ชวนเที่ยว! วัดทับกระดาน สุพรรณบุรี ไหว้ขอพรแม่พุ่มพวง สักการะพระประธาน พร้อมสำรวจที่เที่ยวรอบวัด

วัดทับกระดานตั้งอยู่ที่ไหน

วัดทับกระดานตั้งอยู่ที่ ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ห่างจากตัวเมืองสุพรรณฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เหมาะมากสำหรับทริป 1 วันจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะใครที่อยากเที่ยวแบบปล่อยใจ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และตามรอยตำนานนักร้องขวัญใจมหาชน

จุดเด่นของวัดนี้ไม่ได้อยู่แค่ความเป็นวัดในชนบทที่มีธรรมชาติรายล้อมด้วยทุ่งนาและแม่น้ำ แต่ยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่างๆ ของพุ่มพวง เช่น หุ่นขี้ผึ้งหลายแบบ ชุดการแสดง รูปถ่าย และเครื่องรางที่เชื่อกันว่าสามารถ “ขอพรได้สมหวัง” โดยเฉพาะเรื่องงาน การเงิน และความรัก

ภายในวัดยังมีอาคารสำคัญอื่นๆ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ และซุ้มทางเข้าที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สงบงดงาม นักท่องเที่ยวมักมาหยุดถ่ายรูปบริเวณทางเข้าวัด ซึ่งมีชื่อ “วัดทับกระดาน” เขียนเด่นชัด บรรยากาศโดยรอบวัดเงียบสงบ เป็นกันเอง มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นให้ได้นั่งพักใจ ท่ามกลางเสียงเพลงลูกทุ่งที่คลอเบาๆ

วิธีการเดินทางไปวัดทับกระดาน

ถ้าเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขับรถยนต์ส่วนตัว โดยใช้เส้นทาง ถนนกาญจนาภิเษก ผ่านอำเภอบางบัวทอง - บางใหญ่ แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 340 (เส้นบางบัวทอง - สุพรรณบุรี) จากนั้นเลี้ยวเข้า ถนนหมายเลข 3351 ที่จะพาเข้าสู่อำเภอสองพี่น้อง และจบที่วัดทับกระดานได้แบบตรงเป๊ะ

ตลอดทางจะมีป้ายบอกเส้นทางชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้อำเภอสองพี่น้องแล้ว ใครที่กลัวหลงทางก็สามารถเปิด GPS แล้วค้นหาวัดทับกระดานได้เลย รับรองไม่มีพาอ้อม เพราะตำแหน่งใน Google Maps ระบุชัดเจนและแม่นยำ

สำหรับสายเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถขึ้นรถตู้สายกรุงเทพ - สุพรรณบุรี ที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือรถโดยสาร ปอ. กรุงเทพ - สุพรรณบุรี แล้วไปลงที่สถานีขนส่งสุพรรณบุรี จากนั้นต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังวัดได้ ใช้เวลาต่อรถอีกประมาณ 30 - 45 นาที

ในช่วงเทศกาลพุ่มพวง (8 - 16 มิถุนายนของทุกปี) วัดทับกระดานจะมีการจัดบริการรถรับส่งจากจุดจอดรถใกล้วัด และมีรถอาสาจากชุมชนให้บริการฟรีบางจุด ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของชาวบ้านที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยน้ำใจและรอยยิ้มเลยทีเดียว

ระยะทางจากกรุงเทพฯ สู่วัดทับกระดาน อยู่ที่ประมาณ 120 - 130 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น โดยใช้เวลาขับรถประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง เหมาะกับการจัดเป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ หรือจะค้างคืนที่สุพรรณบุรีเพื่อเก็บบรรยากาศยามเย็นก็แนะนำเช่นกัน

ประวัติและตำนานของวัดทับกระดาน

วัดทับกระดานเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2476 เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์ในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ "ทัพกันดาร" จัดตั้งขึ้นจากความศรัทธาของชาวบ้านสองพี่น้องที่รวมใจกันสร้างขึ้น โดยมีพระภิกษุรูปแรกคือหลวงพ่อบวช ตุลายโก เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เมื่อเวลาผ่านไป วัดได้รับการพัฒนาและย้ายมาตั้งอยู่ในพื้นที่ปัจจุบัน โดยยังคงความสงบร่มรื่นท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งสุพรรณบุรี

แต่สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ก็คือการเป็นสถานที่ซึ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เคยมาขอพรในวัยเด็ก เมื่อครั้งที่แม่พุ่มยังเป็นเพียงสาวน้อยธรรมดา มีความฝันอยากเป็นนักร้อง ด้วยศรัทธาแรงกล้า แม่พุ่มได้มาบนบานศาลกล่าวไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดแห่งนี้และไม่นานนักชีวิตของแม่พุ่มก็เปลี่ยนไป กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกทุ่งไทยในช่วงทศวรรษ 2520–2530

หลังจากแม่พุ่มเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2535 ทางวัดจึงได้จัดตั้ง "ศาลาพุ่มพวง" ขึ้นภายในวัด เพื่อเป็นสถานที่รำลึกถึงศิลปินผู้ล่วงลับ ทั้งยังได้จัดทำหุ่นแม่พุ่มพวงในชุดต่างๆ ไว้ให้แฟนเพลงและนักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ขอพร ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าใครที่มากราบหุ่นพุ่มพวง จะได้รับพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องที่ตั้งใจ โดยเฉพาะด้านการงาน การเงิน และความรัก

สิ่งของสำคัญที่เก็บรักษาไว้ในศาลาก็มีทั้ง เสื้อผ้าชุดการแสดง, ภาพถ่ายขาวดำหายาก, พวงมาลัยดอกไม้พลาสติก, และแม้กระทั่ง อัฐิของพุ่มพวง ที่บรรจุอยู่ในหุ่นชุดสีแดงซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าศาล

ทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน จะมีการจัดงานประจำปีเพื่อรำลึกถึงแม่พุ่มพวงอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนจากทั่วสารทิศจะหลั่งไหลกันมาร่วมงาน ทั้งศิลปินร่วมค่าย ลูกหลาน และแฟนเพลงรุ่นเก่า - ใหม่ ร่วมรำลึกและไหว้ขอพรจากแม่พุ่มพวง บางคนบอกว่าเคยขอพรแล้วได้ผล จึงกลับมาไหว้ซ้ำจนกลายเป็นธรรมเนียม

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของวัดทับกระดาน

แม้วัดทับกระดานจะไม่ได้มีสิ่งก่อสร้างหรูหราอลังการเหมือนวัดดังกลางกรุง แต่ถ้าใครได้มาเยือนจริง จะสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา และรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงรากเหง้าและวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริง

เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูวัดซึ่งเป็นทรงจั่วไม้เรียบๆ เราจะพบกับอุโบสถ ซึ่งเป็นอาคารหลักในแนวสถาปัตยกรรมไทยผสมล้านช้าง ลักษณะโดดเด่นอยู่ที่หลังคาซ้อนชั้น ปลายยอดประดับช่อฟ้า ใบระกา ใบหน้าบันแกะสลักลวดลายกนกที่บอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติ โดยใช้โทนสีทองและแดงเป็นหลัก ให้ความรู้สึกขลังแบบไทยโบราณที่ยังคงความศักดิ์สิทธิ์

ด้านในอุโบสถประดิษฐาน พระประธานองค์ใหญ่ สงบขรึมอยู่กลางห้องโถง ผนังโดยรอบถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องพุทธประวัติและวิถีชีวิตชาวบ้านในยุคก่อน ซึ่งแม้จะเป็นภาพเขียนเรียบง่ายแต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้ง

อีกจุดหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ "ศาลาพุ่มพวง" อาคารไม้หลังเล็กแต่สะดุดตา ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบไทยประยุกต์ หลังคาทรงมนิลา มุงกระเบื้องลาย และโครงสร้างทั้งหมดเป็นไม้จริงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อย่างเท้าเข้าไปด้านใน

บริเวณรอบวัดยังมีจุดเล็กๆ ที่น่าสนใจ อย่างซุ้มธงสีสด ซุ้มริบบิ้นที่แขวนอยู่เต็มต้นไม้ใหญ่ เสริมให้วัดมีสีสันอย่างน่ารักแต่ไม่ฉูดฉาดเกินไป บางคนเขียนชื่อไว้บนผ้าแล้วมัดไว้กับต้นไม้เพื่อ "ฝากความฝัน" ไว้กับแม่พุ่มพวง

กิจกรรมที่วัดทับกระดาน

กิจกรรมแรกที่พลาดไม่ได้คือการกราบสักการะหุ่นแม่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลาพุ่มพวงภายในวัด หุ่นขี้ผึ้งที่จัดแสดงอยู่มีทั้งหมด 5 แบบ เช่น หุ่นในชุดแดงอร่ามที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะเชื่อกันว่าให้พรเรื่องความสำเร็จด้านการเงิน งาน และโชคลาภ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขาย นักแสดง หรือคนธรรมดาทั่วไป ต่างพากันมากราบไหว้พร้อมดอกไม้ ธูป เทียน และบางคนนำพวงมาลัยดอกไม้พลาสติกมาแขวนไว้เพื่อแก้บน

ถัดจากนั้นคือ กิจกรรมการขอเลขเด็ด ซึ่งถือเป็นสีสันของที่นี่อย่างหนึ่ง โดยจะมีบ่อน้ำมนต์หรือขันน้ำมนต์ตั้งอยู่หน้าหุ่นแม่พุ่มพวงให้ได้ส่องเลข ซึ่งในวันสำคัญอย่างวันพระ หรือช่วงใกล้หวยออก มักจะมีผู้คนมาจับกลุ่มตีเลขกันอย่างครึกครื้น บรรยากาศสนุกสนานแต่ก็แฝงด้วยความเชื่ออย่างน่าอัศจรรย์

อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญคือการถวายสังฆทานและทำบุญสะเดาะเคราะห์ โดยเฉพาะช่วงต้นเดือน กลางเดือน และวันเกิด ชาวบ้านเชื่อว่าการมาทำบุญที่วัดทับกระดานจะช่วยให้ดวงชะตาดีขึ้น มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นตามมา 

ในช่วงเทศกาล เช่น งานรำลึกแม่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่จัดขึ้นทุกเดือนมิถุนายนของทุกปี บริเวณวัดจะเต็มไปด้วยเวทีการแสดงลูกทุ่ง ร้านค้าพื้นบ้าน ตลาดวัด และบูธสอยดาว บรรยากาศงานวัดแบบดั้งเดิมถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

ข้อควรรู้ก่อนไปวัดทับกระดาน

อย่างแรกคือ เวลาเปิด - ปิดวัด วัดทับกระดานเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. โดยไม่มีวันหยุด และไม่เก็บค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งช่วงเช้าและบ่าย แต่หากต้องการหลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด แนะนำให้ไปตั้งแต่ช่วงเช้า 8 - 10 โมง เพราะจะได้แสงแดดสวยๆ ถ่ายรูปได้ดี และยังไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน

ต่อมาคือการแต่งกาย แม้วัดจะไม่ได้มีข้อห้ามเข้มงวดเท่าวัดหลวงในเมืองใหญ่ แต่ควรแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงควรสวมกระโปรงยาวหรือกางเกงขายาว เสื้อควรมีแขน ไม่เปิดไหล่ เพื่อแสดงความเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนผู้ชายหลีกเลี่ยงเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น จะช่วยให้ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่และชาวบ้านด้วยรอยยิ้มมากขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือ ช่วงเทศกาลรำลึกแม่พุ่มพวง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน บริเวณวัดจะมีคนมาเป็นจำนวนมาก อาจหาที่จอดรถยาก หากต้องการความสะดวก แนะนำให้เดินทางแต่เช้า หรือค้างคืนใกล้ๆ และควรเตรียมเงินสดไว้สำหรับทำบุญหรือซื้อของในตลาดวัด เพราะบางร้านไม่ได้รับสแกนชำระเงิน

ท้ายที่สุด อย่าลืม รักษาความสงบเรียบร้อย ขณะเดินในวัด และงดเสียงดังบริเวณศาลาพุ่มพวง เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศแห่งความศรัทธาอย่างเต็มที่

แนะนำที่พักใกล้วัดทับกระดาน

- อิสรีย์ เนทูรัล รีสอร์ท

สำหรับใครที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ “อิสรีย์ เนทูรัล รีสอร์ท” ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย รีสอร์ตแห่งนี้ห่างจากวัดทับกระดานเพียงประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ ทำให้สะดวกทั้งการเดินทางไปสักการะพุ่มพวง ดวงจันทร์ และพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในทริปเดียว

จุดเด่นของที่พักคือการออกแบบเรียบง่ายสไตล์บ้านสวนหลังเล็กๆ แวดล้อมด้วยไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียว บรรยากาศที่นี่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายและอยากหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง ภายในรีสอร์ตมีห้องพักหลายแบบให้เลือก ทั้งห้องแอร์มาตรฐาน บ้านพักแบบกลุ่ม หรือห้องวิวสวน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่าง Wi-Fi ฟรี แอร์ ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น

สำหรับอาหาร ที่นี่มีบริการอาหารเช้าแบบง่ายๆ เช่น ข้าวต้ม กาแฟ และขนมปัง ให้ผู้เข้าพักได้เริ่มต้นวันแบบไม่เร่งรีบ หรือหากต้องการอาหารพื้นบ้านสุพรรณแท้ ๆ บริเวณใกล้เคียงก็มีร้านอาหารท้องถิ่นให้เลือกมากมายในระยะขับรถไม่ถึง 5 นาที

- โรงแรมปุษยปุรี (Pusayapuri Hotel) 

ถ้าเป็นสายชอบความสะดวกสบายแต่ยังอยากได้บรรยากาศท้องถิ่น “โรงแรมปุษยปุรี” คือที่ที่ลงตัวที่สุด โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี ห่างจากวัดทับกระดานประมาณ 30 นาที ขับรถสะดวกและระหว่างทางยังสามารถแวะตลาดหรือร้านอาหารได้อีกหลายแห่ง

ตัวโรงแรมออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ผสมความคลาสสิกแบบสุพรรณบุรีไว้ได้อย่างลงตัว ห้องพักกว้างขวาง สะอาด และตกแต่งด้วยโทนอบอุ่น มีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยว เตียงคู่ หรือห้องพักสำหรับครอบครัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และโต๊ะทำงานขนาดเล็ก

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือการบริการที่เป็นกันเอง พนักงานยิ้มแย้ม ให้คำแนะนำเรื่องเส้นทางหรือร้านอาหารได้ดี อีกทั้งยังมีบริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์เบาๆ ให้แขกเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสดชื่น 

- โรงแรมสองพันบุรี

หนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองสุพรรณบุรีและยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง เดินทางง่าย ใกล้ร้านค้า ร้านอาหาร และศูนย์ราชการ จึงเหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่มาทำธุระในพื้นที่ และการเดินทางจากโรงแรมไปยังวัดทับกระดานใช้เวลาประมาณ 25–30 นาทีโดยรถยนต์ 

ถึงแม้โรงแรมจะมีมาอย่างยาวนาน แต่ห้องพักทุกห้องถูกดูแลอย่างดี มีขนาดกว้างขวางและสะอาดเรียบร้อย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น เตียงนอนขนาดใหญ่ แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และอินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่นี่มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบมาตรฐานและห้องสวีทที่ตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย

บรรยากาศของโรงแรมให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน มีความคลาสสิกที่สัมผัสได้จากการตกแต่งและการบริการของพนักงาน ที่ให้การต้อนรับด้วยความจริงใจ โรงแรมยังมีห้องอาหารที่ให้บริการอาหารไทยแบบพื้นบ้าน รสชาติอร่อย ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับมื้อเย็นแบบไม่ต้องออกไปไหนไกล

- โรงแรมฮ็อป อินน์ สุพรรณบุรี

เป็นเครือโรงแรมที่มีสาขาทั่วประเทศ และที่สาขาสุพรรณบุรีก็ยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้ดีเช่นเดิม โดยตั้งอยู่ในตัวเมือง ห่างจากวัดทับกระดานประมาณ 30 นาทีด้วยรถยนต์ เดินทางสะดวกแม้ขับรถส่วนตัวหรือเรียกรถผ่านแอป

ห้องพักของที่นี่เน้นความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ภายในมีพื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ เตียงนอนนุ่มสบาย พร้อมแอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และฟรี Wi-Fi บริเวณล็อบบี้ยังมีเครื่องดื่มบริการฟรี เช่น กาแฟร้อน และมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติสำหรับผู้ที่อยากของว่างยามดึก

สิ่งที่หลายคนประทับใจคือเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย ตัวอาคารมีระบบคีย์การ์ด พร้อมที่จอดรถกว้างขวางและมีพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านกาแฟมากมาย ทำให้ไม่ต้องขับรถไปไหนไกลในช่วงเย็น

- เรือนปุณณัฏฐา บายภีมะ วิลล่า

ที่พักบรรยากาศอบอุ่น เรียบหรู ขอแนะนำ เรือนปุณณัฏฐา บายภีมะ วิลล่า ที่พักสไตล์วิลล่ากึ่งรีสอร์ตที่ออกแบบมาอย่างสวยงามในสไตล์ไทยร่วมสมัย โดยอยู่ไม่ไกลจากวัดทับกระดานมากนัก ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 25–30 นาทีเท่านั้น

ตัวบ้านพักมีหลายหลังให้เลือก ทั้งแบบบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สำหรับครอบครัว หรือห้องพักขนาดกลาง ภายในตกแต่งสไตล์ไทยประยุกต์ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอบอุ่น ผ้าม่านผ้าฝ้ายไทย และของตกแต่งที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นอย่างงดงาม มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่นั่งเล่นกลางสวน และบางหลังยังมีชานระเบียงให้ชมวิวทุ่งนา

สำหรับใครที่ต้องการเข้าพักเพื่อทำบุญหรือสวดมนต์ มีบริการพื้นที่สำหรับนั่งสมาธิ และสามารถจัดกิจกรรมธรรมะเป็นหมู่คณะได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีอาหารเช้าสไตล์โฮมเมด เสิร์ฟพร้อมกาแฟร้อนและผลไม้ตามฤดูกาลอีกด้วย

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ใกล้วัดทับกระดาน

- ตลาดสามชุก 100 ปี

เพียงขับรถจากวัดทับกระดานประมาณ 30 นาที ก็จะได้พบกับตลาดเก่าแก่ริมแม่น้ำท่าจีน ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณ ร้านค้าขนมไทย ของใช้ย้อนยุค และอาหารพื้นบ้านสุดอร่อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินชิลชมบรรยากาศ ถ่ายรูปสไตล์วินเทจ และชิมของอร่อยอย่างหมูกรอบ หมูแดง ขนมเปี๊ยะสด หรือแม้แต่น้ำตาลสดเย็นๆ ก็ชื่นใจ

- บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

สวนสัตว์น้ำจืดและอควาเรียมขนาดใหญ่ของภาคกลาง ตั้งอยู่ในอำเภอเดิมบางนางบวช ขับรถจากวัดประมาณ 45 นาที ไฮไลท์ของที่นี่คืออุโมงค์ปลาน้ำจืดขนาดยาว ที่สามารถเดินลอดผ่านและชมสัตว์น้ำไทยหายากแบบใกล้ชิด เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก

- วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร

วัดเก่าแก่ที่ปรากฏในวรรณคดี "ขุนช้าง - ขุนแผน" มีพระพุทธรูปหลวงพ่อโตขนาดใหญ่ และเจดีย์สำคัญให้กราบไหว้ เสน่ห์ของวัดนี้อยู่ที่ความสงบเรียบง่ายและความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรม เป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมที่คอวรรณกรรมไทยไม่ควรพลาด

- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี

ตั้งอยู่ในตัวเมืองสุพรรณบุรี ห่างจากวัดทับกระดานประมาณ 30 นาที ที่นี่จัดแสดงประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เครื่องมือโบราณ ภาพถ่ายเก่า และเรื่องราวของจังหวัดสุพรรณบุรีตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้รากเหง้าและวัฒนธรรมของภาคกลาง

- หอคอยบรรหาร - แจ่มใส

แลนด์มาร์กของจังหวัดที่ใครมาก็ต้องแวะ เป็นหอคอยสูงกว่า 100 เมตร ที่สามารถชมวิวเมืองสุพรรณได้แบบพาโนรามา ชั้นล่างมีนิทรรศการและร้านค้าของที่ระลึก ส่วนชั้นบนมีจุดชมวิวพร้อมกล้องส่องทางไกล เหมาะสำหรับปิดท้ายทริปแบบเก๋ ๆ พร้อมเก็บภาพประทับใจ

วัดทับกระดานไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางของผู้ศรัทธาใน "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ความเชื่อ และความศักดิ์สิทธิ์ที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเดินทางมาเพื่อขอพรเรื่องโชคลาภ การงาน หรือเพียงแค่มาค้นหาความสงบใจ ก็สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวัดทับกระดานมอบประสบการณ์ที่ครบทั้งศรัทธาและการพักผ่อน จึงไม่แปลกใจเลยที่ใครได้มาเยือนแล้ว มักจะอยากกลับมาอีกเรื่อยๆ เพราะนอกจากได้บุญ ได้แรงบันดาลใจแล้ว ยังได้ความทรงจำดีๆ ติดกลับไปทุกครั้งเลยด้วย Trip.com ไม่อยากให้พลาด!!