10 จุดกางเต็นท์ ใกล้ชิดธรรมชาติ นอนดูดาวตอนกลางคืน

สายท่องเที่ยวธรรมชาติคงจะคุ้นเคยกับการไปแคมป์ปิ้งกันอยู่แล้ว แต่ช่วงหลังมานี้ กระแสแคมป์ปิ้งนั้นกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ทั้งจะเป็นการเดินป่า หรือ ขับรถเข้าไปหา จุดกลางเต็นท์ดีๆ ที่ใกล้ธรรมชาติ ได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ รวมถึงตอนกลางคืนยังได้นอนดูดาวเพลิน ยิ่งถ้าไปกับแฟน หรือไปกับเพื่อนจะยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ และในหลายๆ ที่ ไม่จำเป็นต้องรอหน้าหนาว ก็สามารถไปกางเต็นท์ได้เช่นกัน มาดูกันดีกว่า ว่ามี จุดกางเต็นท์ ที่ไหนบ้าง ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ แถมยังนอนดูดาวตอนกลางคืนได้อีกด้วย

จุดกางเต็นท์ที่ 1 : บ้านกร่างแคมป์ จ.เพชรบุรี

จุดกางเต็นท์ ใกล้กรุงเทพฯ ที่เรียกว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคนที่ชอบมาส่องสัตว์ ดูธรรมชาติ แถมที่นี่ยังเป็นจุดที่มีผีเสื้อสวยงามหลากหลายสายพันธุ์รวมอยู่ด้วย

บ้านกร่างแคมป์ จะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตั้งอยู่ทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งระหว่างทางก่อนถึงบ้านกร่างแคมป์ จะเป็นวิวป่า มีต้นไม้ที่สวยงามมากมาย ตั้งสูงเหมือนเราขับเข้าอุโมงค์ต้นไม้ ถ้าโชคดี อาจจะได้เจอสัตว์ป่า อย่าง ลิงหรือช้างป่า และเมื่อขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์บ้านกร่างแคมป์ ก็สามารถจับจองพื้นที่กางเต็นท์ได้ตามสะดวกเลย ถ้าอยากชมผีเสื้อจำนวนมาก แนะนำว่า ให้มาในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน จะมีผีเสื้อน้อยใหญ่ออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก ยิ่งถ้ามีแดดแรงๆ จะมีผีเสื้อให้ชมทั้งวันเลย

ในช่วงกลางคืนของที่บ้านกร่างแคมป์ จะมีอากาศเย็นทุกฤดู ไม่ต้องกลัวว่ามากางเต็นท์ดูผีเสื้อในหน้าร้อนแล้วจะนอนไม่ได้ เพราะบางทีอาจจะเย็นจนหนาวสั่นเลย แต่ถ้ามาในหน้าหนาว ก็เตรียมตัวมาให้ดี เพราะที่นี่อากาศเย็นจัดๆ เลย ส่วนใครที่กังวลเรื่องห้องน้ำ ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่มีทั้งห้องน้ำที่เป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำคอยให้บริการ รวมถึงมีร้านค้าสวัสดิการของอุทยานคอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาที่จุดกางเต็นท์นี้ด้วยเช่นกัน

และถ้าใครมากางเต็นท์ที่บ้านกร่างแคมป์ ตอนเช้า อย่าลืมลองขึ้นไปที่เขาพะเนินทุ่ง เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นและดูทะเลหมอก เพราะที่นั่นสวยมากจริงๆ ถ้าอยากขึ้นและรถไม่สามารถนำขึ้นไปได้ แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่อุทยาน เพื่อเช่ารถนั่งขึ้นไปได้เลยค่ะ

พิกัด : https://goo.gl/maps/6Zd85nLFm4ceBJiA8

จุดกางเต็นท์ที่ 2 : เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี

ที่มา : Kapook

ต่อมาที่จุดกางเต็นที่จุดที่ 2 ที่อยากแนะนำก็คือ เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งเป็นเขาที่ขึ้นต่อมาจากบ้านกร่างแคมป์ โดยที่นี่จะจำกัดรถขึ้นด้านบน จะต้องเป็นรถที่เป็นรถแบบ 4WD ขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน ถ้าเกิดเป็นรถเก๋งธรรมดาอาจจะขึ้นไม่ไหว แต่ไม่ต้องกลัว เพราะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านล่างมีรถรับจ้างพาขึ้นไปด้านบนเช่นกัน

โดยที่เขาพะเนินทุ่ง จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเป็นรอบๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถลง และขับรถขึ้น เนื่องจากว่า เส้นทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง นอกจากจะมีความชันแล้ว ยังมีความแคบแบบรถสวนกันลำบากมากๆ ทำให้ต้องจำกัดรอบในการขึ้นดังนี้

• เวลาขาขึ้น 05.30 - 07.30 น. และ 13.00 - 15.00 น.
• เวลาขาลง 09.00 - 10.00 น. และ 16.00 - 17.00 น.

แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปจุดกางเต็นท์นี้ และได้ที่กางเต็นท์ดีๆ ถ้าไม่ขึ้นในช่วงเช้า ก็ขึ้นช่วงประมาณบ่ายโมงเลย จะดีที่สุด เพราะที่เขาพะเนินทุ่งเป็นจุดกางเต็นท์ยอดฮิตที่มาทีไรก็เจอนักท่องเที่ยวกางเต็นท์กันเต็มลานอยู่แล้ว ใครที่เอาเต็นท์มาเองก็อาจจะต้องรีบมาจับจองพื้นที่ แต่ถ้าใครไม่ได้นำเต็นท์มา ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอเช่าเต็นท์ที่อุทยานได้เช่นกัน

และอีกอย่าง ที่เขาพะเนินทุ่ง จะได้เจอกับสัตว์และนกมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะนกเงือก ที่จะออกมาทักทายนักท่องเที่ยวทุกวัน และเม่นที่จะออกมาหากินทุกคืน เจ้าหน้าที่จะแนะนำว่า ในตอนกลางคืนถ้าเกิดมีอาหาร ให้เก็บเข้ากล่องหรือเต็นท์ให้หมด เพราะอาจจะมีหมีโผล่มาคุ้ยอาหารกินได้ด้วยเช่นกัน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sbXwhXukE9PEpALN7

จุดกางเต็นท์ที่ 3 : บ้านสวนคลองมะเดื่อ จ.นครนายก

ที่มา : jaojeud.com

สำหรับสายแคมป์ปิ้งที่อยาก Adventure หน่อยๆ ชอบลุยป่าลุยน้ำ ขอเขยิบมาฝั่งนครนายกอย่าง บ้านสวนคลองมะเดื่อ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่คลองที่ 3 ของคลองมะเดื่อ เป็นอีกที่ที่รถที่ขับเข้าไปจะต้องใช้รถที่ล้อยกสูงหน่อย เพราะจะต้องขับข้ามน้ำไปถึง 3 คลอง ถึงจะถึงจุดกางเต็นท์ โดยที่จุดกางเต็นท์ บ้านสวนคลองมะเดื่อ จะเป็นจุดกางเต็นที่ติดลำธาร จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดทั้งวันทั้งคืน ที่นี่ต้องเสียค่าบริการกางเต็นท์ โดยจะอยู่ที่คนละ 100 บาท/คน/คืน มีห้องน้ำให้บริการทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ

บ้านสวนคลองมะเดื่อ เนื่องจากอยู่คลองที่ 3 คลองสุดท้าย ทำให้อาจจะไม่มีสัญญาน หรือสัญญานอาจจะมาๆ หายๆ นักท่องเที่ยวที่รักความสงบ อยากมา Social Detox จริงๆ ที่นี่เหมาะมาก และตอนกลางคืนก็นอนสบายมากๆ เพราะทั้งอากาศที่เย็นตลอดทั้งปี มีน้ำไหลตลอดเวลา ทำให้ที่นี่สงบและเป็นจุดกางเต็นท์ที่น่ามามากจริงๆ แต่ขอบอกก่อนว่า ที่นี่ยุงเยอะมากจริงๆ เตรียมยากันยุงมากันด้วยนะ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fjc5uMoGX2ejvP6eA

จุดกางเต็นท์ที่ 4 : ริมธาราแคมป์ปิ้ง จ.ราชบุรี

ที่มา : sanook.com

ริมธาราแคมป์ปิ้ง จุดกางเต็นท์ที่คอนเฟิร์มว่าบรรยากาศดีมาก ใกล้กรุงเทพฯ และตั้งอยู่ใจกลางสวนผึ้ง ได้สัมผัสธรรมชาติ เพราะที่ตั้งอยู่ริมลำธาร บรรยากาศรอบๆ ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี นักท่องเที่ยวที่รักความสงบ อยากหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง อยากมาพักชิวๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ที่ริมธาราแคมป์ปิ้งคือเหมาะมาก

โดยการเข้ามากางเต็นท์ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า สามารถ Walk in เข้ามาเลือกพื้นที่กางเต็นท์ได้เลย เพราะที่ริมธาราไม่รับจองพื้นที่ ค่าบริการของที่นี่จะอยู่ที่คนละ 150 บาท/คน/คืน สัญญานโทรศัพท์ก็มีแค่ AIS เท่านั้น และหลัง 22.00 น. ต้องงดใช้เสียงดัง

จุดกางเต็นท์ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำริมธารได้เลย เป็นที่ที่ได้มาพักผ่อนในวันหยุดได้แบบสบายใจ แถมยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7Wdciss5Qk9iDMmm9

จุดกางเต็นท์ที่ 5 : ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่

ดอยหลวงเชียงดาว เป็นจุดกางเต็นที่ไม่ได้เอาใจแค่สายแคมป์ปิ้งเท่านั้น แต่เป็นจุดกางเต็นท์ที่เอาใจสายเดินป่าสุดๆ เนื่องจากว่าเป็นจุดกางเต็นท์ที่จำเป็นจะต้องเดินป่าขึ้นไป โดยที่ดอยหลวงเชียงดาว นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องทำการจองคิวเดินกับทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวก่อน และต้องไปอบรมก่อน 1 วันถึงจะเริ่มเดินป่าได้

โดยวันที่เริ่มเดินจะต้องนั่งรถจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นขึ้นไปที่จุดเริ่มเดินเส้นทางเด่นหญ้าขัด ถ้าโชคดีไปช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอก จะได้เห็นป่าที่สวยมากๆ ตลอดทาง ระยะทางในการเดินไปที่จุดกางเต็นท์ของที่นี่จะใช้ระยะทาง 9 กิโลเมตรกว่าๆ โดย 8.5 กิโลเมตรจะถึงจุดกางเต็นท์ และอีกประมาณ 700 เมตรก็คือยอดดอยหลวง แต่ถ้าได้ขึ้นจะรู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วที่เลือกมาเดินป่าและกางเต็นท์ที่นี่ เนื่องจากวิวทิวทัศน์ด้านบน และธรรมชาติรอบๆ เต็นท์นั้นดีจริงๆ แถมตอนกลางคืนยังหนอนดูดาวในระยะที่ใกล้กว่าจุดกางเต็นท์ไหนๆ อีกด้วย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2GFoRC1Urb147uk86

จุดกางเต็นท์ที่ 6 : ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก ที่เที่ยวสุดฮิตที่เหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนชมภูเขา ชมทะเลหมอกสวยๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้านาว ในปัจจุบันมีที่พักให้เลือกมากมาย แต่ก็ยังมีจุดกางเต็นท์สวยๆ ให้เราจับจองกันอยู่

โดยก็จะมีเป็นพื้นที่ของชาวบ้านแถวนั้นที่มาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกางเต็นท์ โดยที่เราสามารถเลือกได้เลยว่า อยากดูวิวธรรมชาติฝั่งไหน ซึ่งที่ภูทับเบิกในช่วงเช้าจะมีทะเลหมอกที่หนาและสวยงามมากๆ แค่เปิดเต็นท์ออกมา ก็จะเห็นวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์อยู่ตรงหน้า และถ้าไปในช่วงปลายฝนต้นหนาว หมอกจะลงจนเราสัมผัสได้เลย เป็น 1 จุดกางเต็นที่ถ้าใครเป็นสายล่าทะเลหมอก ต้องมากางเต็นท์ที่นี่เลย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/B4EMKBXiMi8wScfe7

จุดกางเต็นท์ที่ 7 : ภูกระดึง จ.เลย

ถ้าอยากพิสูจน์รัก ให้ลองไปเดินภูกระดึง อันนี้ไม่เกินจริง กับอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ไฮไลท์ ที่สายเดินป่าแนะนำว่าครั้งนึงในชีวิตต้องลองไป เพราะไม่ใช่แค่การไปกางเต็นท์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายรออยู่ด้านบนภูกระดึงนั่นเอง

โดยจุดกางเต็นท์บนภูกระดึงจะอยู่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเดินขึ้นไประยะทางทั้งหมดเกือบ 9 กิโลเมตร สามารถพกเต็นท์ไปเองหรือเช่าอุทยานก็ได้ เต็นท์ละ 200 บาท/หลัง แต่ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานทางด้านล่างก่อน แล้วถึงจะได้ใบจองไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ด้านบน เมื่อยื่นแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปยังเต็นท์หลังที่เราจอง

ด้านบนของภูกระดึง นอกจากจะเป็นจุดกางเต็นท์ดีๆ แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งน้ำตก, หน้าผาที่มองลงไปแล้วเห็นวิวป่าเขา และทะเลหมอกสวยๆ ตัดกับพระอาทิตย์ในยามเช้า เป็นอีกที่นึงที่แนะนำว่าต้องลองมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4o87uryXxNiakZt58

จุดกางเต็นท์ที่ 8 : ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ภูหินร่องกล้า แหล่งท่องเที่ยวที่คลอบคลุมพื้นที่ถึง 2 จังหวัด ก็คือ พิษณุโลก และ เลย ที่ภูหินร่องกล้าจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และน้ำตก และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจธรรมชาติต่างๆ ได้

โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปกางเต็นท์ที่จุดกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้เลย จะมีลานที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว โดยค่าบริการพื้นที่กางเต็นท์อยู่ที่คนละ 30 บาท/คืน และถ้าใครไม่ได้นำเต็นท์หรืออุปกรณ์สำหรับการนอนเต็นท์มา เจ้าหน้าที่ก็มีให้เช่าด้วยเช่นกัน ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติและประวัติศาสตร์อยู่มากมาย พอได้มาแล้วจะรู้สึกประทับใจจนอยากกลับมาใหม่อีกครั้งแน่นอน

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/D9h5goU9BuoWGJbQ8

จุดกางเต็นท์ที่ 9 : เขากระโจม จ.ราชบุรี

เขากระโจม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกขาวตะนาวศรี แถมยังมีชื่อเสียงในเรื่องของว่า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ที่สวยและใกล้กรุงเทพฯ ที่สุด แต่เส้นทางที่ขึ้นไปยังเขากระโจมนั้น ทางค่อนข้างลำบากพอสมควร จำเป็นต้องใช้รถที่มีสมรรถนะที่ดีมากๆ ในการขับขึ้นไป แนะนำใครที่เอารถเก๋งหรือรถมอเตอร์ไซค์มา ถ้าขับไปไม่ไหว ด้านล่างตรงทางขึ้นเขากระโจม ก็จะมีรถบริการนำเที่ยวเขากระโจมให้บริการอยู่

ไฮไลท์ของเขากระโจมจะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกๆ ปี เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่จะได้เจอทะเลหมอกมากที่สุด แถมอากาศด้านบนนั้นยังดีและเย็นสุดๆ รอบๆ ของเขากระโจมยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ น้ำตกผาแดง และจุดชมวิวสวยๆ ด้านบนให้เราได้เลือกดูวิวอีกด้วย การเดินทางขึ้นเข้ากระโจม จะมีกำหนดการขึ้นลง ดังนี้

• เวลาขึ้น 04.00 - 07.00 น.
• เวลาลง 07.00 - 09.00 น.

และตั้งแต่เวลา 09.00 - 19.00 น. สามารถขับรถขึ้นลงได้ตามปกติ แต่ในช่วงหน้าฝนอาจจะต้องระวังในเรื่องของดินลื่น หลุม และน้ำขังหน่อยๆ ขับรถก็ต้องระวังกันให้มากๆ เลย

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ws6uRNXfoKziUVpu8

จุดกางเต็นท์ที่ 10 : ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน

ปางอุ๋ง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เพราะมีต้นไม้ที่เป็นต้นอสนลำต้นสูงใหญ่ ล้อมรอบอ่างเก็บน้ำ มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ในช่วงเช้าก็จะมีหมอกมาตลาอดๆ เช่นกัน โดยการกางเต็นที่นี่จำเป็นต้องติดต่อลงทะเบียนผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนก่อนนะ

ถ้ามาที่จุดกางเต็นท์นี้ สิ่งที่เป็นไฮไลท์เด็ดๆ เลยคือช่วงเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงจากพระอาทิตย์ส่องลงมาที่หมอก และสะท้อนกับพื้นน้ำ เป็นวิวที่สวยและโรแมนติกที่สุด ถ้าเกิดนำเต็นท์มากางเอง จะเสียค่ากางเต็นท์อยู่ที่ 100 บาท / หลัง ปางอุ๋งเป็นอีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ที่ขอพูดเลยว่า ครั้งนึงในชีวิต ต้องมาให้ได้

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/xyEbmTZUZtWqVg7x6

และนี่ก็คือ 10 จุดกางเต็นท์ ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติจริงๆ ทั้งป่า ภูเขา น้ำตก ลำธาร รวบรวมมาไว้ให้หมดแล้ว ใครชอบสายไหน ลองเก็บไว้ในลิสต์ได้ และอีกอย่างเดี๋ยวนี้ถ้าเป็นที่กางเต็นท์ของอุทยาน จะมีบริการที่ดีมากๆ และมีเต็นท์ให้เช่าแล้วเกือบทุกที่ ใครที่อยากลองไปจุดกางเต็นท์ หากิจกรรมทำตอนแคมป์ปิ้ง ลองไปตามกันได้เลย