ที่มาของวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยเรียกได้ว่าเป็น “วันพระใหญ่” ซึ่งในปี 2568 นี้ วันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ (วันพุธ)
ความสำคัญของวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา จะเป็นวันที่พระสัมมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลักจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน โดยหลักคำสอนของ “โอวาทปาติโมกข์” ถือเป็นหัวใจหลักของพระพุทธศาสนา โดยสามารถสรุปใจความได้ว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์”
ทั้งนี้วันมาฆบูชาจึงถือเป็นสำคัญทางศาสนาของประเทศไทย และถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกความสำคัญ และประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อบูชาพระรัตนตรัยนั่นเอง
นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชาเป็น วันกตัญญูแห่งชาติ💖
หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติในวันมาฆบูชา
หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติคือ "โอวาทปาติโมกข์" ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ดังนี้
หลักการ 3 คือหลักคำสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่
1. การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม)
2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม)
3. การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย
ซึ่งทั้ง 3 หลักการข้างต้น สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" นั่นเอง
กิจกรรมที่ชาวพุทธนิยมปฏิบัติในวันมาฆบูชา เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิต🌟✨
1. ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง
การตักบาตรจึงเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติ โดยจะปฏิบัติกันตอนเช้าตรู่ โดยเป็นการถวายอาหารแด่พระภิกษุสามเณร รูปเดียวหรือหลายรูป จะปฏิบัติเป็นประจำหรือ เป็นครั้งคราวก็ได้ เนื่องในวันปีใหม่หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จึงนิยมทำบุญตักบาตรเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต วัตถุประสงค์ของการตักบาตร นอกจากจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการให้ทานเพื่อบูชาคุณแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้ 1. ธำรงส่งเสริมและสืบทอดพระพุทธศาสนา 2. ส่งเสริมและบำรุงพระภิกษุสามเณร ผู้ทรงศีล ทรงธรรม 3. ส่งเสริมคุณความดีของผู้ปฏิบัติ ทั้งผู้ตักบาตรและพระภิกษุสามเณรผู้รับบิณฑบาตร
2. เข้าวัดฟังธรรม พระเทศนา
มีข้อมูลจาก ธัมมัสสวนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก - ฉักกนิบาต ข้อ 202 ระบุไว้ว่า การฟังธรรมแล้วจะได้บุญนั้น ธรรมะที่ฟังจะต้องเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า และต้องตั้งใจฟังและพยายามทำความเข้าใจ จึงจะได้บุญ โดยพระพุทธเจ้าได้ตรัสถึง "อานิสงส์ของการฟังธรรม"
การฟังธรรมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะคนในสมัยพุทธกาลจำนวนมาก สามารถ "บรรลุโสดาบัน" ได้ด้วยการฟังธรรมเพียงเท่านั้น การฟังธรรมจึงเป็นเครื่องมือที่ขัดเกลาจิตใจได้ดีมากอย่างหนึ่ง
3. การเวียนเทียน ในบริเวณอุโบสถ
ในช่วงเย็นๆของวันมาฆบูชา วัดต่างๆก็จะมีการจัดพิธีเวียนเทียน ซึ่งทำสืบต่อกันมาอย่างช้านาน โดยในการเดินเวียนเทียนรอบโบสถ์ จะกระทำ 3 รอบ ผู้ร่วมเวียนเทียนจะถือดอกไม้ เเละธูปเทียน พนมมือเเละเดินเวียนไปทางขวา เรียกว่า เวียนแบบทักขิณาวัฏ ในรอบที่ 1 ให้รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาคาถา บทอิติปิโส ภควาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ
รูปภาพจาก dmc.tv
4. การรักษาศีล ถือศีล และทำทาน
ชาวพุทธสามารถตั้งใจรักษาศีลห้าให้ครบถ้วน ในวันสำคัญทางศาสนาเช่นนี้ เพื่อให้จิตใจผ่องใส หรือใครที่เดินทางไปวัด ก็สามารถไปทำบุญปล่อยสัตว์ เพื่อเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ในการต่อชีวิตสัตว์โลก
5. นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำง่าย และทำที่ไหนก็ได้ และถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างสูง เพราะช่วยส่งเสริมสมาธิ และทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งยังลดความเครียดลงได้ เหมาะสำหรับเป็นกิจกรรมทำทุกวัน ไม่เฉพาะวันมาฆบูชา
🕯️รวมสถานที่จัดงาน วันมาฆบูชา 2568 ทั่วไทย 🙏
1. วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ
วัดขนาดใหญ่ และมีเอกลักษณ์ที่สวยงามด้วยหมู่องค์เจดีย์สีขาว ชื่อว่า พระธุตังคเจดีย์ มีทั้งหมด 13 องค์ โดยพระเจดีย์ทุกองค์มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในผอบทอง เงิน และนาก
และด้วยความที่วัดอโศการาม มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่มาก ถึง 53 ไร่ ทำให้เป็นที่นิยมในการไปร่วมงานเวียนเทียนของชาวสมุทรปราการ หรือพื้นที่ใกล้เคียง
🚅การเดินทางไปยังวัดอโศการาม
1. รถยนต์
จากกรุงเทพ (เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ไปยังจังหวัดสมุทรปราการโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
2. รถไฟฟ้า
ลงสถานที่ BTS เคหะ แล้วต่อรถเเท็กซี่ ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด
🕰️เวลาเปิดให้เข้าชม
เปิดทุกวัน 06:00 น. – 17:00 น. หากมีพิธีเวียนเทียนก็จะขยายเวลาให้บริการออกไปถึงดึก
ภาพจาก th.wikipedia.org
🛏️ที่พักใกล้วัดอโศการาม
2. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสระเกศ

เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งหลายๆคนอาจจะจดจำได้จาก พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ที่สามารถขึ้นไปชมวิวกรุงเทพฯได้แบบ 360 องศา เรียกได้ว่าเป็นวิวแบบพาโรนามากันเลยที่เดียว จุดถ่ายรูปเยอะมากๆ ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประชาชนก็จะนิยมไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุด้านบน พร้อมเวียนเทียนรอบๆ บริเวณภูเขาทอง
🚅การเดินทางไปยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสระเกศ
1. รถเมล์
ที่ผ่านรอบๆ วัดสระเกศราชวรวิหาร หรือภูเขาทอง
จากถนนจักรพรรดิพงษ์0
– สาย 8, 15, 37, 47, 49
จากถนนบำรุงเมือง
– สาย 15, 47, 48, 508
จากถนนหลานหลวง
– สาย 2, 44, 59, 60, 79, 183, 511
จากถนนมหาไชย
– สาย 56
2. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)
ลงสถานทีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อรถเมล์สาย 47 หรือ 48
3. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
ลงสถานีสามยอด (BL30) จากนั้นเดินไปตามถนนเจริญกรุง เข้าถนนวรจักร ต่อรถเมล์สาย 8, 37, หรือ 48 หรือจะเรียกตุ๊กๆ หรือวินมอเตอร์ไซต์ก็ได้
4. เรือโดยสาร
ท่าผ่านฟ้าลีลาศ (คลองแสนแสบ), ท่าภูเขาทอง (คลองผดุงกรุงเกษม)
🕰️เวลาเปิดให้เข้าชม
เปิดทุกวัน 7.30 น. - 19.00 น.
💰ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าใช้จ่าย

ภาพจาก Fanpage : Beet 's Sri

🛏️ที่พักใกล้วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสระเกศ
3. วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร

ถือว่าเป็นวัดใหญ่ชื่อดัง ของชาวพระนครที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ริมถนนบวรนิเวศและถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร เเละภายในวัดก็มีศิลปกรรมภายในที่สวยงาม เเละวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ถึง 4 พระองค์ คือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์, สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และบริเวณพื้นที่เวียนเทียนพระอุโบสถ ของวัดบวรนิเวศวิหาร มีการผสมผสานระหว่างหลากหลายวัฒนธรรม ไทย จีน และยุโรป ทำให้มีความสวยงามอย่างมาก
นอกจากนี้หากเดินทะลุไปทางด้านหลัง ก็จะพบกับ พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร อาคารรูปทรงคล้ายโบสถ์คริสต์ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคประยุกต์เข้ากับรายละเอียดของศิลปะไทย ด้านมีการจัดแสดงต่างๆที่ให้ผู้ที่เข้ามาศึกษาเยี่ยมชมได้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าอาวาสแต่ละพระองค์ได้ไม่มากก็น้อย ถือเป็นอาคารที่สวยงามและน่ามาถ่ายรูปสวยๆกันเลยค่ะ
🚅การเดินทางไปยังวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
1. เรือ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยเรือ จากท่าพระอาทิตย์ เดินมาวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหารระยะทางประมาณ 750 เมตร ใช้เวลาประมาณ 9 นาที
2. รถเมล์
มีรถประจำทางที่ผ่านวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหารคือ สาย 3, 9, 64, 65, 53, 56, 68
3. รถแท็กซี่
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ และรถสามล้อได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง
4. รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)
ลงสนามกีฬาแห่งชาติ ต่อรถเมล์สาย 15 , 47 ลงแยกคอกวัวแล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
5.รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
ลงสถานี MRT หัวลำโพง แล้วต่อแท๊กซี่
🕰️เวลาเปิดให้เข้าชม
06.00 - 18.30 น. โบสถ์เปิดเวลา 08.00 - 08.40 น. และ 20.00 - 21.00 น. ยกเว้นวันพระเปิด 08.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 16.00 น.
💰ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าใช้จ่าย
🛏️ที่พักใกล้วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
4. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ย่านเยาวราช

สำหรับใครที่ชอบไปเที่ยวย่านเยาวราช สามารถไปที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร สักการะหลวงพ่อทองคำ เสริมสิริมงคล ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งเเต่ในอดีต เนื่องจากทำด้วยเนื้อทองคำบริสุทธิ์ และมีความประณีตของศิลปะทางพระพุทธศาสนาที่สวยงาม
นอกจากนี้บริเวณพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนามว่า พระพุทธทศพลญาณ หรือ หลวงพ่อโตวัดสามจีน หรือ หลวงพ่อวัดสามจีน ค่ะ รวมไปถึง พระวิหาร และ ธรรมาสน์ลายทองเท้าสิงห์ ให้ได้เข้าไปสักการะกันด้วย


🚅การเดินทางไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ย่านเยาวราช
1. รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
ลงที่สถานีหัวลำโพง ออกทางออกหมายเลข 1 เดินไปวัดได้เลยประมาณ 10 นาที
2. รถเมล์
สาย 4, 53, 5, 73 หรือ 507
3. รถแท๊กซี่
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ และรถสามล้อได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง
🕰️เวลาเปิดให้เข้าชม
08.00-17.00 น.
💰ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าใช้จ่าย
🛏️ที่พักใกล้วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ย่านเยาวราช