
การเดินทางกับ สายการบินโลว์คอสต์ หรือ สายการบินต้นทุนต่ำ เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เพราะเป็นการเดินทางที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามก่อนที่จะทำการจองตั๋วกับ สายการบิน Low Cost นั่นก็คือ “ข้อกำหนดกระเป๋าสายการบินโลว์คอสต์” ซึ่งถ้าหากผู้โดยสารไม่เตรียมตัวกระเป๋าเก็บสัมภาระให้ดี อาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็นได้ การรู้ข้อกำหนดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง รวมถึงน้ำหนักประเป๋าที่สายการบินแต่ละที่อนุญาต จะช่วยให้คุณจัดกระเป๋าได้อย่างนักเดินทาง0อย่างมืออาชีพ ผ่านทุกข้อกำหนดได้อย่างสบายใจโดยไม่เสียค่าปรับเพิ่ม Trip.com ไม่ใช่แค่พียงเป็นผู้ช่วยที่ให้คุณค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดจาก สายการบินโลว์คอสต์ ได้เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตรวจสอบ และ ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติมล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย จึงช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น และ ไม่ต้องกังวลใจในเรื่อง กระเป๋าเกินขนาดหรือน้ำหนัก
ข้อกำหนดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องสายการบินโลว์คอสต์
สายการบินโลว์คอสต์ เช่น AirAsia, Thai Lion Air, Nok Air และ Thai Vietjet Air มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเรื่อง กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัม ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะกำหนดให้น้ำหนักกระเป๋าไม่เกินนี้ และ กำหนด ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ไว้ไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร ( 22 x 14 x 9 นิ้ว ) ในบางสายการบินอาจอนุญาตให้พกกระเป๋าใบเล็ก เช่น กระเป๋า Lap Top หรือกระเป๋าถืออีก 1 ใบ แต่น้ำหนักรวมทั้งหมดต้องไม่เกินที่กำหนด หากน้ำหนักเกิน หรือ ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง เกินกว่าที่กำหนด ผู้โดยสารจำเป็นต้องเสียค่าปรับ หรือ อาจถูกบังคับให้โหลด กระเป๋าใต้ท้องเครื่อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการซื้อล่วงหน้า ดควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับสายการบินที่ใช้บริการทุกครั้ง เพื่อความถูกต้อง
ตารางเปรียบเทียบข้อกำหนดกระเป๋าขึ้นเครื่องของสายการบิน Low Cost ในประเทศไทย
สายการบิน | ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง (ซม.) | น้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่อง (กก.) | หมายเหตุ |
AirAsia | 56 x 36 x 23 | 7 | กระเป๋าใบเล็กเพิ่มได้ 1 ใบ |
Thai Lion Air | 30 x 40 x 20 | 7 | ขนาดแตกต่างจากมาตรฐานทั่วไป |
Nok Air | 23 x 36 x 56 | 7 | กระเป๋าใบเล็กเพิ่มได้ 1 ใบ |
Thai Vietjet Air | 55 x 40 x 23 | 7 | ข้อมูลทั่วไป ควรตรวจสอบกับเว็บไซต์ทางการ |
ข้อกำหนดกระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่อง
โดยปกติแล้ว สายการบินโลว์คอสต์ มักไม่รวม กระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่อง ไว้ในราคาตั๋วพื้นฐาน ดังนั้นผู้โดยสารต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าล่วงหน้า หรือ ที่เคาท์เตอร์สนามบินในกรณีที่น้ำหนักเกิน โดยคุณสามารถซื้อน้ำหนัก กระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่อง ล่วงหน้าผ่านแอป Trip.com จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยหากต้องซื้อที่หน้าเคาท์เตอร์หรือต้องเสียค่าปรับน้ำหนักเกิน ราคามักสูงกว่าการซื้อล่วงหน้า 2-3 เท่า
ตัวอย่างข้อกำหนดกระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่องของสายการบินโลว์คอสต์ในประเทศไทย
สายการบิน | น้ำหนักกระเป๋าที่ซื้อเพิ่ม (กก.) | ราคาเริ่มต้น (บาท) | หมายเหตุ |
AirAsia | 15, 20, 25, 30, 40 | 250–1,000+ | ราคาแตกต่างกันตามเส้นทางและช่วงเวลา ควรตรวจสอบกับเว็บไซต์ทางการของสายการบิน |
Thai Lion Air | 5, 10, 15, 20, 25, 30, 35 | 200–795 | ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่เลือกและเส้นทางบิน |
Nok Air | 5, 10, 15, 20, 25 | 300–1,050 | ราคาแตกต่างกันตามเส้นทางและช่วงเวลา ควรตรวจสอบกับเว็บไซต์ทางการของสายการบิน |
Thai Vietjet Air | 15, 20, 25, 30, 40 | 300–1,875 | ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่เลือกและเส้นทางบิน |
สายการบินบางแห่ง อาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับ ขนาดกระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่อง ที่แตกต่างกัน เช่น ความยาวรวมของกระเป๋าต้องไม่เกิน 158 ซม. หรือ 62 นิ้ว ซึ่งรวมความยาว+ความกว้าง+ความสูงของกระเป๋า หรือหาก กระเป๋าฝากใต้ท้องเครื่อง เกินขนาดหรือน้ำหนักที่กำหนด ก็อาจต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับสายการบินที่ใช้บริการทุกครั้ง เพื่อความแม่นยำและทำให้การเดินทางของคุณนั้นราบรื่น
ขั้นตอนการตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าและซื้อเพิ่มเติมบนแอป Trip.com
- เข้าสู่ระบบแอป Trip.com จากนั้นเลือกไปที่ "เร็วๆนี้ "

Source // Trip.com
- เลื่อนลงมาด้านล่าง ไปที่ "อัปเกรดทริปของคุณ" จากนั้นให้กด "น้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติม" และ กด "เพิ่ม"

Source // Trip.com
- เลือกขนาดน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติมที่ต้องการ เลือกวิธรชำระเงินที่สะดวก จากนั้นเลือก "ชำระตอนนี้" เพื่อชำระเงิน

เคล็ดลับในการจัดการกระเป๋าเดินทาง
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากระเป๋าเกินขนาดหรือน้ำหนักและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดจาก ข้อกำหนดกระเป๋าสายการบินโลว์คอสต์ ควรใช้เทคนิคเหล่านี้
- ตรวจสอบ ข้อกำหนดกระเป๋าขึ้นเครื่อง และ ซื้อน้ำหนักเพิ่มล่วงหน้าผ่าน Trip.com
- เลือกกระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักเบา เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับสัมภาระมากขึ้น
- จัดกระเป๋าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคนิคม้วนเสื้อผ้าและแยกหมวดหมู่ของใช้
- นำเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมากออกมาใส่ เช่น เสื้อโค้ทหรือรองเท้าบูท
- ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำขนาดพกพา เพื่อลดน้ำหนักและประหยัดพื้นที่
- ชั่งน้ำหนักกระเป๋าก่อนออกเดินทาง
หากคุณเดินทางกับ เด็กเล็ก หรือ ผู้สูงอายุ ควรเผื่อเวลาเพิ่มเติมในการเช็คอิน และ โหลดสัมภาระเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำให้สมัครสมาชิกกับ Trip.com เพื่อรับสิทธิพิเศษในการเช็คอินล่วงหน้า หรือ โหลดสัมภาระ นอกจากนี้การเตรียมเอกสารและของใช้ที่จำเป็นให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่อง กระเป๋าเกินขนาดหรือน้ำหนัก ได้มากขึ้นอีกด้วย
สรุป
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ข้อกำหนดกระเป๋าสายการบินโลว์คอสต์ นับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นเรื่องที่จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่น และ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จากการเสียค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับ ข้อกำหนดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง และ น้ำหนักที่อนุญาตกับสายการบินที่ใช้บริการ เพื่อความสะดวกและสามารถเข้าถึงข้อกำหนดนโยบายต่างๆของแต่ละสายการบิน สามารถใช้แอป Trip.com เพื่อตรวจสอบได้เลยบนแพลตฟอร์มเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบหรือหาข้อมูลด้วยตัวเอง จึงช่วยให้คุณจัด กระเป๋าขึ้นเครื่อง และ ซื้อน้ำหนักเพิ่มล่วงหน้าได้อย่างสะดวก สำหรับผู้ดินทางกับ สายการบินโลว์คอสต์ เป็นประจำ ควรศึกษาและทำความเข้าใจ ข้อกำหนดกระเป๋าสายการบินโลว์คอสต์ของสายการบินต่างๆให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา กระเป๋าเกินขนาดหรือน้ำหนัก จากนโยบายของสายการบินที่แตกต่างกัน โดยสามารถตรวจสอบผ่าน Trip.com ได้ การวางแผนล่วงหน้าและเตรียมตัวให้พร้อมทำให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างมั่นใจ