก็บความทรงจำเสร็จ ก็ถึงเวลาเดินลงไปด้านล่างละ รอบนี้แหละแนนได้เดินลงเอง คือ เอาจิงแค่เดินลงแนนใช้เวลาไป 3-4 ชั่วโมง รวมเก็บภาพละ นี้คิดว่าถ้าเดินขึ้นเองวันนั้นคงถึงค่ำแน่ๆ 🤣 …เนินมรณะ คือ สมชื่อมากนะ แค่ลงยังเหนื่อยอ่ะ เหนื่อยล้ามาก ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมงเต็มๆกับการลงมาจากจุดกางเต็นท์ถึงป้ายเนินมรณะ ระหว่าวทางลงแนนได้เจอน้องชะนีด้วย น่ารักมากกกก อีกอย่างได้พบมิตรภาพระหว่างทาง เราจะสวนกับคนที่กำลังเดินขึ้น ละเขาจะถามว่า “ยังอีกไกลไหมพี่” คำตอบของเรา คือ “อีกนิดเดียว” 🤣 ซึ่งจริงๆมันก็ไกลอยู่นะ แต่ตอบตามหลักจิตวิทยา ฮิ้ววว นอกจากนั้นยังเจอพี่ลูกหาบที่ค่อยบอกสู้ๆเสมอ จริงๆเราต้องเป็นคนบอกพี่เขาป่าว 555 …เดินลงมาจนถึงด้านล่าง จะเจอน้ำตกภูสอยดาว แน่นอนค่ะเราก็ไปพักเหนื่อยตรงนั้น แล้วก็ปิกบ้านเลยจ้าววว