หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติเพื่อหลบหนีความวุ่นวายของเมืองหลวง แต่ไม่อยากเดินทางไกล จังหวัดกาญจนบุรีอาจจะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เข้ามาในความคิดของหลายๆ คน วันนี้พวกเรา Trip.com จะพาสายลุยทั้งหลายไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีกัน บอกเลยว่าเอาใจสายธรรมชาติสุดๆ พร้อมแล้วไปกันเล้ยย🚗🍃
เขาช้างเผือก (Khao Chang Phueak)
สถานที่แรกเรียกได้ว่าเอาใจสายปีนเขา สายเดินป่า รักการเดินทางแบบ adventure สุดๆไปเลย เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยจุดสตาร์ตของการเดินทาง จะเริ่มจากบริเวณหลังหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงในการเดินขึ้นไปจนถึงจุดกางเต็นท์⛺️
credit @aiizblue__
ในช่วงแรกๆจะเป็นเนินทุ่งหญ้า ท้องฟ้า แสงแดด พระอาทิตย์ที่สวยมากก วิวดีงาม เหมาะกับการถ่ายรูปที่สุด และ การเดินทางไปยังจุดยอดของเขาช้างเผือกนั้น จะต้องผ่านจุดไฮไลท์ที่เป็นพระเอกของที่นี่นั่นก็คือ สันคมมีด เรียกอีกชื่อว่า สันวัดใจ นับเป็นจุดสันเขาที่หวาดเสียวที่สุดเลยก็ว่าได้ ที่มาของชื่อนี้มาจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นช่วงสันเขาบางๆและมีหินก้อนเล็กใหญ่สลับกันไปมา นักท่องเที่ยวบางคนถึงกับถอดใจไม่ไปต่อกันเลย วัดใจสมชื่อจริงๆ! นอกจากนี้การเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดนั้น จะต้องเรียงแถวเรียงเดี่ยวปีนขึ้นยอดเขา เพราะ ทั้งสองข้างเป็นไหล่เขาลาดลึกลงไปเป็นเหว ทางเดินค่อนข้างแคบ แต่ตลอดการเดินทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และมีเชือกให้คอยจับพยุงขึ้นไปยังยอดเขา ถึงจะเหนื่อยและหวาดเสียว แต่เมื่อไปถึงยอดเขาแล้วรับรองว่าคุ้มเหนื่อยแน่นอน✊🏻✨
credit @aiizblue__
ข่าวดี! สำหรับคนที่กำลังมีแพลนจะมาที่นี่ ล่าสุดทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้ออกประกาศเปิดเขาช้างเผือก เพื่อกิจกรรมการเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกล ให้นักท่องเที่ยวได้จองและไปพิชิตยอดเขากัน เริ่มเดินทางในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 - 31 มกราคม 2565 นี้ แต่ทางอุทยานมีการจำกัดการจองเพียงแค่ 60 คนเท่านั้น ใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ นาทีนี้ต้องเร่งมือแล้วนะคะ
📍อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ที่อยู่: ตู้ ปณ. 18 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
เบอร์โทรศัพท์: 034-532-114, 034-510-979 และ 08-1382-0359
เวลาเปิดให้เข้าชม: 08.30น. - 16.30น.
เว้นวรรค
น้ำตกเอราวัณ (Erawan Falls)
พักเขามาหาน้ำตกกันบ้างดีกว่า สถานที่ต่อไป คือ น้ำตกเอราวัณ หรือชื่อเดิมว่า “น้ำตกสะด่องม่องล่าย” เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งไม่แพ้ที่ไหนในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา อีกทั้งสีน้ำของน้ำตกแห่งนี้ยังมีสีสะท้อนแสงเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตอีกด้วย น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีชื่อดังนี้
ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง
ชั้นที่ 2 วังมัจฉา
ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก
ชั้นที่ 4 อกผีเสื้อ
ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง
ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา
ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ
น้ำตกแต่ละนอกจากจะมีชื่อที่แตกต่างกันแล้ว ความสวยงามและเอกลักษณ์ในแต่ละชั้นก็โดดเด่นไม่ซ้ำกันอีกด้วย สำหรับคนที่ชอบดูปลาสายพันธุ์ต่างๆต้องแวะที่ชั้น 1 เลย เพราะในชั้นนี้ มีปลาพลวงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก🐟
credit @wonder.kpp
การเดินขึ้นไปชมให้ครบทั้ง 7 ชั้นใช้เวลารวมเกือบ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว เพื่อชมความสวยงามของน้ำตกให้เต็มที่ ก็ต้องเดินขึ้นไปถึงชั้น 7 ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึงน้ำตกเอราวัณ จุดไฮไลต์ของน้ำตกแห่งนี้ อยู่ในชั้นที่ 7 เมื่อน้ำตกไหลลงมาจะมีลักษณะคล้ายกับเศียร 3 เศียร ที่รู้จักกันในชื่อ ช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง นอกจากนี้ทางอุทยานยังจัดทำเส้นทางการศึกษาธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยวไว้ถึง 2 เส้นทางด้วยกัน เส้นทางแรกคือสายป่าดิบแล้งม่องไล่ โดยมีจุดสตาร์ตเริ่มต้นที่สะพานค่ายพักไปบรรจบที่น้ำตกเอราวัณชั้นผาน้ำตก (ชั้นที่3) และ อีกหนึ่งเส้นทางคือ เส้นทางหินล้านปี จุดสตาร์ตเริ่มต้นจากลานจอดรถไปบรรจบกับที่สะพานของ น้ำตกเอราวัณชั้นอกผีเสื้อ (ชั้นที่ 4) หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจที่จะนอนค้างแรมที่น้ำตกแห่งนี้ ทางอุทยานก็มีบ้านพัก เต็นท์และค่ายพักแรม มีร้านค้าขายอาหารมากมายหลายร้านไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ ครบครันมากๆ เลยทีเดียว🤩
credit @va.ni.ra
📍อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์: 034-574222 และ 034-574234
เปิดให้เข้าชม: 7.30 น. - 16.00 น.
ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน และ เด็ก 20 บาท/คน
เว้นวรรค
ลำคลองงู (Lam Khlong Ngu)
สถานีต่อไปลำคลองงู เหล่าสายลุยหลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันมาบ้าง และสำหรับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนก็อาจจะคิดว่าเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยงูแน่ๆ แต่ที่นี่ ลำคลองงู คือ ถ้ำหินที่เกิดลำห้วยที่ไหลกัดเซาะของหินปูนขนาดใหญ่ ทำให้มีถ้ำอยู่หลายแห่งอยู่ในนั้น รวมไปถึงเสาหินที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลกถึง 62.5 เมตร เสาหินนี้เกิดจากการทับถมกันของหินงอกหินย้อยมาเป็นเวลานานนับล้านปีจึงกลายมาเป็นหินขนาดยักษ์ได้เบอร์นี้ เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจสายผจญภัยที่อยากเจอสถานที่ใหม่ๆ สุดๆ ในการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปลำคลองงูนั้น ผู้เดินทางจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการเดินป่าและการลุยน้ำ เพราะที่นี่เรียกได้ว่าคือสถานที่ที่ extreme สุดๆ
credit @paopong9
หากมาทำการตั้งแคมป์ค้างคืนที่นี่ ตอนกลางคืนจะมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น แนะนำให้เหล่าสายลุยทุกคน เตรียมอุปกรณ์เพิ่มความอบอุ่นร่างกายให้พร้อมเพื่อที่จะได้นอนหลับพักผ่อนแบบเต็มที่พร้อมลุยกันต่อ เมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าก็จะได้สัมผัสบรรยากาศหมอกจางๆ และควันเหมือนพี่เบิร์ด ธงไชยในอุทยานแน่นอน🌫
ในการเดินทางไปเสาหินปูน ขั้นตอนแรก พี่ๆ เจ้าหน้าที่จะจัดกลุ่มผู้เดินทางราวๆ 5-10 คน จุดสตาร์ตคือการเดินทางผ่านป่าไผ่ ซึ่งจะเต็มไปด้วยต้นไผ่สมชื่อจริงๆ การเดินทางในจุดนี้ยังถือว่าไม่ยากเท่าไหร่นัก ฟีลเดียวกันกับการเดินป่าสมัยเรียนลูกเสือ-เนตรนารีในวัยมัธยมเลย ย้อนวัยไปอีก แต่เลเวลความยากจะค่อยๆ มาเมื่อเดินไปจุดถัดไป ซึ่งต้องไต่หินเพื่อลงไปยังบริเวณด้านล่างของถ้ำเสาหิน เมื่อเดินมาได้สักพักจะได้ยินเสียงซ่าๆ ของน้ำตก ในจุดนี้เปรียบเหมือนจุดพักเหนื่อยให้ได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมุมน้ำตกสวยๆ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ก่อนจะเดินทางไปที่เสาหินที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่แล้วนั่นเอง
ขอบคุณรูปภาพจาก fb page: อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
เมื่อเข้ามาถึงภายในถ้ำจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติของถ้ำแห่งนี้ เรียกได้ว่าเหนื่อยแต่คุ้มมากๆ แต่การเดินทางยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จะนำทางเราเข้าไปสู่ตัวถ้ำ อุปกรณ์ที่เราจะได้รับคือไฟฉายคาดศีรษะเพื่อที่เราจะได้มองเห็นภายในถ้ำได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะในตัวถ้ำนั้นไม่มีแสงลอดผ่านเข้ามาเลย เจ้าหน้าที่จะให้เราเกาะเชือกเพื่อเข้าไปด้านใน กระแสน้ำในถ้ำค่อนข้างจะไหลเชี่ยว เพราะฉะนั้นในการเดินทางครั้งนี้ ผู้เดินทางจะต้องมีทักษะในการว่ายน้ำและปีนป่ายพอสมควร นับเป็นสถานที่ที่เอาใจสายธรรมชาติที่รักความท้าทายอีกที่หนึ่งเลย
📍อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
ที่อยู่: ตู้ ปณ.4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180
เบอร์โทรศัพท์: 084-9132381
ค่าบริการ: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
g;ho;ii8
จุดชมวิวป้อมปี่ (Pom Pee View Point)
เดินทางกันมาถึงสถานที่ที่ 4 กันแล้วนะคะ นั่นก็คือ จุดชมวิวป้อมปี่ โดยคำว่า ป้อมปี่ เป็นชื่อเรียกที่เพี้ยนมาจากภาษากระเหรี่ยงนั่นก็คือ “เปอปี่” แปลว่า ต้นอ้อ เนื่องจากในบริเวณนี้มีดงต้นอ้อขึ้นมากมายเลยทีเดียว จุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้อ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์
credit @mar_ratchada
จุดชมวิวป้อมปี่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ ภูเขา สายน้ำ บรรยากาศดีงาม ถูกใจสายรักธรรมชาติที่อยากมาพักผ่อนแน่นอน จนมีฉายาว่า เป็นปางอุ๋งของเมืองกาญกันเลยทีเดียว สามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วงปลายฝนและช่วงหน้าหนาว☔️❄️ ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ เมื่อถึงฤดูน้ำลด เราจะมองเห็นก้านของกิ่งไม้ที่โผล่พ้นน้ำ เป็นความสวยงามที่น่าสนใจและไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมากางเต็นท์ค้างแรม แน่นอนว่ากิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ก็คือการชมพระอาทิตย์ตกดิน ปั่นจักรยานชมวิว ชมนกสายพันธุ์ต่างๆ ตกปลา พายเรือ แคมป์ปิ้ง นอนดูดาว ครบจบในที่เดียว😱
credit @winevywinevy
โซนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมก็คือ โซนตีนเขา เป็นจุดที่นิยมลงมาเล่นน้ำกันในจุดนี้ แถมยังมีเรือแคนนู ห่วงชูชีพ ร้านอาหารต่างๆ พร้อมที่พักให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกกางเต็นท์อีกด้วย จุดชมวิวป้อมปี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวาย มาให้ธรรมชาติได้โอบกอดอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมากับเพื่อนฝูงครอบครัว หรือ คนที่รู้ใจก็ดีงามไม่แพ้กันเลย โรแมนติกสุดๆ💖
📍อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ที่อยู่: ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์: 034-510431
เปิดให้เข้าชม: 08.00น. -18.30 น. (ในช่วงเทศกาลจะเปิดให้เข้าชมถึง 20.00น.)
ค่าบริการ: คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และ ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
เว้นวรรค
สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ กาญจนบุรี (Safari Park Open Zoo and Camp, Kanchanaburi)
สถานที่สุดท้ายของวันนี้ รับรองว่าถ้าได้เห็นก็คงอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า ไอต้าวว แน่นอน สถานที่นี้คือ สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ กาญจนบุรี ที่จะพาทุกคนไปเปิดโลกสัตว์ป่าที่น่ารักหลากหลายสายพันธุ์ ที่มีด้วยกันทั้งหมดถึง 8 โซน
โซนที่ 1 โซนที่ 1 กวางฟลอโลว์สีแฟนซี
โซนที่ 2 หมีควาย
โซนที่ 3 แบลคบัคและเนื้อทราย
โซนที่ 4 เสือโคร่ง
โซนที่ 5 สิงโตแอฟริกา
โซนที่ 6 เสือดาว
โซนที่ 7 กวางดาวอินเดีย กวางฟลอโลว์สีขาว นกอีมู
โซนที่ 8 ยีราฟ ม้าลาย ลามา นกกระจอกเทศ และนกฟลามิงโก้
และแต่ละจุดนั้นมีรั้วกั้นแบ่งแยกตามชนิดของสัตว์อย่างชัดเจน เอาใจคนรักธรรมชาติและคนรักสัตว์สุดๆ ไปเลย
credit @minktood
กิจกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่นั่นก็คือ การได้ให้อาหารแบบใกล้ชิดกับบรรดาน้องๆ ทางสวนสัตว์จะมีให้บริการรถนำเที่ยวเป็นบัสคันเล็กเป็นเวลา 30 นาที โดยเราสามารถให้อาหารสัตว์แต่ละตัวผ่านกระจกรถมินิบัสได้เลย หรือ สามารถนำรถส่วนตัวของเราเข้าไปด้านในได้เลย แต่ทางสวนสัตว์จะไม่รับผิดชอบหากมีรอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นจากสัตว์นะคะ เพราะกิจกรรมนี้จะใกล้ชิดกับน้องสัตว์ได้เต็มที่แบบไม่มีรั้วกั้นกันเลย เส้นทางของมินิบัสจะพาเข้าไปเยี่ยมชมสัตว์ทั้ง 8 โซน โซนที่เป็นพระเอกนางเอกของกิจกรรมนี้เลยคือ โซนยีราฟ ด้วยลักษณะคอที่ยาวของสัตว์ชนิดนี้ทำให้ในบางครั้งน้องเขาก็ยื่นหัวกันเข้ามาในรถแบบนี้เลย ถ้าพูดได้ก็คงจะมีเสียงที่ว่า พี่ๆ ครับขอน้องกินแครรอทหน่อยน้า น่ารักน่าเอ็นดูกันมาก เผลอแปบเดียวแครรอตก็หมดตะกร้าซะแล้ว🐾
credit @ppnsyy
กิจกรรมต่อไป สายคอนเทนต์จะต้องชอบ เพราะจะได้แชะภาพกับน้องยีราฟแบบใกล้ชิด Private สุดๆ ไม่ต้องบินไปถึงแอฟริกาก็ฟินได้ กิจกรรมนี้ต้องจ่ายเงินค่าบริการเพิ่มเติม ในการชมแต่ละรอบนั้นใช้เวลา 20 นาที เตรียมเมมโทรศัพท์ไว้ให้พร้อมเลย โดยพี่ๆ เจ้าหน้าที่จะคอยกำกับและดูแลอย่างใกล้ชิด เริ่มต้นด้วยการนำถาดอาหารมาตั้งไว้ที่บริเวณหน้ารถ จากนั้นเหล่ายีราฟก็จะกรูกันมากินอาหารที่วางไว้ ในจุดนี้ต้องทำเวลานิดนึงนะคะ เพราะยีราฟจะกรูกันเข้ามาก็ต่อเมื่อมีอาหารเท่านั้น ถ้าอาหารหมดเมื่อไหร่ เหล่าน้องๆก็พร้อมใจกันสลายตัวทันที เราก็ต้องเตรียมท่าโพสต์เท่ๆ กันไว้ได้เลย ซ้อมกันมาจากที่บ้านได้ยิ่งดี เพื่อความสวยงามของรูป ไม่ปังตรงไหนให้เอาปากกามาวง!
เมื่อถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว นอกจากโซนให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิดแล้วก็ยังมี การแสดงโชว์ช้างแสนรู้, จับจระเข้ด้วยมือเปล่า, นกมาคอว์, โซนป้อนนมลูกเสือและสิงโตกันด้วยนะคะ น่ารักจนอยากพากลับบ้านกันเลยทีเดียว เมื่อเที่ยวกันจนครบทุกโซนแล้วอยากพักเหนื่อยสักแปบทางสวนสัตว์ยังมีคาเฟ่ที่เปิดให้บริการบริเวณด้านหน้าของสวนสัตว์อีกด้วย แวะจิบให้ชื่นใจกันก่อนกลับอีกด้วย
📍สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี
ที่อยู่: 40/2 หมู่ 5 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์: 034-678225
เปิดให้เข้าชม: 09.00น.-17.00 น.
ค่าบริการ: คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท และ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 550 บาท เด็ก 350 บาท
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับสถานที่เที่ยวเอาใจสายธรรมชาติทั้ง 5 ที่ที่พวกเราได้รวบรวมมาให้ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ธรรมชาติมีความสวยงามไม่แพ้จังหวัดอื่นๆเลย เหมาะกับการมาพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าในการทำงานสุดๆ🚗⛺️🍃 ถ้าไม่อยากพลาดดีลเด็ด ๆ ต้องที่เลย👉 Trip.com ที่จะทำให้คุณเข้าถึงทุกดีลได้อย่างรวดเร็วก่อนใคร!
ที่พักยอดนิยม กาญจนบุรี
Tara Villa
โรงเเรม ธารา วิลล่า ตั้งอยู่ริมเเม่น้ำเเคว ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเห็นทัศนียภาพของเเม่น้ำที่สวยงาม เเล้วยังสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ จากในห้องพักอีกด้วย🤩 ตัวโรงเเรมตั้งอยู่ใน อำเภอเมืองกาญจนบุรี เเละอยู่ห่างจาก สภานีรถไฟกาญจนบุรี เพียงเเค่ 6 กม. ตัวโรงเเรมตกเเต่งด้วยสีเอิร์ธโทนประกอบกับต้นไม้มากมายรอบๆตัวที่พัก ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติเเบบสุดๆ🌳 ในทุกห้องพักของโรงเเรมจะมีสระน้ำส่วนตัวที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆของเเม่น้ำเเคว บอกเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ🥰 เเต่ถ้าหากใครที่คิดว่าสระเล็กเกินไป ทางโรงเเรมก็ยังมีสระส่วนกลางให้บริการด้วยน้า เเละยังมี คาเฟ่ Din Cafe ให้ผู้เข้าพัก หรือ ผู้มาเยือนได้เข้ามานั่งผ่อนคลาย กับ เครื่องดื่ม เเละ อาหารไทยฟิวชั่นของคนพื้นที่อีกด้วย ที่พักนี้นอกจากจะมีห้องพักสวยๆ อาหารดีๆเเล้ว ก็ยังมีมุมถ่ายรูปปังๆ หลายมุมเลยน้าา ถ้าเกิดไปเที่ยวกาญจนบุรีครั้งหน้า ก็อย่าลืมเข้าไปเช็คห้องพัก TARA Villa ได้เลยที่ Trip.com
จองที่พักพร้อมดีลสุดคุ้ม
ยู อินจันทรี กาญจนบุรี (U Inchantree Kanchanaburi)
โรงเเรม ยู อินจันทรี กาญจนบุรี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกาญจนบุรีเเละอยู่ติดเเม่น้ำเเคว ทำให้สามารถเห็นวิวเเม่น้ำสวยๆได้จากในตัวโรงเเรม😍 ตัวที่พักอยู่ห่างจาก สะพานประวัติศาสตร์ เพียง 500 เมตร ตัวโรงเเรมออกเเบบมาได้สวยงามด้วยสไตล์เเบบไทยๆ ที่ใส่ใจในรายละเอียดสุดๆ ตัวห้องพักเองก็ตกเเต่งด้วยสีสันสบายตา เข้ากับธรรมชาติอันเขียวชอุ่มของต้มไม้ที่มีให้เห็นเกือบจะทุกที่ในโรงเเรม 🌳 ทางโรงเเรมยังมีบริการพิเศษที่ให้ผู้เข้าพักสามารถอยู่ในห้องพักได้ถึง 24 ชั่วโมงนับจากตอน Check-in ทำให้เราสามารถเที่ยวได้เต็มอิ่มเเละพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนที่จะต้อง Check-out อีกด้วย ฟินสุดๆไปเลย✨ หากใครที่สนใจมาเที่ยวกาญจนบุรีเเล้วอยากหา ที่พักริมเเม่น้ำ ราคาสุดคุ้ม ต้องลองเข้ามาเลือกดูกันได้เลยกับ Trip.com 👍
จองที่พักพร้อมดีลสุดคุ้ม
อินจันทรีดูภู (Inchantreedoopool)
โรงเเรมอินจันทรีดูภู ใจกลางเมืองกาญจนบุรี ที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาที่เขียวชอุ่มได้จากที่พัก ตัวโรงเเรมตั้งห่างจาก สะพานข้ามเเม่น้ำเเคว เพียง 800 ม. เป็นโรงเเรม 5 ชั้นเล็กๆ ที่ทำให้การบริการทำได้อย่างทั่วถึงเเละให้บรรยากาศที่อบอุ่นสุดๆ ตัวโรงเเรมออกเเบบด้วยสไตล์ แบบชิโนโปรตุกีส เเละเน้นใช้วัสดุไม้เเล้วผสมด้วยกันกับสีเอิร์ธโทน เข้ากันอย่างลงตัวสุดๆ❤️ ในชั้นดาดฟ้าของโรงเเรมยังมีบริการ สระว่ายน้ำที่เห็นวิวภูเขาเเบบ 180 องศาเเละยังสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย ทำให้จุดนี้เป็นหนึ่งในมุมยอดฮิตที่คนชอบมาถ่ายรูปกัน บอกเลยว่าปังเเบบสุดๆ✨ นอกจากสระว่ายน้ำเเล้วทางที่พักยังมีบริการโต๊ะพลูให้ผู้เข้าพักได้ใช้อีกด้วย หากใครสนใจที่พักสบายๆใจกลางเมืองเเบบนี้ก็ลองเข้ามาดูก่อนได้เลยที่ Trip.com
จองที่พักพร้อมดีลสุดคุ้ม
หินตกริเวอร์แคมป์ (SHA Extra Plus) (Hintok River Camp (SHA Extra Plus))
โรงเเรมหินตกริเวอร์เเคมป์ ตั้งอยู่ริมเเม่น้ำเเคว ท่ามกลางธรรมชาติเเละป่าเขา ทางโรงเเรมต้องการมอบประสบการณ์ แกลมปิ้ง(Glamping) ที่จะทำให้การไปเเคมป์ปิ้งไม่ได้ดูลำบากอีกต่อไป🤔 การเเกลมปิ้งคือการผสมผสานระหว่างเต้นเเคมป์ปิ้งทั่วไป กับ บริการเเละสิ่งอำนวยความสะดวกฉบับโรงเเรมให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ตัวห้องพักของทาง หินตกริเวอร์แคมป์ ยังออกเเบบได้หรูหราเเละใกล้ชิดกับธรรมชาติในเวลาเดียวกัน เเละยังมาพร้อมสระว่ายน้ำที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทางโรงเเรม โดยการออกเเบบสระว่ายน้ำให้เหมือนผู้เข้าพักได้มาเเช่น้ำในบ่อน้ำธรรมชาติท่ามกลางป่าอันเขียวขจีบวกกับได้มองวิวสวยๆของเเม่น้ำเเควที่ไหลผ่านอีกด้วย บอกเลยว่าทีนี้เหมาะสุดๆสำหรับคนที่รักธรรมชาติ เป็นที่พักที่น่าไปสุดๆ หากใครสนใจจองที่พักก็อย่าลืมเข้ามาเลือกห้องพักพร้อมดีลดีๆ ได้เลยที่ Trip.com
จองที่พักพร้อมดีลสุดคุ้ม
หากใครที่กำลังตามหาห้องพักใน กาญจนบุรี เเล้วยังไม่ถูกใจโรงเเรมที่เราเเนะนำ ก็ลองเข้าไปดูที่พักอื่นๆได้เลยที่ Trip.com ยังมีที่พักให้เลือกอีกมากมาย ที่เหมาะกับทุกไลฟ์ สไตล์ พร้อมกับดีลสุดคุ้ม พร้อมให้จองเเล้วตอนนี้!!! 🤩