JR PASS คิวชู ซื้อที่ไหน เที่ยวที่ไหนได้บ้าง รวมทุกคำตอบ

JR PASS คิวชู ซื้อที่ไหน เที่ยวที่ไหนได้บ้าง

เป็นคำถามที่ใครหลายคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นคงจะสงสัยกันไม่น้อยเลย ยิ่งพอลองไปเสิร์ชหาข้อมูลรายละเอียดดูแล้วก็ยิ่งงงกว่าเดิม เพราะ JR PASS คิวชู เหมือนจะมีรายละเอียดเยอะไปหมดจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี และเพื่อความง่ายและความสะดวกของทุกคน เราได้รวมทุกคำตอบเกี่ยวกับ JR PASS คิวชู ไว้ให้ที่นี่แล้ว ถ้าพร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันเลย ลุย!

JR PASS คิวชู มีกี่แบบ ราคาเท่าไหร่ ?

JR PASS คิวชู เป็นตั๋วรถไฟที่เปิดจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ แบบครอบคลุมทั้งคิวชู, แบบเฉพาะตอนเหนือของคิวชู และแบบเฉพาะตอนใต้ของคิวชู ส่วนระยะเวลาการใช้งานมีทั้งแบบ 3 วัน 5 วัน และ 7 วันต่อเนื่องกันนับจากวันที่ไปแลกตั๋ว

ตารางแสดงรายละเอียด JR PASS คิวชู แต่ละแบบ

1. แบบครอบคลุมทั้งคิวชู

2. แบบเฉพาะตอนเหนือของคิวชู

3. แบบเฉพาะตอนใต้ของคิวชู

ข้อมูลการใช้งาน

1. ผู้ใหญ่ : อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เด็ก : อายุระหว่าง 6-11 ปี
2. เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นให้นำไปเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ JR ก่อนใช้งาน
3. ตั๋วทั้ง 3 แบบสามารถใช้ขึ้นรถไฟทั้งแบบ Local และแบบ Limited Express ได้ และใช้ขึ้นรถไฟ Shinkansen แบบ Mizuho, Sakura และ Tsubame ได้ ยกเว้น สายระหว่าง Kokura และ Hakata
4. ตั๋วมีอายุ 90 วันนับจากวันที่ซื้อ
5. การสำรองที่นั่ง JR PASS คิวชูตอนเหนือ, JR PASS คิวชูตอนใต้ สามารถสำรองที่นั่งได้ฟรีสูงสุด 6 ครั้ง และ JR PASS แบบครอบคลุมทั้งคิวชู สำรองที่นั่งได้ฟรีแบบไม่จำกัดครั้ง

JR PASS คิวชู ซื้อได้ที่ไหน ?

1. ซื้อทางเว็บไซต์ Official – https://www.jrkyushu.co.jp/ สามารถซื้อล่วงหน้าได้ 1 เดือน โดยจะเปิดให้ทำการจองระหว่างเวลา 05:30-23:00 (JST) และชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ส่วนจำนวนที่นั่งที่จองได้สูงสุดจะอยู่ที่ 7 ที่นั่ง
2. ซื้อภายในประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟ Hakata, Kokura, Mojikō, Saga, Nagasaki, Sasebo, Beppu, Oita, Kumamoto, Kagoshima-chuo, Miyazaki and Miyazaki Airport และเอเจนซี่ท่องเที่ยวในคิวชู (Northern Kyushu Pass ไม่จำหน่ายในพื้นที่ Southern Kyushu*)

และสำหรับใครที่อยากเซฟงบ ได้ราคาแบบคุ้มค่าแบบไม่ยุ่งยาก สามารถซื้อ JR PASS คิวชู จาก Trip.com ได้เลย มีให้เลือกครบทุกเแพ็กเกจเช่นกันแต่ประหยัดกว่า! ไม่ว่าจะเป็น

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดแบบ 3 วัน

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดแบบ 5 วัน

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดแบบ 7 วัน

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือแบบ 3 วัน

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือแบบ 5 วัน

– JR PASS คิวชู ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งใต้แบบ 3 วัน

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เส้นทาง JR PASS คิวชู

คิวชูเป็นภูมิภาคหนึ่งของญี่ปุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ เนื่องจากสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล จะเที่ยวสไตล์ไหนก็เอาอยู่

Beppu เบปปุ

เบปปุ มีจำนวนตาน้ำพุร้อนตามธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ เบปปุฮัตโต (Beppu Hatto) เป็นน้ำพุร้อนชื่อดังที่สวยงามมากว่า 8 แห่ง นอกจากนี้ยังมีมีเรียวกังมากมายให้ได้เลือกพักพร้อมแช่น้ำร้อนช่วยให้ผ่อนคลายอีกด้วย

Yutoku inari Jinja ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ

เป็นศาลเจ้าประจำเมืองซะกะ มีสัญลักษณ์คือสุนัขจิ้งจอกที่เปรียบเหมือนผู้ส่งสารของเทพเจ้า ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องการทำมาค้าขาย เรื่องการสอบ และการให้แคล้วคลาดปลอดภัย

Nagasaki’s Night View Inasayama จุดชมวิวภูเขาอินะซายามะ

จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกและของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับตัวเมืองนางาซากิ แนะนำให้มาในช่วงเย็น ๆ จะได้ชมทั้งวิวตอนสว่างและตอนมืดได้ในครั้งเดียว

Kujuhana Park สวนดอกไม้คุจูฮะนะ

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู บนพื้นที่กว่า 130 ไร่ เปิดให้ชมกันยาว ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ภายในสวนดอกไม้คูจูมีทางเดินขนาดใหญ่วนรอบไปทั่วทุ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ใครสายถ่ายรูปต้องไม่พลาดเลย

Yufuin Floral Village หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอร์รัล

หมู่บ้านจำลองสไตล์ยุโรป เป็นบ้านอิฐที่เรียงรายอยู่บนถนนสายเล็ก ๆ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านcotswold ประเทศอังกฤษ เดินเล่นในหมู่บ้านไปเรื่อยๆ จะเจอกับ ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) ที่วิวสวยมาก ๆ ด้วยนะ

อย่าลืมแชร์ต่อให้เพื่อนร่วมทริปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือเซฟเก็บไว้เป็นข้อมูลไปเที่ยวโซโล่คนเดียวแบบสับ ๆ กันนะ สุดท้ายนี้หวังว่าทุกคนจะได้เที่ยวคิวชู เที่ยวญี่ปุ่นกันแบบสนุก ๆ นะคะ ~ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ