Travel like a Pro เดินทางแบบมือโปรไป ดูไบ

รูปโปรไฟล์ของผู้เขียน

โดย Ellie Trip



"ดูไบ" จากหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ สู่เมืองศูนย์กลางมหาเศรษฐีระดับโลก

หลาย ๆ คงคนเห็นภาพว่าดูไบเป็นมือศิวิไลซ์ มากด้วยมหาเศรษฐีและนักธุรกิจระดับโลก อยากลองไปสัมผัสดูสักครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ดูไบเป็นเพียงเมืองชาวประมงเล็กริมอ่าวเปอร์เซีย ล้อมด้วยทะเลทรายแห่งความว่างเปล่าเท่านั้น ปัจจุบัน ดูไบทำในสิ่งที่ทำให้คนทั้งโลก Amazing นั่นก็คือ การจัดการวางผังเมืองใหม่จนกลายเป็นศูนย์กลางในหลาย ๆ ด้านจากทั่วโลก เริ่มจากการเป็น Top 5 สนามบินระดับโลก และติด Top 10 ของการส่งออกสินค้าของท่าเรือ Jebel Ali และในด้านอื่น ๆ


ดูไบ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ประเทศ แต่เป็น 1 ใน 7 รัฐ ที่ประกอบกันเป็นประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

ซึ่งในแต่ละรัฐมีสิทธิ์ปกครองตัวเองโดยเจ้าผู้ครองนคร และดูไบมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากรัฐอาบูดาบีซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ และมีประชากรมากที่สุดประมาณ 3.4 ล้านคนของทั้งประเทศ


เชื่อว่าหลายคนอยากไปเที่ยวดูไบแน่นอน เดี๋ยวเราพาไปดูกันว่าต้องเตรียมตัวยังไง อ่านจบ เที่ยวได้อย่างมือโปรแน่นอน











การเดินทางเข้าดูไบ

รายละเอียดการเดินทางเข้าประเทศในปัจจุบัน สามารถอ่านตามขั้นตอนด้านล่างแล้วเตรียมตัวกันได้เลย 👇

การขอ VISA การเดินทางเข้าดูไบ สิ่งสำคัญเป็นอย่างแรกเลยนั่นคือการขอ VISA ของการเข้าสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ก่อนการเดินทาง ไม่ว่าจุดหมายปลายทางของคุณจะเป็นดูไบ อาบูดาบี หรือรัฐอื่น ๆ โดยจะออกตามประเภทตามความประสงค์ของเรา มีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยจะมาในรูปแบบของ e-Visa แต่การขอวีซ่านั้น ไม่ใช่คิดว่าอยากขอก็ขอได้ เนื่องจากสถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะไม่รับขอวีซ่าทั่วไปทั้งทาง Online หรือ Walk in ดังนั้นทุกคนต้องขอวีซ่าผ่านสายการบิน โรงแรมที่พัก หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการให้เท่านั้น แต่เราขอแนะนำให้ทางสายการบินดำเนินการให้ และในปัจจุบัน สายการบินที่เป็นตัวแทนในการขอวีซ่าดูไบมีเพียง Emirates Airline เท่านั้นในปัจจุบัน
การเดินทางเข้าดูไบในปัจจุบันสำหรับผู้เดินทางจากประเทศไทย ดูไบและรัฐอื่น ๆ ในสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ไม่ระบุความต้องการในการฉีดวัคซีน แต่ต้องการผลตรวจ Covid-19 แบบ RT-PCR 48-72 ชั่วโมงก่อนวันเดินทางจากหน่วยงานที่รองรับเท่านั้นและไม่รับแบบแสดง QR เมื่อเดินทางถึง ต้องรับการตรวจอีกครั้งที่สนามบินปลายทาง หากผลเป็นลบไม่จำเป็นต้องกักตัวและเข้าในประเทศได้ในทันที

Reference : https://www.emirates.com/th/thai/help/covid-19/dubai-travel-requirements/tourists/ (ตัวแทนสายการบินประจำประเทศไทย)

ข้อมูลพื้นฐานสำหรับดูไบ

ที่ดูไบใช้สกุลเงิน ดีแรห์ม ( Dirham / Dh / AED ) โดยอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดีแรห์ม อยู่ที่ประมาณ 9.5 บาท

รหัสเครื่องมือสื่อสารคือ +971 ตามรหัสประเทศ และนักท่องเที่ยวผู้มีวีซ่าระยะสั้นสามารถซื้อ Simcard สำหรับระยะสั้นได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเน็ตใช้หรือติดต่อใครไม่ได้ สามารถเปิดโรมมิ่งจากประเทศเราไปได้เช่นกัน 😆

การแต่งกายสำหรับนักท่องเที่ยว

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เราเป็นคนต่างชาติ ต้องแต่งตัวอย่างไรไม่ให้สะดุดตา อย่างที่ทราบกันว่าในสหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ ประชาชนส่วนมาเป็นชาวมุสลิม ซึ่งการกำหนด กฏหมาย รวมถึงการแต่งกายย่อมมีข้อบังคับ การแต่งตัวของชาวต่างชาติอาจเป็นข้อยกเว้น แต่อย่างไรก็ตาม แต่งกายปกปิดมิดชิดไว้ถือว่าปลอดภัยสุดสำหรับการเดินทางในประเทศนี้ โดยเฉพาะการแวะเที่ยวสถานที่สำคัญต่าง ๆ จำเป็นต้องแต่งตัวไม่โชว์เนื้อหนังและควรปิดทุกส่วนตั้งแต่ไหล่ถึงหัวเข่า ไม่ใส่รัดรูป เสื้อผ้าบาง หรือกางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุดก็ไม่ได้ และสำคัญมาก ใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายรูปในที่สาธารณะเช่น ริมระเบียงโรงแรม ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน หากมีผู้พบเจอ จะถูกดำเนินคดีแล้วส่งตัวกลับประเทศในทันที ตามที่เคยเห็นในข่าวผ่าน ๆ มา


หากอยู่ริมสระน้ำหรือทะเล การใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายรูปถือเป็นกรณียกเว้น และผู้ชาย ห้ามเปลือยท่อนบนอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี ไม่ว่าจะลงสระว่ายน้ำและทะเล ต้องใส่แต่ชุดว่ายน้ำแบบมีเสื้อแทน

การถ่ายรูป

ใครล่ะ จะไม่อยากได้รูปสวย ๆ กลับมา นักเดินทางทุกคนคาดหวังกับการถ่ายรูปเก็บเป็นระลึกอยู่แล้ว แต่ที่ดูไบหากเราต้องการจะถ่ายภาพโดยเฉพาะตามสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญนั้นถือเป็นเรื่อง "ผิดกฎหมาย" และการถ่ายภาพคนทั่วไปตามท้องถนนถือว่าผิดร้ายแรงนับแต่เจ้าตัวจะเป็นผู้อนุญาต เนื่องจากคนในดูไบยังมีความเชื่อที่ว่ากล้องถ่ายรูปสามารถดูดวิญญาณของผู้คนได้ หากอยากได้รูปจริง ๆ แนะนำขออนุญาตเจ้าตัวก่อนได้เลย เชื่อว่าคนดูไบใจดีค่ะ 📷

การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


ไปเที่ยวทั้งที ร่างกายอาจจะต้องการ Drink ชนแก้วกับเพื่อน แต่ที่ดูไบนั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีให้บริการตามร้านอาหารในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวหรือตามบาร์ในโรงแรมหรูเท่านั้น และนักท่องเที่ยวไม่สามารถสั่งซื้อเพื่อขึ้นไปดื่มในห้องพักรวมทั้งในที่สาธารณะได้ นับเป็นความผิดร้ายแรง ดังนั้น เราค่อยกลับมาฉลองที่บ้านเรากันนะคะ





Burj Khalifa

Credit@stephiebacle

บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดของรัฐดูไบ เนื่องจากเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ทางเข้าอยู่ในห้างสรรพสินค้า The Dubai Mall มีร้านค้ากว่า 1,200 ร้าน และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโชว์ ทางขึ้นไปชมวิวบนตึกต้องผ่านห้างนี้เพื่อที่จะขึ้นไปชมวิวบนชั้น 124 นอกจากนี้ Burj Khalifa ยังมีโรงแรมหรูระดับ 7 ดาว ออฟฟิศสำนักงาน และ Apartment ระดับมหาเศรษฐีใช้เป็นที่อาศัยอยู่อีกด้วย


Credit@pookpcn

ค่าขึ้นชมวิว อยู่ที่ 125 AED สำหรับซื้อล่วงหน้า หาก Walk In ราคาอยู่ที่ 400AED เลยทีเดียว

*เตรียมร่างกายให้พร้อมนะคะ เนื่องจากจุดชมวิวอยู่สูงมาก ระหว่างทางมีการหูอื้อแน่นอน ค่อย ๆ ปรับตัวกันนะคะ

Dubai Fountain

Credit@stephiebacle

Highlight มาก ๆ คือการชมน้ำพุแสดงของดูไบที่ริมทะเลสาป Lake Khalifa ที่มีความใหญ่ของพื้นที่ถึง 75.8 ไร่ ความยาวน้ำพุอยู่ที่ 275 เมตร น้ำพุพุ่งสูงกว่า 150 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 50 ชั้น โดยการแสดงทุก ๆ 30 นาที ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ในจุดนี้สามารถถ่ายและบันทึกการแสดงเป็นความทรงจำได้ แต่ระวังการถ่ายติดหน้าผู้อื่นนะคะ

ตลาดพื้นเมือง Souk Madinat

อยากสัมผัสวัฒนธรรมของตะวันออกกลางแบบดั้งเดิม แนะนำให้มาเดินเล่นซื้อของที่ตลาดนี้เลยค่ะ ความรู้สึกไม่เหมือนกับตลาดที่ผ่านมาจริง ๆ เป็นแหล่งการค้าที่นิยมมากทั้งคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยว อากาศดี เครื่องหอมคือกลิ่งฟุ้งทั่วตลาด เดินได้ไม่มีเบื่อทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศพื้นเมืองและวัฒนธรรมอย่างเต็มอิ่มในช่วงกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนนั้นร้านค้าจะเต็มไปด้วยแสงสีเสียงมากมาย การแสดงพื้นเมืองและการละเล่นก็มีโชว์ให้เราดูตามทาง แต่ไม่มีขายสิ่งของมึนเมาตามกฏหมายนะคะ

ทะเลทรายอาหรับ ดูไบ

ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ กลิ่นอายดั้งเดิมก่อนมาเป็นเมืองศิวิไลซ์ ทะเลทรายอาหรับในดูไบ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ใครอยากขี่อูฐ นั่งรถจี๊บสไตล์ซาฟารี สามารถทำได้ที่นี่เลย สนุกมาก ๆ ถ่ายรูปมุมไหนคือสวยทุกมุม น้องอูฐก็น่ารัก นับว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่อีกอย่างเลย อยากให้ทุกคนได้มาลองและมาเห็นกับตาตัวเองจริง ๆ


Credit@pookpcn



ดูไบนั้นน่าสนใจไม่น้อยเลยจริง ๆ สภาพแวดล้อม สังคม วัฒนธรรมมทุกอย่างแตกต่างจากประเทศอื่นโดยสิ้นเชิง ใครสนใจอยากเรียนรู้ อยากสัมผัสและเห็นด้วยตามตัวเอง เตรียมชวนเพื่อนออกเดินทางได้เลยค่ะ สำหรับผู้หญิงไม่แนะนำให้เดินทางคนเดียวนะคะ โอกาสการเข้าประเทศจะยากกว่าการเดินทางเป็นกลุ่ม และจะโดนเพ่งเล็งเป็นอันดับแรก ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทาง ทำตามนี้ เราเที่ยวแบบมือโปรในดูไบอย่างแน่นอน



คำจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้จัดทำโดยผู้ร่วมสร้างเนื้อหารายบุคคลหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีความผิดพลาดเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดติดต่อเราและเราจะลบเนื้อหาทันที