อัปเดตครบ! สนามบินโฮจิมินห์ (เตินเซินเญิ้ต) รีวิวเจาะลึก พร้อมวิธีเดินทางและข้อมูลที่นักเดินทางต้องรู้

สนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า สนามบินโฮจิมินห์ ถือเป็นจุดหมายปลายทางทางอากาศที่คึกคักที่สุดของเวียดนามตอนใต้ และเป็นประตูสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการเข้าสู่เมืองหลวงทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อย่างนครโฮจิมินห์ ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สนามบินแห่งนี้ได้พัฒนาขยายพื้นที่และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งอาคารผู้โดยสารใหม่ เทคโนโลยีไร้สัมผัส ไปจนถึงร้านอาหารและโรงแรมรอบข้าง Trip.com จะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกข้อมูลล่าสุดของสนามบินแห่งนี้แบบครบทุกมิติทุกอย่างในที่เดียว ไม่ซ้ำใคร

ทำความรู้จักกับสนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport)

หากกำลังวางแผนเดินทางไปยังเวียดนามตอนใต้ สนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) หรือที่คนไทยหลายคนเรียกกันว่าสนามบินโฮจิมินห์ หรือสนามบินไซง่อน คือจุดเริ่มต้นที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของนครโฮจิมินห์อย่างแท้จริง สนามบินแห่งนี้ถือเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวียดนาม และเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศในภาคใต้ที่สำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการคมนาคม

สนามบินเตินเซินเญิ้ตตั้งอยู่ในเขตตันบินห์ (Tan Binh District) ห่างจากใจกลางเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 6 - 7 กิโลเมตร การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองใช้เวลาเพียง 20 - 30 นาทีโดยรถยนต์ ซึ่งสะดวกอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าสู่เมืองทันทีหลังจากลงเครื่อง สนามบินมีการพัฒนาและขยายศักยภาพครั้งใหญ่เพื่อรองรับผู้โดยสารจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาในแต่ละวัน

ในเดือนเมษายน ปี 2025 ที่ผ่านมา สนามบินเตินเซินเญิ้ตได้เปิดใช้อาคารผู้โดยสารใหม่ล่าสุดคือ Terminal 3 (T3) ซึ่งออกแบบมาอย่างทันสมัย พร้อมระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร โดยรองรับผู้โดยสารภายในประเทศได้มากถึง 20 ล้านคนต่อปี อาคาร T3 มีหลังคาโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดประจำชาติเวียดนาม อ่าวหญ่าย (Ao Dai) และมีการใช้แสงธรรมชาติภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บรรยากาศดูโปร่งสบาย

ปัจจุบันสนามบินแบ่งออกเป็น 3 อาคารหลัก ได้แก่

- Terminal 1 (T1) ใช้สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินบางแห่ง เช่น Vietjet Air, Bamboo Airways, และ Pacific Airlines

- Terminal 2 (T2) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Duty Free, Lounge, ร้านอาหาร

- Terminal 3 (T3) ซึ่งเป็นอาคารใหม่ล่าสุดของปี 2025 ใช้รองรับผู้โดยสารภายในประเทศของสายการบินหลักอย่าง Vietnam Airlines

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในปีนี้คือการทดลองใช้ระบบตรวจสอบใบหน้าด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition โดยผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนผ่านแอป VNeID เพื่อใช้ผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและเข้า Gate ได้สะดวกยิ่งขึ้น ลดเวลารอจาก 30 - 45 นาที เหลือเพียง 10 - 15 นาที ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้สนามบินแห่งนี้มีความทันสมัยไม่แพ้สนามบินชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน

อาคารผู้โดยสารของสนามบินเตินเซินเญิ้ต

สนามบินโฮจิมินห์หรือสนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศที่สำคัญที่สุดในภาคใต้ของเวียดนาม โดยมีผู้โดยสารหมุนเวียนหลายสิบล้านคนต่อปี สนามบินได้มีการปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่ เพื่อให้รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการเปิดตัวอาคาร Terminal 3 ที่ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย ปัจจุบันสนามบินเตินเซินเญิ้ตมีอาคารผู้โดยสารทั้งหมด 3 อาคารหลัก แบ่งการใช้งานตามประเภทเที่ยวบินและสายการบิน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสะดวกสูงสุดสำหรับผู้โดยสาร ดังนี้

Terminal 1 (T1)

อาคาร T1 เป็นอาคารผู้โดยสารดั้งเดิมของสนามบิน ใช้รองรับเที่ยวบินภายในประเทศเป็นหลัก ปัจจุบันยังคงให้บริการสำหรับสายการบิน Vietjet Air, Bamboo Airways, Pacific Airlines และ VASCO โดยจะเห็นได้ว่าโถงผู้โดยสาร T1 มีลักษณะกะทัดรัด ใช้งานง่าย แต่บางช่วงเวลาจะค่อนข้างแออัด เนื่องจากจำนวนนักเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ถึงแม้อาคารนี้จะมีอายุการใช้งานมากกว่า 15 ปี แต่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่เพียงพอ เช่น จุดเช็คอิน ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ห้องน้ำสะอาด และจุดรับกระเป๋าที่จัดการอย่างเป็นระบบ

Terminal 2 (T2)

อาคาร T2 เปิดใช้งานเมื่อปี 2007 ใช้รองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเส้นทาง โดยมีสายการบินต่างชาติ เช่น Thai Airways, Singapore Airlines, Korean Air, Qatar Airways และ China Southern ใช้บริการอยู่เป็นประจำ ตัวอาคารมีขนาดใหญ่กว่า T1 และมีการออกแบบให้รองรับปริมาณผู้โดยสารในระดับนานาชาติ

ภายในอาคาร T2 มีร้านปลอดภาษี (Duty-Free), ร้านขายของที่ระลึก, ร้านอาหาร, ห้องรับรองพิเศษ (Lounge), ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และจุดแลกเงินที่ตั้งอยู่ในจุดต่างๆ อย่างทั่วถึง มีการแบ่งเขตการตรวจคนเข้าเมืองและโถงรับกระเป๋าออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น

Terminal 3 (T3)

สนามบินเตินเซินเญิ้ตได้เปิดใช้งานอาคาร T3 อย่างเป็นทางการ โดยเน้นบริการผู้โดยสารภายในประเทศของสายการบิน Vietnam Airlines เป็นหลัก ตัวอาคารมีดีไซน์ล้ำสมัย ใช้หลังคาทรงโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเวียดนาม มีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 110,000 ตารางเมตร พร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบเช็คอินอัตโนมัติ Kiosk, กระเป๋าโหลดด้วยตัวเอง (Self Baggage Drop) และระบบตรวจสอบใบหน้าผ่านแอป VNeID

T3 ยังรองรับการจอดเครื่องบินได้มากขึ้น เพิ่ม Gate สำหรับขึ้นเครื่อง และมีพื้นที่ Duty-Free ร้านอาหาร ห้องพักรับรอง และศูนย์บริการครบครัน เสริมประสบการณ์เดินทางให้ราบรื่นและสบายยิ่งขึ้น

ห้องพักผ่อนสนามบินเตินเซินเญิ้ต

ในสนามบินที่มีผู้โดยสารเข้าออกหลายล้านคนต่อปีอย่างสนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) การมีห้องพักผ่อนหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเลานจ์ (Lounge) คือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้บริการด้านการบิน เพราะพื้นที่เงียบสงบเหล่านี้คือจุดหลบมุมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนหรือหลังเที่ยวบิน โดยเฉพาะผู้ที่มีเวลารอเครื่องนาน หรือเดินทางข้ามประเทศไกลๆ ที่ต้องการพื้นที่ปลอดจากความวุ่นวาย

ประเภทห้องพักผ่อนที่มีให้บริการ

สนามบินแห่งนี้มีห้องพักผ่อนหลัก ๆ อยู่ใน Terminal 2 (เที่ยวบินระหว่างประเทศ) และ Terminal 3 (เที่ยวบินภายในประเทศ) โดยสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้

ห้องพักผ่อนของสายการบิน (Airline Lounge)

สายการบินอย่าง Vietnam Airlines, Singapore Airlines และ Qatar Airways ต่างมีห้องพักผ่อนเฉพาะของตนที่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจสามารถเข้าใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ห้องพักเหล่านี้มักมีบริการอาหารร้อน/เย็น เครื่องดื่ม ห้องอาบน้ำ Wi-Fi ความเร็วสูง และโซฟานุ่มสบายสำหรับการนั่งพักหรือทำงานระหว่างรอเที่ยวบิน

ห้องพักผ่อนแบบชำระเงิน (Paid Lounge)

สำหรับผู้โดยสารทั่วไปที่ไม่ได้เดินทางในชั้นธุรกิจ สนามบินเตินเซินเญิ้ตก็มีตัวเลือกมากมายให้เช่าใช้ห้องพักผ่อนแบบจ่ายครั้งเดียว โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 350,000 - 600,000 ดอง (ประมาณ 500 - 900 บาท) ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใช้งานและประเภทบริการที่เลือก เช่น Saigon Lounge, Le Saigonnais Lounge หรือ Orchid Lounge ซึ่งสามารถเข้าใช้ได้ทั้งแบบ Walk-in และจองล่วงหน้าผ่านแอปหรือเว็บไซต์

ห้องพักผ่อนในโรงแรมสนามบิน

สำหรับผู้โดยสารที่มีเวลารอต่อเครื่องนานกว่า 6 ชั่วโมง สามารถเลือกเช่าห้องพักในโรงแรมที่อยู่ภายในหรือใกล้สนามบินได้ เช่น Ibis Airport Hotel หรือ The Airport Hotel ซึ่งให้บริการห้องพักพร้อมเตียงนุ่ม Wi-Fi ห้องน้ำส่วนตัว และบริการรับ-ส่งถึงประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสาร

ร้านค้าปลอดภาษีและร้านขายของที่ระลึกในสนามบินเตินเซินเญิ้ต

สนามบินโฮจิมินห์ หรือสนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์กลางการเดินทางของเวียดนามตอนใต้ แต่ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักช้อปที่ต้องการของฝาก ของที่ระลึก และสินค้าปลอดภาษีคุณภาพดีไว้ติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย ที่อาคารผู้โดยสารมีการปรับปรุงและขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งใน Terminal 2 และ Terminal 3 ทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งก่อนขึ้นเครื่องสะดวกและเพลิดเพลินกว่าที่เคย

โซนร้านค้าปลอดภาษี (Duty-Free Zone)

โซน Duty-Free ที่สนามบินเตินเซินเญิ้ต ตั้งอยู่ในอาคาร Terminal 2 ซึ่งให้บริการเฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว โดยมีแบรนด์ชั้นนำมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น

- เครื่องสำอางและน้ำหอม : Lancôme, Estée Lauder, Dior, Shiseido

- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : Hennessy, Chivas Regal, Glenfiddich

- บุหรี่และซิการ์ : Marlboro, Davidoff, Cohiba

- ช็อกโกแลตและขนม : Ferrero Rocher, Lindt, Toblerone

ร้านของที่ระลึกท้องถิ่น

นอกจากแบรนด์อินเตอร์แล้ว สนามบินเตินเซินเญิ้ตยังมีร้านขายของที่ระลึกท้องถิ่นซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เช่น

- ผ้าพันคอไหมลายเวียดนาม

- ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ เช่น ตะกร้า ถ้วยชา

- กาแฟเวียดนามคั่วบด เช่น Trung Nguyen, Highlands

- ขนมพื้นเมืองเวียดนาม อย่างเช่น ขนมถั่วเขียว ขนมถั่วลิสง และขนมเปี๊ยะโบราณ

- เครื่องเซรามิกจากหมู่บ้าน Bát Tràng ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นดินเผา

ร้านค้าภายในอาคาร T3

อาคาร Terminal 3 ได้เปิดตัวโซนค้าปลีกแบบใหม่ที่เน้นความร่วมสมัยและสะดวกสบาย โดยมีร้านค้าแบรนด์เวียดนามร่วมกับร้านขนาดกลางที่ขายสินค้าแฟชั่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเครื่องดื่มแบบ Grab & Go ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศก็สามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้ไม่แพ้ผู้โดยสารระหว่างประเทศ

ร้านกาแฟและร้านอาหารในสนามบินเตินเซินเญิ้ต

จากร้านอาหารเวียดนามต้นตำรับไปจนถึงแบรนด์กาแฟสากล สนามบินแห่งนี้จัดสรรพื้นที่สำหรับการอิ่มก่อนบินอย่างแท้จริง โดยมีทั้งเมนูข้าวร้อนๆ ก๋วยเตี๋ยวแบบท้องถิ่น ขนมเวียดนามโบราณ และกาแฟเวียดนามเข้มข้นที่เสิร์ฟพร้อมวิวรันเวย์

โซนร้านอาหารใน Terminal 2

อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (T2) มีร้านอาหารที่ครอบคลุมทั้งเมนูตะวันตกและเอเชีย ตั้งแต่ร้านอาหารแบบ Quick Service ไปจนถึงร้านที่มีบริการแบบนั่งทาน (Dine-in) บางร้านที่ได้รับความนิยม ได้แก่

- Big Bowl ร้านก๋วยเตี๋ยวเฝอในสนามบินที่ขึ้นชื่อว่ารสชาติดีไม่แพ้ร้านในเมือง เสิร์ฟเร็ว ปรุงสดทุกชาม

- Star Cafe ร้านกาแฟเวียดนามพร้อมขนมเบา ๆ เช่น ครัวซองต์และเค้กไข่

- Burger King และ Popeyes สำหรับคนที่อยากทานอาหารจานด่วนสไตล์อเมริกัน

- Tokyo Deli Express ซูชิและข้าวปั้นแบบ Grab & Go สำหรับสายญี่ปุ่น

- Saigon Kitchen ร้านอาหารเวียดนามแบบ Dine-in เมนูเด่นคือ ข้าวหมูย่าง และขนมจีน

ร้านกาแฟใน Terminal 1 และ Terminal 3

Terminal 1 และ Terminal 3 ซึ่งให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศ ก็ไม่ได้น้อยหน้าเรื่องร้านกาแฟและขนม โดยเฉพาะหลังการเปิดใช้ T3 ในปี 2025 ทำให้มีร้านใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหลากหลาย เช่น

- Highlands Coffee ร้านกาแฟเวียดนามชื่อดังที่มีเมนูเด็ดอย่างกาแฟไข่และกาแฟเย็นใส่นมข้นหวานที่ไม่ควรพลาด

- The Coffee House Airport Edition ร้านกาแฟยอดนิยมของคนเมืองที่มีบรรยากาศทันสมัย พร้อมเมล็ดกาแฟคั่วสด

- Cong Caphe คาเฟ่แนววินเทจสไตล์เวียดนามเหนือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

- Tous Les Jours เบเกอรี่สัญชาติเกาหลีที่มีทั้งขนมปังอบสด เค้ก และกาแฟร้อนกลิ่นหอม

สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษของสนามบินเตินเซินเญิ้ต

สิ่งอำนวยความสะดวกในที่นี่ไม่ได้มีแค่ Wi-Fi หรือเก้าอี้นั่งรอเครื่อง แต่เป็นประสบการณ์ที่ออกแบบมาให้ทุกช่วงเวลาของการเดินทางกลายเป็นเรื่องง่าย สบาย และปลอดภัยมากที่สุด

1. จุดชาร์จไฟ & สถานีชาร์จมือถือทั่วสนามบิน

ทั้งใน Terminal 1, 2 และอาคารใหม่ Terminal 3 ได้ติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าเพิ่มในทุก Gate และโถงพักผู้โดยสาร โดยมีทั้งปลั๊กไฟแบบสากลและพอร์ต USB สำหรับผู้โดยสารที่ใช้สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต สะดวกไม่ต้องหาปลั๊กตามร้านกาแฟอีกต่อไป

2. Free High-Speed Wi-Fi แบบไม่จำกัดเวลา

ในปี 2025 สนามบินเตินเซินเญิ้ตได้อัปเกรดระบบ Wi-Fi ให้มีความเร็วสูงขึ้น รองรับทั้งการประชุมออนไลน์ การสตรีมวิดีโอ หรือการดาวน์โหลดเอกสารด่วน โดยไม่ต้องลงทะเบียนซับซ้อน เพียงยืนยันหมายเลขเที่ยวบินก็เชื่อมต่อได้ทันที

3. ห้องอาบน้ำ & ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการรีเฟรชตัวเองก่อนต่อเที่ยวบิน สนามบินมีห้องอาบน้ำที่สะอาด ทันสมัย และมีของใช้จำเป็นให้ครบ เช่น ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้โดยสารที่มาจากเที่ยวบินยาว หรือมีเวลาต่อเครื่องหลายชั่วโมง

4. Co-Working Space & มุมทำงาน

ในอาคาร T3 ได้จัดโซน Co-Working Space พร้อมโต๊ะทำงาน อินเทอร์เน็ตแรง และพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับโน้ตบุ๊ก โดยไม่ต้องเข้าเลานจ์ เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการความสงบและมีพื้นที่นั่งทำงานก่อนขึ้นเครื่อง

5. บริการ Fast Track & VIP Meet & Greet

สนามบินเตินเซินเญิ้ตมีบริการพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ไม่ต้องการรอคิวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยบริการ Fast Track ช่วยเร่งกระบวนการตรวจหนังสือเดินทางให้เร็วขึ้น ส่วนบริการ Meet & Greet VIP จะมีเจ้าหน้าที่สนามบินมารับคุณตั้งแต่ทางเข้าหรือประตูเครื่องบิน พร้อมช่วยขนสัมภาระและพาเดินทางแบบส่วนตัวถึงรถหรือเลานจ์

6. บริการฝากกระเป๋าและล็อกเกอร์

มีจุดรับฝากกระเป๋าที่ปลอดภัยในราคาย่อมเยา เริ่มต้นเพียง 30,000 ด่ง (ประมาณ 45 บาท) ต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาระหว่างต่อเครื่องนานและอยากออกไปเดินเล่นในเมือง โดยไม่ต้องแบกของหนักติดตัว

7. จุดให้บริการทางการแพทย์และ First Aid

มีศูนย์ปฐมพยาบาลและคลินิกสนามบินที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่บริเวณโถงผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก หากมีเหตุฉุกเฉินหรือไม่สบายระหว่างเดินทาง จะได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว

8. โซนสำหรับครอบครัวและเด็กเล็ก

มีห้องให้นมเด็ก โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม และพื้นที่เล่นสำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะใน Terminal 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารครอบครัวโดยเฉพาะ ช่วยให้เด็กผ่อนคลายก่อนขึ้นเครื่อง

จากสนามบินโฮจิมินห์เข้าเมือง

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่นักเดินทางถามกันเสมอเมื่อมาถึง สนามบินเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat International Airport) คือจะเข้าเมืองอย่างไรดี? เพราะสนามบินนี้ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางโฮจิมินห์ซิตี้ (เขต 1 – District 1) เพียง 6 - 8 กิโลเมตรเท่านั้น แต่เส้นทางเข้าเมืองกลับมีตัวเลือกหลากหลาย ตั้งแต่รถเมล์ รถแท็กซี่ ไปจนถึงแอปเรียกรถ และ Shuttle Bus ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป

เคล็ดลับเลือกวิธีเข้าเมืองให้เหมาะกับคุณ

- ถ้าเดินทางเวลากลางวันและอยากประหยัด : รถเมล์สาย 109 หรือ 152 คือทางเลือกคุ้มค่า ใช้เงินไม่ถึง 15 บาทไทย

- ถ้ามีสัมภาระเยอะหรือมาถึงตอนดึก : แนะนำ แท็กซี่มิเตอร์ หรือ Grab เพราะปลอดภัยและสะดวก

- ถ้าอยากได้ความเร็วและความเป็นส่วนตัว : GrabCar Premium หรือ รถตู้ Shuttle Private ก็ตอบโจทย์

- ถ้าคุณพักที่โรงแรมใหญ่ๆ ในเขต 1 : หลายแห่งมีบริการรถรับ-ส่งจากสนามบินฟรี หรือคิดราคาเหมา สามารถแจ้งล่วงหน้าได้

จุดขึ้นรถแต่ละแบบอยู่ที่ไหนในสนามบิน?

- แท็กซี่และรถแอป Grab/Be : มีจุดจอดอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคาร Terminal 1 และ 2 มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลคิว

- รถบัสสนามบิน (Airport Bus 109 / 49) : จุดจอดอยู่ด้านหน้าทางออกอาคาร Terminal 2 ฝั่งขาเข้า

- รถเมล์ 152 : ต้องเดินไปที่ถนน Trường Sơn (ถนนหน้าสนามบิน) และรอที่ป้ายรถเมล์

- Shuttle เอกชน : มีเคาน์เตอร์จองตั๋วในโถงผู้โดยสารขาเข้า หรือจองผ่านแอปได้

วิธีการเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเตินเซินเญิ้ต

การเปลี่ยนเครื่องจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไข 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

กรณีที่ 1 เปลี่ยนไฟลต์ภายในประเทศ (Domestic to Domestic)

- อาคารที่ใช้งาน Terminal 1

- หากเดินทางด้วยสายการบินเดียว เช่น VietJet หรือ Vietnam Airlines และมีตั๋วแบบเชื่อมต่อ (Connecting Ticket) ระบบจะโอนสัมภาระให้อัตโนมัติ

- ถ้าเป็นตั๋วแยก (แยกจอง) ต้องออกจากเกตผู้โดยสารขาเข้าไปรับกระเป๋า และเช็กอินใหม่ที่เคาน์เตอร์

- เวลาที่ควรเผื่ออย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากเป็นตั๋วเชื่อมต่อ และ 2 ชั่วโมงหากแยกตั๋ว

กรณีที่ 2 เปลี่ยนไฟลต์ระหว่างประเทศ (International to International)

- อาคารที่ใช้งาน Terminal 2

- สายการบิน Full Service เช่น Vietnam Airlines, Singapore Airlines, หรือ Thai Airways มักให้บริการแบบ Transfer Baggage ที่เชื่อมสัมภาระให้อัตโนมัติ

- หากมีบัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ครบแล้ว สามารถเดินตรงไปยังเกตถัดไปได้เลย

- ตรวจสอบที่หน้าจอ Flight Info เพื่อดูเกตไฟลต์ใหม่

- เวลาที่ควรเผื่อ 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง สำหรับความปลอดภัย

กรณีที่ 3 เปลี่ยนจากไฟลต์ระหว่างประเทศเป็นภายในประเทศ (หรือกลับกัน)

- อาคารที่เกี่ยวข้อง T2 (ระหว่างประเทศ) และ T1 (ภายในประเทศ)

- ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) และด่านศุลกากร (Customs)

- หากเป็นตั๋วเชื่อมต่อสัมภาระจะถูกส่งถึงจุดหมายปลายทางสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

- สำหรับตั๋วแยก ต้องรับกระเป๋า > ออกมาจากโถงขาเข้าระหว่างประเทศ > เดินหรือนั่ง Shuttle Bus ไป Terminal 1 > เช็กอินใหม่

- มี Shuttle Bus วิ่งระหว่าง T1 - T2 ทุก 10 - 15 นาที ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

- เวลาที่ควรเผื่ออย่างน้อย 2.5 - 3 ชั่วโมง หากเป็นตั๋วแยก

3 โรงแรมที่ดีที่สุดใกล้สนามบินเตินเซินเญิ้ต

1. Sunrise Airport Hotel

Sunrise Airport Hotel เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้โดยสารที่มาถึงสนามบินโฮจิมินห์ดึกหรือมีไฟลต์เช้า เพราะที่นี่ตั้งอยู่ห่างจาก Terminal ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีโดยแท็กซี่ หรือ Grab

โรงแรมแห่งนี้โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์เรียบง่าย ผสมผสานความเป็นเวียดนามดั้งเดิมกับความทันสมัย ทุกห้องติดตั้งแอร์, ทีวีจอแบน, น้ำร้อน, และ Wi-Fi ความเร็วสูง พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี และยิ้มแย้มต้อนรับแบบอบอุ่น ทำให้แขกหลายคนรู้สึกเหมือนพักอยู่บ้านเพื่อน

ห้องพักมีหลายขนาด ตั้งแต่ห้องเดี่ยวสำหรับนักเดินทางคนเดียว ไปจนถึงห้องแฟมิลี่สำหรับกลุ่ม 3 - 4 คน โดยราคาต่อคืนเริ่มต้นประมาณ 600,000 ดอง (ประมาณ 900 บาทไทย) ซึ่งถือว่าคุ้มมากเมื่อเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้ สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือบริเวณล็อบบี้ที่มีชาและกาแฟให้บริการฟรีตลอดวัน และมีบริการเรียกแท็กซี่ล่วงหน้าได้หากต้องการไปสนามบินตอนเช้าเร็วๆ

2. THANH LONG HOTEL - TRA KHUC

ถ้ากำลังมองหาโรงแรมที่ให้ความเงียบสงบแต่ยังคงใกล้สนามบิน THANH LONG HOTEL - TRA KHUC คือคำตอบที่น่าสนใจมาก โดยตั้งอยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถประมาณ 7 - 10 นาทีเท่านั้น

ที่นี่มีจุดเด่นในเรื่องความสะอาด ความทันสมัย และความเป็นส่วนตัว ห้องพักทุกห้องได้รับการตกแต่งในโทนสีอบอุ่น เน้นความผ่อนคลาย พร้อมโต๊ะทำงาน อินเทอร์เน็ตแรง และเก้าอี้ทำงานที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการส่งงานก่อนขึ้นเครื่อง ด้วยราคาที่เริ่มต้นราว 550,000 ดองต่อคืน (ประมาณ 850 บาท) คุณจะได้รับบริการระดับ 3 ดาว ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง บริการซักรีดเร็ว และที่จอดรถในร่มฟรี

หนึ่งในความพิเศษของที่นี่คือ มุมกาแฟ ชั้นล่างที่มีเครื่องชงกาแฟสด พร้อมเบเกอรี่ท้องถิ่นแบบโฮมเมด และพื้นที่นั่งพักผ่อนเงียบๆ เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวายก่อนหรือหลังไฟลต์ โรงแรมนี้ยังสามารถเดินไปยังร้านอาหารเวียดนามท้องถิ่น และมินิมาร์ตได้สะดวก ใครที่อยากพักใกล้สนามบินแต่ยังอยากสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นเบาๆ ต้องไม่พลาดที่นี่

3. Sunshine Airport Hotel

เป็นที่พักที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนักเดินทางชาวเอเชีย โดยเฉพาะคนไทย เพราะโรงแรมนี้มีพนักงานบางคนที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ดี นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ในทำเลสะดวก เดินทางจากสนามบินเพียง 8 นาที และอยู่ใกล้ร้านอาหารเวียดนามยอดนิยมหลายแห่ง ที่นี่มีห้องพักหลายแบบ ทั้งแบบ Standard, Superior และ VIP ทุกห้องตกแต่งสไตล์เรียบง่ายแต่สะดวกครบครัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง Wi-Fi ฟรี, เครื่องทำน้ำอุ่น, ทีวี, ตู้เย็น และชุดน้ำดื่มบริการฟรี

ห้องพักเริ่มต้นที่ราคาประมาณ 500,000 ดอง (ราว 750 บาท) ต่อคืน ซึ่งเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนระยะสั้น หรือพักต่อไฟลต์ช่วงดึกและเช้ามืด โดยไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป จุดเด่นอีกประการคือมีบริการ รับ - ส่งสนามบิน แบบเหมารวมในราคาเพียง 100,000 ดอง ซึ่งถูกกว่าเรียกแท็กซี่ทั่วไป และมีระบบจองล่วงหน้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมได้ด้วย

Sunshine Airport Hotel อาจไม่ใช่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่ให้ความรู้สึกปลอดภัย สะอาด และอบอุ่น จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเดี่ยว คู่รัก และคนที่ต้องการพักสั้นก่อนบินออกจากเวียดนาม

รายชื่อสายการบินจากประเทศไทยไปยังสนามบินเตินเซินเญิ้ต

ต่อไปนี้คือรายชื่อสายการบินที่ให้บริการเส้นทางจากประเทศไทย (โดยเฉพาะกรุงเทพฯ) ไปยังสนามบินโฮจิมินห์ โดยมีการอัปเดตข้อมูลล่าสุดพร้อมรายละเอียดที่ควรรู้สำหรับผู้โดยสาร

1. Thai Airways (การบินไทย)

- สายการบินแบบ Full-service

- สนามบินต้นทาง สุวรรณภูมิ (BKK)

- วันละ 2 เที่ยวบิน

- บริการครบทุกอย่างทั้งอาหาร เครื่องดื่ม น้ำหนักกระเป๋า 30 กก. และระบบบันเทิงบนเครื่อง

2. Thai VietJet Air

- สายการบินแบบ Low-cost

- สนามบินต้นทาง สุวรรณภูมิ (BKK)

- วันละ 2 - 3 เที่ยวบิน

- ราคาประหยัด โปรแรงเกือบตลอดทั้งปี และสามารถบินเข้าเมืองโฮจิมินห์ได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

3. Thai AirAsia

- สายการบินแบบ Low-cost

- สนามบินต้นทาง ดอนเมือง (DMK)

- วันละ 1–2 เที่ยวบิน

- มีเที่ยวบินช่วงเช้าและเย็นให้เลือก พร้อมระบบจองผ่านแอปที่สะดวกที่สุดในบรรดาสายการบินราคาประหยัด

4. Bangkok Airways

- สายการบินแบบ Full-service

- สนามบินต้นทาง สุวรรณภูมิ (BKK)

- 1 เที่ยวบิน/วัน (เช้า)

- มีห้องรับรองฟรีที่สนามบินสำหรับผู้โดยสารทุกคน และเสิร์ฟอาหารร้อนแม้ในไฟลต์สั้น

5. VietJet Air (ต้นทางเวียดนาม)

- สายการบินแบบ Low-cost

- สนามบินต้นทาง ดอนเมือง (DMK)

- 2 เที่ยวบินต่อวัน

- มีเที่ยวบินราคาดีทั้งจากไทยไปเวียดนาม และในเส้นทางต่อภายในประเทศเวียดนาม ทำให้เหมาะสำหรับคนที่มีแผนเดินทางไปเมืองอื่นต่อ เช่น ดานัง, ญาจาง, ฮานอย

จากการรีโนเวตและการขยายตัวครั้งใหญ่ในปี 2025 สนามบินแห่งนี้กลายเป็นสนามบินที่ทันสมัย สะดวก และเป็นมิตรกับผู้โดยสารมากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวโฮจิมินห์ครั้งแรก หรือเป็นนักธุรกิจที่บินมาทำงานบ่อยๆ สนามบินแห่งนี้มีทุกสิ่งที่ต้องการ ตั้งแต่บริการพื้นฐานไปจนถึงประสบการณ์ระดับพรีเมียม หากเพื่อนๆ วางแผนจะเดินทางสู่เวียดนาม อย่าลืมเตรียมตัวล่วงหน้า ทั้งในเรื่องสายการบิน โรงแรม การเดินทางเข้าเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ได้ฟรี เพราะการรู้ข้อมูลก่อนเดินทางคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ทริปของคุณราบรื่นและคุ้มค่าทุกวินาที