
การวางแผนเดินทางในการเดินทรงในแต่ละทริปที่จำเป็นนั้น ไม่ใช่แค่การเลือกจุดหมาย หรือการหาตั๋วโปรฯ เท่านั้น แต่การ “จํากัดน้ำหนักกระเป๋า” กลายอีกหนึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ทุกทริปของคุณราบรื่น และ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง เพราะในสายการบินแต่ละแห่งก็จะมีกฎในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าที่แตกต่างกันออกไป เช่น น้ำหนักกระเป๋าการบินไทย, น้ำหนักกระเป๋า AirAsia, หรือแม้กระทั่ง AirChina น้ำหนักกระเป๋า ต่างก็มีข้อกำหนดเฉพาะ ซึ่งหากคุณไม่รู้ล่วงหน้า หรือ ไม่ได้ตรวจสอบข้อกำหนดก่อนการเดินทางให้ดี อาจต้องเจอกับ "ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกิน" ที่แพงสุดๆเพราะอาจมีราคาสูงกว่าค่าตั๋วเสียอีก หรือ อาจจะต้องเสียเวลาจัดกระเป๋าใหม่ที่สนามบิน ไปโดยไม่จำเป็น
ดังนั้นบทความนี้ Trip.com จะพาคุณเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับการจำกัด น้ำหนักกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นวิธีตรวจสอบสิทธิ์สัมภาระสำหรับเที่ยวบินที่ได้มีการจองกับ Trip.com หรือการเปรียบเทียบข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน ไปจนถึงเคล็ดลับจัดกระเป๋าให้คุ้มค่าแบบน้ำหนักไม่เกินและไม่ต้องลุ้นที่หน้าเคาน์เตอร์ พร้อมข้อมูลอัปเดตที่คุณควรรู้ก่อนจัดกระเป๋าเตรียมบินไปยังจุดหมายที่คุณต้องการ
ทำไมต้องรู้เรื่องจำกัดน้ำหนักกระเป๋า?
การที่สายการบินมีการกำหนด จํากัดน้ำหนักกระเป๋า ไม่ใช่แค่ในเรื่องระเบียบเพียงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเที่ยวบินแบบโดยตรง ในกรณีที่กระเป๋ามีน้ำหนักเกินมีความเสี่ยงอย่างมาก เพราะอาจส่งผลต่อสมดุลของเครื่องบิน และ ยังเป็นเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็นและสิ้นเปลือง ดังนั้นจึงต้องมรการควบคุมน้ำหนักและขนาดกระเป๋าอย่างเข้มงวด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและตรงเวลาให้กับเที่ยวบิน
นอกจากนี้การรู้ข้อกำหนดของน้ำหนักกระเป๋าของแต่ละสายการบิน ยังช่วยให้คุณจัดกระเป๋าได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียเงินไปกับ ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกิน ที่อาจเพิ่มเติมมาหลายพันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากจำเป็นต้องใช้สัมภาระในกระเป๋า
ในบางสายการบิน เช่น การบินไทย อาจอนุญาตน้ำหนักที่มากกว่าเจ้าอื่น ขณะที่บางเจ้า เช่น AirAsia มักใช้ระบบชำระเงินเพิ่มตามระดับน้ำหนัก ทำให้เรื่องเล็กๆ อย่าง น้ำหนักกระเป๋า AirAsia ราคา กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ
ประเภทของจำกัดน้ำหนักกระเป๋า | แบบชิ้นและแบบน้ำหนัก
ทุกสายการบินทั่วโลกจะมีวิธีจำกัดน้ำหนักกระเป๋าที่แตกต่างกัน โดยจะมีข้อกำหนดอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ
- จำกัดน้ำหนักกระเป๋าแบบชิ้น (Piece Concept)
การจำกัดน้ำหนักกระเป๋าแบบชิ้น หรือ "Piece Concept" คือแนวทางที่สายการบินใช้สำหรับกำหนดปริมาณสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องตามจำนวนชิ้น โดยทั่วไปแล้ว ผู้โดยสารจะได้รับอนุญาตให้นำสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องได้ตามจำนวนที่กำหนด เช่น 1 หรือ 2 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นต้องมีน้ำหนักไม่เกินตามที่สายกานบินกำหนด หากน้ำหนักของกระเป๋าใบใดใบหนึ่งเกินจากที่กำหนด ผู้โดยสารจะต้องชำระค่าปรับตามอัตราที่สายการบินระบุ ซึ่งอาจคิดตามน้ำหนักที่เกินเป็นกิโลกรม หรือ อาจคิดเป็นค่าธรรมเนียมที่มีอัตราคงที่
- จำกัดน้ำหนักกระเป๋าแบบน้ำหนัก (Weight Concept)
การจำกัดน้ำหนักกระเป๋าแบบน้ำหนัก หรือ "Weight Concept" เป็นวิธีที่สายการบินใช้กำหนดน้ำหนักรวมของสัมภาระที่ผู้โดยสารสามารถนำไปโหลดใต้ท้องเครื่องได้ โดยการจำกัน้ำหนักกระเป๋าแบบนี้ จะไม่จำกัดจำนวนชิ้น แต่จะระบุน้ำหนักรวมสูงสุด เช่น 20 กิโลกรัม หรือ 30 กิโลกรัม แล้วแต่ประเภทตั๋วหรือชั้นโดยสาร คุณสามารถแบ่งสัมภาระในกระเป๋ากี่ใบก็ได้ตามความสะดวก ตราบใดที่น้ำหนักรวมไม่เกินที่กำหนด โดยกระเป๋าแต่ละใบต้องไม่เกิน 32 กก. เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระ หากมีชิ้นใดเกินกว่านี้ อาจต้องแยกกระเป๋าออกเป็นหลายใบหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ระบบนี้เป็นที่นิยมในเที่ยวบินภายในประเทศ หรือในเส้นทางที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ตัวอย่างการจำกัดน้ำหนักกระเป๋าสายการบินยอดนิยม
สายการบิน | แบบจำกัดน้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักกระเป๋า (ชั้นประหยัด) | ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกิน (โดยประมาณ) |
การบินไทย (Thai Airways) | แบบน้ำหนัก | 30 กก. (ต่อผู้โดยสาร 1 คน) | 400–600 บาท/กก. |
AirAsia (แอร์เอเชีย) | แบบน้ำหนัก | 15–40 กก. (เลือกซื้อเพิ่มได้ตามแพ็กเกจ) | 400–1,200 บาท/กก. ขึ้นอยู่กับเส้นทาง |
Air China (แอร์ไชน่า) | แบบชิ้น | 1–2 ใบ ใบละ 23 กก. (ชั้นประหยัด) | 1,000–1,500 บาท/ใบ (คิดตามเส้นทาง) |
Emirates (เอมิเรตส์) | แบบน้ำหนัก / แบบชิ้น (ขึ้นอยู่กับเส้นทาง) | 20–35 กก. หรือ 2×23 กก. | 1,500 บาท/กก. |
VietJet Air (เวียดเจ็ท) | แบบน้ำหนัก | Skyboss ฟรี 30 กก. / Eco และ Promo ต้องซื้อเพิ่ม | ค่าปรับเฉลี่ย 500–1,000 บาท/กก. ขึ้นอยู่กับสนามบิน |
Peach (พีช) | แบบน้ำหนัก | Value: 1 ชิ้น 20 กก. / Prime: 2 ชิ้น รวม 40 กก. | ประมาณ 700–1,200 บาท/กก. (เฉลี่ยจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น) |
Scoot (สกู๊ต) | แบบน้ำหนัก | FlyBag: 20 กก. / ScootPlus: 30 กก. | 600–1,000 บาท/กก. |
Tiger Air (ไทเกอร์แอร์) | แบบน้ำหนัก | 20 กก. ในแพ็กเกจ Tiger Smart | 800–1,000 บาท/กก. (ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง) |
Jetstar (เจ็ตสตาร์) | แบบน้ำหนัก | ไม่มีรวม ต้องซื้อเพิ่ม / แพ็กเกจเสริมให้ 20–30 กก. | 700–1,300 บาท/กก. |
China Airlines (ไชน่าแอร์ไลน์) | แบบชิ้น / แบบน้ำหนัก (ตามเส้นทาง) | ส่วนใหญ่ 2 ชิ้นๆ ละ 23 กก. สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ | 1,000–1,500 บาท/ใบ |
วิธีการตรวจสอบจำกัดน้ำหนักกระเป๋าบน Trip.com
การเช็กข้อ จํากัดน้ำหนักกระเป๋า ของแต่ละสายการบินไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เมื่อคุณใช้ Trip.com ทุกข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหนักกระเป๋า-ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียด น้ำหนักกระเป๋าairasiaราคา หรือข้อกำหนดของสายการบินต่างประเทศอย่าง airchinaน้ำหนักกระเป๋า ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อย่างง่ายดายรวมทั้งยัง ตรวจสอบค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกิน หรือ เลือกซื้อน้ำหนักเพิ่มได้เพิ่มเติมผ่านแอปฯหรือเว็บไซต์ Trip.com โดยไม่ต้องเสียเวลาตามหาข้อมูลจากหลายแหล่ง สามารถวางแผนจัดกระเป๋าไม่ให้นำหนักเกิน และยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมั่นใจในทุกทริปของคุณ
ขั้นตอนการตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าและซื้แเพิ่มเติมบนแอปฯ Trip.com
- เปิดแอปฯ Trip.com (หากยังไม่เข้าสู่ระบบให้เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย) จากนั้นเลือกไปที่ "เร็วๆนี้ "

Source // Trip.com
2. เลื่อนลงมาด้านล่าง ตรงบริเวณ"อัปเกรดทริปของคุณ"หลังจากนั้นให้กดคำว่า "น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม" และกด "เพิ่ม"

Source // Trip.com
3. เลือกขนาดน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติมที่ต้องการ เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้วให้กดเลือก "ชำระตอนนี้" เพื่อเลือกวิธีการชำระเงิน

เคล็ดลับในการจัดกระเป๋าให้ไม่เกิน | ตรงตามข้อจํากัดน้ำหนักกระเป๋า
การจัดกระเป๋าให้อยู่ในข้อ จํากัดน้ำหนักกระเป๋า ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ปริมาณของที่นำไปเพียงเท่านั้น แต่รวมยังรวมไปถึงการเลือกสิ่งของการใช้พื้นที่ในกระเป๋าให้คุ้มค่า และควรหลีกเลี่ยงของที่มีน้ำหนักมากโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้การใช้เทคนิคการจัดเรียง เช่น การม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ หรือการเลือกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบาก็ช่วยให้ไม่เกินกำหนดได้ง่ายขึ้น โดยคุณสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้เพื่อช่วยให้การจัดกระเป๋าของคุณเป็นระเบียบมากขึ้น
- ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ ช่วยประหยัดพื้นที่ ลดช่องว่างในกระเป๋า และ ไม่ทำให้เสื้อผ้ายับง่าย
- ใช้ถุงสุญญากาศหรือถุงซิปล็อก สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ขนาดเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่ หรือนำไปเสื้อผ้าที่ใช้แล้วเพื่อลดกลิ่นอับในกระเป๋า
- เลือกของใช้จำเป็น ลดของฟุ่มเฟือยที่อาจไม่ได้ใช้จริง พกเฉพาะของที่จำเป็นและได้ใช้แน่นอน
- จัดกระเป๋าแบบพิรามิด วางของที่มีน้ำหนักไว้ล่างสุดของกระเป๋าและวางของที่มีน้ำหนักเบาไว้ด้านบน เพื่อให้ลากง่ายและไม่เสียรูปทรง
- ทำ Checklist สิ่งของที่จำเป็นก่อนจัดกระเป๋า เพื่อลดการลืมของสำคัญ และ ไม่ใส่ของที่เกินจำเป็น
- สวมใส่เสื้อผ้ามีน้ำหนักขึ้นเครื่องแทนการใส่กระเป๋า หากกลัวน้ำหนักเกิน สามารถใส่เสื้อผ้าหนาๆ เช่น เสื้อโค้ช ติดตัวได้ หรือสามารถสวมเสื้อผ้าหลายๆชั้น เช่น สวมเสื้อสเวตอเตอร์ด้านใน ตามด้วยเสื้อยืด และ สวมเสื้อแจ็คเก็ตทับอีกครั้ง ไม่ผิดกฎ
การเปรียบเทียบข้อจำกัดน้ำหนักกระเป๋าระหว่างสายการบินต่างๆ
การเปรียบเทียบน้ำหนักกระเป๋าที่อนุณาตของแต่ละสายการบินเพื่อเปรียบเทียบ เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้คุณวางแผนและเลือกสายการบินที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคุณได้อย่างคุ้มค่า
ตารางเปรียบเทียบข้อจำกัดน้ำหนักกระเป๋าระหว่างสายการบินยอดนิยมต่างๆ
สายการบิน | น้ำหนักกระเป๋าโหลดฟรี | น้ำหนักกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง | หมายเหตุ |
Thai Airways | 30 กก. | 7 กก. | แบบน้ำหนัก โหลดใต้เครื่องสูงสุด 32 กก./ใบ ค่าปรับ 400–600 บาท/กก. |
AirAsia | ไม่มี (ซื้อเพิ่มได้ 15–40 กก.) | 7 กก. | แบบน้ำหนัก ราคาซื้อเพิ่มเริ่มต้น 430 บาท/15 กก. ค่าปรับ 400–1,200 บาท/กก. |
Air China | 1–2 ใบ ใบละ 23 กก. | 5–7 กก. | แบบชิ้น ค่าปรับ 1,000–1,500 บาท/ใบ |
Emirates | 20–35 กก. หรือ 2×23 กก. | 7 กก. | แบบน้ำหนักหรือแบบชิ้น ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกินต่างประเทศสูง เฉลี่ย 1,500 บาท/กก. |
Tigerair | 20 กก. (เฉพาะ Tiger Smart) | 7 กก. | ขนาดไม่เกิน 203 ซม./ชิ้น น้ำหนักสูงสุด 30 กก./ใบ |
Scoot | 20–30 กก. (ตามประเภทบัตรโดยสาร) | 10 กก. (รวมโน้ตบุ๊ก) | โหลดได้มากสุด 32 กก./ชิ้น ขนาดไม่เกิน 140×40×45 ซม. |
VietJet Air | ไม่มี (SkyBoss ได้ 30 กก.) | 7 กก. | โหลดได้ไม่เกิน 32 กก. ขนาดไม่เกิน 119×119×81 ซม. (กระเป๋าปกติ) |
Peach Aviation | ไม่มี (Prime Peach ได้ 2 ชิ้น) | 7 กก. | โหลดได้สูงสุด 20 กก./ชิ้น ขนาดรวมไม่เกิน 203 ซม. |
Jetstar | ไม่มี (บางแพ็คเกจได้ 20–30 กก.) | 7 กก. | โหลดได้ตามประเภทบัตรโดยสาร ต้องซื้อเพิ่มหากไม่มีรวม |
Singapore Airlines | 25–30 กก. (ตามเส้นทางและชั้นโดยสาร) | 7 กก. | อ้างอิงจากประเภทบัตรโดยสาร/เส้นทาง เงื่อนไขแตกต่างกัน |
China Airlines | 1–2 ใบ ใบละ 23 กก. | 7 กก. | แบบชิ้น เงื่อนไขแตกต่างกันตามเส้นทาง/ชั้นโดยสาร |
EVA Air | 30–35 กก. หรือ 2×23 กก. | 7 กก. | โหลดสูงสุด 32 กก./ชิ้น เงื่อนไขขึ้นอยู่กับเส้นทาง |
สรุป | ประโยชน์ของการรู้ข้อจำกัดน้ำหนักกระเป๋า
การตรวจสอบข้อจํากัดน้ำหนักกระเป๋า เพื่อความเข้าใจของแต่ละสายการบิน โดยเฉพาะสายการบินที่คุณทำการจองตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางเอาไว้ จะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงในการโดนเรียกเก็บค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าเกินโดยไม่จำเป็น รวมทั้งยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ลดความวุ่นวายช่วยให้พร้อมเดินทางได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัยมากขึ้น ลองค้นหาตั๋วเครื่องบินและเปรียบเทียบข้อกำหนดสัมภาระจาก Trip.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตรวจสอบน้ำหนักสัมภาระและซื้อเพิ่มเติมได้ เพื่อประสบการณ์การเดินทางแบบมือโปรยิ่งขึ้นในทุกๆทริปของคุณ