แพ็คเกจทัวร์โออิตะ ปี2568 พร้อมส่วนลดเที่ยวบินและโรงแรม

เช็คอิน
Thu, Dec 11
เช็คเอาท์
Sat, Dec 13
ค้นหา

แพ็คเกจทัวร์โออิตะ - สิ่งที่ต้องทําในโออิตะ

Oita City Library
#hellohalloween ห้องสมุดเมืองโออิตะ (หรือชื่อเล่นว่า “เคนโตะโช”) ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก อาราตะ อิโซซากิ เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2538 อิโซซากิ ซึ่งเกิดที่เมืองโออิตะ ได้นำเอาสุนทรียศาสตร์แบบโมเดิร์นนิสต์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขามาผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแสงสว่าง ความโปร่งโล่ง และความแม่นยำทางเรขาคณิต แม้ว่าการตกแต่งภายในจะได้รับการปรับปรุงเพื่อความสะดวกสบายและการใช้งานจริง แต่ภายนอกยังคงรักษารูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้ โดยยังคงรักษาเสน่ห์ของการออกแบบในยุคแรกไว้ โครงสร้างคอนกรีตอันสง่างาม เส้นโค้งที่อ่อนช้อย และการใช้แสงธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ทำให้อาคารแห่งนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่สาธารณะที่สำคัญที่สุดทางสถาปัตยกรรมของโออิตะ ปัจจุบัน “เคนโตะโช” ยังคงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับอ่านหนังสือเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม จัดนิทรรศการ การบรรยาย และกิจกรรมชุมชนต่างๆ เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมและผู้ที่ชื่นชอบพื้นที่ที่ผสมผสานแรงบันดาลใจทางปัญญาและสุนทรียศาสตร์ 📍 ห้องสมุดเมืองโออิตะ (เคนโทโช) จังหวัดโออิตะ #โออิตะ #สถาปัตยกรรม #อาราไทโซซากิ #สถาปัตยกรรมญี่ปุ่น #การออกแบบห้องสมุด #ความทันสมัย ​​#โออิตะห้องสมุด #เคนโทโช #อาราไทโซซากิดีไซน์
พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดโออิตะ (OPAM)
#hellohalloween พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโออิตะ (OPAM) เปิดทำการในฤดูใบไม้ผลิปี 2015 ได้รับการออกแบบให้เป็น "พิพิธภัณฑ์เปิดสู่เมือง" สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและโปร่งสบายของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน ภายในอาคารเอเทรียมสองชั้นที่กว้างขวาง เปิดรับแสงธรรมชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรีโดยไม่เสียค่าเข้าชม ร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ที่ชั้น 1 จัดแสดงสินค้าศิลปะและงานฝีมือท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างประณีต ขณะที่คาเฟ่ที่ชั้น 2 เป็นสถานที่พักผ่อนที่ผ่อนคลาย ท่ามกลางพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ อีกหนึ่งจุดเด่นคือทางเชื่อมระหว่างอาคาร OPAM และอาคาร Oasis Hiroba 21 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม Oasis Tower และโรงละคร Grand Theater (Granshita) การออกแบบเมืองที่พิถีพิถันนี้ทำให้ OPAM กลายเป็นส่วนหนึ่งของย่านวัฒนธรรมของโออิตะ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักศิลปะหรือเพียงแค่เดินเล่นในเมือง OPAM ขอเชิญชวนทุกคนให้เข้ามาสำรวจ ผ่อนคลาย และสัมผัสการผสมผสานระหว่างศิลปะ สถาปัตยกรรม และชุมชน 📍 พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโออิตะ (OPAM) #oitatravel #opam #artinjapan #สถาปัตยกรรมญี่ปุ่น #ชีวิตพิพิธภัณฑ์ #oitaart #แรงบันดาลใจในการออกแบบ #การเดินทางญี่ปุ่น
โรงแรมเรมแบรนดท์ โออิตะ
สามารถเดินจากสถานีโออิตะได้ และมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ สะดวกมาก เหมาะสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว เพราะคุณสามารถฝากสัมภาระและมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็ว หรือซื้อของที่ต้องการแล้วกลับห้องพักได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียเวลา ห้องอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ช่วยให้คุณผ่อนคลายหลังจากการเดินทางอันยาวนาน และห้องออกกำลังกายก็มีอุปกรณ์ออกกำลังกายให้เลือกมากมาย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง บุฟเฟต์อาหารเช้ามีหลากหลายและอร่อยมาก สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือเชฟคอยตรวจสอบคุณภาพอาหารอยู่ตลอดเวลา ทัศนคติที่เป็นมืออาชีพต่องานของเขานั้นชัดเจน ทำให้ฉันเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างสบายใจ ห้องพักสะอาดและกว้างขวาง แสงไฟสว่างสบาย ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งการทำงานและการพักผ่อน ฉันจะกลับมาพักอีกแน่นอน 📍โรงแรมเรมแบรนดท์ โออิตะ 9-20 ทามุโระโช เมืองโออิตะ จังหวัดโออิตะ เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี JR โออิตะ🚶 #พักโรงแรม #ทริปโรงแรม #ทริปโออิตะ #เที่ยวชมโออิตะ #โรงแรมพร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ #บุฟเฟต์อาหารเช้า #โรงแรมพร้อมอาหารเช้าแสนอร่อย
Oita Funai Park
#ท่องเที่ยวต่างประเทศ บันทึกการเดินทางญี่ปุ่น 98. โออิตะ 📍สวนปราสาทโออิตะ สวนปราสาทโออิตะเป็นสถานที่สวยงามในวันที่อากาศแจ่มใส ☁️ ที่คุณสามารถเห็นซากปราสาทสีขาวโพลนภายใต้ท้องฟ้าสีครามสดใส สวนปราสาทโออิตะไม่ใช่ปราสาท แต่มีเพียงซากปราสาทที่เหลืออยู่ คุณจึงมองไม่เห็นตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม ตัวปราสาท ทางน้ำโดยรอบ ☘️ และต้นไม้ต่างๆ ล้วนสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและกลมกลืน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโออิตะ ขอแนะนำให้แวะชมระหว่างการเที่ยวชมเมืองโออิตะ✨ ตอนที่ฉันไปเยี่ยมชม ฉันเห็นคนท้องถิ่นขี่จักรยานและเดินเล่น😊 ฉันไปเที่ยวช่วงต้นฤดูร้อน แต่ดอกซากุระดูเหมือนจะบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิเช่นกัน🌸 🚶‍♀️วิธีเดินทางไปสวนปราสาทโออิตะจากสถานีโออิตะ เดินประมาณ 16 นาทีจากสถานีโออิตะ 💵ค่าเข้าชมสวนปราสาทโออิตะ ฟรี ⏰ระยะเวลาทัวร์สวนปราสาทโออิตะ ประมาณ 20 นาที #JapanSmallCityTravel
พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดโออิตะ (OPAM)
หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทางไกล นี่คือเคล็ดลับการใช้พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็นพื้นที่พักผ่อน! 🙌 • ประโยชน์ใช้สอย 1: [ผ่อนคลายจิตใจในพื้นที่ที่ผ่อนคลาย] เสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดโออิตะ (OPAM) คือคุณสามารถเพลิดเพลินกับพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ แม้จะไม่มีบัตรเข้าชมนิทรรศการพิเศษก็ตาม พื้นที่ไม้และกระจกเป็นสถานที่พิเศษที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจ เป็นจุดพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับพักเท้าที่เหนื่อยล้าและปลดปล่อยจิตใจให้สงบ • ประโยชน์ใช้สอย 2: [อาหารรสเลิศจากคาเฟ่ที่จะเป็นความทรงจำในการเดินทาง] เค้กที่คาเฟ่ที่อยู่ติดกันมีโทนสีที่สวยงาม เหมาะสำหรับการถ่ายรูป! และแน่นอนว่าอร่อย ทำให้เป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในการเดินทางของคุณ! ✨ • [คุ้มค่าแก่การแวะ] สิ่งที่ดีที่สุดคือการได้พักผ่อนฟรีๆ พร้อมกับชื่นชมความงามทางสถาปัตยกรรมชั้นหนึ่ง ไม่เพียงแต่คุณจะได้พักผ่อนเท่านั้น แต่พื้นที่ที่สะดวกสบายยังจะช่วยยกระดับการเดินทางของคุณอีกด้วย หากคุณกำลังมุ่งหน้าไปโออิตะในทริปคิวชูครั้งต่อไป อย่าลืมแวะมานะคะ! หากคุณมีจุดพักแนะนำระหว่างการเดินทาง อย่าลืมมาแชร์กันในคอมเมนต์นะคะ 📍ที่ตั้ง: 2-1 โคโตบุกิโช เมืองโออิตะ จังหวัดโออิตะ 🕰️เวลาทำการ: 10:00 - 19:00 น. (10:00 - 20:00 น. วันศุกร์และวันเสาร์) 🚌: นั่งรถบัสจากสถานีโออิตะประมาณ 10 นาที (เดินประมาณ 15 นาที) #ทริปโออิตะ #เที่ยวชมโออิตะ #พิพิธภัณฑ์ศิลปะ #ท่องเที่ยวศิลปะ #คาเฟ่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
Yoshinoyama Natural Park
ทุกฤดูใบไม้ร่วง ญี่ปุ่นจะแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่ง "จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด" แต่หากคุณถามคนที่เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง — "ในญี่ปุ่นมีที่ไหนที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของฤดูใบไม้ร่วงได้ดีที่สุด" พวกเขาจะตอบสั้นๆ เพียงสองคำ: โยชิโนะ ใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาโยชิโนะในนารา เป็นตัวแทนของความงดงามแห่งฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ใบไม้สีแดงเพียงใบเดียว แต่มันคือม้วนภาพทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วง — ผืนพรมโบราณอายุพันปี — ประกอบด้วยวัดวาอาราม หมอกภูเขา ศาลเจ้า เส้นทางโบราณ และจิตวิญญาณเก่าแก่นับพันปี ในตอนกลางวัน ที่นี่คือ "สันเขาที่ถูกกลืนกินด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง" ในตอนกลางคืน ที่นี่คือ "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างจากความมืดมิด" และนี่คือเหตุผลที่คุณต้องมาเยือนในปีนี้ 🟧 1. ทำไมคนญี่ปุ่นถึงหลงใหล "ใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูเขาโยชิโนะ" กันนัก? 1. "สวรรค์แห่งการชมฤดูใบไม้ร่วง" ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น บทกวีรวมเรื่อง "มันโยชู" ของญี่ปุ่นบันทึกไว้ว่า "ฤดูใบไม้ร่วงแห่งโยชิโนะคือที่พำนักของเหล่าทวยเทพ" เหล่าขุนนางเฮอัน นักพรตโบราณ ผู้แสวงบุญ... เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่พวกเขาปีนขึ้นโยชิโนะในฤดูใบไม้ร่วง เพียงเพื่อเฝ้าชม "ช่วงเวลาที่ภูเขาเปล่งประกาย" 2. สุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่นขั้นสุดยอด: ใบไม้ร่วง × วัด × หมอก ภูเขาโยชิโนะแบ่งออกเป็นระดับความสูงที่แตกต่างกัน ได้แก่ ชิโมเซ็นบง นากาเซ็นบง คามิเซ็นบง และโอคุเซ็นบง แต่ละพื้นที่มีสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่แตกต่างกัน ได้แก่: 🍁 สีแดงเข้มสดใส 🍁 สีชาดเข้ม 🍁 สีส้มอำพัน 🍁 ใบไม้สีเหลืองทอง เมื่อสายลมแห่งขุนเขาพัดผ่าน ก่อให้เกิด "ฝนใบไม้" ทำให้ทุกย่างก้าวราวกับเดินเข้าไปในภาพวาดโบราณ 🛕 3. เจาะลึกวัฒนธรรมชินโตและพุทธศาสนา: วัดคินปุซันจิ × มรดกโลก ภูเขาโยชิโนะไม่ได้เป็นเพียงจุดชมวิวธรรมชาติ แต่ยังเป็น: ✔ มรดกโลก ✔ ศูนย์กลางของนิกายชูเง็นโด (พุทธศาสนา) ของญี่ปุ่น ✔ เป็นที่ตั้งของวัดคินปุซันจิ (สถานที่แสวงบุญสำหรับนักบวชทั่วประเทศ) ทันทีที่คุณเห็นใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง คุณจะเข้าใจ: ทำไมสุนทรียศาสตร์ทางศาสนาของญี่ปุ่นจึงนิยมฤดูใบไม้ร่วง เพราะ "ความงามของความไม่เที่ยง" แสดงออกอย่างชัดเจนที่สุด 🟩 II. การประดับไฟยามค่ำคืน: ประสบการณ์ "ทางจิตวิญญาณ" ที่สุดของภูเขาโยชิโนะ ภูเขาโยชิโนะในตอนกลางวันเปรียบเสมือน "ฤดูใบไม้ร่วงที่มีชีวิตชีวา" อย่างไรก็ตาม การประดับไฟยามค่ำคืนเปรียบเสมือน "ค่ำคืนที่เหล่าเทพเจ้าเสด็จลงมายังโลกมนุษย์" 🔥 1. แสงไฟไม่ได้ให้ความสว่าง แต่เพื่อ "สร้างเงา" ต่างจากเทศกาลโคมไฟในเมืองใหญ่ การประดับไฟที่ภูเขาโยชิโนะนั้นนุ่มนวลและเงียบสงบ แสงไฟส่องสว่างเฉพาะ: • ต้นไม้โบราณ • ยอดใบไม้เปลี่ยนสี • ชายคาวัดโบราณ • มอสบนบันไดหิน เมื่อแสงและเงาผสานกัน คุณจะรู้สึกราวกับได้ก้าวเข้าสู่งานศิลปะต้นฉบับของ *Spirited Away* 🔥 2. สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ห้ามพลาด ① วัดคินปุซันจิ ศาลาซาโอะ วัดขนาดใหญ่อาบแสงสีน้ำเงินเข้มใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน นับเป็นภาพที่ทรงพลังทางจิตวิญญาณที่สุด ② ศาลเจ้าโยชิมิสึ ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เกาะติดถนน ไล่ระดับชั้นอย่างชัดเจนภายใต้แสงไฟ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพย้อนแสงและภาพเงา ③ นานาคุระ ทันทีที่สายลมแห่งขุนเขาพัดผ่าน แสงไฟจะเปลี่ยนใบไม้ที่พลิ้วไหวเป็นสีทองอร่าม สร้างภาพที่ยากจะลืมเลือน 🔥 3. ทำไมการประดับไฟยามค่ำคืนจึงถูกเรียกว่า "พิธีกรรมแห่งฤดูใบไม้ร่วง" ตามประเพณีของภูเขาโยชิโนะ "การประดับไฟ" ถือเป็นพิธีกรรมปกป้องคุ้มครอง การประดับไฟไม่ได้มีไว้เพื่อนักท่องเที่ยว แต่เพื่อ: 🌕 แสดงความขอบคุณสำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปี 🌕 ต้อนรับการมาถึงของฤดูหนาว 🌕 ถวายเครื่องบูชาแด่เทพเจ้าแห่งภูเขาและดวงวิญญาณของนักพรต ดังนั้น คุณจะไม่เห็นแผงขายของที่เน้นขายของมากเกินไป สถานที่แห่งนี้จึงยังคงรักษา "ค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วงที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น" เอาไว้ 🟥 III. เส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูเขาโยชิโนะ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มค่าสูงสุด ฉันได้เตรียมเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวไว้แล้ว 📸【เส้นทางกลางวัน】(คลาสสิกที่สุด) 🔶 1. สวนชิโมะเซ็นบง → ภาพมุมกว้างของทะเลใบไม้เปลี่ยนสี → เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหมู่ ถ่ายภาพคู่รัก และถ่ายภาพนักท่องเที่ยว 🔶 2. วัดคินปุเซ็นจิ → ศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และใบไม้เปลี่ยนสี → วิหารหลักมีขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยใบเมเปิล สวยงามตระการตาอย่างแท้จริง 🔶 3. ศาลเจ้าโยชิมิสึ → "ทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี" ที่สวยที่สุดในภูเขาโยชิโนะ → เมื่อมองออกจากศาลเจ้า คุณจะเห็นหุบเขาที่โอบล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสี 🔶 4. หอดูดาวคามิเซ็นบง → ใบไม้เปลี่ยนสี "สลับชั้น" ที่สวยงามที่สุด → ภาพระยะไกลของสีสันที่ค่อยๆ จางลงของแนวสันเขา 🕯【เส้นทางชมแสงสียามค่ำคืน】(บรรยากาศดีที่สุด) 🔷 วัดคินปุเซ็นจิ → ศาลเจ้าโยชิมิสึ → นานาคุระ ✔ แสงนุ่มนวล ✔ สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีที่ไล่ระดับกันอย่างโดดเด่น ✔ การควบคุมฝูงชน ✔ ถ่ายภาพได้คมชัด 📌 เคล็ดลับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ: • แนะนำให้ใช้ขาตั้งกล้อง • แสงกลางคืนค่อนข้างมืด ISO 1000–1600 จะดีที่สุด • สำหรับการถ่ายภาพด้วยมือถือ ให้ใช้ "โหมดกลางคืน + องค์ประกอบภาพกลับด้าน" • การถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีด้วยแสงด้านหลังจะดีที่สุด � IV. เวลาไหนคือเวลาที่ดีที่สุด? ไทม์ไลน์ใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้เปลี่ยนสีของภูเขาโยชิโนะมีชั้นสีที่ชัดเจนมาก: 🍁 ปลายเดือนตุลาคม: ชิโมะเซ็นบอนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อน เหมาะสำหรับทริปพักผ่อนและเก็บภาพทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วงเป็นบริเวณกว้าง 🍁 ต้นเดือนพฤศจิกายน: นากาเซ็นบอนและวัดคินโปซันจิจะมีสีสันสดใสที่สุด ช่วงที่มีความเข้มของสีมากที่สุดคือช่วงสีทอง 🍁 กลางเดือนพฤศจิกายน: ชิโมะเซ็นบอนจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีแดงเข้ม เหมาะที่สุดสำหรับการเก็บภาพหมอกและทิวทัศน์ภูเขา 🌙 ช่วงเวลาที่มีไฟประดับยามค่ำคืน: ประมาณวันที่ 5-20 พฤศจิกายน ขอแนะนำให้จองล่วงหน้า: ที่พัก + การเดินทาง + สถานที่ต่างๆ เป็นกิจกรรมในฤดูใบไม้ร่วงที่ขายดีที่สุด 🟧 V. ทำไมการทัวร์แบบกลุ่มไปภูเขาโยชิโนะจึงคุ้มค่า? ⭐① ความท้าทายของการเดินทางด้วยตนเอง: การเดินทางไม่ใช่เรื่องง่าย ภูเขาโยชิโนะเป็นภูเขา: • มีรถบัสให้บริการไม่บ่อยนัก • มีทางลาดตามเส้นทาง • ต้องเดินเท้าและเปลี่ยนเส้นทางระหว่างพื้นที่ การกลับบ้านจะยากเป็นพิเศษหากมีแสงไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน! → ทัวร์กลุ่ม = ไร้กังวล ปลอดภัยที่สุด และเดินทางอย่างมั่นคง → คุณจะไม่พลาดพิธีจุดไฟ หรือต้องรีบเร่งให้ทันรถบัสเที่ยวสุดท้าย ⭐② ทัวร์กลุ่มช่วยให้คุณได้ "ตำแหน่งถ่ายภาพที่ถูกต้อง" ไกด์นำเที่ยวจะพาคุณไปยัง: • พื้นหลังที่สะอาดที่สุด • มุมแสงที่ดีที่สุด • จุดถ่ายภาพยามค่ำคืนที่ไม่มีแสงย้อน • "เส้นใบไม้เปลี่ยนสีที่สลับชั้นกัน" ที่สวยงามที่สุดในหุบเขา ⭐③ คำอธิบายสำคัญ: ภูเขาโยชิโนะคือ "ภูเขาแห่งวัฒนธรรม" หากไม่มีไกด์ คุณจะพลาดสิ่งเหล่านี้: • ทำไมวัดคินปุซันจิจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการปฏิบัติธรรม • ทำไมคนญี่ปุ่นจึงเชื่อว่า "ค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ร่วงเปี่ยมล้นด้วยจิตวิญญาณ" • ทำไมภูเขาโยชิโนะจึงถือเป็นที่พำนักของเทพเจ้า • ทำไมใบไม้เปลี่ยนสีจึงเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เที่ยงและการตรัสรู้ ทัวร์กลุ่ม = เปลี่ยน "การมองทิวทัศน์" ให้เป็น "การเข้าใจทิวทัศน์" ⭐④ แสงไฟยามค่ำคืน ความปลอดภัยและความสบาย เส้นทางบนภูเขาที่มืดและขั้นบันไดที่ลื่น ทีมงานมืออาชีพจะ: • ควบคุมจังหวะการเดิน • หลีกเลี่ยงจุดอันตราย • ให้คำแนะนำในการเดินตอนกลางคืน • มั่นใจว่าคุณจะได้ภาพที่ต้องการ 🟥 VI. เสบียงอาหาร (โบนัสพิเศษ นักท่องเที่ยวมักถาม) 🍡 1. โยชิโนะ คุทสึ (คุทสึโมจิ/คุทสึคิริเอะ) อาหารขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น เนื้อสัมผัสเย็นฉ่ำ เหมาะสำหรับการเดินเล่นยามเหนื่อยล้า 🍵 2. ซูชิใบพลับ อาหารขึ้นชื่อประจำนารา หนึ่งในซูชิที่ดีที่สุดสำหรับฤดูใบไม้ร่วง 🍠 3. เกาลัดอบฤดูใบไม้ร่วงแบบลิมิเต็ด เกาลัดอุ่นๆ ท่ามกลางสายลมภูเขา มอบความสุขเต็มร้อย 🟩 VII. สรุป คุณจะไม่รู้เลยว่าฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นสวยงามแค่ไหน จนกว่าจะได้มาเยือนโยชิโนะ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมสุดฮิต นี่คือสถานที่ที่สร้างขึ้นจากเสน่ห์โบราณอายุนับพันปี จิตวิญญาณแห่งขุนเขา และปรัชญาแห่งสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงอย่างแท้จริง หากคุณวางแผนจะไปเยือนสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีเพียงแห่งเดียวในปีนี้ คุณต้องไปเยือนนาราและภูเขาโยชิโนะให้ได้

สภาพอากาศในโออิตะ

|
พรุ่งนี้
8 ธ.ค. 2025
4
เมฆประปราย
4 ~ 17℃
8 ธ.ค. 2025
เมฆประปราย
4℃ / 17℃
9 ธ.ค. 2025
แดดออกส่วนมาก
2℃ / 14℃
10 ธ.ค. 2025
เมฆเป็นส่วนมาก
4℃ / 14℃
11 ธ.ค. 2025
เมฆประปราย
8℃ / 17℃
12 ธ.ค. 2025
เมฆครึ้ม
4℃ / 12℃
13 ธ.ค. 2025
ฝนกระจาย
6℃ / 16℃
สภาพอากาศในโออิตะ - เที่ยวโออิตะช่วงไหนดี
7 ธ.ค. 2025 โออิตะสภาพอากาศ: ท้องฟ้าแจ่มใส, ตะวันออกเฉียงเหนือ: 0-10 กม./ชม., ความชื้น: 50%, พระอาทิตย์ขึ้น/ตก: 07:03/17:06
โออิตะขับรถ: ไม่มีปัญหา, วิ่ง: ไม่มีปัญหา, ปั่นจักรยาน: ไม่มีปัญหา
ดูเพิ่มเติม

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโออิตะ

Landmarks
โออิตะ
0km
Oita Funai Castle Ruins
0.28km
สถานีโออิตะ
0.86km
JR Nishi Oita Station
2.89km
JR Oita-Daigaku-Mae Station
6.79km
Dome Ichigoen
6.91km
JR Tsurusaki Station
6.91km
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโออิตะ มารีนพาเลช
7.52km
Mt. Takasaki
7.75km
JR Sakanoichi Station
12.92km

การเดินทางไปยัง โออิตะ

  • สนามบิน

  • สถานีรถไฟ