
หญิงตั้งครรภ์กี่เดือนถึงจะขึ้นเครื่องได้?การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ มักมีความกังวลใจทั้งเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ ความสะดวกสบายในการเดินทาง ไปจนถึงข้อกำหนดของแต่ละสายการบินที่แตกต่างกันออกไป จริง ๆ แล้วหญิงตั้งครรภ์สามารถเดินทางได้แทบทุกช่วงของการตั้งครรภ์ หากสุขภาพแข็งแรงและได้รับอนุญาตจากแพทย์ แต่ว่าแต่ละไตรมาสก็มีข้อควรระวังเฉพาะตัว ดังนั้น การเตรียมตัวให้พร้อมและศึกษาข้อกำหนดของสายการบินจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจมากที่สุด วันนี้เราจะมาจะไขข้อข้องใจให้คุณแม่ทุกท่านผ่านบทความของ Trip.com นี้เองค่ะ
สรุปกฎสำคัญ: คนท้องขึ้นเครื่องบินได้เมื่อไหร่?
โดยทั่วไปแล้ว คนท้องสามารถขึ้นเครื่องบินได้จนถึงอายุครรภ์ 35-36 สัปดาห์ ในสภาวะที่ครรภ์ปกติ ทั้งนี้ แต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดระยะเวลาตั้งครรภ์ที่แตกต่างกัน รวมถึงเอกสารใบรับรองแพทย์ตามอายุครรภ์ก็แตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ
อายุครรภ์ที่ปลอดภัยสําหรับการเดินทาง?
อย่างที่เราทราบกันว่า การตั้งครรภ์แบ่งออกเป็น 3 ไตรมาส ได้แก่ ไตรมาสที่ 1 อายุครรภ์ 1-12 สัปดาห์ ไตรมาสที่ 2 อายุครรภ์ 12-28 สัปดาห์ และไตรมาสที่ 3 อายุครรภ์ 28-40 สัปดาห์ งั้นตอนนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าช่วงไหนปลอดภัย ช่วงไหนไม่ควรเดินทาง
- ไตรมาสแรก (1-12 สัปดาห์): ข้อควรระวังในไตรมาสนี้เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยมาก จึงมีโอกาสแท้งได้ และจะมีอาการแพ้ท้องหนักกว่าช่วงอื่น
- ไตรมาสที่สอง (12-28 สัปดาห์): ช่วงไตรมาสที่สองคือโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางพักผ่อน ถือเป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยและสบายที่สุดสำหรับหญิงตั้งครรภ์
- ไตรมาสที่สาม (28-40 สัปดาห์): ไตรมาสนี้จะมีความเสี่ยงในการคลอดสูง เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ใกล้กำหนดคลอด อาจจะเกิดการเจ็บท้องคลอดหรือน้ำเดินก่อนกำหนดบนเครื่องบินได้ โดยช่วงอายุครรภ์ 28-36 สัปดาห์ จะต้องมีใบรับรองแพทย์เพื่อการเดินทางโดยเครื่องบินค่ะ
- ข้อห้ามคนท้องขึ้นเครื่องบิน: หลังจากอายุครรภ์ 36 สัปดาห์เป็นต้นไป ไม่ควรเดินทางโดยเครื่องบินเด็ดขาดค่ะ
เช็คลิสต์เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม: ใบรับรองแพทย์และอื่น ๆ

วิธีขอใบรับรองแพทย์สำหรับขึ้นเครื่องบิน
ใบรับรองแพทย์หรือ Fit to Fly สำหรับคนท้องขึ้นเครื่องบิน สามารถขอได้จากคุณแพทย์สูติฯ ที่ฝากครรภ์ได้เลยค่ะ โดยแจ้งให้แพทย์ทราบรายละเอียดการเดินทางและระยะเวลาของเที่ยวบินนั้น ๆ ทั้งนี้ แนะนำว่าควรเป็นภาษาอังกฤษ และมีอายุไม่เกิน 7 วันก่อนวันเดินทางค่ะ โดยแต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
ในใบรับรองแพทย์ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วในใบ Fit to Fly จะมีการระบุวันเวลากำหนดคลอด และระบุว่าครรภ์มีสภาวะปกติค่ะ
อัปเดตข้อกำหนดของแต่ละสายการบินยอดนิยม
เมื่อเราทราบข้อแนะนำต่าง ๆ เบื้องต้นแล้ว ขั้นต่อไปเรามาดูข้อกำหนดของแต่ละสายการบินสำหรับคนท้องขึ้นเครื่องบินดีกว่าค่ะ เพื่อที่จะได้เปรียบเทียบได้ง่าย วันนี้เราทำตารางง่าย ๆ มาให้ทุกคนได้ประกอบการตัดสินใจด้วยแหละ
ตารางเปรียบเทียบนโยบายสายการบินยอดนิยมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
สายการบิน | อายุครรภ์ที่สามาารถเดินทางได้โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ | อายุครรภ์ที่ต้องแสดงเอกสารใบรับรองแพทย์ | อายุครรภ์ที่ไม่อนุญาตให้เดินทางกับสายการบิน | ข้อกำหนด/เอกสารสำคัญ |
ภายในระยะเวลา 28 สัปดาห์ | อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป | อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป | แสดงเอกสารประจำตัว, หลักฐานการเดินทางเบื้องต้น, ใบรับรองแพทย์ รวมถึงใบอนุญาตให้เดินทางจากแพทย์กรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน | |
ภายในระยะเวลา 28 สัปดาห์ | อายุครรภ์ในช่วง 28 – 34 สัปดาห์ | อายุครรภ์ 35 สัปดาห์ขึ้นไป | ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 30 วัน | |
ภายในระยะเวลา 28 สัปดาห์ | อายุครรภ์ในช่วง 28 – 36 สัปดาห์ (กรณีทารกแฝดกำหนดอายุครรภ์ในช่วง 28 – 32 สัปดาห์) | -อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไปและ 32 สัปดาห์ขึ้นไปสำหรับทารกแฝด | แสดงเอกสารประจำตัว, หลักฐานการเดินทางเบื้องต้น, ใบรับรองแพทย์ รวมถึงใบอนุญาตให้เดินทางจากแพทย์กรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน | |
ภายในระยะเวลา 28 สัปดาห์ | อายุครรภ์ในช่วง 28 – 36 สัปดาห์ | อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป | แสดงใบรับรองแพทย์ | |
ภายในระยะเวลา 28 สัปดาห์ | อายุครรภ์ในช่วง 28 - 35 สัปดาห์ | อายุครรภ์ 35 สัปดาห์ขึ้นไป | จำเป็นต้องแจ้งอายุครรภ์ให้สายการบินทราบ พร้อมแสดงเอกสารการฝากครรภ์ | |
ภายในระยะเวลา 27 สัปดาห์ | อายุครรภ์ในช่วง 27 - 32 สัปดาห์ | อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไป | แสดงใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 7 วัน |
ข้อมูลจากเว็บไซต์สายการบิน
จากตารางด้านบนนี้สรุปได้ว่า โดยมากอายุครรภ์ในช่วง 27–28 สัปดาห์ สายการบินมักอนุญาตให้เดินทางโดยไม่ใช้ใบรับรองแพทย์ และสำหรับอายุครรภ์ในช่วง 28–34/36 สัปดาห์ จำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์ค่ะ ทั้งนี้ หากคุณแม่ท่านใดที่มีอายุครรภ์เกิน 35–36 สัปดาห์ สายการบินมักไม่อนุญาตให้เดินทาง เมื่อเราทราบข้อกำหนดของสายการบินแล้วก็ตัดสินใจเลือกที่ตรงความต้องการของเราที่สุดได้เลยค่ะ
เคล็ดลับเพื่อการเดินทางที่สบายและปลอดภัยสำหรับคุณแม่

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดของสายการบินและพบแพทย์สูติฯ ที่ฝากครรภ์ก่อนวางแผนเดินทาง เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าสามารถเดินทางได้หรือไม่ โดยแพทย์จะประเมิณความเสี่ยงของการเดินทาง และความพร้อมของสุขภาพของคุณแม่ นอกจากนี้ เราแนะนำอย่างยิ่ง ควรซื้อประกันการเดินทางและตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมกรณีที่จำเป็นต้องเปลี่ยนการเดินทางฉุกเฉินหรือไม่ด้วยนะคะ
สิ่งที่ควรทำที่สนามบิน
ควรแจ้งให้สายการบินทราบอายุครรภ์ล่วงหน้าค่ะ เพื่อความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ที่ตามมา
วิธีดูแลตัวเองระหว่างอยู่บนเครื่อง
ทำใจให้สบาย ไม่ต้องกังวล พยายามจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และที่สำคัญควรขยับร่างกายยืดเส้นยืดสายด้วยนะคะ ดังนั้น แนะนำว่าควรนั่งที่ติดริมทางเดินเพื่อความสะดวกสบายในการลุก-นั่งค่ะ
บทสรุปส่งท้าย
การเดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเกินไป หากคุณแม่เตรียมตัวอย่างเหมาะสม และเข้าใจข้อกำหนดของแต่ละสายการบินอย่างรอบคอบ โดยทั่วไปแล้ว ช่วงไตรมาสที่สองถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทาง เพราะทั้งปลอดภัยและสะดวกสบายมากกว่าไตรมาสอื่น ๆ ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้าย คุณแม่ควรตรวจสอบใบรับรองแพทย์และข้อกำหนดของสายการบินให้ชัดเจนก่อนเสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรับฟังคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแล เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัย อุ่นใจ และเต็มไปด้วยความสุขทั้งคุณแม่และลูกน้อย วางแผน Babymoon ของคุณแม่อย่างสบายใจ จองเที่ยวบินและโรงแรมพร้อมดีลสุดปังได้เลยที่ Trip.com
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเดินทางขณะตั้งครรภ์
เครื่องสแกนร่างกายที่สนามบินอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่?
โดยปกติเครื่องสแกนในสนามบินไม่เป็นปัญหาต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ถ้าเครื่องสแกนนั้นมีปริมาณรังสีมาก คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง ซึ่งสามารถขอรับใบรับรองแพทย์จากสูตินรีแพทย์ โดยแสดงกับทางสนามบินเพื่อยืนยันว่ากำลังตั้งครรภ์ และขออนุญาตไม่เข้าเครื่องสแกนได้ถ้าตั้งครรภ์แฝด กฎของสายการบินจะแตกต่างกันอย่างไร?
ส่วนมากแล้ว การตั้งครรภ์แฝดมักมีความเสี่ยงสูงกว่าการตั้งครรภ์ปกติ สายการบินจึงกำหนดให้อายุครรภ์แฝดไม่เกิน 32 สัปดาห์ ทั้งนี้ บางสายการบินอาจกำหนดช่วงระยะเวลาของอายุครรภ์แตกต่างเล็กน้อย โปรดสอบถามข้อมูลแต่ละสายการบินก่อนการเดินทางควรแจ้งสายการบินล่วงหน้าหรือไม่ว่าเราตั้งครรภ์?
จำเป็นอย่างยิ่ง ควรติดต่อสายการบิน เพื่อแจ้งให้ทราบว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อความสะดวะสบายและความปลอดภัยของคุณแม่ตั้งครรภ์และลูกน้อยควรเลือกที่นั่งแบบไหนบนเครื่องบินดีที่สุดสำหรับคนท้อง?
ที่นั่งริมทางเดิน เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออก เนื่องจากคนท้องมักเข้าห้องน้ำบ่อย และยังมีพื้นที่สำหรับยืดเส้นยืดสายอีกด้วย นอกจากนี้ ที่นั่งแถวหน้าสุดก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีพื้นที่วางขากว้างขึ้น สำหรับที่นั่งที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงเลยคือบริเวณทางออกฉุกเฉิน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสายการบินมักไม่อนุญาตให้คุณแม่ตั้งครรภ์นั่ง และยังขัดระเบียบการบินอีกด้วยจำเป็นต้องซื้อประกันการเดินทางสำหรับคนท้องหรือไม่?
จำเป็นอย่างยิ่ง ควรซื้อประกันการเดินทางและตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมกรณีที่จำเป็นต้องเปลี่ยนการเดินทางฉุกเฉินหรือไม่


