ใบตม. เวียดนาม 2568 คู่มือครบจบทุกขั้นตอนก่อนเข้าประเทศ ผ่านด่านฉลุย

การเดินทางเข้าเวียดนามในปี 2568 กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก เพราะปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องกรอกใบตม. อีกต่อไป หลังเวียดนามปรับระบบเข้าประเทศให้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ยกเว้นแค่ผู้ที่ใช้ Visa on Arrival (VOA) เท่านั้น ที่ยังต้องกรอกแบบฟอร์ม NA1/M3 ก่อนรับสติ๊กเกอร์วีซ่า

แม้จะไม่ต้องกรอกเอกสารเหมือนเมื่อก่อน แต่หลายคนยังสับสนว่า e-visa ใช้อย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง หรือ Arrival Card ออนไลน์มีจริงไหม Trip.com จึงรวบรวมข้อมูลล่าสุดปี 2568 มาให้แบบครบถ้วน ชัดเจน และอ่านง่าย พร้อมเคล็ดลับเดินทางที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ผ่านด่าน ตม. ได้อย่างรวดเร็วและสบายใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ถึงเวียดนามค่ะ

ใบตม. เวียดนามคืออะไร

“ใบตม.” หรือ Arrival Card ของเวียดนาม คือเอกสารที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลผู้เดินทางขาเข้า คล้ายกับที่หลายประเทศในเอเชียเคยใช้ในอดีต แต่ในปัจจุบัน (ปี 2568) รัฐบาลเวียดนามได้ ยกเลิกการใช้ใบตม. สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ทำให้ขั้นตอนการเข้าประเทศเวียดนามสะดวกขึ้นมาก โดยเฉพาะสำหรับคนไทยที่ถือพาสปอร์ตธรรมดา

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดย ไม่ต้องกรอกเอกสารใบตม. ใด ๆ เพิ่มเติม เพียงเตรียมพาสปอร์ตและเอกสารประกอบให้พร้อม ก็เข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองได้เลยค่ะ

ผู้ถือ e-Visa หรือสิทธิเข้าประเทศแบบยกเว้นวีซ่า

• เวียดนาม ยกเลิกบัตรขาเข้า–ขาออก (Arrival/Departure Card) แล้วสำหรับผู้เดินทางกลุ่มนี้
• สิ่งที่ต้องเตรียมมีเพียง
• • พาสปอร์ตที่อายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • เอกสาร e-Visa (กรณีขอวีซ่าออนไลน์)
  • หลักฐานที่พักหรือตั๋วขาออกจากเวียดนาม
• เมื่อถึงสนามบินสามารถเดินเข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองได้เลย เจ้าหน้าที่อาจสอบถามข้อมูลเล็กน้อย เช่น ที่พักหรือระยะเวลาพำนัก

เหมาะกับคนไทยส่วนใหญ่ ที่เดินทางท่องเที่ยวไม่เกิน 30 วัน เพราะไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าและไม่ต้องกรอกใบตม.

ผู้ใช้บริการ Visa on Arrival (VOA)

กลุ่มนี้ยังคงต้องกรอกเอกสารอยู่บ้าง เพราะเป็นการขอวีซ่า เมื่อเดินทางถึงสนามบินในเวียดนาม

• ต้องกรอกแบบฟอร์ม NA1 หรือ M3 เพื่อยื่นกับเจ้าหน้าที่
• ข้อมูลที่ต้องกรอก เช่น ชื่อ–นามสกุล, หมายเลขพาสปอร์ต, จุดหมายปลายทาง, ระยะเวลาพำนัก และเหตุผลในการเดินทาง
• หลังกรอกแบบฟอร์ม ให้ยื่นพร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่
• • จดหมายอนุมัติ VOA (Approval Letter)
  • รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต
  • ค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์วีซ่า
• เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและออกสติ๊กเกอร์วีซ่าให้ก่อนผ่านช่องตรวจคนเข้าเมือง

หมายเหตุ: คนไทยทั่วไปไม่ต้องใช้ VOA เว้นแต่กรณีต้องการพำนักเกิน 30 วัน หรือใช้หนังสือเดินทางประเภทพิเศษ

เอกสารด้านสาธารณสุข

ในช่วงโควิด เวียดนามเคยบังคับให้กรอกแบบฟอร์ม Health Declaration ออนไลน์ ก่อนเดินทางเข้า แต่ปัจจุบันได้ ยกเลิกมาตรการนี้แล้วตั้งแต่ปี 2565 และจนถึงปี 2568 ก็ยังไม่มีการนำกลับมาใช้อีกค่ะ

ใครต้องกรอกใบตม. เวียดนามบ้าง (และกรอกที่ไหน เมื่อไหร่?)

ปัจจุบันระบบเข้าประเทศของเวียดนามได้รับการปรับให้สะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ต้องกรอกใบตม. และ ไม่ต้องใช้ Visa on Arrival (VOA) เพราะพาสปอร์ตไทยแบบปกติสามารถเข้าประเทศเวียดนามได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่า และพำนักได้สูงสุด 30 วัน ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยเกือบทั้งหมดสามารถเดินเข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองได้เลย โดยไม่ต้องกรอกเอกสารใด ๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มที่ต้องกรอกเอกสารหรือยื่นข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ผู้ที่ใช้ระบบ Visa on Arrival (VOA) หรือเดินทางด้วยพาสปอร์ตประเภทพิเศษ ลองดูรายละเอียดด้านล่างได้เลยค่ะ

1. ผู้เดินทางด้วย Visa on Arrival (VOA)

Visa on Arrival (VOA) คือการขอวีซ่าที่จุดตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินของเวียดนาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีจดหมายอนุมัติวีซ่าล่วงหน้า (Approval Letter) และจะรับสติ๊กเกอร์วีซ่าเมื่อเดินทางถึงประเทศเวียดนาม

ขั้นตอนโดยสรุป

1. ไปที่เคาน์เตอร์ VOA (Visa on Arrival) ก่อนเข้าช่องตรวจคนเข้าเมือง
2. กรอกแบบฟอร์ม NA1 หรือ M3 (ใบ ตม. สำหรับ VOA)
3. ยื่น Approval Letter, รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต และ ชำระค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์วีซ่า
4. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและติด สติ๊กเกอร์วีซ่า ในพาสปอร์ต
5. จากนั้นจึงเข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองได้ตามปกติ

ข้อมูลที่ต้องกรอกในแบบฟอร์ม

• ชื่อ–นามสกุล
• วันเดือนปีเกิด
• หมายเลขพาสปอร์ต และวันหมดอายุ
• จุดหมายปลายทางในเวียดนาม
• ระยะเวลาพำนัก
• วัตถุประสงค์ของการเดินทาง (เช่น ท่องเที่ยว ธุรกิจ เยี่ยมครอบครัว)

หมายเหตุ: คนไทยที่ถือพาสปอร์ตธรรมดาและพำนักไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องใช้ VOA และไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มนี้ค่ะ

2. ผู้ถือ e-Visa

ผู้ที่ขอวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลเวียดนาม (https://evisa.gov.vn/) ไม่ต้องกรอกใบ ตม. เพิ่มเติม เพียงเตรียมเอกสารต่อไปนี้ให้พร้อมตอนเดินทาง:

• พาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
• เอกสาร e-Visa (พิมพ์หรือเก็บเป็นไฟล์ PDF)
• หลักฐานการจองที่พักหรือตั๋วขาออกจากเวียดนาม

เมื่อถึงสนามบิน ให้ตรงไปที่ช่องตรวจคนเข้าเมืองได้เลย เจ้าหน้าที่อาจถามเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับที่พักหรือจำนวนวันที่พำนัก

3. ผู้ได้รับการยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption)

ประเทศที่เวียดนามอนุญาตให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า เช่น ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และบางประเทศในยุโรป ไม่จำเป็นต้องกรอกใบ ตม. หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติม แต่ควรเตรียมเอกสารพื้นฐานไว้เผื่อเจ้าหน้าที่สอบถาม เช่น

• ใบจองโรงแรมหรือที่พัก
• แผนการเดินทางโดยสังเขป
• ตั๋วขาออกจากเวียดนาม

เคล็ดลับผ่าน ตม. เวียดนามแบบลื่นไหล

• พิมพ์ e-Visa ไว้ทั้งฉบับกระดาษและเก็บไฟล์ PDF ในมือถือ
• เตรียม ที่อยู่โรงแรมและหมายเลขติดต่อ ให้พร้อม
• หากไปหลายเมือง ควรมี แผนการเดินทางคร่าว ๆ ติดตัว
• ตรวจสอบว่า สนามบินปลายทางรองรับ e-Visa ก่อนเดินทาง
• เก็บเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ตและ Approval Letter ใกล้ตัวเสมอ

กรอกใบ ตม. เวียดนามออนไลน์ (Vietnam Arrival Card Online) ได้ไหม

หลายคนอาจสงสัยว่าในยุคดิจิทัลแบบนี้ “เวียดนามมีใบ ตม. ออนไลน์ให้กรอกไหม?” คำตอบคือ ไม่มีระบบ Arrival Card Online ของทางการ ค่ะ ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนาม ยกเลิกใบ ตม. แบบกระดาษแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ทำให้ ไม่ต้องกรอกทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ เว้นแต่จะเดินทางเข้าประเทศด้วย Visa on Arrival (VOA) ซึ่งต้องกรอกแบบฟอร์ม NA1 หรือ M3 ที่สนามบินเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เวียดนามมีระบบออนไลน์อีกประเภทหนึ่งที่หลายคนมักสับสนกับใบ ตม. นั่นคือ ระบบ e-Visa (วีซ่าออนไลน์)

ระบบนี้ใช้สำหรับยื่นขอวีซ่าก่อนเดินทางผ่านเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลเวียดนาม: https://evisa.gov.vn/ หรือ https://thithucdientu.gov.vn/

หมายเหตุ: คำว่า “E-Travel” ที่บางเว็บไซต์กล่าวถึง ไม่ใช่ระบบของรัฐบาลเวียดนาม แต่เป็นบริการเอกชนที่ให้กรอกข้อมูลล่วงหน้า ซึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้ สำหรับการเดินทางเข้าประเทศอย่างถูกต้อง หากต้องการทำวีซ่าออนไลน์จริง ๆ ให้ใช้เฉพาะระบบ e-Visa ทางการ เท่านั้น

คุณสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัว อัปโหลดรูปถ่าย และชำระค่าธรรมเนียมออนไลน์ได้ทั้งหมด จากนั้นจะได้รับไฟล์ PDF ของ e-Visa เพื่อนำไปใช้ตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย

สรุป

วิธีกรอกใบตม. ขาเข้าประเทศเวียดนาม (สำหรับผู้ใช้ Visa on Arrival – VOA)

ตัวอย่างแบบฟอร์ม NA1 (ที่มา: vnembassy-kualalumpur.mofa.gov.vn)

ในปี 2568 ผู้เดินทางที่ใช้ระบบ Visa on Arrival (VOA) ยังจำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์ม NA1/M3 ก่อนรับสติ๊กเกอร์วีซ่า โดยข้อมูลที่ต้องกรอกสามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้เลยค่ะ

ตารางกรอกข้อมูลใบตม. เวียดนาม (NA1/M3)

เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนกรอกแบบฟอร์ม

• จดหมายอนุมัติ VOA (Approval Letter)
• รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต 2 ใบ (พื้นหลังขาว)
• พาสปอร์ตที่อายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
• เงินสด (USD หรือ VND) เพื่อชำระค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์วีซ่า

ขั้นตอนหลังกรอกใบตม. เสร็จแล้ว

1. ยื่นแบบฟอร์ม NA1/M3 + Approval Letter + รูปถ่ายให้เจ้าหน้าที่ VOA
2. ชำระค่าธรรมเนียมสติ๊กเกอร์วีซ่า
3. เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารและติดสติ๊กเกอร์วีซ่าในพาสปอร์ต
4. นำพาสปอร์ตไปเข้าคิวช่องตรวจคนเข้าเมือง (Immigration)
5. เจ้าหน้าที่อาจสอบถามข้อมูลที่พัก ระยะเวลาพำนัก หรือแผนการเดินทาง
6. รับกระเป๋าแล้วออกจากสนามบินได้เลยค่ะ

เคล็ดลับให้ผ่านด่านไวขึ้น

• กรอกข้อมูลให้ครบทุกช่องและเขียนตัวอักษรชัดเจน
• พิมพ์สำเนา Approval Letter เก็บสำรองไว้
• ตรวจสอบจำนวนเงินค่าธรรมเนียมตามสนามบินที่เดินทางเข้า
• หากเดินทางเป็นกลุ่ม แนะนำให้ทุกคนกรอกล่วงหน้าให้เรียบร้อยพร้อมกัน

เตรียมตัวก่อนเดินทางไปเวียดนาม 2568

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางสำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นทริปต่างประเทศอย่างเวียดนาม เพราะการเตรียมเอกสารให้ครบจะช่วยให้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างราบรื่น และช่วยให้ทริปสนุกตั้งแต่ก้าวแรกที่ถึงสนามบินเลยค่ะ Trip.com รวบรวมเช็กลิสต์ “สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปเวียดนาม 2568” มาให้ครบ ทั้งเอกสาร เงินตรา ซิม อินเทอร์เน็ต และเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่หลายคนมักมองข้าม

เอกสารสำคัญ

เรื่องเงินและค่าใช้จ่าย

ซิมอินเทอร์เน็ต & การสื่อสาร

สุขภาพและของใช้ส่วนตัว

เคล็ดลับการแพ็กกระเป๋า

• แยกเอกสารสำคัญไว้ในกระเป๋าถือ
• พกถุงกันน้ำหรือซองกันฝนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• เตรียมเสื้อกันฝนหรือร่มขนาดเล็ก โดยเฉพาะถ้าไปโฮจิมินห์หรือฮานอยช่วงฤดูฝน

การทำความเข้าใจเรื่องใบตม. เวียดนาม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนเดินทาง ระบบเข้าประเทศเวียดนามถูกออกแบบให้สะดวกขึ้น ผู้ถือ e-visa และผู้ยกเว้นวีซ่าส่วนใหญ่ไม่ต้องกรอกใบตม. กระดาษ แต่สำหรับผู้ใช้ VOA การกรอกแบบฟอร์ม NA1/M3 ยังคงจำเป็น ซึ่งการเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเอกสาร, พาสปอร์ต, วีซ่า, แบบฟอร์มใบตม., การจองที่พัก และแผนการเดินทาง จะช่วยให้การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ การจัดเตรียมสิ่งของจำเป็น, เงินสด, และข้อมูลฉุกเฉิน จะทำให้เพื่อนๆ มั่นใจตลอดการเดินทาง