น้ำตกห้วยน้ำเย็น ที่เที่ยวเชียงใหม่ น้ำตกอันซีนแห่งใหม่ของประเทศไทย

ภาพจาก Facebook Page: JomJoy’s Story

ภาพจาก Facebook Page: H R พาเที่ยว

น้ำตกห้วยน้ำเย็น คือมรดกธรรมชาติที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ที่นี่ไม่ใช่น้ำตกที่เพิ่งถูกค้นพบอย่างที่เป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย หากแต่เป็นสถานที่ที่อยู่คู่ชุมชนแม่โขงมาหลายชั่วอายุคนตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้มีโอกาสชื่นชมความงามนี้ด้วยตาตนเอง เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในผืนป่าทำให้การเข้าถึงไม่ง่ายนัก จะเห็นก็ต่อเมื่อเดินเข้าไปเก็บของป่าเท่านั้น

โดยไม่นานมานี้ หลายๆ คนอาจเคยได้ยินเรื่องราวของคุณลุงคนหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่บุกเบิกเส้นทางเข้าน้ำตกมาราว 10 ปี เพื่อที่จะทำให้น้ำตกที่ไม่มีชื่อในแผนที่เป็นที่รู้จักของคนไทยและนักท่องเที่ยว ใช่แล้วล่ะ! นี่เป็นเรื่องราวของคุณลุงพีลือและน้ำตกห้วยน้ำเย็นนั่นเอง โดยคุณลุงพีลือใช้แรงกายแรงใจในการทำทางเพื่อนักท่องเที่ยวอย่างไม่ย่อท้อ เป็นเรื่องราวความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นทุ่มเทที่น่าประทับใจมากๆ โดยบ้านของคุณลุงจะตั้งอยู่ในป่าระหว่างทางเดินไปน้ำตก บริเวณที่คุณลุงอาศัยอยู่จะสามารถเห็นหุ่นไล่สัตว์ป่า เพราะในป่าเป็นที่อยู่อาศัยของหมีดำ หมาป่า และเสือ ซึ่งอาจจะลงมากินแพะที่คุณลุงเลี้ยงเอาไว้ โดยหุ่นเหล่านี้ถือเป็นภูมิปัญญาน่ารักๆ ที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของน้ำตกห้วยน้ำเย็นเลยก็ว่าได้

ภาพจาก Facebook Page: หาเวลาเที่ยว (1, 2), Yothin Janthasri (3)

วันนี้หลายคนโชคดีที่ได้มีโอกาสเดินเท้าเข้าไปสัมผัสความงดงามของขุมทรัพย์ทางธรรมชาติแห่งนี้ด้วยตนเอง ต้องขอบคุณคุณลุงผู้บุกเบิกเส้นทาง ที่ทำให้เราได้เข้าใกล้น้ำตกห้วยน้ำเย็นมากขึ้น และได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่โอบล้อมอยู่รอบตัวเรา

น้ำตกห้วยน้ำเย็นเป็นน้ำตกที่มีความสูง 6 ชั้น ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางพรรณไม้ป่าเขียวชอุ่ม มอบวิวทิวทัศน์ที่งดงามให้กับผู้ที่มาเยือน เส้นทางเดินป่าสวยอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยไม้ป่านานาชนิด ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นสัตว์ป่าหายากของไทยอย่างกิ้งกือมังกรสีชมพูอีกด้วย ระหว่างทางจะมีลำธารเล็กๆ ประมาณ 2-3 จุด

ทางเดินถือว่าเดินง่าย เพราะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเดินเรียบๆ มีจุดที่ชันบ้างในช่วงตอนเริ่ม และบริเวณทางขึ้นน้ำตกเท่านั้น ระยะทางไปกลับประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีห้องน้ำให้บริการทั้งหมด 3 จุด

ภาพจาก Facebook Page: เที่ยวแบบมีธีม Pure Nature Travel (1), JomJoy’s Story (2)

นักท่องเที่ยวสามารถทำการลงทะเบียนเข้าชมล่วงหน้าได้ที่เฟซบุ๊คเพจ น้ำตกห้วยน้ำเย็น บ้านแม่โขง การเปิดลงทะเบียนเข้าชมน้ำตกสำหรับรอบเดือนพฤศจิกายน 2568 – 5 มกราคม 2569 นั้นจะเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

1. ถ้ำเหมอะลาฮาว – ถ้ำหินปูนสวยแปลกตา เดินเข้าไปเพียงประมาณ 30 นาทีก็จะถึงจุดชมวิวด้านบนที่สวยงาม เหมาะสำหรับถ่ายรูปและชมทัศนียภาพภูเขาเขียวขจีและนาขั้นบันได

ภาพจาก Facebook Page: พี่มืดพาเที่ยว (1), Come with ME : พามาแล้วอย่าบ่น (2)

2. นาขั้นบันไดบ้านนาเกียน – สัมผัสวิวทิวทัศน์ภูเขาล้อมรอบ พร้อมเดินเล่นถ่ายรูปกับทุ่งนาที่สวยงามตามธรรมชาติ

ภาพจาก Facebook Page: Grow up Go anywhere (1), Updech Narongdech (2), Sea Sand Summit (3)

3. โฮมสเตย์ชุมชน – ลองนอนพักกับชาวบ้าน สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นและลิ้มลองอาหารพื้นเมืองรสชาติอร่อยที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ และร่วมกิจกรรม “มัดมือรับขวัญ” จากผู้ใหญ่ในชุมชน สืบสานวัฒนธรรมและประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

ภาพจาก Facebook Page: น้ำตกห้วยน้ำเย็น บ้านแม่โขง

4. จุดกางเต็นท์ – มีจุดกางเต็นท์บริการ วิวติดนาขั้นบันได แถมยังมีจุดชมวิวและถ่ายรูปสวยๆ แต่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมเต็นท์มาเอง เนื่องจากตอนนี้ทางชุมชนยังไม่มีเต็นท์ให้บริการ (ติดต่อ 0611521084 วาลัก แคมป์ปิ้งเพื่อจองจุดกางเต็นท์)

ภาพจาก Facebook: Marisa Pianta

ภาพจาก Facebook Page: ทริปเดินป่า หาเวลาเที่ยว

น้ำตกห้วยน้ำเย็นจะมีน้ำตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม) จะมีน้ำมากที่สุด เหมาะกับการชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ แต่เส้นทางเดินอาจค่อนข้างลื่น และมีโอกาสเจอทากมากขึ้น ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง แต่ในช่วงพฤศจิกายนจนถึงช่วงฤดูร้อน ปริมาณน้ำจะลดลงเรื่อยๆ ช่วง พฤศจิกายน – 5 มกราคม สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบฤดูหนาว สำหรับใครที่พักที่โฮมสเตย์สามารถชมวิวน้ำตกและนาขั้นบันไดท่ามกลางไอหมอกบางๆ

จากอำเภอเมืองเชียงใหม่สู่อมก๋อย มีระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง สามารถเดินทางด้วยการเช่ารถขับเอง เช่ารถพร้อมคนขับ หรือใช้บริการรถตู้ (เชียงใหม่ - อมก๋อย)

โดยสามารถนัดเจอไกด์ท้องถิ่นที่จุดนัดพบในอมก๋อย ดังนี้

จากอมก๋อย สู่บ้านแม่โขง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพถนน มีบริการรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวถึงจุดลงทะเบียนเข้าน้ำตก

ภาพจาก Facebook Page: หาเวลาเที่ยว

1. เผื่อเวลาให้ดี แนะนำให้เผื่อเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน จะได้ไม่เร่งรีบและไม่เหนื่อยจนเกินไป

2. จัดการเรื่องที่พักและการเดินทางให้พร้อม แนะนำให้พักบริเวณชุมชนบ้านแม่โขง นอกจากจะสะดวกต่อการเยี่ยมชมน้ำตกแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้ให้ชุมชนอีกด้วย นอกจากนี้ควรจะติดต่อยืนยันจุดนัดหมายรับ–ส่งกับเจ้าของที่พักหรือไกด์ให้ชัดเจน เช่น เวลาออกเดินทาง สถานที่รอรับ และวิธีการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เป็นต้น

3. เตรียมร่างกายให้พร้อม ถึงแม้ว่าทางส่วนใหญ่จะเป็นทางเรียบ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเดินป่าสิบกว่ากิโลเมตร ดังนั้นควรฟิตร่างกายให้พร้อม และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง

4. อุปกรณ์เดินป่า สวมรองเท้าที่เกาะพื้นดินได้ดีและใส่สบาย เหมาะกับการเดินป่า แบบกันน้ำได้ยิ่งดี อาจพกไม้เท้าเดินป่าไว้ด้วยก็ได้ อย่าลืมสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศ และแห้งไว ป้องกันการอับชื้น

5. เตรียมหมวกและเสื้อกันฝน เผื่อในกรณีที่แดดร้อนหรือฝนตก

6. น้ำดื่มและอาหาร เตรียมเอเนอร์จี้บาร์ อาหารเล็กๆน้อยๆ และน้ำดื่มให้เพียงพอ

7. อุปกรณ์กันทาก เนื่องจากในป่าธรรมชาติแถบนี้มีทากค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน

8. เตรียมใจให้พร้อมและมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม เปิดใจรับกับความท้าทายของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากหรือสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน รักษาความสะอาด ห้ามทิ้งขยะ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม