ถ้าพูดถึงการไปพักผ่อนหย่อนใจ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คงจะหนีไม่พ้นทะเล ซึ่งใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว Trip.com ขอแนะนำให้มาเยืยนสถานที่ที่มีฉายาว่าเป็น 'มัลดีฟเมืองไทย' แห่งทะเลตะวันออก ซึ่งก็คือเกาะกูดนั้นเอง ที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายสีขาวโพลน คอยดึงดูดให้คุณลงไปเดินเล่นตลอดแนว รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย💖
Credit: Boonsiri High Speed Catamaran
ก่อนอื่นเลย ขอพูดถือการเดินทางมาเที่ยวที่เกาะกูด ซึ่งสามารถมาได้ทั้งนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินตราด และขับรถ ทางเราเลือกที่จะขับรถมานะคะ เพราะชอบฟิลลิ่งของ Road trip บวกกับการได้แวะเที่ยงระหว่างทางด้วย พอมาถึงที่จังหวัดตราดกันแล้ว ต้องมาต่อเรือที่ท่าเรือท่าเรือแหลมศอก ซึ่งจะมีค่าโดยสารประมาณ 500 บาท ใช้เวลาเพียง 2 ชม. เท่านั้น ส่วนใครที่อยากถึงที่หมายไว ๆ ก็สามารถเหมา Speed boat ซิ่งไปยังเกาะได้เลย เวลาจะร่นเหลือประมาณ 1 ชม. นิด ๆ ส่วนการเดินทางบนเกาะ สามารถเช่ารถ หรือมอเตอร์ไซด์จากทางโรงแรมขับขี่ได้เลย ถ้าใครขับรถยังไม่แข็ง แนะนำให้จ้างรถแดง หรือรถตู้เพื่อความปลอดภัยนะคะ🛥
อ่าวคลองเจ้า
พอมาถึงบนเกาะแล้ว ทางเราก็ไม่รอช้าที่แวะ "อ่าวคลองเจ้า" เพราะจะเป็นการมาเที่ยวแบบ 3 in 1 ฝั่งซ้ายจะเป็น น้ำตกคลองเจ้า ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สามารถลงไปเล่นคลายร้อนได้อย่างเพลิดเพลิน หรือว่าจะเอาแค่เท้าแช่น้ำเย็นๆ ให้สดชื่น คลายเครียด ส่วนตรงกลางเนี่ย เป็นป่าโกงกาง จะมีเชือกแขวนเอาไว้ให้เหล่าผู้กล้ามาท้าทายกระโดดเล่นน้ำ ซึ่งทางเราก็ขอผ่านนะคะ ใจไม่กล้าจริงๆ พอตกดึกหน่อย ที่นี่จะมีหิ่งห้อยออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมอีกด้วย ใครที่ยังไม่เคยเห็นหิ่งห้อย สามารถออกมาส่องน้องได้นะคะ และสุดท้าย ฝั่งขวาจะเป็นทะเล มีหาดทรายขาวทอดยาวตลอดฝั่ง สามารถถอดรองเท้าเดินสัมผัสทรายระเอียดได้เลย ต้องบอกก่อนเลยว่า นุ่มนิ่มมาก เหมือนเดินอยู่บนปุยเมฆเลยก็ว่าได้🏖
📍https://goo.gl/maps/3VWWTTNTVKFCRnNt9
หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่
Credit: @i3abyi3reath
หลังจากที่เดินชมธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเกาะกูดกันที่ "หมู่บ้านชาวประมงอ่าวใหญ่" หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีชาวบ้านจำนวนไม่มากนัก ส่วนมากเลี้ยงชีพด้วยการทำประมงเป็นหลัง ของเด็ดของที่นี่เลยจะเป็นอาหารซีฟู้ดสด ๆ ในราคาสบายกระเป๋า นอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรมกับคนท้องถิ่นได้ด้วยเช่น กิจกรรมปล่อยลูกปลากะรังหงส์ หรือจะเป็นการทำสปาญวน ที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ส่วนใครที่ติดใจอยากจะอยู่ต่อ ก็สามารถมานอนโฮมสเตย์ที่จัดเตรียมไว้ได้เช่นกัน 🛏
📍https://goo.gl/maps/TvFv2rV8ew5wvn5X6
นุชชี่ ซีฟู้ด
Credit: นุชชี่ซีฟู้ดเกาะกูด
ในส่วนของร้านอาหาร ทางเราเลือกที่จะมุ่งตรงไปที่ "นุชชี่ ซีฟู้ด" ร้านอาหารทะเลที่รับประกันความสดใหม่ ส่งตรงมาจากท้องทะเล บรรยากาศติดริมทะเล สามารถนั่งรับลมเย็นริมระเบียงได้ เมนูที่ห้ามพลาดจะเป็น กั้งทอดกระเทียม, หอยเชลล์อบเนย, และปูม้านึง ซึ่งเราสามารถเลือกเองได้เลยว่าจะรับไซส์ไหน ทุกตัวเนื้อแน่น หวานฉ่ำแน่นอนค่ะ แต่ละเมนู บอกเลยว่าราคาน่ารักสุด ๆ 🍽
📍 https://goo.gl/maps/CyZ7TQCYapSwfA228
⏰เวลาทำการ 09:30 - 21:30
📞086 113 3379
พายเรือคายักรอบเกาะ
อิ่มหนําสําราญกับซีฟู้ดแบบสด ๆ กันไปแล้ว มาผ่อนคลายกับกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยเมื่อมาที่เกาะกูด ถ้าไม่ทำถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ กับการ"พายเรือคายัก"ชมความงามรอบเกาะ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ทะเลเมืองไทยนี่สวยจริงๆ นำ้ทะเลใสมาก สามารถมองเห็นปลาได้อย่างชัดเจนเลย เพื่อนๆอย่าลืมสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยด้วยน้า 🚣🏼♀️
เกาะกูดพาราไดซ์
Credit: Koh Kood Paradise Beach Resort
หลังจากที่ทำกิจกรรมจนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทางเราเลยกลับมาพักผ่อนกันที่ "เกาะกูดพาราไดซ์" รีสอร์ทสุดหรู พร้อมชายหาดส่วนตัว ที่มีความยาวถึง 200 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเกาะกูดเชียวนะ! ที่นี่เปรียบได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์บนเกาะกูดเลยก็ว่าได้ เราสามารถมาผ่อนคลายไปกับการนวดเพื่อสุขภาพและมองวิวทะเลหน้าโรงแรมไปในเวลาเดียวกัน หรือว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่พร้อมเสริฟให้คุณถึงหน้าชายหาด ถ้าใครยังมีแรงเหลือ ก็สามารถติดเช่าแพดเดิลบอร์ดพายเล่นที่หาดหน้าโรงแรมได้ด้วยนะ 🏨
📍 https://goo.gl/maps/hoG7MWfznzDg4Sb4A
📞082 448 8448
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? พร้อมเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปกับพวกเราเลยใช่ไหม ใครสนใจอยากไปลองใช้ชีวิตบนเกาะกูด สามารถค้นหาที่พักราคาถูกได้บน Trip.com เลยค่ะ รับประกันราคาถูกแน่นอน💖