ข้อมูลแนะนำการท่องเที่ยวจังหวัดฮกไกโดสำหรับปี 2567 (อัปเดตล่าสุดเดือนพ.ค.)

มาท่องเที่ยวที่โอตารุ ประเทศญี่ปุ่นต้องรู้ 5 สิ่งนี้!

“สบายดีไหม? ฉันสบายดี.” มาฮอกไกโดแล้วไม่ควรพลาดที่จะไปโอตารุเลยนะ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ‘Love Letter’ ที่นี่มีความงดงามที่เงียบสงบและไม่แออัดที่สุดในฮอกไกโด / ข้อที่หนึ่ง: ‘เกี่ยวกับโอตารุ’ โอตารุเป็นเมืองชายทะเลขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของฮอกไกโด เมืองนี้ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน เพราะภาพยนตร์ ‘Love Letter’ ที่ทำให้เมืองนี้โด่งดัง กลายเป็นสถานที่ที่หลายคนต้องมาเช็คอินเมื่อมาฮอกไกโด / ข้อที่สอง: ‘สถานที่ท่องเที่ยวหลัก’ โอตารุไม่ใหญ่มาก สถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่มาก สามารถเที่ยวได้ในหนึ่งวัน 1. คลองโอตารุ: เป็นที่รู้จักเพราะ ‘Love Letter’ ริมคลองมีการเปลี่ยนแปลงเป็นร้านค้าขายงานฝีมือต่างๆ คลังสินค้าอิฐเก่าแก่มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยศิลปะ แนะนำเป็นพิเศษคือมาเดินเล่นตอนกลางคืน ร้านอาหารและบาร์ริมน้ำก็ไม่ควรพลาด 2. ซากะมิซากะ: เป็นทางลาดที่พนักงานไปรษณีย์ขี่จักรยานไปส่งจดหมายใน ‘Love Letter’ ยืนอยู่บนที่สูงสามารถมองเห็นทะเลสวยๆไกลๆ ที่นี่เหมาะสำหรับถ่ายรูปมาก ทะเลและหิมะที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีความรู้สึกที่ศิลปะมาก 3. ถนนโฮคุอิจิโชวะ: เป็นถนนการค้าที่คึกคักและเจริญรุ่งเรืองที่สุดในโอตารุ มีทั้งงานฝีมือและอาหารที่หลากหลาย สามารถหาได้ที่นี่ 4. สี่แยกนิทาน: ปลายถนนโฮคุอิจิโชวะคือสี่แยกนิทาน มีทั้งพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีและคาเฟ่ hello kitty ที่ต้องไปเช็คอินถ่ายรูป 5. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี: อาคารยุโรปโบราณที่มีประวัติมากกว่า 100 ปี มีการสะสมกล่องดนตรีมากกว่า 3,000 ชนิดจากทั่วโลก เดินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของนิทาน! ที่นี่สามารถซื้อกล่องดนตรีหลากหลายชนิด และสามารถกำหนดเพลงและรูปแบบได้ด้วยตัวเอง 6. คาเฟ่ hello kitty: ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ชั้นล่างเป็นร้านค้า ชั้นบนเป็นคาเฟ่ ธีม hello kitty สาวๆชอบมาเช็คอินที่นี่มาก 7. ภูเขาเท็งงุ: ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของภูเขาเท็งงุ พร้อมกับฮาโกดาเตะและภูเขาโมอิวะในซัปโปโร ถูกขนานนามว่าเป็น ‘สามทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ดีที่สุดในฮอกไกโด’ ที่นี่ยังเป็นที่ที่นางเอกของ ‘Love Letter’ วิ่งไปในหิมะ แนะนำให้ไปช่วงบ่าย เพื่อดูทิวทัศน์ของเมืองในตอนกลางวัน และรอดูทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ฝันดี~ 8. อาซาริ: หมู่บ้านชาวประมงริมทะเลใกล้โอตารุ มีทะเล หิมะ และหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบและมีศิลปะ ที่เหมาะสำหรับการเช็คอินถ่ายรูป / ข้อที่สาม: ‘เส้นทางท่องเที่ยวแนะนำ’ (JR รถไฟไปสถานีอาซาริ) อาซาริ—(JR รถไฟไปสถานีโอตารุมินามิ) —สี่แยกนิทาน—(เดิน) —พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี—(เดิน) —คาเฟ่ hello kitty—(เดิน) —ถนนโฮคุอิจิโชวะ—(เดิน) —คลองโอตารุ—(เดิน) —ซากะมิซากะ—(รถบัส 9) —ภูเขาเท็งงุ / ข้อที่สี่: ‘แนะนำอาหาร’ 1. ร้านซูชิมาซะ: สถานที่ถ่ายทำ ‘Love Letter’ ร้านอาหารที่โรแมนติกและสวยงามมาก 2. ซาวาซากิซุยซัน: มีทะเลอาหารทะเลของฮอกไกโดทุกชนิด 3. LeTAO สาขาหลัก: คุกกี้และช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียง! 4. โฮกาโกโร: เค้กปีนังของป่าแห่งเทพนิยาย / ข้อที่ห้า: ‘กลยุทธ์การเดินทาง’ จากซัปโปโรไปโอตารุ วิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือการนั่งรถไฟ JR ราคาตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว 750 เยน ใช้เวลาประมาณ 36 นาที การเดินทางในเมือง นอกจากไปอาซาริหรือภูเขาเท็งงุที่ต้องนั่งรถแล้ว สถานที่อื่นๆสามารถเดินไปถึงได้

ที่คลองโอตารุต้องรู้ 5 สิ่งนี้!

การเดินทางไปโอตารุ จะต้องมาที่คลองโอตารุ! ที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ 'Love Letter' ทุกฤดูมีทิวทัศน์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่เป็นเอกลักษณ์ / สิ่งที่ 1: 'เกี่ยวกับคลองโอตารุ' คลองโอตารุยาว 1140 เมตร กว้าง 20 ถึง 40 เมตร ตั้งอยู่ในโอตารุ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคลองเดียวในฮอกไกโด และเป็นคลองที่เก่าที่สุด มีอายุเท่ากับประวัติศาสตร์การเปิดเผยฮอกไกโด ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบปี คลองโอตารุเริ่มต้นใช้สำหรับการขนส่งสินค้า ตอนนี้ริมคลองถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้าของฝีมือต่างๆ มีร้านค้าที่มีศิลปะมากมาย และมีบางคลังที่ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและบาร์ / สิ่งที่ 2: 'จุดที่ต้องมา' 1 ริมคลอง: จุดที่ต้องมาครั้งแรกคือริมคลอง คุณสามารถอยู่บนสะพานริมแม่น้ำหรือริมฝั่งแม่น้ำ 2 คลังเก่าที่ริมแม่น้ำ: คลังเก่าที่นี่ได้กลายเป็นร้านค้าที่มีสไตล์ต่างๆ คลังที่ 1 ของโอตารุที่เรียกว่าที่กำเนิดของเบียร์โอตารุ โอตารุคลองโรงอาหารเป็นถนนอาหารที่เปลี่ยนมาจากคลัง 3 พิพิธภัณฑ์โอตารุ: ฟรี ใช้ 'คลังโอตารุเก่า' ที่ถูกปรับเปลี่ยน แนะนำประวัติศาสตร์และธรรมชาติของโอตารุ รวมถึงประวัติศาสตร์การพัฒนาการประมง / สิ่งที่ 3: 'แนะนำวิธีการเล่น' 1 ถ่ายรูป: คลองโอตารุเป็นจุดที่ต้องมาของโอตารุ และทุกคนที่มาโอตารุจะมาถ่ายรูปที่นี่ แนะนำให้มาดูทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มีทิวทัศน์ที่แตกต่างกัน 2 ทัวร์คลอง: ทัวร์คลองโอตารุ คุณสามารถเช่าจักรยาน มีคนขับรถที่สวมชุดแบบดั้งเดิมบนริมฝั่ง และคุณยังสามารถขึ้นเรือทัวร์ ทิวทัศน์ในเวลากลางคืนน่าทึ่งมาก / สิ่งที่ 4: 'ร้านอาหารที่แนะนำ' มีร้านอาหารที่อร่อยมากมายบนทั้งสองฝั่งคลอง 1 ทอริบิรด์ ร้านย่างที่ได้รับความนิยมของโอตารุ ไก่ย่างและลิ้นวัวเป็นสิ่งที่ต้องสั่ง การมาที่ร้านย่างในวันหนาวจริงๆ น่าทึ่ง 2 โซบะ ร้านโซบะร้านเก่าที่มีอายุร้อยปี ก็เป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากชาวบ้าน คุณสามารถลองโซบะเทมปุระหรือโซบะแกงกะหรี่ / สิ่งที่ 5: 'การเดินทาง' คลองโอตารุอยู่ในศูนย์กลางเมือง จาก JR โอตารุเดินลงไปประมาณ 400 เมตรก็จะถึงแล

Otaru Canal แลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องมาเช็กอิน

#เที่ยวญี่ปุ่น #ทริปหน้าไปญี่ปุ่นกัน! #เที่ยวฮอกไกโด ตะลุยฮอกไกโดรอบนี้ เราพามาทัวร์กันที่เมืองโอตารุกันบ้างค่ะ ซึ่งสถานที่แรกที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ Otaru Canal หรือคลองโอตารุอันโด่งดังนั่นเอง ใครไม่มาเช็กอิน ก็เหมือนมาไม่ถึงโอตารุ! 👉 แนะนำมาช่วงก่อน 16.00 จะได้เห็นทั้งวิวกลางวันและกลางคืน ซึ่งกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับตามริมคลอง สวยมากๆ 🌉 🚤 มีบริการล่องเรือชมคลองโอตารุ ค่าเสียหาย 1,500¥ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที . 🚄 การเดินทาง - JR Sapporo ขึ้นรถไฟขบวน JR Hakodate Line to Otaru ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ลงสถานี Minami-Otaru ค่ะ (สถานีก่อนถึงปลายทาง Otaru / ค่าโดยสาร 750¥ หรือใช้ JR Pass) TIPS : ที่เราเลือกลง Minami-Otaru เพราะสามารถเดินเที่ยวแลนด์มาร์คสำคัญๆ ไล่ไปจนถึงคลองโอตารุ และเดินทางกลับที่ JR Otaru ได้เลยแบบไม่ต้องเดินย้อนไปมาค่า 📌 อย่าลืมเตรียมความพร้อมก่อนไปตะลุยหิมะ ท้าความหนาว เสื้อโค้ท บู้ทลุยหิมะ ถุงมือ Heattech ต้องครบ! . #ทริปหน้าไปไหน #รีวิวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #Japan #รีวิวฮอกไกโด #Hokkaido #Otaru #คลองโอตารุ #travel #รอวันออกเดินทาง

ซัปโปโร่ในความทรงจำ...นั่งรถไฟไปโอตารุ

จุดหมายปลายทางอีกแห่งที้ไม่ควรพลาดเมื่อมาซัปโปโร่คือ โอตารุ เมืองริมทะเลที่มีชื่อเสียงเรื่องตึกริมคลองและอาหารทะเล ผมเดินเล่นริมคลองอาบแดดแล้วไปต่อที่ทางรถไฟสายเก่าในเมือง เป็นทางรถไฟเก่าที่โรแมนติกมากที่สุด ร้านอาหารทะเลสดๆน่านั่งเพียบ ราคาก็ไม่แพง โอตารุสามารถไปเช้าเย็นกลับจากซัปโปโร่ได้เลย ผมไม่ได้ค้างคืน เพราะเย็นนี้มีบินไปโตเกียวต่อครับ

แผนการเดินทางครั้งนี้ที่ฮอกไกโดถูกวางแผนอย่างมีเหตุผล สะดวกและประหยัดเวลา!

1⃣ สถานีแรก: ชมเพนกวินที่สวนสัตว์อาสฮิยามะ เดินทางไปสวนสัตว์อาสฮิยามะในตอนเช้า เวลาเดินของเพนกวินในช่วงเช้าคือ 11 โมง ดังนั้นคุณต้องมาถึงและซื้อบัตรเข้าสวนก่อนนั้น ขึ้นรถไฟด่วนจากสถานีซัปโปโรเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที คุณสามารถเลือกรถไฟที่ออกเวลา 8 โมงเช้า ถึงสถานีอาสฮิยามะแล้ว ไปที่ชานชาลาที่ 6 ทันที ขึ้นรถประจำทางจากสถานีอาสฮิยามะไปสวนสัตว์อาสฮิยามะที่ออกเวลา 9 โมง 40 นาที ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าใช้จ่าย 500 เยน ถึงสวนสัตว์แล้ว ซื้อบัตรและต่อคิวเข้าสวน คาดว่าจะถึงประมาณ 10 โมง 30 นาที จากนั้นไปที่เส้นทางเดินของเพนกวิน หาที่ถ่ายรูปที่ดีและรอเพนกวินปรากฏตัว 2⃣ สถานีที่สอง: ต้นคริสต์มาสที่โดดเดี่ยว หลังจากชมเพนกวินแล้ว โปรดทานราเม็งที่ร้อนๆ ที่อยู่ใกล้ประตูหน้าของสวนสัตว์ (ตรวจสอบว่าคุณเลือกประตูหน้า) ร้านอาหารอยู่ในสวนสัตว์ ไม่ต้องออกจากสวนสัตว์ หลังจากนั้น เตรียมตัวขึ้นรถประจำทางจากสวนสัตว์ไปสถานีอาสฮิยามะ (จุดขึ้นรถอยู่หน้าประตูหน้าของสวนสัตว์) คุณสามารถค้นหาตารางเวลาของรถบัสบน Google Maps และเราเลือกรถที่ออกประมาณ 12 โมง 10 นาที ถึงสถานีอาสฮิยามะแล้ว ขึ้นรถไฟไปสถานีบิบาอุชิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงสถานีบิบาอุชิแล้ว ใช้ Google Maps ค้นหา 'クリスマスツリーの木' (ฉันลองค้นหาด้วยภาษาอังกฤษแล้วไม่ได้ผล) ตามนำทางเดินประมาณ 20 นาที คุณจะถึงที่หมาย ทัศนียภาพระหว่างทางสวยงามมาก ดังที่คุณเห็นในภาพที่ 2 ถึง 5 คุณสามารถถ่ายรูปขณะเดินได้ แนะนำให้ถึงต้นคริสต์มาสก่อน 2 โมง 30 นาที เพราะการถ่ายรูปอาจใช้เวลามาก และมันจะมืดเร็ว ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่ามีเวลาเพียงพอในการกลับไปที่สถานีบิบาอุชิและขึ้นรถกลับ รถไฟในชุมชนเล็กๆ นี้มีระยะห่างระหว่างเที่ยวเยอะ ดังนั้นคุณต้องค้นหาตารางเวลาของรถไฟบน Google Maps และวางแผนการเดินทางของคุณตามเวลาของรถไฟ (เราเลือกรถไฟที่ออกประมาณ 4 โมงเย็นกลับไปที่สถานีอาสฮิยามะ แล้วกลับไปซัปโปโรจากอาสฮิยามะ) โปรดทราบ: คุณต้องค้นหาและตรวจสอบทุกจุดขึ้นรถบน Google Maps เพื่อปรับแผนการเดินทางของคุณ!

ชมน้องเพนกวิน @Asahiyama Zoo

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า(Asahiyama Zoo) ตั้งอยู่ในเมือง อะซาฮิกาว่า(Asahikawa)ของจังหวัด ฮอกไกโด(Hokkaido) เรียกได้ว่าเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงในแถบรอบนอกของเมืองอะซาฮิกาว่าเลยล่ะค่ะ สิ่งที่ทำให้สวนสัตว์แห่งนี้มีชื่อเสียงมากๆของตรงที่ทางสวนสัตว์อนุญาตให้ผู้เข้าชมได้เข้าชมสัตว์นานาชนิดจากหลากหลายมุมมอง จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่เวลาใครคิดถึงจะต้องนึกถึงที่นี่ก่อนเสมอแถมยังแตกต่างกว่าที่อื่นๆอีกต่างหาก สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่นั่นก็คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ที่จะผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของเจ้าฝูงเพนกวินทั้งหลาย ทำให้เราเหมือนได้เข้าไปใกล้ชิดกับเจ้าเพนกวินได้อย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ อีกส่วนหนึ่งที่ก็ดีงามไม่แพ้กันก็คือ “โดมแก้วขนาดเล็ก” ซึ่งจะตั้งอยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า จึงทำให้เราได้เห็นเจ้าสัตว์ที่ไม่ได้เห็นง่ายๆอย่างหมีขั้นโลกและหมาป่ากันแบบระยะใกล้ๆ ยิ่งช่วงฤดูหนาวนี่เป็นอะไรที่ดีงามมากถึงมากที่สุด เพราะทางสวนสัตว์จะมีการนำเหล่าเพนกวิ้นออกมาเดินโชว์ตัวท้าลมหนาวกันอย่างสนุกสนาน ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนจัดแสดงสัตว์ที่ทำได้อย่างดีเยี่ยมนะคะ ยังมีโซนจัดแสดงนิทรรศการจะแสดงเกี่ยวกับสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด อย่าง กวาง นกอินทรี หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่ตอนนี้หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้วเนื่องจากตอนนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และสัตว์อื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หมีขั้วโลก ลิง(apes) แมวใหญ่ และยีราฟ น้องๆ น่ารักมากๆเลยละจ้า

การเดินทางไปสวนสัตว์อาซาฮิยามะในอาซาฮิคาวะ

สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงมากในวงการสวนสัตว์ มีชื่อเสียงไม่แพ้สวนสัตว์ป่าแดงในนานกิง ที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสัตว์ เพื่อให้สามารถดูพฤติกรรมของสัตว์ในสภาพที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติได้ นี่คือสิ่งที่ฉันชอบในสวนสัตว์สมัยใหม่ที่ควรจะทำ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าความอุดมสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมของสัตว์ สัตว์ที่นี่ไม่เหมือนกับที่นานกิง มีสัตว์จากฮอกไกโดและสัตว์ขั้วโลกเหนือจำนวนมาก เช่น แมวน้ำ ปลาเพนกวิน หมาป่า หมีขั้วโลก กวางเอซู กระรอกบินฮอกไกโด นกอินทรีทะเล ฯลฯ และการออกแบบของสถานที่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความพิถีพิถัน เช่น ในอาคารของหมีขั้วโลกมีสระว่ายน้ำที่สามารถเห็นหมีขั้วโลกกำลังล่าปลาใต้น้ำ และในอาคารของแมวน้ำมีท่อที่ทำให้แมวน้ำสามารถว่ายน้ำขึ้นลงได้ นอกจากนี้ในฤดูหนาว สวนสัตว์ยังมีโครงการเดินเพนกวินที่ได้รับความนิยมมาก สามารถเห็นเพนกวินเดินตามทางหิมะไปข้างหน้าทีละก้าว นอกจากนี้ การแนะนำสัตว์หลายๆ อย่างในสวนสัตว์ก็เป็นภาพวาดด้วยมือของพนักงานเอง ซึ่งมีความใส่ใจมาก หากคุณชอบสัตว์ ที่นี่เป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด。 ตั๋วเข้าชมสวนสัตว์อาซาฮิยามะราคา 1,000 เยน สามารถซื้อร่วมกับตั๋วรถบัสที่เครื่องขายตั๋วรถบัสที่สถานีอาซาฮิคาวะ。 เวลาทำการในฤดูหนาวคือ 10:30-15:30 การเดินทาง: จุดขึ้นรถที่ 6 หน้าสถานีอาซาฮิคาวะ นั่งรถบัสสาย 41 หรือ 47 ลงที่ป้ายสุดท้าย ราคาตั๋วคือ 500 เยน。

สวนสัตว์อาซาฮิยามะ สถานที่สำหรับครอบครัวในฮอกไกโด（เดินเล่นกับเพนกวิน）

ไปฮอกไกโดยังไงล่ะถ้าพลาดสวนสัตว์อาซาฮิยามะไปได้? นอกจากทรัพยากรสัตว์ชนิดที่มีในฤดูหิมะที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ประสบการณ์การเที่ยวสวนสัตว์โดยรวมก็ทำได้ดีมาก อย่างเช่น สามารถชมฮิปโปโปเตมัสบนฝั่งและในน้ำได้ 360 องศาไม่มีมุมตาย; ดาวเด่นของสวนที่เดินเล่นกับเพนกวินสองครั้งต่อวัน; และยังมีการส่องดูหมีขั้วโลกจากโพรงดิน ฯลฯ ตลอดทางนอกจากจะลื่นไถลนิดหน่อยแล้ว ประสบการณ์อื่นๆ ก็ดีมาก

พาไหว้พระขอพร และชมวิวสวยๆ ที่ศาลเจ้าฮอกไกโด

#เที่ยวญี่ปุ่น ทริปหน้าไปฮอกไกโดกันเถอะ! มาญี่ปุ่นทั้งที อีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดของทุกทริปก็คือ "ศาลเจ้า" นั่นเองค่ะ ทั้งสายมู สายบุญ หรือสายถ่ายรูป บอกเลยว่าต้องมาเช็กอิน! 👉 ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งฮอกไกโด ที่นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาไหว้พระขอพร ซื้อเครื่องรางเสริมดวงกันแล้ว ก็ยังนิยมมาเดินเล่น ถ่ายรูปกับวิวป่าสนสวยๆ อีกด้วย 💰 ค่าเข้าชม : ฟรี 🚎 การเดินทาง : - ลงสถานี Maruyama Koen Station ออกทางออกที่ 3 แล้วเดินทะลุสวน ไปยังศาลเจ้า - ใช้เวลาเดินประมาณ 13 นาที ระยะทาง 1 กม. (ระหว่างทางเป็นสวนสาธารณะ มีป่าสนสวยๆ ให้แวะถ่ายรูปได้ แอดไปช่วงหิมะตกคือฟีลดีมากกกก) #ทริปหน้าไปไหน? #รีวิวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #Japan #รีวิวฮอกไกโด #Hokkaido #Sapporo #travel #คิดถึงธรรมชาติ #รอวันออกเดินทาง #พิกัดลับ

ศาลเจ้าHokkaido @ ซัปโปโร

วิธีการเดินทาง - นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai จาก สถานี Supporo ไปลงที่ Maruyama Koen ทางออกที่ 2,3 เดินไปอีก 100 เมตรจะเจอ ทางเข้าสวน Maruyama ราคา 210 เยน สถานที่ท่องเที่ยว - ศาลเจ้า Hokkaido ที่ใครๆมาต้องแวะมาไหว้ โรงแรม - ที่เราพัก ชื่อว่า JR Inn เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานี JR Supporo ง่ายต่อการเดินทางและมีอาหารเช้ามินิให้ทาน ราคาไม่แพง ร้านอาหารและอาหาร - ช้อปปิ้ง - ที่พักใกล้แหล่งช๊อปปิ้งมาก

ฮอกไกโด

ต้องไปซักครั้ง

คลองโอตารุ ซัปโปโร

วิธีการเดินทาง - Trip เครื่องยิน สถานที่ท่องเที่ยว - คลองโอตารุ ซัปโปโร โรงแรม - ร้านอาหารและอาหาร - ช้อปปิ้ง -

🙏นมัสการหลวงพ่อโตแห่งซัปโปโร🇯🇵

📷จุดถ่ายรูปแลนด์มาร์คยอดฮิตที่ไม่ไกลจากซัปโปโรมากนัก 🗻Hill of the Buddha เนินเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสุสานมาโคะมะไนทาคิโนะ (Makomanai Takino Cemetery) 💥Hilight : พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวที่ทำจากหินมีความสูงถึง 13.5 เมตร น้ำหนัก 1,500 ตัน ซึ่งมีความสวยงามตามฤดูกาลที่แตกต่างกันออกไป 💙ภาพถ่ายเมื่อ : 5 มีนาคม 2024 🚋การเดินทาง: จากสถานี Sapporo นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku ไปลงที่สถานี Makomanai (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) แล้วเดินไปยังป้ายรถบัสหมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถบัส Chuo Bus สาย 108 (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ก็ถึงหน้าทางเข้าเนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SJ5Y4HYPoF2H5KDB6?g_st=ic ⭐️เปิดเวลา : 07.00 - 18.00 น. 💴 ค่าเข้า ： คนละ 300 เยน (สามารถเลือกชำระได้ทั้งเงินสด หรือบัตรเครดิต) 🌸ช่วงที่คาดว่าซากุระจะบานในซัปโปโร : 20 - 25 เมษายน 2024 #ซากุระ2024 #hokkaido #hillofthebuddha #หลวงพ่อโตซัปโปโร #เที่ยวญี่ปุ่น

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักในฮอกไกโด, หัวพระพุทธที่มีความลึกลับของ Ando Tadao

ฉันได้มาฮอกไกโด 3 ครั้งในฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว, และฉันรู้สึกว่าสุดที่สิ้นเชิงที่สุดคือซัปโปโร, จนกระทั่งวันสุดท้ายของการเดินทาง, ฉันไปที่นี่. 👉🏻 พระพุทธหัวใหญ่ (หัวใหญ่พุทธ) ⭕ รูปพระพุทธตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Makomanai Takino ในชานเมืองซัปโปโร, ซึ่งเป็นสถานที่ที่สถาปนิกชื่อดัง Ando Tadao ออกแบบและสร้างเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของสวนสาธารณะ. ⭕ สิ่งที่ทำให้รูปพระพุทธนี้พิเศษคือรูปพระพุทธถูกซ่อนอยู่ในเนินเขาที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์, และเฉพาะส่วนหัวที่แสดงออกมา. ⭕ การออกแบบแบบนี้ทำให้คนนึกถึงถ้ำหินในสมัยโบราณของจีน, รูปพระพุทธที่ถูก 'ซ่อน' มีความลึกลับ. ⭕ ไม่เหมือนกับรูปพระพุทธที่เราเห็นในปัจจุบันส่วนใหญ่, รูปพระพุทธนี้มีเครา. และรูปพระพุทธที่ฉันไปเยี่ยมชมในภูมิภาค Hokuriku ก่อนหน้านี้ก็เช่นกัน. ⭕ การมองขึ้นไปที่รูปพระพุทธสูง 13.5 เมตรนี้ทำให้คุณรู้สึกถึงพลังงานที่สงบ. โดยเฉพาะเมื่อแสงและเงาสะท้อนกลับมาแสดงรูปพระพุทธที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา, คุณสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเวลาและพลังชีวิตที่เงียบสงบของทุกสิ่งทุกอย่าง. ⭕ ในความเป็นจริง, เนินเขานี้เป็นทะเลดอกที่สร้างขึ้นจาก 150,000 ต้นลาเวนเดอร์, ในฤดูร้อน, หัวพระพุทธจะปรากฏและหายไปในทะเลสีม่วงของฤดูร้อน. ⭕ นอกจากนี้, ที่ประตูขาเข้าสวนสาธารณะ ยังมีแถวของรูปปั้นหิน Moai ที่ใหญ่โตที่เหมือนกับ 'Easter Island', และในฤดูหนาวที่มีหิมะขาว, มันทำให้คุณรู้สึกว่ามันไม่เป็นจริง. 📷TIPS: 1⃣️ คุณควรพกเลนส์มุมกว้าง, ถ้าไม่มี, โทรศัพท์มือถือก็สามารถทำได้, ผลลัพธ์ที่ได้จะต่างกัน! 2⃣️ แนะนำให้ไปในช่วงเช้า, ในเวลานี้, หน้าของรูปพระพุทธจะอยู่ในทิศทางของแสง, ซึ่งจะทำให้มันดูชัดเจนและสะท้อนกลับมา. 3⃣️ ในระหว่างการถ่ายภาพ, โปรดรักษาความสงบ, และอย่าทำเสียงดัง. 📍ที่อยู่: 〒005-0862 ซัปโปโร, ภาคใต้, Takino 2 🚗 การขนส่ง: ลงจากสถานีรถไฟใต้ดิน Makomanai และโอนรถบัส (มีหลายรอบที่สามารถไปได้) ⏳ เวลาเปิด: เมษายน - ตุลาคม 7:00 - 19:00 พฤศจิกายน - มีนาคม 7:00 - 18:00 เวลาเข้าชม: เมษายน - ตุลาคม 9:00 - 16:00 พฤศจิกายน - มีนาคม 10:00 - 15:00

เนินแห่งพระพุทธเจ้า(Hill of the Buddha, 頭大仏殿) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ(Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ที่ถือว่าที่สุดรางวัลของสถาปนิก โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อยๆลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะสามารถเห็นต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นกับความงดงามจากธรรมชาติ มองดูแล้วประหนึ่งเป็นผลงานศิลปะชั้นเอกที่หาดูได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

แวะมาหาหลวงพ่อโตแห่งซัปโปโร🙏

#ซากุระ2024 แวะมาหาหลวงพ่อโตแห่งซัปโปโร🙏 ณ Hill of the Buddha เนินเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสุสานมาโคะมะไนทาคิโนะ (Makomanai Takino Cemetery) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ วิวทิวทัศน์สวยงาม ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนทัวร์ทั่วไป ถ่ายรูปที่ต้องการเก็บภาพความประทับใจ🩷 💥Hilight : พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวที่ทำจากหินมีความสูงถึง 13.5 เมตร น้ำหนัก 1,500 ตัน ซึ่งมีความสวยงามตามฤดูกาลที่แตกต่างกันออกไป 💙ภาพถ่ายเมื่อ : มีนาคม 2024 ❄️อุณหภูมิประมาณ ： ติดลบ 6 องศาเซลเซียส 🚋การเดินทาง: จากสถานี Sapporo นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku ไปลงที่สถานี Makomanai (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) แล้วเดินไปยังป้ายรถบัสหมายเลข 2 เพื่อขึ้นรถบัส Chuo Bus สาย 108 (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ก็ถึงหน้าทางเข้าเนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า 📍พิกัด : Hill of the Buddha ⭐️เปิดเวลา : 07.00 - 18.00 น. 💴 ค่าเข้า ： คนละ 300 เยน (สามารถเลือกชำระได้ทั้งเงินสด หรือบัตรเครดิต) 🌸ช่วงที่คาดว่าซากุระจะบานในซัปโปโร : 20 - 25 เมษายน 2024 #ซากุระ2024 #hokkaido #hillofthebuddha #หลวงพ่อโตซัปโปโร #เที่ยวญี่ปุ่น #ที่เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #ฮอกไกโด #เนินเขาพระพุทธเจ้า

Ningle Terrace หมู่บ้านเทพนิยายเมือง Furano☃️❄️🌨️

สวัสดีค่า ทริปนี้จะพาหลุดไปในโลกนิทาน🥺
หมู่บ้าน Ningle Terrace ที่เมือง Furano น่ารักมากๆเลยค่า
ความป่าสน ความกระท่อมไม้ ความหิมะ น่ารักไปหมดเลย❄️
ใครไปฮอกไกโดที่นี่พลาดไม่ได้เลยน้า เราให้เต็มสิบเลยค่ะ
บรรยากาศดี โรแมนติก มีคาเฟ่เล็กๆด้วยน้าา 
จิบเครื่องดื่มร้อนๆ☕️✨ มีของแฮนด์เมดให้ชอปปิ้งด้วยค่า🫶🏻
ไปช่วงเย็นๆ (3-4โมงเย็น)เค้าจะเปิดไฟในหมู่บ้าน 
สวยไปอีกค่าา 🌨️🛖🏚️
เราไปต้นเดือนกุมภาพันธ์น้า☺️
📍นิงเกิ้ลเทอเรส 
- เข้าชมฟรี เปิดทุกวัน
- เวลาเปิดปิด : 12.00-20.45 น.
🚞 การเดินทาง
JR Sapporo - JR Furano (เราใช้ JR PASS)
จากสถานีรถไฟ JR Furano นั่งรถบัสท้องถิ่น The Lavender-Go ลงที่ New Furano Prince Hotel
หรือนั่งแท๊กซี่ ประมาณ 10 นาที ประมาณ 1,900 เยน #tripแจกที่พักฟรี #เที่ยวญี่ปุ่น #hokkaido #sapporo

Ningle Terrace, Furano หิมะฟูๆ สวยงามจริงๆ

ทริปฮอกไกโด ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หลังจากไม่ได้ไปญี่ปุ่น 3 ปี ขอประเดิมสัมผัสหิมะ ฤดูหนาวที่ฮอกไกโด Furano เดินทางไปถึงได้ด้วย JR Hokkaido Pass จากสถานี นั่ง Lavender bus ลงป้ายสุดท้ายที่ New Prince Furano Hotel เดินตามป้ายบอกทาง จะพบ Ningle Terrace อยู่ใกล้ๆ Ningle Terrace กระท่อมน้อยในป่าใหญ่ สวย น่ารัก เหมือนในเทพนิยาย เป็นร้านขายของ อาหาร เครื่องดื่ม ของฝากต่างๆ ตอนเย็น จะมีเปิดไฟ ยิ่งทำให้บรรยากาศตอนหิมะตกสวยงามขึ้นไปอีก #furano #ningleterrace #hokkaido

Ningle Terrace🌄🌠

หมู่บ้านแห่งเทพนิยายที่เป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัดฮอกไกโดครับ ถ้าใครมาที่นี่ก็ต้องแวะหมู่บ้าน แห่งนี้ หมู่บ้านนี้ตอนกลางคืนจะสวยมากครับเพราะเป็นกระท่อมที่เหมือนในนิทานเลย ตอนกลางคืนประดับประดาด้วยไฟกับหิมะสีขาว ถึงเรียกได้ได้ว่าเป็นหมู่บ้านเทพนิยาย เหมือนเราหลุดเข้าไปในนิยายเลยครับ อีกทั้งข้างใน ยังมีของ แฮนด์เมดกระจุกกระจิกที่ทำขาย สามารถซื้อเป็นที่ระลึกหรือว่าเอาไปเป็นของฝากได้เลยครับ พอเข้าไปในกระท่อมสามารถหลบหนาวรู้สึกอบอุ่นจริงๆ #บินลัดฟ้าสู่ฮ่องกง #รีวิวฮอกไกโด

Ningle Terrace (Hokkaido japan)

กระท่อมไม้เล็กๆท่ามกลางต้นไม้ใหญ่และหิมะ บ้านแต่ละหลังจะมีของที่ระลึกร้านขายของที่เป็นงานฝีมือ ทั้งงานไม้ และงานแกะสลักเซรามิคและยังมี ร้านกาแฟอีกด้วยค่ะ บรรยากาศดีเหมาะกับการเดินเล่นมากๆค่ะ แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆหน่อยนะคะ มาช่วงเย็นเกือบค่ำแสฃจะสวยมากๆ เหมาะแก่การถ่ายรูป แต่เย็นๆส่วนมากร้านจะปิดค่ะ เป็นอีกสถานที่น่ารักมากค่ะ ใครไป Hokkaido อย่าลืมแวะมาเช็คอินกันที่นี้นะ ถ้าไม่มาถือว่าพลาดมากๆ 🚘มีที่จอดรถด้านหน้าทางเข้า 🕝 เวลาเปิดทุกวัน เวลา 12:00 - 20:30น. 🎫 เข้าฟรี 📍นิงเกิลเทอเรส #บินลัดฟ้าสู่ฮ่องกง