
“เตรียมพุงให้พร้อมปะทะกับ อาหารเจียหยาง เมืองเล็กที่ของกินอร่อยอย่าบอกใคร!” ถ้าพูดถึงเมืองจีน หลายคนอาจนึกถึงเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือกวางโจวก่อนเป็นอันดับต้น ๆ แต่เอ๊ะ! เคยได้ยินชื่อ “เจียหยาง” กันบ้างมั้ย? เมืองนี้อาจไม่ใช่แหล่งแลนด์มาร์กฮอตฮิตติดโซเชียล แต่ถ้าคุณเป็นสายกินตัวจริง บอกเลยว่าเจียหยางคือสวรรค์ของนักกินที่ซ่อนตัวอยู่แบบเงียบ ๆ และนี่คือ 10 อาหารเจียหยาง ที่ Trip.com รวบรวมมา บอกเลยว่าถ้ามาถึงที่เจียหยาง ต้องมาลองให้ได้
จองตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-เจียหยาง
- ไป-กลับ
- เที่ยวเดียว
- direct cheapest
BKK15:002 ชม. 55 น.บินตรงSWA18:55กรุงเทพ - เจียหยา|อ. 6 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์
SWA11:403 ชม. 20 น.บินตรงBKK14:00เจียหยา - กรุงเทพ|จ. 12 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์BRL 678BRL 916ลด 26%ลด 26%BRL 916BRL 678
BKK15:002 ชม. 55 น.บินตรงSWA18:55กรุงเทพ - เจียหยา|ส. 10 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์
SWA11:403 ชม. 20 น.บินตรงBKK14:00เจียหยา - กรุงเทพ|จ. 12 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์BRL 678BRL 916ลด 26%ลด 26%BRL 916BRL 678
BKK15:002 ชม. 55 น.บินตรงSWA18:55กรุงเทพ - เจียหยา|พฤ. 8 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์
SWA11:403 ชม. 20 น.บินตรงBKK14:00เจียหยา - กรุงเทพ|จ. 12 ม.ค.|สปริงแอร์ไลน์BRL 678BRL 916ลด 26%ลด 26%BRL 916BRL 678
BKK1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงSWA2:00 PMกรุงเทพ - เจียหยา|Mon, Dec 15|สปริงแอร์ไลน์
SWA1:00 PM3 ชม. 5 น.บินตรงBKK2:00 PMเจียหยา - กรุงเทพ|Mon, Dec 15|สปริงแอร์ไลน์ค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติมค้นหาเที่ยวบินเพิ่มเติม
ราคาที่แสดงคำนวณจากราคาตั๋วในเส้นทางเดียวกันโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์บน Trip.com
ทำความรู้จักอาหารแต้จิ๋วแบบต้นตำรับ

อาหารแต้จิ๋ว (潮汕菜 หรือ Chaozhou cuisine) เป็นหนึ่งในแขนงสำคัญของอาหารจีนแถบตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้ง (Guangdong) ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวแต้จิ๋ว (Chaoshan หรือ Teochew) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเมืองแต้จิ๋ว (Chaozhou), ซัวเถา (Shantou) และเจียหยาง (Jieyang) เมืองชายฝั่งที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบทางทะเลและภูมิปัญญาการปรุงอาหารที่ละเมียดละไมที่สุดกลุ่มหนึ่งของจีน ซึ่ง อาหารเจียหยาง ก็จัดเป็นหนึ่งในอาหารแต้จิ๋ว
จุดเด่นของอาหารแต้จิ๋วคือความเน้นรสชาติที่เบา สด และกลมกล่อม โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเทศแรง ๆ หรือรสชาติหนักแบบอาหารเสฉวน อาหารแต้จิ๋วเชื่อว่า "รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ" คือสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นการปรุงจึงมักใช้วิธีการตุ๋น ต้ม นึ่ง หมัก หรือผัดแบบเร็ว ๆ เพื่อรักษาความหวานธรรมชาติของเนื้อสัตว์และผัก
อาหารแต้จิ๋วไม่ได้ถูกบริโภคแค่ในจีน แต่ยังแพร่หลายไปทั่วโลกตามเส้นทางอพยพของชาวแต้จิ๋วในอดีต ไม่ว่าจะเป็นในไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ หรืออินโดนีเซีย ทำให้อาหารแต้จิ๋วมีอิทธิพลในหลายวัฒนธรรม เห็นได้ชัดเจนในเมนูอาหารหลายอย่างที่เราน่าจะคุ้นเคย เช่น เป็ดพะโล้ ข้าวต้มทรงเครื่อง หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น
ในปัจจุบัน เมืองเจียหยางยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่รักษารสชาติอาหารแต้จิ๋วแบบดั้งเดิมไว้ได้ดี และเป็นจุดหมายปลายทางของนักชิมที่อยากสัมผัสกับอาหารที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความอร่อย แต่ยังเล่าถึงรากเหง้าและจิตวิญญาณของผู้คนอย่างลึกซึ้ง
แล้ว “อาหารเจียหยาง” มีอะไรดี?
อาหารเจียหยาง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ ปรุงอย่างเรียบง่าย แต่รสชาติซับซ้อน นัว ๆ ละมุน ๆ หนึ่งในหัวใจสำคัญของ อาหารเจียหยาง คือการ “ตุ๋น” และ “หมัก” ไม่ว่าจะเป็นขาหมูหลงเจียงตุ๋นซอสดำสุดเข้ม เต้าหู้ทอดผู่หนิงที่นอกกรอบในนุ่ม หรือซีฟู้ดหมักแช่แสนจี๊ดจ๊าดแบบฉบับ Chaoshan-style ทุกเมนูสะท้อนรากวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชาวแต้จิ๋วที่ให้ความสำคัญกับอาหารมากกว่าสิ่งใด
ไม่ใช่แค่อาหารคาวเท่านั้นที่ปัง! เจียหยางยังมีขนมพื้นบ้านน่ากินอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ขนมปิงปั้ง (乒乓粿) แป้งเหนียวนุ่มสีเขียวไส้ถั่วดำที่ห่อด้วยใบไม้หอม ๆ, ขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่น (菊花糕) สูตรราชสำนักหอมชื่นใจ หรือแม้แต่ ขนมถั่วงาปู่หนิง (南糖) เคี้ยวเพลิน โดยหลายร้านทำกันแบบ home-made จากรุ่นสู่รุ่น บางร้านเปิดมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ยังหนุ่ม!
ถ้าใครเบื่อเส้นทางเดิม ๆ อยากลองเปิดโลก เที่ยวที่ใหม่ ๆ ลองกินอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อน เจียหยางคือเมืองที่คุณควรมีในลิสต์! เมืองนี้อาจจะไม่ได้มีตึกสูงไฟวิบวับ แต่บอกเลยว่า เรื่องกินเขาจริงจัง และเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย เราจะพาคุณไปเปิดวาร์ปล่วงหน้า กับ 10 เมนูเด็ด อาหารเจียหยาง ที่แค่เห็นภาพก็น้ำลายสอ พร้อมแจกพิกัดร้านอร่อยลับ ๆ ที่คนท้องถิ่นเท่านั้นถึงจะรู้ เตรียมแพลนเแน่น เตรียมพุงให้พร้อม แล้วไปตะลุยหาของอร่อยแบบจัดเต็มที่เจียหยางกันเถอะ
กินให้ฟิน! 10 อาหารเจียหยาง ที่ต้องลองให้ครบ!
คนเจียหยางเขาอินกับการกินมาก แบบมากกกกก! นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ อาหารเจียหยาง ไม่ได้เป็นแค่ของกิน แต่เป็นศิลปะ เป็นความรัก เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น หลายเมนูที่ยังมีขายทุกวันนี้ บางสูตรอายุเกือบ 100 ปี! แล้วลองคิดดูว่าเมนูอาหารที่อยู่มาได้ขนาดนี้ จะธรรมดาได้ยังไง! พูดขนาดนี้แล้วจะไม่ลองชิมได้ยังไงล่ะ? เตรียมล่าลายแทง 10 เมนูเด็ด อาหารเจียหยาง ที่ห้ามพลาด ใครไม่กิน ถือว่าผิด!
1.เต้าหู้ทอดผู่หนิง (Puning Fried Tofu)

เต้าหู้ทอดผู่หนิง ของเมืองผู่หนิง เป็นหนึ่งในของกินเล่นยอดนิยมของคนพื้นที่ ทำมาจากเต้าหู้ที่ผ่านกรรมวิธีหมักและตากแห้งจนได้เนื้อสัมผัสเฉพาะตัว นำมาทอดในน้ำมันร้อนจนด้านนอกกรอบ และกลายเป็นสีเหลืองทอง ส่วนด้านในเป็นเนื้อเต้าหู้นุ่ม ขาว ฟู คล้ายเต้าหู้สด
เมื่อลองกัดจะได้สัมผัสถึงความกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มสูตรท้องถิ่นซึ่งทำจากต้นหอมหรือกุยช่ายผสมเกลือ (บางเจ้าใส่กระเทียมด้วย) เรียกว่า “น้ำเกลือกุยช่าย” เสิร์ฟมาให้ราดหรือจิ้มกับเต้าหู้ทอดร้อนๆ เพื่อเพิ่มรสเค็มกลมกล่อม
ร้านแนะนำ:老牌普宁豆干店(Laopai Puning Dougan Shop)
📍 ที่อยู่ : No. 88 Rongjiang Road, Puning City, Jieyang
🕖 เวลาทำการ : 06:30 - 10:00 น.
ร้านเต้าหู้ทอดสูตรโบราณ เจ้าเก่าดั้งเดิมของผู่หนิง โดยเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนใกล้กับตลาดสดเก่าในเมือง ที่ยังคงเสน่ห์แบบท้องถิ่นดั้งเดิมไว้ สังเกตง่าย ๆ จะมีกระทะทอดใบใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าร้าน รับรองถ้าใครเดินผ่านต้องได้กลิ่นหอมเต้าหู้ทอดฟุ้งกระจายชวนน้ำลายสออย่างแน่นอน แม้ร้านจะดูธรรมดาไม่มีการตกแต่งหรูหรา แต่ก็สะอาดสะอ่าน และที่สำคัญคือบรรยากาศคึกคักไปด้วยลูกค้าที่มาต่อคิวซื้อเต้าหู้ทอดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงช่วงเช้าจะครึกครื้นเป็นพิเศษ
Laopai Puning Dougan Shop สืบทอดวิธีทำเต้าหู้มาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ (มีบันทึกว่าสูตรนี้มีมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14) โดยยังคงรสชาติและกรรมวิธีแบบดั้งเดิมไว้ โดยจุดเด่นที่ลูกค้าทุกคนพูดตรงกันคือ เต้าหู้ “กรอบนอกนุ่มใน”และน้ำจิ้มต้นหอมเกลือสูตรเฉพาะช่วยเสริมรสเต้าหู้ได้อย่างดี
2.ข้าวขาหมูหลงเจียง (Longjiang Braised Pork Rice)

ขาหมูพะโล้สไตล์แต้จิ๋วแท้ ที่ตุ๋นด้วยซีอิ๊วดำและสมุนไพรจีนจนได้ที่ ขาหมูจะมีสีออกน้ำตาลแดง หนังหมูเป็นเงาวาววับน่ารับประทาน เนื้อหมูนุ่มเปื่อยกำลังดีแต่ยังคงมีความหนึบเล็กน้อยพอให้เคี้ยวเพลิน หนังหมูเปื่อยนุ่มคล้ายเจลาตินที่แทบจะละลายในปาก ผสานรสชาติเค็มหวานกลมกล่อม เข้มข้นถึงใจ
ทุกคำที่ทานจะได้รับทั้งรสและกลิ่นหอมของเครื่องพะโล้โบราณ โปะบนข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมผักดองแบบ 潮汕 (เฉาซาน) ที่มีรสเปรี้ยวเค็มช่วยตัดเลี่ยน เสิร์ฟพร้อมซุปน้ำใสหรือซุปฟักตุ๋นเป็ดตามแบบฉบับท้องถิ่น บอกเลยว่าฟินทุกคำอย่างแน่นอน
ร้านแนะนำ:隆江老四猪脚饭(Longjiang Laosi Pork Rice)
📍 ที่อยู่ : Food Street, Huilai County, Jieyang
🕖 เวลาทำการ : 11:00 - 14:00 น. น.
ร้านข้าวขาหมูชื่อดังประจำเมืองฮุ่ยหลาย ร้านเล็กสองคูหาในสไตล์บ้าน ๆ ที่สืบทอดสูตรพะโล้ขาหมูแบบโบราณที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานกว่า 40 ปี ตรงหน้าร้านจะตั้งหม้ออลูมิเนียมใบใหญ่หลายใบที่ใช้ตุ๋นขาหมูและต้มซุป ซึ่งส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ลูกค้าสามารถมองเห็นพ่อครัวแม่ครัวหั่นขาหมูสด ๆ จากหน้าเตาให้เห็นกันจะๆ เป็นเสน่ห์แบบ “ครัวเปิด”
จุดเด่นคือการใช้ขาหมูส่วนขาหลังตุ๋นในน้ำพะโล้สมุนไพรสูตรเฉพาะจนเข้าเนื้อ เนื้อหมูนุ่มเปื่อย ละลายในปาก รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อและมีกลิ่นหอมเครื่องเทศอ่อน ๆ ติดที่หนังหมู
นอกจากข้าวขาหมูที่ขายดีแล้ว ยังมีส่วนที่เรียกว่า “ซื่อเตี่ยน” หรือ 四点 ซึ่งเป็นส่วนข้อต่อขาหลังที่มีทั้งเอ็นและเนื้อ ก็เป็นอีกส่วนที่ลูกค้านิยมสั่ง เพราะความนุ่มหนึบของเอ็น ทำให้หลายคนติดใจ นอกจากนี้ยังนิยมเพิ่มเครื่องเคียงอย่างเต้าหู้พะโล้ และผักดองรสเปรี้ยวมาทานคู่กันเพื่อเสริมรสชาติอีกด้วย
บอกเลยว่า ร้าน Longjiang Laosi Pork Rice ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างยอมรับว่าเป็นข้าวขาหมูที่อร่อยที่สุดของย่านนี้เลยทีเดียว โดยรีวิวกันว่าความอร่อยของข้าวขาหมูร้านนี้อยู่ตรงที่ หนังและมันหมูที่เปื่อยนุ่ม แต่ไม่เลี่ยน อบอวลด้วยกลิ่นเครื่องยาจีนหอมกำลังพอดี ถ้าได้กินรับรองว่าติดใจ แต่แอบกระซิบบอกก่อนว่า ใครอยากมากิน แนะนำให้มาเร็วหน่อย ไม่งั้นอดกินไม่รู้ด้วย เพราะร้านนี้บ่ายแก่ ๆ ก็มักจะขายหมดเกลี้ยงแล้ว
3.ชาโขลกเจียซี(Jiexi Lei Cha)

ชาเขียวสมุนไพรตำแบบโบราณสไตล์ชาวฮากกา เสิร์ฟรวมกับข้าวและเครื่องเคียงหลากหลายชนิดในชามเดียว กลายเป็นทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่ให้ทั้งความอิ่มท้องและความสดชื่น ชาโขลกหนึ่งชามประกอบด้วยน้ำชาสมุนไพรสีเขียวเข้มข้นที่ได้จากการตำใบชาเขียวคั่วผสมกับงาคั่ว ถั่วลิสง และสมุนไพรพื้นบ้าน จากนั้น เติมน้ำร้อนลงในครกให้เกิดเป็นน้ำชาสมุนไพรหอมกรุ่น จากนั้นจึงรินน้ำชาที่ได้ลงในถ้วยข้าวสวยและใส่เครื่องเคียงต่าง ๆ ตามชอบ เช่น ผักดอง (หัวไชเท้าดอง), ผักใบเขียวลวก, ถั่วเหลืองคั่ว, กุ้งแห้ง, หมึกแห้ง, หมูฝอย ฯลฯ รสชาติของชาโขลกเจียซีจะออกเค็มมันจากถั่วและงา แฝงความหอมสดชื่นของสมุนไพรและชาเขียว ที่มีความขมนิด ๆ แต่จะมีรสหวานที่ปลายลิ้น
ร้านแนะนำ:客家擂茶(Hakka Lei Cha )
📍 ที่อยู่ : About 210 meters southwest of Tongxin Kindergarten (Jianxin Road), Xidi Road, Jiexi County, Jieyang City, Guangdong Province
🕖 เวลาทำการ : 10:00 -14:00 น. , 15:30 - 20:00 น.
กินชาโขลกฮากกาของแท้ต้องร้านนี้ Hakka Lei Cha ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านแบบดั้งเดิม ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของเมืองเจียหยาง ที่เปิดบริการมาอย่างยาวนานกว่าสิบปี เจ้าของร้านเป็นทายาทผู้สืบทอดภูมิปัญญาการทำชาโขลกแบบดั้งเดิมมาจากรุ่นสู่รุ่น ตัวร้านเป็นอาคารขนาดเล็ก สไตล์ร้านอาหารท้องถิ่น ตั้งอยู่ใจกลางตลาดเหอโป
ภายในร้าน เป็นครัวแบบเปิดที่สามารถชมการทำชาโขลกกันแบบสด ๆ ได้ตรงหน้า โดยจะเห็นเจ้าของร้านใช้สากไม้และครกดินเผาขนาดใหญ่ตำใบชาและสมุนไพรอย่างชำนาญ
สำหรับมือใหม่อย่างเรา ๆ ร้าน Hakka Lei Cha เขามีสูตรมาตรฐานให้ลิ้มลองกันก่อน ซึ่งจะใช้สมุนไพรหลัก 4 ชนิด เช่น ใบโหระพาจีน, ใบสะระแหน่ เป็นต้น ผสมรวมกัน ทำให้รสชาติของน้ำชาที่ได้หอมละมุนและไม่ขมจัดเกินไป กินง่าย มือใหม่กินได้แน่นอน
4.ไก่ซีอิ๊วผู่หนิง (Puning Soybean Chicken)

เมนูท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของเมืองผู่หนิง จุดเด่นของเมนูนี้คือการใช้ซีอิ๊วหมักสูตรพิเศษจากถั่วเหลืองที่เรียกว่า “ถั่วเจี้ยงผู่หนิง” (普宁豆酱) ซึ่งเป็นซอสถั่วเหลืองหมักแบบแต้จิ๋วโบราณที่ชาวบ้านนิยมทำกันเองในครัวเรือนมาตั้งแต่อดีต มีรสชาติเข้มข้นและมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์
โดยทั่วไป ขั้นตอนในการทำจะเริ่มจากการนำไก่บ้านหรือไก่เหนียวมาสับเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วหมักด้วยซอสถั่วผู่หนิงและเครื่องปรุงอื่น ๆ เช่น ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำเล็กน้อย, น้ำมันหอย, แป้งมัน และขิงกับกระเทียม คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 20 – 30 นาที เพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อไก่ หลังจากนั้นนำไก่ที่หมักลงตุ๋นหรืออบในหม้อดินโดยไม่ต้องเติมน้ำ เพราะโดยปกติจะมีน้ำจากตัวไก่ออกมาอยู่แล้ว ไก่จะถูกตุ๋นด้วยไฟอ่อนเป็นเวลา 3 ชั่วโมง วิธีนี้จะทำให้ได้เนื้อไก่นุ่ม และน้ำซอสซึมเข้าเนื้อ เมื่อไก่นุ่มสุกได้ที่แล้วจึงใส่ต้นหอมผักชีโรยหน้า แล้วเสิร์ฟร้อน ๆ
ไก่ที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ตัวหนังไก่จะมันวาว เคลือบด้วยซอสน่าทานสุด ๆ เมนูนี้นิยมทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือโจ๊กแต้จิ๋วก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากความเข้มข้นของไก่ซีอิ๊วจะช่วยเพิ่มรสให้กับอาหารจานหลักอื่น ๆ บอกเลยว่า น้ำซอสขลุกขลิกราดบนข้าวสวยร้อย ๆ คืออร่อยจึ้ง!
ร้านแนะนำ:进安街大排档(Jin'an Street Food Stalls)
📍 ที่อยู่ : No.61 - 62 Jin'an Street, Jieyang City, Guangdong Province
ใครอยากกินเมนูนี้ต้องมาที่ถนนคนเดิน Jin'an ที่นี่มีร้านขายไก่ซีอิ๊วผู่หนิงสูตรดั้งเดิม ที่เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ห้ามพลาด การันตีจากหลายเสียงว่ามีรสชาติกลมกล่อมลงตัว เนื้อไก่นุ่มฉ่ำเพราะใช้ไก่สดคุณภาพดี ผสานกับความหอมเค็มของซอสถั่วเหลืองผู่หนิงที่ซึมเข้าเนื้อทุกคำ
5.หอยนางรมย่าง(Oyster Omelette)

คนชอบออกส่วนหอยนางรมต้องถูกใจเมนูนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ ก็น่าคล้ายกันอยู่ โดยเขาจะนำหอยนางรมมาคลุกเคล้ากับแป้งมันเทศ เติมน้ำให้แป้งเหลว จากนั้นใส่ต้นกุยช่ายหรือต้นกระเทียมซอยลงไปในแป้ง ปรุงรสด้วยพริกไทยเล็กน้อย นำไปทอดในกระทะแบนที่ใส่น้ำมัน ทอดด้วยไฟแรง แต่ก่อนจะเทส่วนผสมลงไปต้องเจียวต้นกระเทียมซอยให้พอหอมก่อน แล้วจึงเทส่วนผสมแป้งและหอยลงกระทะ เกลี่ยให้แผ่เป็นแผ่นบาง ตอกไข่ไก่หรือไข่เป็ดลงไปบนแป้ง จากนั้นทอดจนสุก และมีสีเหลืองทองทั้งสองด้าน จึงตักขึ้น โรยหน้าด้วยผงพริกไทยป่นและผักชีสดหั่นหยาบ เป็นอันเสร็จ
เนื้อหอยแต่ละตัวจะกระจายทั่วแผ่นไข่ แป้งและไข่ด้านนอกกรอบ ไม่แข็งกระด้าง ตัวหอยยังนุ่ม ชุ่มไปด้วยน้ำจากหอยสด ๆ ความหวานของหอยบวกกับความหอมของไข่ที่ทอดจนกรอบ ทำให้เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด
อีกหนึ่งจุดเด่นของเมนูนี้ คือ มักจะเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มปลา (น้ำปลา) หอมๆ ใส่พริกหรือพริกไทยเล็กน้อย ซึ่งจะใส่มาในถ้วยแยกต่างหากให้ลูกค้าได้จิ้มเพิ่มรสตามชอบ แม้อาจจะรู้สึกแปลก ๆ หน่อย แต่ก็เป็นวัฒนธรรมการกินของคนแต้จิ๋วที่นิยมกินของทะเลทอดกับน้ำปลา เพื่อดึงความหวานของหอยให้เด่นยิ่งขึ้น และช่วยตัดเลี่ยนจากความมันของไข่และน้ำมันเล็กน้อย นอกจากนี้บางคนยังนิยมกินคู่กับข้าวต้มขาวร้อน ๆ สไตล์อาหารค่ำแต้จิ๋วด้วย
ร้านแนะนำ:汫洲蚝烙 (Jingzhou Oyster Omelette)
📍 ที่อยู่ : Jin'an St, Rongcheng District, Jieyang, Guangdong Province
🕖 เวลาทำการ : ประมาณ 18:00 - 24.00 น.
ร้านที่เด็ดเรื่องหอยต้องร้านนี้ Jingzhou Oyster Omelette หอยทอดจิ่นโจวเลือกใช้หอยนางรมสดตัวใหญ่ ซึ่งพันธุ์พิเศษจากเมืองจิ่นโจว (汫洲镇) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งหอยนางรมใหญ่” มีการเลี้ยงหอยมานานกว่า 500-700 ปี ทำให้หอยนางรมที่นี่ตัวโต เนื้ออวบ รสชาติหวานละมุนเป็นพิเศษ ผสมกับแป้งมันเทศคุณภาพสูง ทอดด้วยน้ำมันหมูที่เจียวเพิ่มความหอมมัน ความพิเศษเหล่านี้ทำให้หอยทอดของที่ร้านกรอบหอมโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ร้านหอยทอดจิ่นโจวเป็นร้านอาหารริมทาง แม้ร้านจะมีขนาดเล็กและดูเรียบง่าย แต่ภายในจัดวางของเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสะอาด มีกระทะใบใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้าน ให้ลูกค้าได้ชมขั้นตอนการทอดหอยด้วยไฟแรง ๆ กลิ่นหอมของไข่และหอยที่ลอยอบอวลดึงดูดผู้คนที่ผ่านไปผ่านต้องหันมอง
6.เผือกเคลือบน้ำตาล(Candied Taro)

เผือกทอดกรอบเคลือบน้ำตาลทรายขาวเหมือนหิมะ อีกหนึ่งเมนูของกินเล่นของชาวแต้จิ๋ว ที่จะนำเผือกหั่นชิ้นไปทอดให้สุกกำลังดี จากนั้นนำลงกระทะคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมที่เคี่ยวด้วยไฟจนเดือด คนเร็ว ๆ จนน้ำตาลเกาะเคลือบทั่วชิ้นเผือก แล้วจึงตักขึ้นพักให้น้ำตาลเย็นตัวกลายเป็นเกล็ดสีขาวเคลือบอยู่รอบนอก
กรรมวิธีนี้ เรียกว่า เทคนิค “ฟ่านซา” นี้ทำให้เกิดเนื้อสัมผัสสองชั้นคือ ผิวนอกเป็นเคลือบน้ำตาลบาง ๆ ให้สัมผัสกรุบกรอบ ส่วนเนื้อเผือกด้านในยังคงความนุ่มฟู หวานมันตามธรรมชาติของเผือกแท้ ๆ เมื่อกัดรวมกันจะได้รสหวานหอมที่พอดี ไม่เลี่ยนเกินไป
นอกจากเป็นของว่างชั้นดีแล้ว เผือกเคลือบน้ำตาล ยังถือเป็นขนมมงคลที่มีชื่อว่า “จินหยวี่หมั่นถัง” (金玉满堂) แปลว่า “ทองหยกเต็มบ้าน” โดยเผือกที่สีขาวเคลือบน้ำตาล เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์โชคดี
ร้านแนะนำ:普宁反沙番薯芋头(Puning Sweet Potato and Taro)
📍 ที่อยู่ : Ground Floor Shop, Building 56, Juyuan, Longhua South Street, Jieyang
🕖 เวลาทำการ : 08:00 - 21:30 น.
ร้านเด็ดเล็กพริกขี้หนู ที่เปิดมานานกว่า 16 ปี เป็นเพียงร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารที่พักอาศัย ดูเผิน ๆ คล้ายแผงขายขนมริมทางมากกว่าร้าน โดยมีเพียงเคาน์เตอร์สำหรับทอดและขายขนม นี่จึงเป็นอีกหนึ่งร้านลับที่สืบทอดเทคนิคการทำขนมแบบดั้งเดิมของชาวแต้จิ๋ว ที่เรียกว่า “ฟ่านซา (反沙)” คือการทอดและเคลือบน้ำตาลเผือกและมันเทศ จนได้ขนมรสหวานอร่อยไม่เหมือนใคร
และอีกหนึ่งทีเด็ดของร้าน Puning Sweet Potato and Taro คือ การเพิ่มความหอมมันด้วยการโรยผงข้าวโอ๊ตหรือมะพร้าวขูด ลงบนเผือกเคลือบน้ำตาล เพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์และกลิ่นหอมอีกระดับหนึ่ง เผือกเคลือบน้ำตาลของร้านนี้จะทำสดใหม่ตามออเดอร์ ทอดใหม่ร้อน ๆ เคลือบน้ำตาลให้เห็นกันสด ๆ ต่อหน้าลูกค้า เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ดีที่สุด
ถ้าใครไม่ชอบเผือกทางร้านยังมีมันเทศเคลือบน้ำตาล และขนมเคลือบน้ำตาลอื่น ๆ ให้เลือก เช่น ไข่แดงเค็มเคลือบน้ำตาล และ ผลมะกอกน้ำมันเคลือบน้ำตาล ซึ่งหาทานยาก
7.ซีฟู้ดหมักแช่(Chaoshan Raw Seafood)

ของทะเลสด ๆ ดองในสไตล์แต้จิ๋ว ดองในน้ำดองสูตรเฉพาะ ที่ประกอบด้วย ซีอิ๊ว, เหล้าจีน (เหล้าหมักข้าว), น้ำส้มสายชู, น้ำตาลทราย, กระเทียม, พริกสด, ผักชี และเครื่องเทศอื่น ๆ เล็กน้อย รวมทั้งใส่น้ำมันงาหรือน้ำมันพืชเล็กน้อยเพื่อดึงความหอม ส่วนผสมเหล่านี้จะถูกเคี่ยวรวมกันเป็นน้ำดองสูตรลับเฉพาะ จากนั้นจะนำมาคลุกเคล้ากับของทะเลสด แล้วดองทิ้งไว้ โดยระยะเวลาการดองจะปรับให้เหมาะสมกับวัตถุดิบ แต่ละชนิด บางชนิดหมักแช่ไว้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อรักษาสัมผัสความสดกรอบ และเด้งไว้ เช่น กุ้ง หรือกั้ง ขณะที่บางชนิดอย่างปูต้องหมักข้ามคืนเพื่อให้รสชาติซึมลึกถึงเนื้อใน
รสชาติหลักที่ได้ คือ ความหวานของของทะเลสด ๆ ผสานกับความเค็มหอมของซีอิ๊วและรสเผ็ดจากพริกสดและกระเทียม มีมิติของความเปรี้ยวเล็กน้อยจากน้ำส้มสายชูและความหอมหวลของเหล้าจีน จนกลายเป็นรสกลมกล่อมที่ทั้งหวาน เค็ม เปรี้ยว เผ็ด ลงตัวในคำเดียว
ร้านแนะนำ:嘴百夸生腌 (Zui Bai Kua Marinated Raw Seafood)
📍 ที่อยู่ : No. 51, Rongbi Shopping Mall, Tongxin Road
🕖 เวลาทำการ : 16:00 น. เป็นต้นไป
ร้านซีฟู้ดดองสไตล์แต้จิ๋ว จุดเด่นของร้าน คือ การนำของทะเลสดใหม่หลายชนิดมาดองแบบดั้งเดิมด้วยสูตรเฉพาะ บอกเลยว่า น้ำดองของร้าน Zui Bai Kua Marinated Raw Seafood รสชาติถึงเครื่อง ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และคงความสดหวานของอาหารทะเลไว้ได้อย่างดี การันตีว่าวัตถุดิบของร้านนี้ สส สะอาด และปลอดภัยแน่นอน ใครเป็นสายทะเลดอง แนะนำว่าต้องโดน!
8.ขนมปิงปั้ง(Pingpang Guo)

ขนมพื้นเมืองโบราณหากินยาก ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในขนมชื่อดังของจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 โดยมีชื่อเรียกแปลกหูว่า “ปิงปั้ง” ซึ่งแปลว่า ปิงปอง นั้น แท้จริงแล้วเพี้ยนเสียงมาจากชื่อเดิม “ปิงเพยก้วย” (槟醅粿) ตามสำเนียงท้องถิ่นดั้งเดิมของชาวเจียหยาง แต่เมื่อออกเสียงยากเกิน ทำให้คนนิยมเรียกว่า “ปิงปั้ง” มากกว่า เพราะออกเสียงง่ายและติดปาก
มีประวัติว่า ในช่วงปลายราชวงศ์ซ่ง ใกล้ปี ค.ศ. 1270 ชาวเมืองเจียหยางได้คิดทำขนมชนิดนี้ขึ้นจากวัตถุดิบเท่าที่หาได้ในท้องถิ่น เพื่อประทังความหิวและเอาตัวรอดจากภัยสงคราม ทำให้ขนมชนิดนี้กลายมาเป็นขนมประจำถิ่นที่สืบทอดสูตรกันมาหลายศตวรรษ
ขนมปิงปั้ง ทำจากข้าวเหนียวที่นำมาบดผสมกับพืชสมุนไพรป่าที่เรียกว่า “หญ้าหนูเค่อ” (鼠壳草 หรือ 鼠曲草) ซึ่งพบในท้องถิ่น สมุนไพรชนิดนี้ให้สีเขียวเข้มตามธรรมชาติและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แป้งข้าวเหนียวที่ผสมสมุนไพรจะถูกนวดกับน้ำและน้ำมันถั่วลิสงเล็กน้อยจนได้แป้งโมจิเนื้อเนียนสำหรับทำตัวขนม
ส่วนไส้ขนมจะถั่วดำกวนเนื้อเนียน เมื่อได้ส่วนผสมทั้งแป้งและไส้แล้ว จะนำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ กดแผ่ให้แบน ใส่ไส้ลงตรงกลางแล้วหุ้มปิดเป็นทรงกลมแป้นคล้ายลูกปิงปอง จากนั้นนำไปกดด้วยแม่พิมพ์ไม้ เพื่อให้เป็นลวดลายดอกไม้หรือรูปต่างๆ ตามแบบฉบับดั้งเดิม รองด้วยแผ่นฟองเต้าหู้บาง ๆ (腐膜) เพื่อไม่ให้ติดภาชนะ แล้วนำไปนึ่งจนสุก หลังนึ่งเสร็จนิยมวางพักให้เย็นและเซ็ตตัวก่อน
ร้านแนะนำ:老潮兴粿品(Laochaoxing Guo Shop)
📍 ที่อยู่ : No. 19 Dongmen Street, Rongcheng District
🕖 เวลาทำการ : 07:00 - 21:00 น.
ร้านขนมพื้นเมืองชื่อดังของชาวแต้จิ๋ว ที่สืบทอดการทำขนมมาตั้งแต่บรรพบุรุษยาวนานถึง 4 รุ่น ที่เด็ดของร้าน Laochaoxing Guo Shop จะเป็นเมนูอื่นไปไม่ได้ นอกจากขนมปิงปั้ง ที่มีรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อกัดลงไปจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มหนึบของแป้งด้านนอก ตัดกับไส้ด้านในที่หวานกำลังพอดี เคี้ยวเพลินแบบสุด ๆ อีกทั้งยังหอมกลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้หลายคนติดใจ
9.ขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่น(Chenshun Chrysanthemum Cake)

ขนมชั้นนุ่มหอมดอกเก๊กฮวย สูตรราชสำนักชิง ขนมพื้นเมืองชื่อดังของเมืองเจียหยาง ที่มีมีประวัติยาวนานกว่า 160 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1862 ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย และน้ำผึ้งดอกเก๊กฮวย ทำให้ขนมนี้มีจุดเด่น คือ สีขาวนวล เนื้อเนียน มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกเก๊กฮวย เนื้อขนมนุ่ม แต่หนึบเล็กน้อยเมื่อกัด และใช้แม่พิมพ์ไม้แกะสลักลวดลายดอกเก๊กฮวย ทำให้ขนมมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม
ขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลไหว้พระจันทร์ รวมทั้งนิยมใช้ในงานแต่งงานอีกด้วย
ร้านแนะนำ:成顺香记糖果铺 (Cheng Shun Xiang Ji Candy Shop)
📍 ที่อยู่ : 317 Fuyang Road, Jiedong District, Jieyang City, Guangdong Province
ใครอยากหาซื้อขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่น ต้องร้านนี้เลย “Cheng Shun Xiang Ji Candy Shop” ร้านดังมีชื่อเสียงในด้านการผลิตขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่น การันตีด้วยยอดขายในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ สูงถึงวันละ 1,000 กิโลกรัม จุดเด่นของร้านนี้คือเนื้อสัมผัสของขนมที่มีความนุ่มและกรอบนอก มีรสชาติหวานกำลังดี
10.ขนมถั่วงาผู่หนิง(Puning Peanut Candy)

เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจต้องเมนูนี้ ขนมถั่วงาผู่หนิง หนึ่งในขนมพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองผู่หนิง (Puning) มีลักษณะเป็นถั่วลิสงเคลือบด้วยน้ำตาล โดยจะนำน้ำตาลทรายและน้ำเปล่าตั้งไฟจนเดือด จากนั้นใส่ถั่วลิสงดิบคุณภาพดี ที่ล้างและสะเด็ดน้ำให้แห้งลงไป เคล้าให้ส่วนผสมเคลือบทั่วถึงทุกเม็ด จากนั้นนำถั่วลิสงที่เคลือบน้ำตาลแล้วไปอบหรือผึ่งจนแห้งและกรอบ
ขนมชนิดนี้จะให้รสชาติหวาน มัน และสัมผัสกรุบกรอบ แต่ไม่ติดฟัน เพราะกรรมวิธีพิเศษในการทำ ทำให้น้ำตาลที่เคลือบไม่เหนียวจนติดฟัน ใครได้ลองรับรองติดใจ
ร้านแนะนำ:乾利三毛糖果店 (Qian Li San Mao Candy Store)
📍 ที่อยู่ : No. 63, Middle Section of Hanhua Avenue, Pao Tai Town, Rongcheng District, Jieyang City
ร้านเก่าแก่ ที่สืบทอดสูตรลับมายาวนานกว่าหนึ่งร้อยปี โดยได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพและรสชาติขนมที่ยอดเยี่ยม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ร้าน Qian Li San Mao Candy Store จึงอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงปัจจุบัน แอบกระซิบบอกไว้ก่อนว่า ขนมร้านนี้มีจำนวนจำกัด ถ้าไปแล้วอยากลองกินจริง ๆ แนะนำให้ไปเร็วหน่อยนะ ไม่งั้นอดไม่รู้ด้วย
ปักหมุด 3 ร้าน อาหารเจียหยาง ที่ต้องลอง
ถ้าพูดถึงเมืองในจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินแบบสุด ๆ ชนิดที่แค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นหอมลอยมาเตะจมูก เจียหยาง ต้องติดอันดับในลิสต์แน่นอน! แต่หลายคนก็น่าจะประสบปัญหาเดียวกัน คือเลือกร้านไม่ถูก ยิ่งเยอะยิ่งเลือกยากเข้าไปใหญ่ ถ้าคุณเจอปัญหาเดียวกัน และไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ไม่เป็นไร! เรามี 3 ร้าน อาหารเจียหยาง ที่คัดมาแล้วว่า “ต้องลอง” มานำเสนอ บอกเลยว่าเด็ดจริง
ร้านอาหาร#1 Chu Sheng'eguo Tiaotang (雅竹轩冬瓜盅火锅(临江北路店)

ใครอยากเปิดประสบการณ์กินห่านครั้งแรก ขอแนะนำว่าต้องมาร้านนี้ Chu Sheng'eguo Tiaotang ร้านก๋วยเตี๋ยวห่านขึ้นชื่อของเจียหยาง ห่านของร้านนี้ไม่เหม็นสาบ ตุ๋นด้วยเครื่องสมุนไพรจนได้ที่ เนื้อนุ่ม ไม่แห้ง
นอกจากส่วนเนื้อยังมี เครื่องในห่าน ได้แก่ ไส้ห่าน ไตห่าน และตับห่าน ไส้ห่านจะมีความกรอบและมีความเหนียวเล็กน้อย ในขณะที่ตับมีความนุ่มละลายในปาก และยังมีลูกชิ้นเนื้อห่านทำมือ เนื้อเด้ง หนึบ กินคู่กับน้ำซุปใส ๆ รสชาติหวาน กล่อมกล่อม และเส้นก่วยเตี๋ยวที่เป็นเส้นเล็กทำมือ ซึ่งมีความพิเศษไม่เหมือนที่ไหน โดยตัวเส้นจะมีความบาง และเหนียวนุ่ม
เมนูอาหารที่แนะนำ ก๋วยเตี๋ยวห่าน, ไส้ห่านลวกราดซีอิ๊วขาวและน้ำมันกระเทียม, เนื้อและเครื่องในห่าน
📍 ที่อยู่ : Linjiang N Rd, Rongcheng District, Jieyang, Guangdong Province, China
🕖 เวลาทำการ : เปิดบริการทั้งวัน
จองที่พักที่ใกล้ร้านอาหาร Chu Sheng'eguo Tiaotang
ร้านอาหาร #2 Luji Beef (卢记牛肉店)


หากพูดถึง อาหารเจียหยาง หม้อไฟเนื้อ เป็นอีกเมนูที่ห้ามพลาด และต้องไปกินที่ร้านนี้เท่านั้น Luji Beef ร้านเก่าแก่การันตีโดยคนท้องถิ่นว่าเป็นตัวแม่หม้อไฟเนื้อ แม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ ไม่หรูหรา แต่บอกเลยว่าคุณภาพของเนื้อกลับดีเกินคาด โดยเนื้อของร้าน Luji Beef มีความพิเศษและอร่อยกว่าปกติตรงที่การให้ความสำคัญกับความสดของเนื้อวัว หลังจากที่วัวถูกฆ่าแล้ว จำเป็นต้องแยกชิ้นส่วนเนื้อโดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของกรดแลคติก โดยปกติจะควบคุมเวลาให้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง และอย่างช้าที่สุดไม่เกิน 6 ชั่วโมง เนื้อก็จะถูกหั่นออกเป็นส่วนต่าง ๆ เนื้อที่ได้จึงมีความสด หวาน ไม่เหนียว และไม่มีกินสาบ
โดยส่วนที่ลูกค้านิยมสั่งคือ ส่วนสันคอ เป็นส่วนเนื้อที่อยู่ระหว่างหลังและคอของวัว ซึ่งมีเนื้อน้อยที่สุดและยังเป็นหนึ่งในส่วนที่ขายหมดเร็วที่สุดอีกด้วย ส่วนนี้จะมีไขมันแทรกอยู่หนาแน่น มีความนุ่มหนึบ เรียกได้ว่าเป็นเนื้อวัวที่อร่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ และอีกส่วนที่อร่อยไม่แพ้กันคือ เนื้อที่อยู่บริเวณหลังของวัว ส่วนนี้จะมีปริมาณไขมันและเนื้อสมดุลกัน มีความนุ่มเป็นพิเศษ โดยร้านจะหั่นหนา ซึ่งจะให้รสสัมผัสที่ดีกว่าหั่นบาง
นอกจากเนื้อดี ซุปก็ดีไม่แพ้กัน โดยเป็นน้ำซุปใส ใส่ลูกชิ้นเนื้อ เครื่องในวัว ข้าวโพดและมะระขี้นกหั่นเป็นชิ้นลอย แม้จะใสแต่รสชาติไม่จืดชืดอย่างที่คิด แถมยังช่วยชูรสเนื้อวัวได้เป็นอย่างดี เวลากินจะลวกเนื้อวัวประมาณ 6-10 วินาทีเท่านั้น เพื่อให้เนื้อยังคงความสด และนุ่ม ไม่แห้งเกินไป จิ้มลงในซอสสูตรเฉพาะเข้ากันแบบสุด ๆ
เมนูอาหารที่แนะนำ หม้อไฟเนื้อ ส่วนเนื้อสันคอ และเนื้อส่วนหลัง
📍 ที่อยู่ : Rongcheng District, Jieyang, Guangdong Province, China
🕖 เวลาทำการ : 11:00 - 23:00 น.
จองที่พักที่ใกล้ร้านอาหาร Luji Beef
ร้านอาหาร #3 Dongxing Shengyuzhou (东兴生鱼粥)

ที่มารูปภาพ : perak.chinapress
กินเยอะจนพุงกาง อยากกินอะไรย่อยง่าย ๆ แนะนำร้านนี้ Dongxing Shengyuzhou ร้านโจ๊กหม้อดิน ถ้าเขาไม่เด็ดจริงก็คงไม่ขายแค่เมนูเดียว ร้านโจ๊กที่ดูเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะร้านนี้จะใช้หม้อดินเผาก้นลึกในการต้มโจ๊ก ซึ่งจะใช้ข้าวสารดิบต้มด้วยไฟแรง คนตลอดเวลาจนข้าวเละได้ที่ วิธีนี้จะทำให้ได้ข้าวเหนียวนุ่ม
หลังจากนั้นจะใส่วัตถุดิบที่เป็นของสด เช่น ปลา หรือกุ้งสดๆ ลงในหม้อ จะปิดไฟทันที ความร้อนที่เหลืออยู่จะทำให้ของสดที่ใส่ลงไปสุกพอดี โดยยังคงความนุ่มและความหวานไว้ได้
อีกหนึ่งที่เด็ดที่ทำให้โจ๊กร้าน Dongxing Shengyuzhou มีความพิเศษ คือ วัตถุดิบที่สดใหม่ อย่างปลาที่ใช้ จะใช้ปลาเป็น ๆ ทำถ้วยต่อถ้วย เนื้อปลาที่ได้จึงมีความหวาน และนุ่มเด้ง ไม่เละ
เมนูอาหารที่แนะนำ โจ๊กปลาดิบ, โจ๊กกุ้ง
📍 ที่อยู่ : Wangjiang N Rd, Rongcheng District, Jieyang, Guangdong Province, China
🕖 เวลาทำการ : 09:00 - 14:00 น. , 17:00 - 01:30 น.
จองที่พักที่ใกล้ร้านอาหาร Dongxing Shengyuzhou
มีเคล็ดลับมากระซิบบอก ใครมีแพลนไปตะลุยกินอาหารเจียหยาง อย่าลืมเตรียมเซฟภาพเมนู, ชื่อร้านภาษาจีน และตำแหน่งบนแผนที่ไว้ในมือถือ จะช่วยให้สื่อสารกับคนขับหรือถามทางได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณพูดภาษาจีนไม่ได้ คุณจะได้ไม่พลาดร้านเด็ดที่ซ่อนอยู่ วางแผนให้ดีก่อนไป รับรองว่า “ทริปกิน” ในเจียหยางจะลื่นไหลและอร่อยไม่มีสะดุดแน่นอน!
ไปเจียหยางทั้งที จะกินแค่ในห้างก็ใช่เรื่อง! การเที่ยวกินที่นี่สนุกตรงที่คุณสามารถ “สุ่มกิน” ได้เกือบทุกมุมเมือง ร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ติดถนน หรือแผงลอยที่ดูธรรมดา อาจเสิร์ฟ อาหารเจียหยาง ที่คุณจำไม่รู้ลืม
หากคุณยังไม่เคยไปเจียหยาง ถือว่าคุณยังไม่เคยกินอาหารจีนแบบถึงราก! เมืองนี้อาจไม่ได้อยู่ในไกด์บุ๊คเล่มหนา แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้ลองมาสักครั้ง จะต้องเผลอจองตั๋วกลับมาอีกแน่นอน อาหารเจียหยางไม่ใช่แค่ของกิน แต่มันคือ “เรื่องเล่า” ที่กินได้ ตั้งแต่กุ้งดองแซ่บๆ ที่กินเคียงกับข้าวต้มขาวร้อน ๆ เต้าหู้ทอดที่กรอบนอกนุ่มใน ไปจนถึงขาหมูตุ๋นที่ตุ๋นกันข้ามวัน หลายเมนูอาหารเจียหยางเป็นสูตรโบราณที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ แม้จะไม่ใช่เมนูหรูหรา แต่ได้ลองกินแล้วน้ำตาจิไหล!
เจียหยางคือเมืองเล็ก ๆ ที่รวมรสชาติที่แตกต่างไว้ในทุกจาน และยิ่งได้แวะร้านดังท้องถิ่นที่เราแนะนำ รับรองเลยว่าทริปของคุณจะไม่ใช่แค่ “เที่ยว” แต่เป็นการ “ชิมวัฒนธรรม” ที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน ถ้าคุณคือสายกิน สายอินวัฒนธรรม หรือแค่คนที่อยากเจอรสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร เจียหยางรอคุณอยู่
เตรียมพุงให้ว่าง ท้องให้พร้อม แล้วปล่อยให้ลิ้นพาคุณเดินทางไปกิน อาหารเจียหยาง เมืองเล็กที่รสชาติใหญ่กว่าคำว่าอร่อย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ อาหารเจียหยาง
อาหารเจียหยาง ต่างจากอาหารจีนภาคอื่นอย่างไร?
อาหารเจียหยาง ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมแต้จิ๋ว (潮汕) ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะในเรื่อง “ความละเมียดละไม” เช่น ใช้ไฟอ่อนในการตุ๋น รสชาตินุ่มนวล ไม่เน้นเผ็ดจัดหรือมันเยิ้มแบบเสฉวน จุดเด่นอีกอย่างคือการให้ความสำคัญกับ “รสธรรมชาติของวัตถุดิบ” เช่น ปลาสด หอย กุ้ง ที่นำมานึ่งหรือหมัก ปรุงรสอ่อน ๆ เพื่อรักษารสเดิมไว้ให้ได้มากที่สุดคนท้องถิ่นเจียหยางนิยมกินอะไรกันในมื้อเช้า?
อาหารเช้ายอดนิยมในเจียหยางคือ "ข้าวต้มขาว (白粥)" เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงหลายแบบ เช่น ไข่เยี่ยวม้า เต้าหู้ยี้ หมูเค็ม และที่ขาดไม่ได้คือ “ซีฟู้ดดองแบบดิบ” อย่างกุ้งดองหรือหอยดอง เพราะเชื่อกันว่า รสเข้มข้นของของดองจะเพิ่มรสชาติให้กับข้าวต้มที่มีรสจืดได้พอดีเมนูเจียหยางที่ดูธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาคืออะไร?
“ข้าวขาหมูหลงเจียง (隆江猪脚饭)” ดูเหมือนจะเป็นแค่ขาหมูธรรมดา แต่ในความจริงแล้วเป็นขาหมูที่ตุ๋นในซีอิ๊วดำและสมุนไพรจีนหลายชนิดข้ามคืน ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น เนื้อนุ่มละลายในปาก ราดด้วยน้ำซุปเข้มข้น จานนี้จึงกลายเป็นเมนูโปรดของคนท้องถิ่นอาหารเจียหยาง มีแบบมังสวิรัติหรือเจไหม?
เจียหยางมีอาหารเจหลากหลายแบบ เช่น ขนมปิงปั้ง (乒乓粿) ที่ไส้ทำจากถั่วและงา หรือชาโขลกเจียซี (擂茶) ซึ่งเป็นชาสมุนไพรบดกับถั่วและข้าว เป็นเมนูที่ทั้งอิ่มท้องและดีต่อสุขภาพ ส่วนในร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีข้าวผัดเจ เต้าหู้ตุ๋น และเมนูผักแบบแต้จิ๋วเสิร์ฟด้วยเช่นกันเวลาไปเที่ยว ควรซื้อของกินอะไรกลับมาเป็นของฝากจากเจียหยาง?
ขนมพื้นเมืองอย่าง เผือกเคลือบน้ำตาล (反沙芋头) หรือ ขนมเก๊กฮวยเฉิงชุ่น (菊花糕) เป็นของฝากยอดนิยม เพราะเก็บไว้ได้นาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น หรือจะเป็น ขนมถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล (普宁南糖) ที่หอมหวาน กรอบ ไม่เหนียวติดฟัน ก็เป็นตัวเลือกที่ดี โดยแพ็คเกจส่วนมากจะสะดวกต่อการพกพาต้องระวังอะไรบ้างเมื่อจะลองกิน “ทะเลดอง” แบบแต้จิ๋วในเจียหยาง?
อาหารดองดิบ เช่น กุ้งดอง ปูดอง หอยนางรมดอง เป็นของขึ้นชื่อในแถบนี้ แต่ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือใช้ของสดใหม่จริง ๆ และมีการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม หากเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยลองมาก่อน ควรกินในที่ปริมาณน้อย และควรหลีกเลี่ยงหากมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร หรือไม่มั่นใจในความสะอาดของวัตถุดิบจะดีที่สุด


